ตอนที่ 702 ตั๊กแตนไล่จับจักจั่น 2
เป็นอย่างที่คิดไว้ ในเวลาเที่ยงคืน เป่หมิงโม่ก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง “เจ้านาย ปลาใหญ่ปรากฏตัวแล้วครับ”
มุมปากเป่หมิงโม่ยกขึ้น “ได้ เพียงแต่อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น ค่อยๆเก็บแห จำไว้ว่าอย่าให้เขาหนีรอดไปได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องกลับมาพบฉันแล้ว”
ฉิงฮัวที่อยู่อีกฝั่งพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับเจ้านาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ยอมให้ปลาตัวใหญ่หนีรอดไปได้ทั้งแบบนี้หรอกครับ”
*
เดิมตอนที่ฉิงฮัวออกไปนั้นก็ไปเยี่ยมลั่วเฉียวที่บ้านกู้ฮอนจริงๆ
แต่เมื่อตอนที่เขามาถึงบ้านของกู้ฮอนนั้นก็พบว่าภายในห้องไม่มีแม้แต่แสงสว่างแม้แต่น้อย เคาะประตูสองสามครั้งก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
เขารู้สึกแปลกใจ ดึกขนาดนี้แล้ว ผู้หญิงสามคนอย่างพวกเธอพาเฉิงเฉิงไปที่ไหนกัน โดยเฉพาะลั่วเฉียวที่ตอนนี้ตั้งครรภ์อยู่นั้นทนต่อความเหนื่อยล้าไม่ไหว
ภายหลังเขาก็ลองโทรศัพท์หากู้ฮอนครั้งหนึ่ง ถึงได้รู้ว่าเพราะห้องของกู้ฮอนนั้นเล็กเกินไป ผู้ใหญ่หลายคนบวกกับเด็กอีกคนหนึ่งนั้นแออัดไปจริงๆ ไม่ส่งผลดีต่อการฝากครรภ์ของลั่วเฉียว ดังนั้นจึงย้ายไปพักที่ห้องใหญ่ของหยินปู้ฝันกันหมด”
ฉิงฮัวในตอนนั้นก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหยินปู้ฝันและลั่วเฉียวคืออะไร ยังนึกว่าหยินปู้ฝันตอบตกลงเพราะเห็นแก่หน้ากู้ฮอน
นี่ทำให้ฉิงฮัวรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก แม่ของลูกตัวเองกลับตกอยู่ในสภาพที่ต้องใช้ความสัมพันธ์เพื่ออาศัยยืมห้องของคนอื่นไว้ฝากครรภ์
ในตอนนั้นเองที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเป่หมิงโม่สายหนึ่ง ให้เขารีบไปยังสถานที่ที่จัดไว้ให้หวางซื่อ แล้วซ่อนตัวเอาไว้ คืนนี้ปลาใหญ่อาจจะติดเบ็ด
ฉิงฮัวไม่พูดอะไรก็รีบขับรถไปถึงที่นั่นอย่างรวดเร็ว
สถานที่ที่จัดให้หวางซื่อพักอาศัยนั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่คึกคักอย่างในเมือง แต่จัดให้เขาไปอยู่ในที่พักในฟาร์มแห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองติดกับชนบท
***
เพื่อที่จะไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น ตอนที่ฉิงฮัวมาถึงก็จัดการให้ลูกน้องพาหวางซื่อไปซ่อนไว้ ทั้งยังให้ลูกน้องที่มีความสามารถแข็งแกร่งมากคนหนึ่งแสร้งทำเป็นหวางซื่ออยู่ด้านในแทน
ทั้งใต้เตียงและในตู้เสื้อผ้าก็มีคนแอบซุ่มอยู่ รวมถึงบ้านอีกหลายบ้านรอบๆล้วนมีคนของตัวเองอยู่ด้วย
*
ในเวลาเที่ยงคืน ที่นี่ไม่เหมือนกับในเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยสถานบันเทิง ร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน
ตอนนี้นั้นเงียบสงัดแล้ว มีเพียงแค่บางครั้งที่ได้ยินเสียงเห่าหอนของสุนัข
ฉิงฮัวแอบอยู่ในพงหญ้าไกลพงหนึ่ง มีเพียงกล้องส่องทางไกลอินฟราเรดตัวหนึ่งยื่นออกมา
ระหว่างทางไกลนั้นมีรถเก๋งคันหนึ่งขับมา ผ่านพงหญ้าที่ฉิงฮัวแอบซุ่มเอาไว้ไป ไม่นานก็จอดอยู่หน้าประตูที่พักในฟาร์มที่จัดไว้ให้หวางซื่อพัก
ฉิงฮัวเอ่ยพูดกับทุกคนที่แอบซุ่มผ่านทางเครื่องวิทยุสื่อสาร “ปลาตัวใหญ่มาแล้ว ถึงเวลาได้ยินสัญญาณจากด้านในก็เก็บแหในทันที”
เห็นเพียงแค่คนรูปร่างไม่สูงมากคนหนึ่งลงมาจากรถเก๋งคันเล็กที่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์
เขามองไปรอบด้านชั่วครู่แล้วก็เดินไปที่หน้าประตูที่พัก
