ตอนที่ 643 ช่วยผมสักอย่าง
เป่หมิงยี่เฟิงพูดจบก็ลุกขึ้น หมุนตัวออกไปจากห้องทำงานเป่หมิงโม่
*
ออกจากห้องทำงาน ไปที่ฝ่ายออกแบบ
พอเข้าไปในห้องเหล่าหวี เขาก็ปิดประตู
“ฮัลโหล วันนี้ตอนเช้าหัวหน้าของฝ่ายออกแบบพวกเราถูกพาตัวไป เป็นฝีมือพวกคุณใช่ไหม”เป่หมิงยี่เฟิงโทรหาชายสวมหมวกเบสบอล
ตอนนี้เอง ชายสวมหมวกเบสบอลนั่งอยู่บนโซฟา ขาทั้งสองไขว้กัน“คุณชายเป่หมิง เป็นถึงหัวหน้าแผนก พูดออกมาดูเป็นทางการเสียจริง คนยุ่งๆแบบคุณโทรหาผมเนี่ยนะ คงไม่ใช่แค่ว่ารายงานข่าวดีผมเรื่องนี้สินะ พูดมาเถอะโทรหาผมทำไม?ใช่สิ สองสามวันก่อนคุณไม่ได้บอกว่าจะไม่ติดต่อเราอีกไม่ใช่เหรอ?”
เป่หมิงยี่เฟิงขมวดคิ้ว พูดด้วยใบหน้าไม่พอใจ“พูดให้มันดีๆหน่อย ผมแค่มาถามว่าวันนี้ตอนเช้าเหล่าหวีของฝ่ายออกแบบ ใช่ฝีมือพวกคุณไหม”
“เหล่าหวี?เหล่าหวีไหน……อ้อ คิดออกแล้ว เจ้านายของคุณก่อนหน้านี้อ่ะนะ เรื่องของเขา ผมแค่ใช้วิธีเบาๆเองนะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะรับไม่ได้”ชายสวมหมวกเบสบอลพูด หยิบบุหรี่บนโต๊ะตรงหน้าเข้าปาก
“ผมจะบอกคุณให้ เรื่องของผมกับเป่หมิงโม่ ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณมายุ่งด้วย ยังไม่รีบเอาเหล่าหวีออกมาอีก!”
***
“เหอะเหอะ คุณชายเป่หมิง คุณพูดเรื่องตลกอยู่เหรอ โรงพักไม่ใช่เราที่เปิดเองซะหน่อย พูดว่าปล่อยออกมาแล้วจะปล่อยออกมาเลยได้ไงล่ะ อีกอย่างหลักฐานชัดเจนนั้น น่าจะไม่ใช่แค่สามถึงห้าปีถึงจะออกมาได้ คุณเป็นหัวหน้าออกแบบได้อย่างสบายใจเลยแหละ”ชายสวมหมวกเบสบอลพูดจบก็วางสาย
เป่หมิงยี่เฟิงได้ยินเสียงสายไม่ว่างเข้ามา ก็โยนโทรศัพท์ไปบนโต๊ะด้วยความโกรธ
น่าโมโหจริง ถึงแม้วันนั้นเชิญเหล่าหวีไปกินข้าว มีความคิดอยากจะดึงเขาเข้ามากับตัวเอง
แค่คิดไม่ถึงว่าเขาจะภักดีต่อเป่หมิงโม่แบบนี้ ปฏิเสธเขาทันที
ตอนนั้นที่จริงเขาก็เคยคิด ในเมื่อไม่สามารถใช้เขาได้ งั้นก็ไม่ต้องให้เขาทำงานให้ตระกูลเป่หมิงอีกต่อไป จึงคิดหาวิธีไล่เขาออกไปจากฝ่ายออกแบบให้จบก็สิ้นเรื่อง
แต่เขาก็ไม่เคยคิดใช้วิธีลอบกัดแบบนี้มาเตะเหล่าหวีออกไป
นี่มันเป็น“ความแค้นของผมต่อเขา ที่ผมไม่ได้จงใจทำร้ายเขา แต่เขากลับถูกทำร้ายเพราะมาจากความแค้นของผมเอง”จริงๆ
เรื่องเกิดมาแล้ว อยากจับเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
*
ตั้งแต่ที่กู้ฮอนได้ใบอนุญาตทนายความมา หยินปู้ฝันก็เริ่มสอนเธอตรงๆ คดีที่ตัวเองรับผิดชอบทั้งหมด เอามาศึกษาด้วยกันกับเธอ
ดังนั้นกู้ฮอนเลยพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
คืนหนึ่งเลิกงาน กู้ฮอนขับรถกลับไปบ้าน พอเปิดประตูมา ก็เห็นเฉิงเฉิงนั่งบนโซฟา สีหน้าดูไม่ค่อยดี
“เป็นอะไรไปลูกรัก ที่โรงเรียนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก?”กู้ฮอนพูด เอากระเป๋าวางบนตู้เสื้อผ้าข้างๆ
เดินไปนั่งข้างๆเฉิงเฉิง มองลูกชาย
แอนนิอุ้มจิ่วจิ่วออกมาจากห้องนอนเช่นกัน
“หม่ามี๊ พี่เฉิงเฉิงนั่งแบบนี้ตั้งแต่เย็นแล้ว หนูอยากให้พี่เล่นด้วย พี่ก็ไม่สนหนู”จิ่วจิ่วเบะปากฟ้องแม่
กู้ฮอนเอาเฉิงเฉิงเข้ามาในอ้อมแขน“ลูกรัก มีอะไรคุยกับแม่สิ แม่ช่วยลูกแก้ดีไหม?”
