บทที่ 549 เธออยากจะมีครอบครัว
“แม่ เฉิงเฉิงพูดไม่ผิด คุณเข้าใจไอ้พ่อนกผิดแล้ว เกี๊ยวจานนั้นส่วนใหญ่ฉันกับเฉิงเฉิงเป็นคนทานหมด” หยางหยางรีบร้อนช่วยยืนยันให้เป่หมิงโม่ ทำให้กู้ฮอนรู้สึกประหลาดใจ
“ก็ฉันเห็นเขากำลังกินอยู่” กู้ฮอนพูดด้วยความไม่เชื่อ
“ความจริงพ่อทานไปแค่สองชิ้นเอง” เฉิงเฉิงพูดต่อ
ก็ฮอนเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองน่าจะเข้าใจเป่หมิงโม่ผิดจริงๆ ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่คิดที่จะขอโทษเป่หมิงโม่ ถือว่าชดเชยสิ่งที่อยู่ในบ้านพักตากอากาศแล้วกัน
หลังจากเฉิงเฉิงกับหยางหยางทานเป็นเพื่อนกู้ฮอนอีกสองชิ้น แล้วก็กลับไปเล่นกับเบลล่าที่ห้องของตัวเอง
เหลือแค่กู้ฮอนอยู่ในห้องอาหารคนเดียว เธอทานไปไม่กี่ชิ้นก็รู้สึกอิ่มแล้ว
มองดูเกี๊ยวที่เหลืออีกเยอะในจาน อยากไปนั่งดูทีวีในห้องรับแขก คนที่ทานเกี๊ยวไปเพียงสองชิ้นคนนั้น
แค้นก็ส่วนแค้น แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นเขาหิว เขาไม่มีเมตตา แต่เราก็ไม่ควรใจร้าย กู้ฮอนคิดอยู่ ก็นำเกี๊ยวกลับไปที่ห้องครัวอีกครั้ง ทำหใหม่อีกครั้ง
เฉิงเฉิงกับหยางหยางพาเบลล่าวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง
“เป่หมิงซีหยาง ขอบคุณนะ” เฉิงเฉิงเข้ามาเห็นร่างเล็กๆของหยางหยางนอนอยู่บนเตียงแล้วพูด
หยางหยางหันตัวมา มองเฉิงเฉิงๆด้วยความแปลกใจ “คุณของคุณฉันทำไม”
“ขอบคุณที่คุณช่วยปกป้องพ่อไง” เฉิงเฉิงนั่งบนพื้น กอดเบลล่าแล้วพูด
หยางหยางโบกมือเล็กๆของเขา “ไม่เป็นไร ฉันกับไอ้พ่อนกก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งกันอยู่แล้ว ฉันก็แค่พูดไปตามความจริง ก็ไม่ถือว่าช่วยเขา”
พูดจบ เขาลูบท้องน้อยๆของตัวเอง อย่างมีความสุข “วันนี้ออกไปถือว่าไม่เสียเปล่า คุณไม่ได้ตามไปด้วยถือว่าขาดทุน”
“ฉันขาดทุน หรือว่าที่พวกคุณเกือบจะถูกเอาไปขายถือว่าโชคดีเหรอ” เฉิงเฉิงรู้สึกไม่เข้าใจ
หยางหยางยิ้ม “โชคดีแน่นอน คุณก็เห็นว่าฉันกับแม่กลับมากันอย่างไรไม่ใช่หรือ ได้เจอกับคุณอาคนหล่อคนนั้นก็เป็นความโชคดีของพวกเราไง คุณไม่เห็นว่าอาหารที่เขาทำอร่อยมากแค่ไหน โดยเฉพาะปีกไก่ย่างที่เขาทำ……..”
พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าเล็กๆของหยางหยางก็แสดงถึงความสุขและความปรารถนา
เวลานี้ กู้ฮอนยุ่งๆในห้องครัว ไม่สนใจว่าอร่อยไหม เกี๊ยวไหม้จานนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่เร็วที่สุด เธอคำนึงถึงว่าเกี๊ยวไหม้นี้ทานยาก เธอจึงแยกแผ่นเกี๊ยวกับไส้เกี๊ยวออกจากกัน เทลงในหม้อแล้วปรุงใหม่
เพิ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เหลือและผักแห้งไว้ในตู้ ปรุงด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำส้มสายชูเล็กน้อย
เช่นนี้ก็ได้ลูกชิ้นน้ำซุปภายในห้านาที ถอดผ้ากันเปื้อนออก นำน้ำผลไม้ เดินไปทางห้องรับแขก นำเสนอด้วยตาดำๆ
***
“ถือว่าคุณยังมีความเป็นพ่ออยู่บ้าง ให้ลูกๆทานจนอิ่มก่อน” กู้ฮอนพูดอยู่แล้วชี้ไปที่ลูกชิ้นน้ำซุปที่ปรุงใหม่ “ที่มีอยู่ก็ทำได้แค่นี้นะ ใครบอกให้คุณรบกวนตอนฉันทำกับข้าว นี่เรียกว่า ‘กรรมตามสนอง’”
พูดจบกู้ฮอนก็กลับไปเก็บกวาดห้องครัว
เป่หมิงโม่มองดูแล้ววางลงบนโต๊ะกาแฟ มีไอร้อนๆลอยขึ้นในถ้วยอาหาร
เขาไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมันได้
แต่ว่า มองดูด้านหลังที่ผอมเพรียวของกู้ฮอน ใบหน้าของเขาแสดงความเย็นชา และยังคงมีรอยยิ้มเล็กน้อย
หยิบโทรศัพท์ออกมา กดปุ่มทางลัด จากนั้นมีเสียงสแตนบาย
“เจ้านาย มีอะไรจะรับสั่ง” อีกฝ่ายของโทรศัพท์รับสายโดยฉิงฮัว
ฉิงฮัวส่งกู้ฮอนถึงบ้านแล้วก็ขับรถออกไปทันที กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเป่หมิง
สิ่งที่เขาไม่คาดไว้คือ เขาเห็นแค่เฟยเอ๋ออยู่ตรงนี้ แต่ไม่เห็นเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่ส่งเฟยเอ๋อกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลเป่หมิงแล้วเขาก็ออกไปเลย เฟยเอ๋อเห็นฉิงฮัวกลับมา ก็อยากถามว่าตอนนี้เป่หมิงโม่อยู่ไหน
สิ่งที่ทำให้เธอผิดหวังคือ ฉิงฮัวกลับไม่รู้อะไรเลย
หลังทานข้าวเย็น โทรศัพท์ของฉิงฮัวก็ดังขึ้น เขาเห็นเป็นเป่หมิงโม่โทรมา รีบหาห้องที่เงียบสงบ “เจ้านาย มีอะไรให้รับใช้ครับ”
“เดี๋ยวคุณส่งคนไปที่วิลล่ากลางหน้าภูเขา เก็บกวาดให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่น” เป่หมิงโม่ถือโทรศัพท์อยู่ ยืนในห้องรับแขกที่สามารถมองเห็นห้องครัวได้
พูดไปด้วยแล้วมองดูคนที่กำลังยุ่งๆในห้องครัวไปด้วย
ฉิงฮัวได้ยินวิลล่ากลางหน้าภูเขาจึงตะลึง “ท่านหมายถึง ‘เย่โม่ฮอนหวี’ใช่ไหม” เพื่อให้แน่ใจ เขาย้ำในโทรศัพท์อีกหนึ่งรอบ
หลังจากได้ยินเสียงตอบยืนยัน ฉิงฮัวก็วางสายโทรศัพท์
วิลล่ากลางหน้าภูเขาที่สร้างไว้ ——เย่โม่ฮอนหวี
ฉิงฮัวรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่เจ้านายสร้างไว้ให้กับคุณกู้ สำหรับวิลล่าแห่งนี้ เขาทุ่มเทมาก ยังวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ด้วยตัวเองด้วย
ตอนที่คุณกู้เดินทางไปออสเตรเลีย เขาโกรธมาก แล้วก็ทำลายภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นด้วยมือเขาเอง
