ตอนที่ 701 ตั๊กแตนไล่จับจักจั่น 1
เธอเดินมาถึงข้างเตียงอย่างรวดเร็ว ดึงลิ้นชักบริเวณหัวเตียงออกมา ด้านในมีโทรศัพท์มือถือนอนนิ่งๆอยู่เครื่องหนึ่ง แม้ว่ามองดูแล้วจะตกรุ่นไปบ้าง แต่ว่ายังคงสภาพเหมือนเครื่องใหม่อย่างไรอย่างนั้น
ปกติแล้ว เธอจะไม่โทรศัพท์ เหตุผลง่ายดายมาก ในเมืองแห่งนี้ เธอนั้นโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ไม่มีญาติสนิทแม้แต่คนเดียว
ในด้านของมิตรสหาย อย่างมากซูยิ่งหวั่นก็ฝืนนับว่าเป็นคนหนึ่ง แต่ว่าพวกเธอนั้นอยู่ในสถานะที่ติดต่อกันน้อยมาก
แม้ว่าตอนที่พวกเธอพบหน้ากันจะดูค่อนข้างสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก แต่เธอไม่ได้ถือว่าซูยิ่งหวั่นเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะว่าพวกเธอล้วนชื่นชอบผู้ชายคนเดียวกัน เป่หมิงโม่
ซูยิ่งหวั่นมีข้อได้เปรียบที่ใหญ่มากกว่าเธออยู่ข้อหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวอาจารย์ของเป่หมิงโม่ อีกทั้งรูปโฉมยังดีมากกว่าเธอพันเท่า แม้ว่าเธอจะไม่ได้เสียโฉม ก็พูดได้แค่ว่าพวกเธอทั้งคู่พอๆกัน
เฟยเอ๋อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา หมุนตัวเข้าไปในห้องอาบน้ำ
ในไม่ช้าก็มีเสียงน้ำไหล ‘ซ่าๆ’ ดังออกมาจากห้องอาบน้ำ เธอไม่ได้ต้องการจะอาบน้ำ แต่เพื่อช่วยปิดบังเธอขณะโทรศัพท์
มือของเธอยังคงสั่นเบาๆ หลังจากที่พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก็ต่อสายหาถังเทียนจื๋ออย่างรวดเร็ว
“ฮัลโหล……สวัสดีคุณเฟยเอ๋อ ยากนะครับที่คุณจะโทรศัพท์หาผมตอนที่อยู่ในบ้านตระกูลเป่หมิง คุณไม่กลัวเป่หมิงโม่มาพบเข้าหรือครับ” เสียงของถังเทียนจื๋อเต็มไปด้วยความเอื่อยเฉื่อย
เฟยเอ๋อนั้นไม่ได้มีความรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์กับถังเทียนจื๋อแบบนั้น “ฮัลโหล คุณบอกว่าจัดการเรื่องนี้ได้เรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือคะ เมื่อสักครู่เขาเรียกฉันไปพบเพื่อซักถามเรื่องที่ไปโรงแรมในวันนั้น เขารู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ในมือของเขาอาจจะกุมหลักฐานใหม่เอาไว้”
“คุณบอกกับเขาหมดแล้วหรือ” น้ำเสียงของถังเทียนจื๋อไม่ได้สับสนวุ่นวายเหมือนกับเฟยเอ๋อ แต่กลับเยือกเย็นมาก
“สาเหตุที่ฉันถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็เป็นเพราะคุณไม่ใช่หรือ ถ้าฉันพูดว่าคุณให้ฉันทำแบบนี้ อย่างนั้นฉันยังดีอยู่หรือไม่” เฟยเอ๋อเล่าบทสนทนาระหว่างเธอกับเป่หมิงโม่ให้ถังเทียนจื๋อฟัง
ถังเทียนจื๋อพยักหน้า หัวเราะเสียงเย็น “คุณเฟยเอ๋อ ไม่พูดถึงเรื่องที่คุณล้างมลทินให้ตัวเองจนขาวสะอาดแล้วยังดูเหมือนว่าคุณทำเพื่อส่วนรวมอย่างเห็นได้ชัด เอาเถอะ เรื่องนี้ผมรู้แล้ว ยังคงเป็นประโยคเดิม คุณไม่ต้องกังวลใจ เรื่องนี้ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”
