ตอนที่ 535 วันสิ้นใจของสุนัข1
“ในเมื่อเป็นแบบนี้… ผมก็จะพาพวกคุณออกไปดู แต่พวกคุณต้องเชื่อฟังคำสั่งของผมอย่างเคร่งครัด ไม่สามารถเดินผิดแม้แต่ก้าวเดียว ไม่อย่างนั้นอาจจะสามารถเกิดอันตรายได้” ฉิงฮัวไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องยอมตกลง
สามารถออกไปได้ คนที่ดีใจที่สุดก็คือหยางหยาง ที่จริงใช่ว่าเฉิงเฉิงจะไม่อยากออกไป แต่เพราะเป็นพ่อจึงพูดไม่ออก
ฉิงฮัวหยิบกระเป๋าสะพายมาใบหนึ่ง จัดเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นบางอย่างใส่เข้าไป
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉิงฮัว กู้ฮอน เฉิงเฉิง หยางหยางยังมีเบลล่า ทั้งหมดสี่คนบวกกับสุนัขหนึ่งตัวออกมาจากห้องใต้ดิน เดินออกไปตามทางที่เข้ามาเมื่อวาน
มาถึงตรงทางเข้า ฉิงฮัวส่งสัญญาณให้กู้ฮอนเอาผ้าปิดปากให้พวกเด็กๆสวม แล้วให้พวกเธอถอยหลังไปหลายเก้า
“แกร็ก…”
ฉิงฮัวยื่นมือเปิดประตูเหล็กนิรภัยด้านนอกทางเข้า
“ฟู่…” หมอกควันฟุ้งขึ้น กลิ่นฉุนจากการเผาไหม้สิ่งของด้านนอกพุ่งเข้ามาอย่างแสบจมูก
“ค่อกแค่ก…” ถึงแม้ทุกคนจะสวมผ้าปิดปากไว้ แต่ก็สำลักจนไอหลายที
ยังดีที่ในทางเดินใต้ดินติดตั้งอุปกรณ์ระบายอากาศ ควันไฟกับกลิ่นนั้นหายไปแล้วบ้างอย่างรวดเร็ว
ฉิงฮัวหยิบกระบอกไฟฉายขนาดเล็กออกมาจากในกระเป๋าสีอัน แบ่งให้คนละอัน เฉิงเฉิงกับหยางหยางยังเล็กมาก เขาจึงเอาไฟฉายผูกติดตรงหัวไหล่ของพวกเขา
แบบนี้ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปถึงที่ไหน แสงสว่างก็สามารถส่องพื้นตรงหน้าหรือสิ่งของด้านหน้าของพวกเขา
ฉิงฮัวมาถึงบนพื้นดินเป็นคนแรก ใช้ไฟฉายสองไปรอบๆ หลังสำรวจดูความปลอดภัยโดยรอบแล้ว ก็บอกมือให้กู้ฮอนพาพวกเด็กๆขึ้นมา
จากขึ้นมาแล้ว มองเห็นบ้านเรือนสีดำ ได้ยินเสียง “อึกทึก” ไม่รู้ว่าดังมาจากไหน ยังมีกลิ่นเผาไหม้นั้นอีก ในใจกู้ฮอนหนักอึ้งขึ้นมาทันที
เพียงแค่คืนเดียว บ้านทั้งหลังก็พังพินาศไปในกองไฟ
ฉิงฮัวเดินอยู่ด้านหน้าสำรวจทางไปด้วย หันกลับมาพูดเตือนกู้ฮอนไปด้วยว่า “หนูคุณ หนูกับเด็กๆต่างก็ต้องระวังตัวหน่อย”
บนพื้นดิน มีซากปรักหักพังของเฟอร์นิเจอร์กระจัดกระจายไปทุกที่
เมื่อกู้ฮอนตามฉิงฮัวผ่านบันได นางอดไม่ได้ใช้ไฟฉายในมือสองไปแว๊บหนึ่ง
บันไดไม้ตรงนี้ไม่มีแล้ว มีเพียงช่องว่างที่บนชั้นสอง ขั้นบันไดถูกเผาไหม้จนกลายเป็นถ่าน กระจัดกระจายอยู่บนชั้นหนึ่ง
พวกเขาเดินต่อไปข้างหน้า แสงแดดสาดส่องเข้ามาในบ้านผ่านกรอบประตูที่ว่างเปล่า กู้ฮอนหันไปดูตรงห้องรับแขก
มองดูขวดแก้วหลายอันนี้แล้ว กู้ฮอนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเมื่อวาน…
