บทที่ 550 ผนังที่ถูกปิดไว้
เวลาอยู่ข้างกายเขา ฉิงฮัวจะยืนตัวตรง
ดูท่า ฉิงฮัวจะรีบมาตั้งแต่เช้าแล้ว
กู้ฮอนหลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็มาที่ห้องอาหาร
“คุณกู้เชิญนั่ง” ฉิงฮัวพูดอยู่แล้วดึงเก้าอี้ข้างซ้ายของเป่หมิงโม่ออกมา
“ขอบคุณ” กู้ฮอนไม่อยากจะนั่งข้างเขา แต่ฉิงฮัวก็ดึงเก้าอี้ออกมาแล้ว ก็ไม่อยากมีปัญหากับเขา จึงนั่งลงอย่างไม่เต็มใจ
ฉิงฮัวหยิบถ้วยมมาหนึ่งใบ วางไว้ตรงหน้ากู้ฮอน เปิดโถน้ำซุปออก ในห้องอาหารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของซุปไก่
เขาค่อยๆตักใส่ถ้วยที่อยู่ตรงหน้าของกู้ฮอน
“เชิญคุณกู้ค่อยๆทาน”
ฉิงฮัวพูดอยู่ก็ดันของว่างมาข้างๆกู้ฮอน
“กลิ่นอะไรทำไมหอมจัง….หอมมาก หอมมาก” หยางหยางเดินออกจากห้องนอนด้วยร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่า แม้ว่ามือเล็ก ๆ ยังขยี้ตาอยู่ จมูกเล็กๆของเขาก็คอยสูดดมกลิ่นตลอด
ดังนั้นเขาจึงเดินตามกลิ่นซุปไก่จนถึงห้องอาหาร
“ว้าว มีของอร่อยด้วย” หยางหยางปีกขึ้นเก้าอี้ข้างๆกู้ฮอนอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือจะไปจับ
กู้ฮอนใช้ตะเกียบตีมือที่เอื้อมออกมาของเขา “คุณจะทาน ล้างหน้าล้างตาหรือยัง”
หยางหยางจ้องมองอาหารอันโอชะบนโต๊ะ หน้าตาที่เศร้าและเบ้ปาก
หลังจากนั้นลงจากโต๊ะอย่างรวดเร็ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
เวลานี้ เฉิงเฉิงแต่ตัวเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ เรื่องการแต่งตัวเขามีความเนี๊ยบเหมือนกับพ่อของเขา
เขามาถึงที่ห้องอาหาร หลังจากทักทายเป่หมิงโม่กับกู้ฮอนแล้ว นั่งข้างขวาของเป่หมิงโม่ด้วยตัวเอง
ฉิงฮัวก็ตักน้ำซุปไก่ไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว เฉิงเฉิงถือตะเกียบคีบทองหยิบมาหนึ่งลูก เริ่มทานอย่างช้าๆ
“เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว” ไม่ถึงสองนาทีหยางหยางก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
เขากำลังเตรียมจะปีนขึ้นเก้าอี้
“ไปใส่เสื้อให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาทานข้าว” ประโยคของกู้ฮอนทำให้เขาเศร้ากลับไปที่ห้องนอนอีกครั้ง
ในไม่ช้าเขาก็สวมเสื้อยืดขนาดเล็กที่มีลวดลายดินสอสีเดินออกมา
มองกู้ฮอน “แม่ ครั้งนี้ฉันทานได้หรือยัง” ท่าทางเหมือนคนที่หิวมาหลายวันแล้ว นอกจากนี้ยังมีการวิงวอนในสายตาของเขา
กู้ฮอนมองดูเฉิงเฉิง แล้วก้มมองหยางหยาง
แอบถอนหายใจ คลอดเองทั้งสองคน แต่ทำไมถึงได้ต่างกันมากขนาดนี้
***
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ
ฉิงฮัวพูดกับเป่หมิงโม่ว่า “เจ้านาย ฉันเตรียมรถไว้เรียบร้อยแล้ว จอดรออยู่ด้านนอก”
