ตอนที่ 602 เล่นละครหรือขอโทษ
เลขาออกไปแล้ว ฉิงฮัวเดินไปข้างเป่หมิงโม่อย่างระมัดระวัง “ นายท่าน เขาก็เป็นเพียงพนักงานธรรมดา คำสั่งของคุณชายยี่เฟิงเขาก็ไม่กล้าขัด”
เป่หมิงโม่มองเมืองที่อยู่ใต้เท้าเขา เขาจะไม่เข้าใจเป้าหมายของเป่หมิงยี่เฟิง ได้ยังไง
ตามตำแหน่งของเขา เขาก็ไม่มีทางมาต่อต้านกับเขาโดยตรงหรอก เขาจึงได้แค่นำของน่าเกลียดแบบนี้มาใช้แทน
คิดไม่ถึงจริงจริง ว่าเป่หมิงยี่เฟิงจะกล้าใช้ข่าวการเสียชีวิตของปู่แท้แท้ของเขา มาเป็นอาวุธในการสู้กับเป่หมิงโม่
มันทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกไม่ดีกับเขา
“ หลังจากนี้ คุณให้คนคอยจับตามองเป่หมิงยี่เฟิง ห้ามให้เขาสร้างปัญหาอะไรได้อีก”
ฉิงฮัวพยักหัว “ เจ้านายไว้ใจเถอะ ฉันจะไม่ให้คุณชายยี่เฟิงสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาอีก “
***
ในเวลานี้ คิ้วของเป่หมิงโม่ก็ขมวดขึ้นมาอีกรอบ
มีรถประจำทางหลายคันมาจอดที่บริษัทเป่หมิง
หลังจากที่รถจอดเรียบร้อยแล้ว มีคนลงมาไม่น้อย มีคนชูป้ายแดงขึ้นมา เนื่องจากระยะทางไกล จึงมองไม่ออกว่าเขียนตัวอะไร
หลังจากไม่กี่นาที จัตุรัสหน้าบริษัทเป่หมิงก็เต็มไปด้วยผู้คน
“ คุณมาดูตรงนี้ ข้างล่างเกิดอะไรขึ้น ” เป่หมิงโม่เรียกฉิงฮัวมา
ฉิงฮัวรีบมาข้างเป่หมิงโม่ เขาก้มหัวมองแล้วสูดหายใจขึ้นมา
จำนวนผู้คนที่มารวมตัวกันที่ประตูบริษัทเป่หมิง ในครั้งนี้มากกว่าเหตุการณ์หุ้นครั้งก่อนหลายเท่า
“เจ้านาย ฉันลงไปดูก่อน ” ฉิงฮัวหันร่างแล้วออกไป
เมื่อเขามาถึงชั้นหนึ่ง เขาเห็นประตูหมุนของบริษัทเป่หมิงปิดไว้อย่างแน่น
ข้างนอกยืนเรียงไปด้วยบอดี้การ์ด พวกเขาร่วมแรง ช่วยกันห้ามผู้คนที่ตั้งใจจะพยายามเข้ามา
ในห้องโถง สามารถได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอกได้ว่า ประธานเป่หมิงออกมาขอโทษ !
ในระหว่างหัวของผู้คน มีคนที่ใช้เสาไม้ไผ่เพื่อขึ้นป้ายแดงว่า พวกเขาไม่พอใจที่ประธานเป่หมิงทำลายโดยมุ่งร้าย พวกเขาต้องการเรียกร้องคำขอโทษ และมีสิทธิ์ที่จะรับผิดชอบทางกฎหมาย!