จนถึงวันนี้ เจ้านายยังไม่เคยเดินเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว แค่ส่งคนไปคอยทำความสะอาดเป็นประจำ
ตั้งแต่ย้ายไปที่บ้านพักตากอากาศหลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับคุณกู้ก็เบาบางลงทำให้ทุกคนแปลกใจ
ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเจ้านายคิดจะทำอะไร เขาถึงได้โทรศัพท์หาตัวเอง
และสั่งให้ตัวเองส่งคนไปทำความสะอาดวิลล่านั่น
ไม่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจ้านายยังจะเข้าไปที่นั่น คนที่จะไปด้วยก็คงจะเป็นคุณกู้กับคุณชายทั้งสองแน่นอน
หรือว่า…….ตอนนี้เจ้านายกับคุณกู้จะอยู่ด้วยกัน มิน่าหล่ะถึงปล่อยให้คุณเฟยเอ๋ออยู่คนเดียวที่คฤหาสน์ตระกูลเป่หมิง
ฉิงฮัวออกจากห้อง พบกับเฟยเอ๋อพอดีเลย
เฟยเอ๋อยิ้มให้เขา “เมื่อครู่โม่โทรมาใช่ไหม”
ฉิงฮัวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย หรือว่าเธอจะได้ยินสิ่งที่เขากับเจ้านายคุยกัน
ถ้าได้ยิน แล้วเขาจะได้ยินอะไร
คิดอยู่ ฉิงฮัวตัดสินใจที่จะเสี่ยงที่จะโกหก “คุณเฟยเอ๋อ เมื่อครู่เจ้านายโทรมา”
เฟยเอ๋อได้ยินว่าเป็นเป่หมิงโม่โทรมา ทันใดนั้นก็กังวล “ตอนกลับมาโม่ส่งฉันเข้าประตู หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็รีบออกไป เขาอยู่ที่ไหน เขาพูดอะไรกับคุณบ้าง”
***
ฉิงฮัวพยุงเฟยเอ๋อไปที่ห้องโถง “คุณเฟยเอ๋อ คือแบบนี้นะ เจ้านายส่งคุณกลับมาแล้วก็รีบไปบริษัท เมื่อครู่เขาบอกฉันว่าที่บริษัทหลายโครงการมีปัญหา ให้ฉันส่งคนเพื่อเตรียมข้อมูล ช่วงสองสามวันนี้เขาคงจะยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ยังสั่งว่าบอกคุณเฟยเอ๋อไม่ต้องกังวล พักผ่อนเยอะๆ”
เฟยเอ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หันหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เธอผิดหวังที่เป่หมิงโม่พาเธอกลัมาแล้วทิ้งเธอไว้คนเดียว ตัวเองยังไม่เคยอยู่กับเขาตามลำพังเลย แต่เธอก็ยังรู้สึกดีใจอยู่บ้างคือ เป่หมิงโม่ไปทำงาน ไม่ได้ไปหากู้ฮอน
ถึงแม้วันนี้ เป่หมิงโม่สัญญาแล้วว่าอีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานกับตัวเอง อีกอย่างท่าทางของเขาที่มีต่อกู้ฮอนก็เย็นชาไม่น้อย
แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ กลัวว่าสักวันหนึ่ง เป่หมิงโม่จะทิ้งตัวเองแล้วกลับไปหากู้ฮอน
*
กู้ฮอนเก็บล้างถ้วยชามแล้ว เก็บกวาดห้องครัวเรียบร้อยแล้ว แล้วเข้าไปที่ห้องอาบน้ำ
และเธอก็ล็อกประตูอย่างจงใจ เธอกลัวว่าตอนที่เธออาบน้ำ ไอ้คนไม่มีศีลธรรมคนนั้นจะพังเข้ามา…………
ได้ยินเสียงน้ำจากห้องอาบน้ำ เสียงนั้นกำลังเขย่าหัวใจของเป่หมิงโม่
แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย
เวลานี้ เขาไม่ได้มีอารมณ์นั้นแล้ว เขานอนเล่นตรงโซฟา สองวันติดกันที่เหนื่อยล้าและไม่ได้พักผ่อนเต็มที่
ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าบ้าง เมื่อครู่โทรหานักสืบเอกชน เขาตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในบ้านพักตากอากาศ ถ้าเป็นฝีมือของคน ก็หาวิธีในการค้นหาผู้วางเพลิงและนายที่อยู่เบื้องหลังมาให้ได้