เป่หมิงโม่พยักหน้า ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินออกห้องอาหารไป เดินตรงไปที่ประตู
ก็ฮอนมองด้านหลังของเขา แอบโล่งใจ โชคดีที่วันนี้เขามีธุระ
ไม่ต้องอยู่ให้สามแม่ลูกต้องอึดอัดใจ ทำให้เธออารมณ์เสีย
กำลังคิดถึงจุดนี้ ฉิงฮัวก็มาข้างกายกู้ฮอนอล้วพูดเสียงเบาๆว่า “คุณกู้ เชิญคุณพาคุณชายทั้งสองไปขึ้นรถพร้อมกับเจ้านาย”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” กู้ฮอนถามอย่างสงสัย
ฉิงฮัวไม่ได้พูดอะไร รีบเดินไปหาเป่หมิงโม่ เปิดประตูให้เขา
เป่หมิงโม่วันนี้ออกไป ยังจะพาพวกเขาสามแม่ลูกไปด้วย เขาไม่เบื่อเหรอ แต่กู้ฮอนเบื่อ
“ตกลง ฉันเก็บเสร็จจะรีบตามไปที่รถ” คิดก็ส่วนคิด กู้ฮอนพาหยางหยางที่กำลังกัดกินทองหยิบเข้าห้องนอนไป
เธอต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าในตัวเธอกับหยางหยาง จะออกไปข้างนอกก็ต้องให้ดูดีหน่อย
“แม่ ฉันยังทานไม่หมดเลย……..” หยางหยางเรียกร้อง
เฉิงเฉิงก็โดดลงเก้าอี้ วิ่งตามเป่หมิงโม่ออกไป ขึ้นรถพร้อมกัน
หลังจากห้านาที รถก็พาทั้งสี่คนออกจากที่พักของก็ฮอน
เป่หมิงโม่ขึ้นรถแล้ว ปรับที่นั่งลงเล็กน้อย นอนลงและหลับตา
กู้ฮอนพาเด็ก ๆมองไปนอกหน้าต่างเห็นถนนและร้านค้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
“ฉิงฮัว พวกเรากำลังจะไปไหน” กู้ฮอนอดไม่ได้จึงถามฉิงฮัวที่กำลังขับรถอยู่
ฉิงฮัวเงยหน้ามองผ่านกระจกมองหลัง “คุณกู้ รอให้ไปถึงคุณก็จะรู้เอง”
ดูเหมือนว่าสถานที่ที่เป่หมิงโม่จะพาพวกเขาไปยังเป็นความลับชั่วคราว
รถค่อยๆห่างออกจากในเมืองไปเรื่อย ๆ ไปตามถนนป่าที่คดเคี้ยวขึ้นเขา จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วขับไปตามเส้นทางไม่เกิน 500 เมตรแล้วเลี้ยวซ้าย
รถถูกขับเข้าไปทในประตูเหล็กที่เปิดขึ้นอย่างช้าๆ
ทางเท้าที่ปูด้วยหินสีดำ ไม้สี่เหลี่ยมด้านบนเสามีไม้สีน้ำตาลเข้มเรียงตัวกันเป็นทางเดิน
รถของพวกเขาหยุดอยู่ที่ระเบียงชั้นหนึ่งของวิลล่าสามชั้น
ฉิงฮัวดับเครื่อง มองไปที่กระจกมองหลัง “เจ้านาย พวกเราถึงแล้ว”
ประตูรถเปิดออก อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้ามาในรถอย่างที่ในเมืองไม่เคยเป็นมาก่อน
ทำให้คนในรถรู้สึกสดชื่นและมีความสุขในทันที
หยางหยางรอไม่ไหวกระโดดลงจากรถทันที มองดูความแปลกใหม่รอบๆ
เฉิงเฉิงก็ลงจากรถ ตามด้วยกู้ฮอน คนสุดท้ายคือเป่หมิงโม่
“เชิญเจ้านายกับคุณกู้เข้าไปด้านใน” ฉิงฮัวเปิดประตูไว้แล้ว การตกแต่งที่เรียบง่าย แต่ห้องโถงที่สวยงามนั้นปรากฏต่อหน้าทุกคน
ใจกลางของห้องโถง ชุดโซฟาที่ทำมาจากไม้แดงที่ยอดเยี่ยม ล้อมรอบด้วยชิ้นส่วนวัสดุไม้แดง โต๊ะกาแฟหินอ่อนสีครีม
โคมไฟเชิงเทียนสไตล์ยุโรปแขวนอยู่บนผนังสีครีม
เดินไปห้องรับแขกเงยหน้าขึ้นมอง ทางเดินชั้นสองและชั้นสามอยู่รอบๆ โคมรูปหยดน้ำห้อยลงมาจากด้านบนของชั้นสาม