ดูท่าแล้วเรื่องครั้งนี้คงจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ในตอนที่ฉิงฮัวเตรียมจะออกไปด้านนอกเพื่ออธิบาย
ทันทีก็มีประตูลิฟต์ด้านข้างของล็อบบี้เปิดออก เป่หมิงยี่เฟิง สวมชุดสูทอย่างทางการ เดินออกมาจากข้างใน ตามด้วยบอดี้การ์ดสองคนสวมแว่นดำ
เป่หมิงยี่เฟิงเห็นว่าฉิงฮัวอยู่ที่นี่ และยังพยักหัวใส่เขา
ฉิงฮัวก็รีบก้มหัวและพยักหัวให้เขา
เป่หมิงยี่เฟิงเดินมาถึงแผนกต้อนรับส่วนหน้า พูดกับพนักงานต้อนรับ “ กรุณาเปิดประตูออก ฉันออกไปอธิบายให้พวกเขา “
พนักงานต้อนรับมองไปที่ผู้คนด้านนอก จึงขมวดคิ้วทันที “ คุณชายยี่เฟิง ผู้คนด้านนอกกระตือรือร้นผิดปกติ อาจจะมีอันตรายกับคุณ ”
เป่หมิงยี่เฟิงส่ายหัว “ จะไม่บอกว่าฉันเป็นคุณชายของบริษัทเป่หมิง ถึงแม้จะเป็นแค่พนักงานของบริษัทเป่หมิง ฉันก็จะยอมช่วยอย่างเต็มที่”
พูดจบ เขาหันร่างแล้วเดินไปทางประตูหมุน จัดการเสื้อผ้าเนกไท หลังจากที่ประตูใหญ่ค่อยๆเปิดออก เขาพาบอดี้การ์ดของเขาเดินออกไปอย่างมั่นใจ
ฉิงฮัวก็เดินตามออกไป เขาต้องการดูว่ามียาอะไรขายในน้ำเต้าของเป่หมิงยี่เฟิง
เห็นว่าบริษัทเป่หมิงมีคนออกมาแล้ว คนที่ยืนอยู่ข้างนอกก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น ต่างตะโกนออกมา “ ขอโทษ ! ขอโทษ ! ”
ยังมีนักข่าวมากมายนำไมค์และกล้องหันเข้าหาเป่หมิงยี่เฟิง
เป่หมิงยี่เฟิงยืนอยู่หลังบอดี้การ์ด ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา ให้ทุกคนเงียบสงบ
รอผู้คนเงียบสงบแล้ว เขามองผู้คนที่เต็มอยู่ตรงหน้านี้ พูดออกมา “ ทุกคนสงบอารมณ์ลง ฉันในฐานะพนักงานของบริษัทเป่หมิง ในความเสียหายของพวกท่าน ฉันขอโทษแทนบริษัทเป่หมิง และในความเสียหาย พวกเราก็จะรับผิดชอบ”
เวลานี้จึงมีคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวหน้า พูดขึ้นมา “ พวกเราไม่ต้องการพนักงานธรรมดาออกมาขอโทษพวกเราต้องการประธานบริษัทเป่หมิงมาขอโทษแทน ! ”
หลังจากคำพูดนี้จบลง ก็ได้กระตุ้นผู้คนขึ้นมาอีกรอบ “ ประธานเป่หมิงออกมาขอโทษ ! “
เป่หมิงยี่เฟิงตะโกนออกมา “ ฉันแซ่เป่หมิง ชื่อเป่หมิงยี่เฟิง เป็นหลานชายแท้ของประธาน และเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัทเป่หมิง ขอโทษมากจริงจริง ประธานเป่หมิงวันนี้ได้เดินทางไปจัดการเรื่องบางเรื่อง ไม่สามารถที่จะกลับมาทันได้ ความต้องการของพวกท่าน ฉันจะบอกกับเขาเองเมื่อเขากลับมา ขอให้ทุกท่านกรุณากลับไปด้วยเถอะ ”
เป่หมิงยี่เฟิงพูดถึงจุดนี้แล้ว ก้มตัวลงเพื่อขอโทษให้กับผู้คนที่อยู่หน้านี้
***
คนคนนั้นที่เคยตะโกนเสียงดังให้ประธานเป่หมิงออกมาขอโทษ พอเห็นเป่หมิงยี่เฟิงขอโทษด้วยความจริงใจแบบนี้ “ หนุ่มน้อย เห็นในฐานะความจริงใจของคุณ วันนี้พวกเราก็ไม่เอาเรื่องแล้ว แต่ประธานเป่หมิงของพวกคุณทำให้อุปกรณ์ของพวกฉันเสียหาย ข้างในมีเอกสารสำคัญมากมาย ความเสียหายพวกนี้จะคิดยังไง ? ”
“นั่นสิ นั่นสิ ความเสียหายของเอกสารจะคิดยังไง ? ” ผู้คนที่อยู่ข้างก็พูดตามขึ้นมา
เป่หมิงยี่เฟิงมองเขาคนนั้นแล้วยิ้ม “ ไม่ทราบว่าเอกสารของพวกคุณมีมูลค่าเท่าไหร่ ? ”
คนคนนั้นคิดสักพัก “ เอิ่ม ข้อมูลที่บันทึกไว้มีค่าเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็ต้องสามล้าน “
เป่หมิงยี่เฟิงฟังแล้ว สีหน้ายังคงอยู่ในรอยยิ้มแล้วพูด “ น้องชายคนนี้ คุณล้อเล่นหรือเปล่า พวกคุณเป็นสื่อข่าวอะไร เอกสารจะแพงแบบนี้ได้ยังไง ”
เขาฟังแล้ว พูด “ นี่คุณหมายความว่ายังไง กำลังดูถูกพวกฉัน หรือกำลังแก้แค้นคืนกันแน่ ! ”
เป่หมิงยี่เฟิงส่ายมือ “ ตอนนี้สังคมอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม พวกเราจะเป็นเหมือนแก๊งนักเลงได้อย่างไร? แม้ว่าตระกูลเป่หมิงของเราจะมีชื่อเสียงในท้องถิ่นอยู่บ้าง แต่ราคาที่คุณขอเป็นเพียงเศษเสี้ยวสำหรับพวกเรา แต่เราแค่รู้สึกว่าราคานั้นไม่คุ้มค่า ”
เขาเท้าสะเอวไว้ แล้วพูด “ คุณชายเป่หมิง คุณว่าถ้าจะรับผิดชอบความเสียหายของพวกเรา งั้นคุณว่าควรจะเป็นราคาแบบไหน ? ”
เป่หมิงยี่เฟิงยื่นมือออกมาชูสามนิ้ว
“สามแสน ? ”
เป่หมิงโม่ส่ายหัว
“สามหมื่น ?”
เขาส่ายหัวอีกครั้ง
“เห้อ ตกลงเท่าไหร่กันแน่ ฉันไม่ชอบเล่นเกมทายคำกับคุณที่นี่ ” คนคนนั้นเริ่มรำคาญใจขึ้นมา
เป่หมิงโม่ค่อยๆพูด “ ความหมายของฉันคือ จะรับผิดชอบให้คุณเพียงสามร้อยหยวน ”
คำพูดจบลง ผู้คนในเหตุการณ์ต่างฮือฮากัน นี่ไม่ใช่การดูถูกหรอ ในฐานะนักข่าว แม้แต่เอกสารในขยะก็คงเยอะกว่าสามร้อยหยวนสิ
ชายคนนั้นเหมือนจะบ้าตายเพราะเป่หมิงยี่เฟิง “ ไอคนแซ่เป่หมิง เมื่อกี้เห็นคุณมีความจริงใจแบบนั้น พวกเรายังคิดว่าคุณไม่ใช่คนที่ชอบใช้อำนาจกลั่นแกล้งคนอื่น ตอนนี้ดูแล้ว พอเจอกับปัญหาการรับผิดชอบเงิน ก็ไม่ต่างอะไรกับนักธุรกิจพวกนั้นหรอก !”
พอพูดถึงจุดนี้แล้ว ชายคนนั้นจึงหันร่างเข้าหาทุกคน “ เรื่องวันนี้เราจะจบแบบนี้ไม่ได้ พวกเราต้องใช้อาวุธทางกฎหมายต่อสู้กับนักธุรกิจไร้ยางอายแบบนี้ ให้ถึงที่สุด !”
“ต่อสู้ให้ถึงที่สุด ! ต่อสู้ให้ถึงที่สุด ! ” ทุกคนต่างช่วยกันตะโกน
ฉิงฮัวที่ยืนอยู่หลังเป่หมิงยี่เฟิง เริ่มแรกยังคิดว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหาแทนเจ้านายได้ แต่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่ปกติแล้ว เขาไม่ได้มาดับไฟ แต่มาราดน้ำมันลงบนกองไฟต่างหาก
เขาดูไม่ลงแล้ว เขาหันหลังและกลับไปที่ห้องโถง เตรียมที่จะไปรายงานกับเรื่องราวที่เขาได้ยินและได้เห็น
แม้เป่หมิงยี่เฟิงจะมองไปทางผู้คน แต่เขาก็แอบใช้หางตามองมาทางฉิงฮัวบ้าง
ในตอนที่เขาเห็นฉิงฮัวหันหลังแล้วเดินกลับไป เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
ในเวลาเดียวกัน ชายที่เป็นต้นเสียงคนนั้นก็ได้เริ่มพูดขึ้นมาอีก “ พวกเราจะไม่เสียเวลากับนักธุรกิจไร้ยางอายแบบนี้แล้ว กลับไปเชิญทนายความ พวกเราจะต่อต้านกับพวกเขาให้ถึงที่สุด !”
“ใช่ ! ให้ถึงที่สุด !”
*
เป่หมิงโม่ก้มหัวมองผู้คนข้างล่างที่ค่อยๆหายไป คิ้วที่ขมวดไว้แน่นก็คลายลงมาบ้างแล้ว
เขาก็คิดไม่ถึง ว่าฉิงฮัวจะแก้ปัญหาได้เร็วเช่นนี้ หลายปีที่ตามเขาก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์
แต่ที่คาดไม่ถึงคือ ประตูห้องทำงานของเขาเปิดออก ฉิงฮัวเดินมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีเป็นอย่างมาก
***
เป่หมิงโม่เห็นสีหน้าของฉิงฮัวดูไม่ดีแบบนี้ ก็รู้ว่าเกิดปัญหาแล้ว
ฉิงฮัวเดินมาข้างเป่หมิงโม่ “ นายท่าน ปัญหาข้างล่างพังแล้ว”
หลังจาก เป่หมิงโม่ได้ยินข่าวนี้ ไม่ได้มีสีหน้าที่ตกใจมาก เขาหันตัวกลับไปนั่งบนเก้าอี้หนังของเขา ชี้เก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ฉิงฮัว
ฉิงฮัวหันมาแล้วนั่งลง เขาพูด “ เจ้านาย ในตอนที่ฉันไปถึงห้องโถง คุณชายยี่เฟิงได้พาบอดี้การ์ดสองคนแล้วเสนอตัวไปแก้ปัญหาเอง”
เป่หมิงโม่พยักหัว “ พูดต่อ ”
จากนั้นฉิงฮัวก็พูดการกระทำทุกอย่างทุกตัวอักษรของเป่หมิงยี่เฟิง เขาไม่ได้ขาดไปแม้แต่คำเดียว
สุดท้ายฉิงฮัวพูด “ นายท่าน ท่านว่าคุณชายยี่เฟิงทำแบบนี้ ก็เท่ากับกำลังหาปัญหาให้ท่านไม่ใช่หรอ”
หลังจากเป่หมิงโม่ฟังจบ ไม่ได้โมโหระเบิด สีหน้าของเขาใจเย็นเป็นอย่างมาก จากนั้นก็กดกริ่งห้องทำงาน
ประตูห้องทำงานเปิดออก เลขาเดินเข้ามา “ ประธานเป่หมิง มีอะไรรับใช้ครับ ”
เป่หมิงโม่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน “ เรียกเป่หมิงยี่เฟิงมาหาฉัน”
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ก็เหมือนเทคโนโลยีไวรัส มันได้แพร่ไปทั่วหูของทุกแผนกในบริษัทเป่หมิงอย่างเร็ว
เลขาก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาพยักหัวแล้วรีบออกไป
ดูท่าแล้ว ประธานเป่หมิงคงจะมีเรื่องคุยกับคุณชายยี่เฟิงแล้ว อย่าเห็นว่าปกติประธานเป่หมิงจะเงียบสงบ ความจริงแล้วเขาคือความสงบก่อนที่จะมีพายุฝนมา
*
เป่หมิงยี่เฟิงเห็นผู้คนที่ต่างกระจายแยกย้ายไป เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา หันหลังแล้วพาบอดี้การ์ดสองคนกลับไปที่ฝ่ายการออกแบบ
เหล่าหวี หัวหน้าฝ่ายออกแบบเห็นเป่หมิงยี่เฟิงกลับมา เขาก็ไม่สนภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว เดินไปที่นั่งของเป่หมิงยี่เฟิงด้วยสีหน้าเศร้า
เป่หมิงยี่เฟิงตอนนี้กำลังเปิดคอมอย่างมีความสุข เงยหัวขึ้นมอง เห็นว่าเหล่าหวีมายืนอยู่หน้า “ หัวหน้าหวี ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร ? ”
เหล่าหวีพูดกับเป่หมิงยี่เฟิงอย่างเบาเสียง “ คุณชายยี่เฟิง เมื่อกี้คุณไปพูดอะไรที่ข้างล่างกันแน่ นี่มันทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสิ ถ้าประธานเป่หมิงรู้ คงจะไม่รอด “
พึ่งพูดถึงจุดนี้ เลขาของเป่หมิงโม่ก็มาถึงฝ่ายการออกแบบพอดี
เขามาถึงโต๊ะทำงานของเป่หมิงยี่เฟิง “ หัวหน้าหวีก็อยู่หรอ ”
ตามที่กล่าวไว้ เจ้าหน้าที่ของผู้สูงอำนาจก็ดีแบบนี้แหละ ในฐานะหัวหน้าของฝ่ายออกแบบ เมื่อได้พบเลขาของเป่หมิงโม่ก็จำเป็นที่จะต้องลดตัวลง
เลขาพูดกับเป่หมิงยี่เฟิง “ คุณชายยี่เฟิง ประธานเป่หมิงเชิญคุณขึ้นไป”
เป่หมิงยี่เฟิงยกแก้วกาแฟขึ้น “ ได้ ฉันดื่มกาแฟเสร็จแล้วจะไป เมื่อกี้พูดเยอะไปหน่อยที่ข้างล่าง คอก็แห้งหมดแล้ว”
เลขาเห็นว่าตัวเองได้ทำตามคำสั่งแล้ว เห็นท่าทางของเป่หมิงยี่เฟิงแบบนี้ นี่มันเป็นการไม่เคารพประธานเป่หมิงชัดชัด เรื่องก่อนหน้านี้ในห้องประชุม พวกเขาก็แยกความสูงต่ำไม่ออก