ยังมีเรื่องที่คุณป้าฟางประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตด้วย ระหว่างทางกลับ ทางโรงพยาบาลโทรหาเขาบอกเขาว่า คุณป้าฟางเสียชีวิตจากหัวใจวายเฉียบพลัน
ความจริงเป่หมิงโม่จะพาคุณป้าฟาง ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุภาพประจำทุกปี แต่ผลก็บอกว่าเธอสุขภาพแข็งแรงปกติ จะเกิด จะเกิดอาการหัวใจวายได้อย่างไร
เมื่อกู้ฮอนออกมาจากห้องอาบน้ำ เธอก็แอบมองเป่หมิงโม่ เห็นเขาหลับตรงโซฟาแล้ว
ถึงแม้ปกติเป่หมิงโม่จะดูน่ารำคาญ แต่ท่าทางตอนหลับของเขายังคงมีเสน่ห์
ลมหายใจของเขาปกติ ดวงตาที่ลึกปิดสนิท ใบหน้าเย็นชาที่ทำให้ผู้คนสั่นเทาเมื่อเห็นก็สงบลงมาก
เขากำลังนอนตะแคง ท่านอนก็เหมือนเด็กน้อย เขาวางมือข้างหนึ่งบนสะโพก มืออีกข้างวางตรงใบหน้า ขาเรียวๆงอเล็กน้อย
รองเท้าของเขาวางอย่างเป็นระเบียบข้างโซฟา
กู้ฮอนค่อยๆเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ปิดทีวีที่เปิดอยู่
แล้วหยิบผ้าห่มในห้องนอนมาหนึ่งผืน ห่มบนตัวเขาเบาๆ
หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเองกับลูกๆ
กู้ฮอนปิดประตูห้องนอนของตัวเองเบาๆ
เวลานี้ หยางหยางสีหน้าดูสบายมีความสุข ทำท่าพูดคุยกับเฉิงเฉิงอยู่
กู้ฮอนยิ้มแล้วเดินเข้าไป ลูบหัวของลูกทั้งสอง “พวกคุณคุยอะไรกัน”
“ฉันกำลังเล่าเรื่องรถบ้านที่เท่สุดๆของคุณอาคนหล่อให้เฉิงเฉิงฟัง” ยังไม่รอเฉิงเฉิงตอบ หยางหยางก็แย่งตอบก่อน
กู้ฮอนได้ยินหยางหยางพูดถึงเช่นนี้ อยู่ๆเธอก็คิดถึงNotonขึ้นมา คนคนนี้น่าสนใจจริงๆ เดินทางรอบโลกโดยรถยนต์ตัวคนเดียว……
แต่ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เธออยากได้ครอบครัวที่อบอุ่น ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอ
***
สายลมยามเช้าพัดเบา ๆ จากหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน กู้ฮอนดึงเท้าที่ออกมาเข้าไปในผ้าห่ม
“ฮัดชิ้ว…….” เสียงฮัดชิ้วของหยางหยางทำให้กู้ฮอนตื่น
เธอลืมตาขึ้น เห็นหยางหยางกำลังหลับสบาย เอามือน้อยๆที่อยู่บนตัวเธอออกเบาๆ
ลุกขึ้นนั่ง เห็นผ้าห่มของหยางหยางที่ห่มตัว ถูกเขาเตะไปกองอยู่ปลายเตียงแล้ว
ท้องก็ออกมา ขยับตามจังหวะของลมหายใจ
เขากางแขนกางขาออก เหมือนตัวหนังสือตัวต้าเลย เบียดเฉิงเฉิงไปอีกด้านหนึ่งของเตียง
กู้ฮอนห่มผ้าให้เขาเบาๆ แล้วดูผ้าห่มของเฉิงเฉิง
ลงจากเตียง ส่องกระจกหวีผมยาวๆของตัวเองให้เรียบร้อย เปลี่ยนชุดนอนออก
หลังจากนั้นออกจากห้องนอนเงียบๆ
หันไปมองที่โซฟา แต่เป่หมิงโม่ไม่อยู่แล้ว
คิดไม่ถึงว่าเขาจะตื่นเช้าขนาดนี้ แต่ว่าเขาไปไหนแล้ว
ในเวลานี้มีเสียงช้อนกับถ้วยและจานที่กระทบกันจากห้องอาหาร
กู้ฮอนเดินไปที่ห้องอาหาร เห็นแค่โถน้ำซุปวางอยู่บนโต๊ะของโถ ของว่างที่ฝีมือประณีตสี่จาน
ขนมเติงเฉ่าที่ขาวๆ หมูชุบแป้งทองที่เหลืองอร่าม ปาท่องโก๋ที่อบจนเหลืองขาวกรอบนุ่ม ยังมีทองหยิบที่ทำจากมือ
เป่หมิงโม่เปลี่ยนเป็นสูททำงานที่ใหม่เอี่ยม จัดผมอย่างเรียบร้อย อย่างมีสไตล์และทันสมัย
เขานั่งที่โต๊ะอาหาร ถือช้อนดื่มน้ำซุปอยู่