ผนังด้านข้างโซฟา เป็นทางเข้าสู่ลิฟท์ที่สามารถมองเห็นภูมิทัศน์ได้ ไปชั้นสองและสามโดยตรง ผนังด้านนอกเป็นแบบโปร่งใส สามารถเห็นคนในลิฟต์และนอกลิฟต์ได้อย่างชัดเจน
ก็ฮอนมองไปรอบๆ ดวงตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ผนังตรงข้ามโซฟา
นี่คือผนังที่ปกคลุมด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน
สายลมที่พัดมาจากประตู สะบัดผ้าเบา ๆ เหมือนคลื่นที่ถูกพัดปลิวไปตามสายลมเบา ๆ
แต่ว่า แต่กู้ฮอนไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังผ้านี้
***
เป่หมิงโม่เดินเข้ามาและมองไปรอบ ๆ ในเวลานี้โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
ฉิงฮัวรีบตามไปข้างๆเขา “เจ้านาย ท่านไปรับโทรศัพท์ ที่นี่ฉันจะอยู่ดูแลคุณกู้กับคุณชายทั้งสองเอง”
เป่หมิงโม่พยักหน้า หันหลังเดินผ่านโซฟาไป ไปรับโทรศัพท์ที่ห้องถัดจากลิฟต์
หยางหยางกับเฉิงเฉิงเดินตามหลังกู้ฮอน พวกเขามาที่นี่เป็นครั้งแรก แม้ว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับความหรูหราของคฤหาสน์เก่าตระกูลเป่หมิง แต่แบบนี้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เฉิงเฉิงเหมือนสุภาพบุรุษน้อย ถึงแม้จะประหลาดใจ แต่สีหน้าเหมือนดิมเหมือนคลื่นที่นิ่งสงบ
หยางหยางเหมือนลิงน้อยที่หนีออกมาจากกรง มองไปทางตะวันออก มองไปทางทิศตะวันตก ปีนขึ้นไปบนโซฟาแล้วกระโดด เดี๋ยวก็ปรากฏในลิฟต์……
“แม่ แม่ดูตรงนี้สิ……ดูอันนี้ด้วย……”
ข้างหูกู้ฮอนมีเสียงของหยางหยางผ่านเข้ามาเป็นครั้งคราว แต่เดิมเป็นวิลล่าที่เงียบสงบมาก ทันใดนั้นทุกที่เต็มไปด้วยตัวและเสียงร้องของหยางหยาง
สุดท้าย ร่างของหยางหยางก็หยุดอยู่ตรงด้านหน้าของกำแพงที่ปกคลุมด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน
เขาอยากรู้อยากเห็นด้านข้างจึงพิงผนังไว้อย่างแน่น อยากเห็นว่าข้างในมีอะไรปิดไว้
กู้ฮอนมองบ้านหลังนี้ เธอคิดไม่ออกจริงๆว่าเป่หมิงโม่พาพวกเธอมาที่นี่มีวัตถุประสงค์อะไร ไม่แน่อาจจะแค่บังเอิญผ่านมาก็ได้
ดังนั้น สำหรับหยางหยางที่กระโดดขึ้นลงเช่นนี้ กู้ฮอนแอบขมวดคิ้ว ถึงแม้ในนี้ไม่มีคนนอก แต่ก็จะทำเหมือนยายหลิวเข้าชมสวนแบบนั้นไม่ได้
หันไปมองหยางหยาง เขาเหมือนเจอทวีปใหม่ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูกำแพงที่ถูกปิด “หยางหยาง ทำอะไรตรงนั้น มานี่เร็ว”
“อะไร” หยางหยางจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ข้างหลัง ไม่ได้สนใจที่แม่เรียก เขามองกลับไปอย่างสงสัย ในเวลานี้ร่างเล็ก ๆ ของเขาเสียศูนย์
“โอ๊ย” จากเสียงร้องของเขา ร่างน้อยๆสูญเสียจุดศูนย์ถ่วง แต่ขณะล้มเขาจับผ้าแน่นด้วยมือเล็ก ๆ ของเขา
“หยางหยางระวัง” ในเวลานี้ก็สายเกินไปที่กู้ฮอนจะเตือน
“ควาก….”