ถึงแม้เฉิงเฉิงจะไอคิวสูง แต่เขายังเป็นเด็ก ก็ยังมีเรื่องไม่สบายใจของเด็ก
เฉิงเฉิงเงยหน้ามองแม่“แม่ครับ โรงเรียนจัดค่ายฤดูร้อนของครอบครัว ผมอยากไปมาก เพราะว่าหยางหยางก็อยากไปมากด้วย แต่ว่าแม่กับพ่อต่างยุ่ง”
“แค่เรื่องนี้เอง ทำไมต้องเครียดด้วยลูก แม่พาลูกไปก็ได้”พูดถึงตรงนี้กู้ฮอนก็คิดถึงหยางหยาง เจ้าเด็กนี่ใครจะพาเขาไปนะ?
เมื่อวันก่อน เขาทำให้ท่านนางเป่หมิงไม่พอใจ ช่วงนี้บางทีฉิงฮัวก็โทรมาบอกสถานการณ์ของหยางหยาง
เหมือนว่าเขากับท่านนางเป่หมิงยังไม่ดีขึ้น เจอกันทั้งวันก็ไม่ทัก แม้แต่กินข้าว หยางหยางก็หลบท่านนางเป่หมิงไปไกลๆ
*
หยางหยางทำการบ้านเสร็จ โล่ฮานก็มาตรวจ เอาที่เขียนผิดทุกอย่าง ชี้ให้เขาดู
แป๊บหนึ่งเขาก็แก้เสร็จ
ตามที่ตกลงกันนั้น เรียนเสร็จ โล่ฮานจะฝึกรายการต่อไปให้หยางหยาง นั่นก็คือเล่นเกม
แต่ว่าวันนี้ความกระตือรือร้นของหยางหยางไม่ค่อยมี นั่งบนเตียงอย่างก้มหน้า ท่าทางของเขานี้ช่างยากเสียจริง ตั้งแต่สองวันนั้นที่ทะเลาะกับท่านนางเป่หมิงอย่างรุนแรง ก็ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา
“หยางหยาง เป็นอะไรไป?”โล่ฮานมองเขาด้วยรอยยิ้ม
หยางหยางขมวดคิ้ว มองโล่ฮาน“ครูโล่ มีเรื่องบางอย่างผมอยากให้คุณช่วยสักหน่อย”
โล่ฮานมหมุนตัวนั่งบนขอบเตียง“พูดมาสิ มีเรื่องอะไรที่ครูพอช่วยได้?”
“อือ ……”ตาเล็กๆของหยางหยางกลอกไปมา แป๊บหนึ่ง เขาก็พูด“ครูโล่ มาเป็นพ่อผมได้ไหม?”
***
โล่ฮานได้ยิน เกือบจะขำออกมา เจ้าเด็กนี่ทำไมคิดออกมาแบบนี้
แต่ว่าพอมองหน้าของหยางหยางที่ซีเรียส แววตาก็มีความจริงจัง
เหมือนว่าเด็กนี่ไม่ได้ล้อเล่น แต่จริงจังจริงๆ
“หยางหยาง ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ บอกครูได้ไหมว่าทำไม?”โล่ฮานสนใจมากอยากรู้ว่าในสมองของหยางหยางมีแผนการอะไรอยู่
หยางหยางก็ไม่ปิดบัง เอาเรื่องที่โรงเรียนจะจัดค่ายฤดูร้อนของครอบครัวบอกโล่ฮาน
“ผมพูดกับเฉิงเฉิงแล้ว ผมจะไป แต่ว่าตอนนี้ผมหาคนไปกับผมไม่ได้”พูดถึงตรงนี้ หน้าหยางหยางก็บึ้ง
โล่ฮานเข้าใจแล้ว“ดังนั้นเลยอยากให้ครูแกล้งเป็นพ่อ ไปกับหยางหยางใช่ไหม?”