เฟยเอ๋อที่เพิ่งจะผ่านเรื่องเมื่อครู่นี้มา ก็รู้สึกเชื่อถังเทียนจื๋อไม่ลงอยู่บ้าง “ครั้งที่แล้วคุณก็บอกให้ฉันวางใจ แต่ว่าหลังจากนั้นล่ะ ไม่ใช่ว่าเรื่องราวก็ถูกเปิดเผยออกมาบางส่วนหรือ ฉันจะบอกคุณให้นะว่า เป่หมิงโม่ไม่ได้รับมือง่ายเหมือนอย่างที่คุณคิดไว้ ฉันขอแนะนำให้คุณระมัดระวังและเอาจริงเอาจังหน่อย”
“เอาเถอะๆ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้คุณมาสอนผมว่าทำอย่างไร คุณเพียงแค่เชื่อฟังอย่างว่าง่าย อยู่ข้างกายเขาแล้วฟังคำสั่งผม ผมรับประกันว่าคุณจะไม่เป็นอะไร “ถังเทียนจื๋อเอ่ยจบก็วางสายโทรศัพท์ในทันที
“ฮัลโหล ฮัลโหล……” เฟยเอ๋อคิ้วขมวดแน่น ตะโกนใส่โทรศัพท์ไม่หยุด แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือเสียง “ตู๊ดๆ”
เธอโกรธจนอยากจะปาโทรศัพท์ลงบนพื้นอย่างแรง เธอโกรธที่ถังเทียนจื๋อที่ไม่ได้สนใจเรื่องสถานการณ์ของเธอมาโดยตลอด ครั้งที่แล้วก็รับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ถึงวันนี้ก็ยังคงลากตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ใครจะรู้ว่าวันหลังตัวเองจะตายในมือของเขาหรือไม่
***
สำหรับเรื่องที่เฟยเอ๋อพูดมาทั้งหมดนั้น ที่จริงแล้วตอนที่เป่หมิงโม่พบกับหวางซื่อในห้องทำงาน ถังเทียนจื๋อก็ใช้กล้องส่องทางไกลสังเกตการณ์อยู่ที่ตึกตรงข้าม
แม้เขาจะไม่ได้ยินเนื้อหาในบทสนทนา แต่เมื่อเห็นว่าหวางซื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็ยังคงตกตะลึงเล็กน้อย
เดิมเรื่องนี้นับว่าทำได้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะหลังจากที่หวางซื่อหนีกลับบ้านเกิดไปแล้วไม่ปรากฏตัวขึ้นอีก
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะดูเบาความสามารถของเป่หมิงโม่ สามารถลากคอเขาออกมาได้ แต่การปรากฏตัวของเขาก็ไม่อาจจะทำให้เกิดปัจจัยอะไรที่แน่นอนได้
อีกทั้งเขายังรู้ว่า สาเหตุที่เป่หมิงโม่ลงแรงไปมากขนาดนี้ก็ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพราะเป้าหมายคือตัวเอง
ถังเทียนจื๋อหัวเราะเสียงเย็น ในเมื่อเป่หมิงโม่จะอยากสืบหาความจริงออกมา อย่างนั้นก็ให้ความจริงกับเขาตรงๆเสียเลย
เขาเห็นเป่หมิงโม่สั่งให้คนพาหวางซื่อจากไป จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายหาหมายเลขหนึ่ง “นายฟังฉันให้ดี ตามรถเก๋งสีดำทะเบียน XXXX คันหนึ่งไป ดูว่าพวกเขาไปสถานที่อะไร จากนั้นก็มารายงานฉัน จำไว้ว่า อย่าทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เขาจัดการส่วนนี้เสร็จแล้ว ไม่นานก็ได้รับการรายงานจากลูกน้องใต้บังคับบัญชา และรู้ว่าเป่หมิงโม่จัดให้หวางซื่อพักอยู่ที่ใด
ผ่านไปชั่วครู่ เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์เอาผิดจากเฟยเอ๋อ
ดูท่าเป่หมิงโม่กำลังเตรียมการอย่างเร่งด่วน
ดังนั้นเขาจึงโทรศัพท์หาลูกน้อง “ตอนนี้สามารถดำเนินการได้แล้ว จำไว้ว่า ถึงเวลาให้ทำตามที่ฉันสั่ง……”
*
เป่หมิงโม่มองเฟยเอ๋อออกจากห้องหนังสือของตัวเองไป แม้ว่าเธอจะแต่งเรื่องราวได้ดีมากต่อหน้าตัวเอง แต่ว่าไม่สามารถทำให้ตัวเองเชื่อได้
ช่างมันเถอะ ถ้าหากว่ายังบีบบังคับถามก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา