ตอนที่ 697 หลีกเลี่ยง 1
ฐานะของเฟยเอ๋อนั้นพิเศษจริงๆ ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นแล้วล่ะก็ ฉิงฮัวนั้นสามารถไปบีบให้สารภาพตรงๆได้
เป่หมิงโม่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนัง คิ้วขมวด
การปรากฏตัวของเฟยเอ๋อนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา อีกทั้งแบบนี้สิ่งที่เฟยเอ๋อพูดกับเขามาก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องโกหก
นี่ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกเจ็บปวดใจอยู่บ้าง เฟยเอ๋อที่ยอมเสียโฉมเพื่อให้สามารถช่วยชีวิตตัวเอง มาวันนี้กลับทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้
แต่เขาคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เฟยเอ๋ออยู่ในบทบาทแบบไหนกันแน่ในเรื่องนี้
***
เป่หมิงโม่นั้นยากที่จะแก้ไขปัญหาของเฟยเอ๋อ
ฉิงฮัวจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเป่หมิงโม่ในตอนนี้ได้อย่างไร เขารู้ว่าสำหรับเจ้านายแล้ว คุณเฟยเอ๋อถือเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต
สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้น ถ้าหากว่าไม่ใช่เฟยเอ๋อก้าวออกมาเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ ก็คงจะไม่มีเจ้านายในวันนี้
แต่อีกด้านหนึ่ง อุบัติเหตุลิฟต์โดยสารที่โรงแรมครั้งนี้ ทำให้คุณท่านเป่หมิงต้องสูญเสียชีวิต จุดประสงค์ของเฟยเอ๋อนั้นเหมือนกับหวางซื่อ
“เจ้านาย ผมรู้ว่าคุณตัดสินใจได้ยากเกี่ยวกับการจัดการคุณเฟยเอ๋อ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ยกให้ผมจัดการเถอะครับ” ฉิงฮัวรู้ว่าที่จริงแล้วตัวเองก็ยากที่จะลงมือกับเธอ แต่ถ้าให้เจ้านายเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ไม่สู้ให้ตัวเขาเองทำตัวเป็นคนชั่วร้ายจะดีเสียกว่า
เป่หมิงโม่มองฉิงฮัว “เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจแล้ว นายรับผิดชอบเพียงแค่คิดหาวิธีหาคนที่สั่งการหวางซื่อออกมาก็พอแล้ว”
ฉิงฮัวพยักหน้า
ตอนนี้เองที่เสียงประตูห้องหนังสือที่ถูกเคาะเบาๆดังขึ้น
“คุณเฟยเอ๋อ”
ฉิงฮัวหมุนตัวเดินไปเปิดประตู เมื่อเขาเปิดประตูออกไปดู ก็เห็นเฟยเอ๋อยืนอยู่ที่หน้าประตู ในมือของเธอถือแก้วที่มีควันร้อนลอยขึ้นมาอยู่แก้วหนึ่ง
เธอพยักหน้ากับฉิงฮัว “ฉันเห็นว่าหลายวันมานี้โม่ดูเหนื่อยล้า ฉันเลยตั้งใจเตรียมชาโสมมาให้เขาเป็นพิเศษ”
ฉิงฮัวเขยิบร่างออกไป แล้วให้เฟยเอ๋อเดินเข้ามา
เฟยเอ๋อเดินไปถึงหน้าโต๊ะทำงานของเป่หมิงโม่ วางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วดันไปอยู่เบื้องหน้าเขาเบาๆ
“เจ้านาย ผมไปจัดการเรื่องอื่นแล้วนะครับ มีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการสามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา” ฉิงฮัวเอ่ยแล้วก็เดินออกไปจากห้องหนังสือ จากนั้นก็ปิดประตูลงเบาๆ
เขาเข้าใจว่านี่เป็นช่วงเวลาเปราะบาง ตัวเองอยู่ที่นี่ไม่เป็นผลดีต่อการสนทนาระหว่างเจ้านายและคุณเฟยเอ๋อ
แท้จริงแล้วเจ้านายยังคงเหลือเส้นทางให้กับคุณเฟยเอ๋อเส้นหนึ่ง การคงอยู่ของตัวเองอาจจะทำให้คุณเฟยเอ๋อเป็นห่วงหน้าตาจนไม่พูดความจริงออกมา
อีกอย่างที่เขาออกมาก็ยังมีอีกเป้าหมายหนึ่ง นั้นก็คือเขาอยากจะพูดคุยกับลั่วเฉียวเกี่ยวกับเรื่องระหว่างพวกเขา
แม้ว่าก่อนหน้านี้ลั่วเฉียวจะบอกกับเขาว่า ถ้าหากว่าอยากจะเก็บเด็กเอาไว้ อย่างนั้นระหว่างพวกเขาก็ไม่สามารถพบหน้ากันได้อีก
ก่อนหน้านี้ฉิงฮัวรับปาก นั่นก็เป็นเพราะว่าต้องการจะรักษาเด็กเอาไว้ ถึงได้เลือกแบบนี้อย่างเสียมิได้