ในขณะที่หยางหยางล้มลงกับพื้น ผ้าผืนนั้นก็ถูกเขาฉีกลงมาด้วย ค่อยๆปิดร่างน้อยๆของหยางหยางไว้
“แม่ดูสิ…….” มือน้อยๆของเฉิงเฉิงชี้ไปด้านนั้น ขณะที่ผ้าค่อยๆหล่นลง กำแพงเดิมค่อยๆปรากฏขึ้น
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกทำลายด้วยสีสาดปรากฏขึ้นตรงหน้ากู้ฮอน
เธอเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถึงแม้จะถูกทำลายแล้ว แต่ส่วนที่เหลือก็สามารถแยกแยะเนื้อหาบางส่วนได้
ท้องฟ้าสีฟ้า ก้อนเมฆที่เหมือนฝ้าย ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง ทะเลสีคราม หาดทรายสีทอง ยังมีผู้คนนอนอาบแดดบนชายหาด สาวๆบิกินี่ที่กำลังเล่น มีคนกำลังว่ายน้ำในทะเล………..
วาดได้เหมือนจริงมาก หลังจากกู้ฮอนดูแล้ว สายตาตะลึง ทันใดนั้นก็หยุดนิ่งไม่ขยับ
หัวใจของเธอถูกกระแทกอย่างกะทันหัน
นี่…..คือฉากที่เธอกับเป่หมิงโม่ บนหาดทรายสีทองในบาร์เซโลนา
กู้ฮอนยังจำได้อย่างชัดเจนว่าปีนั้นพวกเขาอยู่บนชายหาด เป่หมิงโม่ลงโทษเธอให้เป็นนางแบบ
หลังจากให้เธอเป็นเหมือนประติมากรรม ทุกข์ทรมานนานกว่าสี่ชั่วโมง แต่ได้ภาพของสุนัขที่คาบกระดูกเท่านั้น……
และประโยคที่เธอพูด แต่เป่หมิงโม่ไม่ยอมตอบคำถามนั้น “สุนัข ให้ฉันเป็นสุนัขเหรอ สุนัขของเล่น”
คิดไม่ถึง ฉากที่เธอไม่เคยคิดถึง แต่มันก็กลายเป็นเครื่องหมายที่ฝังลึกลงไปในหัวใจของเป่หมิงโม่
***
ในเวลานี้ร่างน้อยๆของหยางหยางพันอยู่ในผ้าออกมาไม่ได้ “ใครก็ได้ช่วยฉันที…….”
เฉิงเฉิงรีบวิ่งเข้าไป ช่วยเอาผ้าออกจากตัวหยางหยาง
“เศษผ้านี้ไม่ได้ซักมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย …..ถุยถุยถุย………”
หยางหยางลุกขึ้น ถุยฝุ่นที่เข้าปากไปด้วย ปัดฝุ่นบนตัวไปด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขากังวลเรื่องความสะอาดของเสื้อผ้าของเขา
เฉิงเฉิงก็ประหลาดใจเช่นกัน จงใจพูดประชดว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคุณพูดว่าสกปรก”
หยางหยางปัดฝุ่นไปด้วยแล้วพูดว่า “คุณจะไปรู้อะไร อีกสองวันฉันจะเข้าร่วมการแสดงละครเด็กแล้ว ตั้งใจว่าเสื้อตัวนี้จะใส่ตอนไปรับรางวัล ใครจะไปรู้ว่าวันนี้แม่จะให้ฉันใส่เสื้อตัวนี้มา”
หยางหยางแสดงละครเด็ก ทำให้เฉิงเฉิงนึกภาพไม่ออกจริงๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นเขาฝึกซ้อมเลย และไม่เคยทำอะไรที่เกี่ยวกับการแสดงมาก่อน ถ้าเขาได้รับรางวัล เช่นนั้นพระอาทิตย์ก็คงจะขึ้นจากทิศตะวันตกแล้ว
กู้ฮอนไม่เคยเพิกเฉยต่อหยางหยาง เธอดูภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกทำลาย กู้ฮอนรู้สึกเสียใจ
แต่ว่า เธอไม่อยากมีความประทับใจเป่หมิงโม่เพราะสิ่งนี้ ความทรงจำของเขาก่อนหน้า ในที่สุดก็สลายไปหมด
ถึงแม้กู้ฮอนจะปกปิดความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อภาพนี้ไว้อย่างดีแล้ว แต่ไม่สามารถปกปิดฉิงฮัวที่อยู่ข้างๆได้