หยางหยางเงยหน้ามองเขา ออกแรงพยักหน้า สายตามีความหวัง
โล่ฮานมองหยางหยางขมวดคิ้ว จากนั้นจึงส่ายหัวพูดว่า“เรื่องนี้ครูช่วยไม่ได้ ที่บ้านมีผู้ใหญ่ตั้งมากมาย แค่คนเดียวหาไม่ได้เลยเหรอ?”
หยางหยางเบะปาก“ผมไม่อยากไปกับย่า ยิ่งไม่อยากไปกับยัยน่าเกลียดนั่นเข้าไปใหญ่ วันนั้นพวกเขาว่าแม่ไม่ดี”
“งั้นพ่อล่ะ?”
“พ่อเขา……”พอหยางหยางคิดว่าไอ้พ่อนกจะพาเขาไปเข้าค่าย หน้าก็ยิ่งบึ้งมากขึ้น
ครั้งนั้น เขากับเฉิงเฉิงนั่งอยู่บนผ้าขนาดใหญ่จ้องมองใบหน้าที่เย็นชาของพ่อ ไม่พูดสักคำ
แล้วก็ครั้งนั้นที่ใช้ไฟแช็กมาทำไส้กรอก ……
คิดถึงฉากพวกนั้น ร่างเล็กๆของหยางหยาง ก็รู้สึกสยอง
โล่ฮานมองหยางหยางท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์พ่อลูกของเขากับเป่หมิงโม่จะไม่สามัคคีกันเท่าไหร่
เขาก้มหน้ามองนาฬิกา ถึงเวลาต้องกลับไปแล้ว
เขาตบไหล่หยางหยางเบาๆ“โอเค สายมากแล้ว ครูต้องกลับแล้ว จำไว้นะ ให้โอกาสพ่อ ไม่แน่ครั้งนี้พ่ออาจจะทำให้เราแปลกใจได้”
ตอนทานข้าวเย็น เป่หมิงโม่กลับมาแล้ว หยางหยางอยู่ห่างจากเจียงฮุ่ยซินกับเฟยเอ๋อไกลๆเหมือนเดิม
เป่หมิงยันเห็นเรื่องที่บ้านก็จบลงแล้ว ส่วนแม่ของตัวเองกับหยางหยางเห็นแค่ความขัดแย้งที่เข้ากันไม่ได้ ตัวเองก็จนปัญญาไปแก้ไข
“แม่ พรุ่งนี้ผมจะกลับไปกองละครนะ เลื่อนงานไปตั้งหลายวัน กลับไปต้องยุ่งมากแน่”เป่หมิงยันพูด
เห็นแค่เจียงฮุ่ยซินฟังเป่หมิงยัน แต่ใบหน้าบึ้งนั้นไม่มีการโต้ตอบอะไร
เป่หมิงยันมอง แม่ยังโกรธตัวเองที่ไม่ช่วยเธอพูดแน่ๆ
ตอนนี้เอง จู่ๆหยางหยางก็พูด“อาสาม อีกสองสามวันค่อยกลับไปสิ”
เป่หมิงยันหันไปมองหยางหยาง ถามอย่างสนใจ“ทำไม ไม่อยากให้อาไปทำงานเหรอ อาเห็นนายทั้งวันเอาแต่ตามติด ครูโล่ ไม่ใช่ว่าสนุกมากเหรอ”
“ผมมีเรื่องจะให้อาช่วย”
เป่หมิงยันยิ้ม“มีเรื่องอะไรที่อาช่วยได้ด้วยเหรอ ถ้าบอกว่าให้อาไปช่วยทำการบ้านให้ เลิกคิดได้เลย ถ้าแฟนๆอารู้ ว่าอาไปทำการบ้านให้เด็ก ภาพลักษณ์ดีๆของอาพังหมดแน่”
หยางหยางมองบนใส่เป่หมิงยัน“ใครให้อาทำการบ้านให้ผมล่ะ ตอนนี้คำถามพวกนี้สำหรับผมแล้วง่ายมาก ไม่สำคัญอะไร ผมจะให้อาไปเป็นพ่อผมต่างหาก”
พูดออกไป สมองของเป่หมิงยันก็นิ่งไปทันที หันไปมองเป่หมิงโม่ที่กำลังกินข้าวอย่างระมัดระวัง
เห็นเขานั่งตรงหน้าโต๊ะกินข้าว มือหนึ่งถือถ้วยอีมือถือตะเกียบ พอได้ยินหยางหยางพูด หน้าเขาก็ชักสีหน้าหน่อยๆ
***
เป่หมิงยันยิ้มอย่างละอาย เจ้าเด็กหยางหยางนี่นับวันยิ่งแปลก
“หยางหยาง จะให้อาไปทำอะไรพูดมาสิ”เป่หมิงยันก็อยากได้ยินว่าหยางหยางจะทำอะไรกันแน่
“ผมอยากให้อาพาผมไปเข้าค่ายฤดูร้อนครอบครัว นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ดึงดูดแฟนๆเลยนะ ผมจะโฆษณาให้อาฟรีๆ”หยางหยางมองเป่หมิงยัน “ว่าไงครับ โอเคไหม?”
เป่หมิงยันจะกล้าโอเคได้ไง เขามองหยางหยาง“เรื่องนี้อาน่าจะช่วยไม่ได้ นายไปหาพ่อแท้ๆของนายเองสิ”พูดจบ ก้มหน้าลงกินข้าวคำใหญ่
“อาสาม เสียแรงจริงๆที่ผมชมลุงให้เพื่อนๆฟัง แค่เรื่องเล็กๆแค่นี้ยังช่วยผมไม่ได้ ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”หยางหยางพูด แววตานั้นเริ่มมองคนในโต๊ะอาหารรอบๆ
สุดท้ายสายตาเขาก็หยุดไปที่ฉิงฮัว
ฉิงฮัวกำลังยืนอยู่หลังเป่หมิงโม่ หยางหยางกับเป่หมิงยันพูดกันเขาได้ยินหมด เขาเช็ดเหงื่อเพราะหยางหยางเลย
จู่ๆเจ้าเด็กหยางหยางก็กล้าต่อหน้าเจ้านาย หาคนอื่นแทนเขา
ครั้งนี้เขามองเห็นสายตาหยางหยางมองมาที่ตัวเอง ก็ตกใจไปนิดหน่อย
เขากำลังจะปฏิเสธ แต่ว่าหยางหยางดันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ลุงหัวฟู ว่างไหม ……”
ตอนนี้ เป่หมิงโม่ที่กำลังกินข้าว ดูไม่สนใจและไม่สามารถหยุดลงได้ เขาเอาถ้วยตะเกียบวางลง มองหยางหยางแล้วพูด“ไม่ต้องหาคนอื่นแล้ว พ่อพาไปเอง”
“……”หยางหยางไม่พูดอะไรอีก
ฉิงฮัวก็น่าจะโล่งใจแล้ว
*
ตอนดึก หยางหยางหน้าบึ้งนั่งอยู่ที่เตียง แม้แต่การ์ตูนที่เขาต้องดูทุกวันก็ยังไม่มีอารมณ์
หาคนไปทั่ว สุดท้ายก็ยังไปกับไอ้พ่อนกได้
แป๊บหนึ่ง โทรศัพท์เขาก็ดัง
หยางหยางหยิบมาดูเป็นเฉิงเฉิงโทรมา
เฉิงเฉิงพูดว่า“ค่ายฤดูร้อนของโรงเรียนแม่ไปกับฉันแล้ว นายล่ะ?”
หยางหยางพูดอย่างหดหู่“ฉันก็ไปได้”
เฉิงเฉิงได้ยินเสียงหยางหยางเหมือนไม่ค่อยดีใจ นี่ไม่ใช่สไตล์เขานี่“ถอนหายใจอะไร ไม่ได้อยากไปมากหรอกเหรอ?”
“อยากไปสิ แต่ว่าต้องดูว่าไปกับใคร วันนี้ฉันไปหาครูโล่ อาสาม และก็ลุงหัวฟู ให้พวกเขาช่วยทำเป็นไอ้พ่อนกไปร่วมงาน”
เฉิงเฉิงได้ยิน ก็ขมวดคิ้ว ทำไมเจ้าหยางหยางถึงไม่น่าไว้ใจได้ขนาดนี้ หรือว่าโง่เนี่ย?หาคนมาแทนพ่อได้ง่ายขนาดนั้นเชียว “สรุปเป็นไง?”
“เขาต่างไม่ยอม สุดท้ายไอ้พ่อนกบอกเองว่าจะพาฉันไป”หยางหยางพูดแล้วเอนตัวไปด้านหลัง นอนลงบนเตียง