ยังเป็นเพราะลั่วเฉียวกลับไปอบรมที่บ้าน อุปสรรคก็คือมีบิดามารดาของเธออยู่ ทั้งยังมีโล่ฮานอยู่ด้วย
แม้ว่าเขาจะเคยพบหน้ากับโล่ฮานมาแล้ว แต่ก็มองออกมาโล่ฮานนั้นรักและเอาอกเอาใจน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมาก
ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะจัดการเรียบร้อย ยังคงไม่ต้องทำให้คนในตระกูลโล่ตกใจมากเกินไปจะดีกว่า
ส่วนตอนนี้ เขาได้รับการติดต่อจากกู้ฮอนมาก่อนหน้านี้ รู้ว่าลั่วเฉียวย้ายออกจากบ้านแล้ว ตอนนี้อยู่ที่บ้านของเธอ
เดิมตอนที่ได้รับข่าวเขาก็จะไปแล้ว แต่เพื่อช่วยเป่หมิงโม่ตามหาหวางซื่อจึงยังไม่ได้ไป
ฉิงฮัวไม่ได้ขับรถของเป่หมิงโม่ แต่ขับรถที่เป็นของตัวเองไป เป็นรถบีเอ็มดับเบิลยูX6 คันหนึ่งที่เป่หมิงโม่ให้กับเขา หลังจากที่ถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นผู้ช่วยพิเศษ
ฉิงฮัวเห็นว่ารถคันนี้มูลค่าสูงเกินไป ตัวเองมีฐานะเป็นผู้ช่วยพิเศษของเขาไม่จำเป็นต้องขับรถที่ดีขนาดนี้
อีกทั้งผู้รับผิดชอบทุกแผนกใหญ่ๆของบริษัทเป่หมิงก็ได้รับการปฏิบัติแบบนี้เช่นกันเท่านั้นเอง
แต่ว่าเป่หมิงโม่กลับมีเหตุผลที่ทำให้เขารับได้อย่างวางใจก็คือตัวเองเป็นถึงผู้ช่วยพิเศษของเขาไม่สามารถแสดงออกว่ายากจนข้นแค้นได้
ส่วนความหมายที่แอบซ่อนเอาไว้อีกข้อหนึ่งก็คือ เป่หมิงโม่ไม่ได้มองฉิงฮัวเป็นคนนอก
หลายปีมานี้ติดตามช่วยทำงานตลอดเวลา เดิมก็ควรจะได้รับสิ่งเหล่านี้ถึงจะถูก
รถคันนี้ฉิงฮัวจอดทิ้งไว้ที่บ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิงมาโดยตลอด และก็เป็นเพราะว่าเขาติดตามอยู่ข้างกายเจ้านายทุกวัน จึงไม่มีโอกาสจำเป็นที่จะต้องขับมัน
***
เป่หมิงโม่เห็นฉิงฮัวจากไปแล้ว เขาก็มองไปที่เฟยเอ๋อ พลางเอ่ยว่า “คุณนั่งลงเถอะ มีบางเรื่องที่ผมอยากพูดคุยกับคุณ”
เฟยเอ๋อพยักหน้า ดึงเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างมาหน้าเป่หมิงโม่ ย่อตัวนั่งลง
ในใจเธอตอนนี้สลับซับซ้อนมาก ด้านหนึ่งแม้ว่าในสายตาคนนอกมองว่าพวกเขามีความสัมพันธ์เป็นคู่หมั้นกัน แต่เป็นเวลายาวนานที่น้อยครั้งทั้งสองคนจะนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน พูดคุยกันอย่างเงียบๆ
อีกด้านหนึ่งเธอก็กลัวที่จะพูดคุยกับเป่หมิงโม่ เหตุผลนั้นง่ายมาก นับตั้งแต่พวกเธอกลับมาจากบ้านพักตากอากาศของคุณป้าฟางจนถึงตอนนี้สามารถนับนิ้วได้เลยว่าพูดคุยกันไปกี่ครั้ง
ให้พูดว่าพูดคุย ไม่สู้พูดว่าถูกเป่หมิงโม่สอบปากคำจะเหมาะสมกว่า ทุกครั้งล้วนทำให้เธอรู้สึกกลัวและหวาดระแวง
ครั้งนี้เป่หมิงโม่ให้เธออยู่ที่นี่ อีกทั้งให้ฉิงฮัวออกไปข้างนอก ไม่แน่ว่ามีเรื่องอะไรหล่นลงบนศีรษะตัวเองอีก
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเธอก็ยังคิดไม่ออกว่ามีเรื่องอะไรที่เชื่อมโยงมาถึงตัวเอง เพราะทุกครั้งล้วนสามารถพูดได้ว่าเหนือการคาดเดาของเธอ
ความรู้สึกที่ยากจะป้องกันนี้ทำให้เธอรู้หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เฟยเอ๋อก้มหน้าลงอย่างไม่เป็นตัวเอง เหมือนกับเด็กคนหนึ่งที่ถูกคุณครูลงโทษ
“เงยหน้าขึ้นมองผม”
น้ำเสียงของเป่หมิงโม่ ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นเยียบเหมือนกับก่อนหน้านี้
เฟยเอ๋อค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาของเธอประสานกับแววตาของเป่หมิงโม่ในเสี้ยววินาที จากนั้นก็เบนหลบไป
บางทีเธอก็เป็นเหมือนวัวสันหลังหวะ( วัวสันหลังหวะ หมายถึง คนที่ทำผิดแล้วหวาดระแวงกลัวผู้อื่นจะรู้)จริงๆ