ในที่สุดก็เดินออกมาได้แล้ว อาบแสงแดดอันอบอุ่น ร่างกายและจิตใจมีความสบายอกสบายใจขึ้น
“ไชโย…” หยางหยางตะโกน เหมือนดังม้าตัวน้อยที่วิ่งอยู่บนลานหญ้า
เฉิงเฉิงกลับสงบเสงี่ยมกว่าเขาเยอะ หลับตาเงยหัวขึ้น พยายามสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก
“โฮ่งๆ…” เบลล่าส่ายหางแล้วดมซ้ายดมขวา วิ่งตามอยู่ด้านหลังหยางหยาง
เทียบกับพวกเด็กๆแล้ว ในใจของกู้ฮอนไม่ได้ดีใจขนาดนั้น มองดูบ้านสองสามหลังที่อยู่ไม่ไกลถูกไฟไหม้จนไม่มีชิ้นดี
บางที สำหรับพวกเด็กๆแล้ว ประสบการณ์ในครั้งนี้เป็นเพียงประสบการณ์อย่างหนึ่งที่สามารถมองข้ามผ่านไปได้ของพวกเขา
แต่สำหรับกู้ฮอนแล้ว กลับเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจลืมได้ในชาตินี้
“คุณหนู พวกคุณหนูอยู่กันที่นี่ก่อน อย่าไปไหนไกล ผมไปตรวจดู สถานการณ์บ้านหลังอื่นก่อน” หลังจากฉิงฮัวได้สำรวจดูรอบๆแล้วพูดขึ้น
กู้ฮอนพยักหัว “อืม คุณระวังตัวด้วย”
ฉิงฮัวหันตัวแล้วเดินไปยังบ้านที่อยู่ไม่ไกล
แสงแดดอบอุ่นสาดส่องบนร่างกายกู้ฮอนที่กำลังเดินอยู่เพียงลำพัง นางกำลังคิดถึงทุกสิ่งอย่างในช่วงเวลาที่มาแต่งงานแทน
ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกเพียงแค่สี่วันแล้ว นางรู้สึกมีความรู้สึกเสียใจบางอย่าง โดยเฉพาะในเช้าวันนี้ สิ่งที่เฟยเอ๋อพูดบนโต๊ะอาหารนั้น…
ถึงเวลาที่ควรจะตื่นจากฝันแล้ว
ในตอนนี้ ก็ได้ยินเสียงหยางหยางร้องเรียกอยู่ไม่ไกลว่า “กระต่าย กระต่าย ‘เชี่ย’ รีบไปจับกระต่ายตัวนั้นมา”
แล้วหยางหยางก็บ่นว่า “‘เชี่ย’ ทำไมเจ้าถึงวิ่งช้าขนาดนี้ อาหารวันนี้ให้เจ้ากินไปเสียเปล่าแล้ว ข้าไปตามกับเจ้าดีกว่า”
ต่อมาก็เป็นเสียงของเฉิงเฉิง “เป่หมิงซีหยาง รีบกลับมา แม่ไม่ให้วิ่งไปไกลขนาดนั้น”
กู้ฮอนรีบเงยหัวขึ้นมาดู เห็นเบลล่าวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หยางหยางก็พยายามก้าวเท้าสั้นๆตามไปอย่างไม่หยุด
มีเพียงเฉิงเฉิงที่ไม่ได้ตามไป สีหน้าเขาร้อนใจ
ตอนนี้ฟาร์มกลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว ตรงไหนก็อาจมีอันตราย หากหยางหยางเป็นอะไรไป ไม่อยากที่จะคาดคิดจริงๆ
“เฉิงเฉิง หนูรออาฉิงฮัวออกมาอยู่ตรงนี้ ฉันจะไปหาหยางหยาง” กู้ฮอนพูดเสร็จแล้วก็วิ่งไล่ตามไป
เบลล่ากับหยางหยางยิ่งวิ่งก็ยิ่งไกลออกไป กู้ฮอนพยายามตามอยู่ข้างหลัง
ไม่นาน พวกเขาก็วิ่งออกมาจากฟาร์ม
ตรงด้านหน้าของพวกเขา เป็นป่าหนาทึบ เบลล่าวิ่งเข้าไปตามเส้นทางหินก้อนเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงกลาง
“หยางหยาง ไม่ต้องไปไล่ตามแล้ว รีบกลับมา”