ในสถานที่ประเภทนี้ การป้องกันขโมยนั้นไม่ได้พึ่งประตู แต่อาศัยสุนัข ดังนั้นประตูที่พักในฟาร์มแห่งนี้ก็เป็นเพียงแค่ของตกแต่งชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง
คนคนนั้นเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็วง่ายดาย เพื่อที่จะไม่ทำให้คนด้านในตื่นตกใจ ยังระมัดระวังไม่ทำให้เกิดเสียงใดๆออกมาเป็นพิเศษ
ฉิงฮัวแจ้งให้กับหวางซื่อตัวปลอมที่อยู่ด้านในอีกครั้ง “ปลาตัวใหญ่เข้าไปแล้ว นายเตรียมตัวจับได้ คนอื่นๆก็เริ่มเก็บแหได้ ตัดเส้นทางถอยหลังของเขา”
ตอนนี้ฉิงฮัวก็เดินออกมาจากพงหญ้า ก้าวเท้าเร็วราวกับดาวตกพุ่งไปทางที่พักในฟาร์มแห่งนั้น
สำหรับเขาแล้วสามารถพูดได้ว่ามั่นใจมาก
ตรงตามที่คาดเอาไว้ ภายในที่พักในฟาร์มมีเสียงเคลื่อนไหวดังออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงความปั่นป่วนเบาๆ
คนที่แอบซุ่มอยู่ด้านนอกที่พักก็กรูกันเข้าไป ถัดมาแสงไฟในห้องก็สว่างขึ้น
เมื่อฉิงฮัวเดินเข้ามาในห้อง คนคนนั้นก็ถูกลูกน้องเขาจับมัดแล้วโยนลงบนพื้นแล้ว
“คุณมาทำอะไรที่นี่” ฉิงฮัวก้มหน้าถามคนคนนั้น
คนคนนั้นเห็นว่าตัวเองถูกจับแล้ว อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว เขาก็หัวเราะเสียงเย็น “ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจัดการไอ้หมอนั่น เพียงแต่น่าเสียดายที่ตกอยู่ในกำมือของพวกแก ฉันจึงได้แต่ยอมรับความโชคร้ายนี้ พวกคุณจะจัดการกับผมอย่างไร”
“ก็ต้องดูว่าจะคุณร่วมมือกับพวกเราหรือไม่แล้ว” ฉิงฮัวพูดกับคนที่อยู่ข้างกายว่า “ปิดตาเขาเอาไว้ พาเขากลับไป”
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้องเล็กๆอีกห้องหนึ่ง พาหวางซื่อออกมา “คุณเห็นหรือไม่ว่า พวกเขาจะฆ่าปิดปากคุณ ถ้าหากว่าคุณยังไม่ยอมร่วมมือกับพวกเราล่ะก็ พวกเราจะปกป้องคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ไม่มีการปกป้องครั้งที่สองหรอกนะ”
สถานการณ์ในวันนี้ถือว่าทำให้เขาตื่นตระหนกตกใจแล้ว เขาพยักหน้าโค้งตัวอย่างพินอบพิเทา “ผมจะต้องเป็นพยานให้กับพวกคุณอย่างแน่นอน”
ฉิงฮัวพยักหน้า “นับว่าคุณรู้ความ คุณก็ไปกับพวกเราเถอะ”
ในไม่ช้าฉิงฮัวก็พาทั้งสองคนมาถึงบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง เขาพาทั้งสองเข้าไปในห้องหนังสือของเป่หมิงโม่แล้วก็กำชับให้ผู้ช่วยสองคนเฝ้าประตูเอาไว้
เป่หมิงโม่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ก้มหน้ามองชายหนุ่มสองคนที่ถูกมัดตาเอาไว้
“เอาผ้าปิดตาสีดำออกให้พวกเขา”
ฉิงฮัวรีบแกะผ้าปิดตาให้กับคนเบื้องหน้าทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว หวางซื่อไม่ได้ถูกมัดเอาไว้ แต่ว่าคนที่มาจัดการหวางซื่อคนนั้นยังคงถูกเชือกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา
เมื่อหวางซื่อหันหน้ากลับไปมองคนข้างกายคนนั้นก็ตะลึงค้างในทันที
ในเวลาเดียวกันคนคนนั้นก็มองมาทางหวางซื่อ “หึๆ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้พบกันอีก”
สีหน้าของหวางซื่อเปลี่ยนเป็นสีเทา ร่างกายเขาสั่นน้อยๆ เขาชี้ไปทางคนคนนั้นพลางเอ่ยกับเป่หมิงโม่ว่า “เจ้านาย เขาก็คือคนที่สั่งให้ผมทำ”
***
มุมปากของเป่หมิงโม่ยกขึ้น เบนสายตาหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ถูกมัดเอาไว้
“เหอะ ผมว่าแล้ว ในเมือง A จะมีใครที่สามารถสร้างสถานการณ์ใหญ่โตมาจับคนที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างผมคนนี้ ที่แท้ก็เป็นท่านประธานของบริษัทเป่หมิงนี่เอง
“เป่หมิง ท่านประธานของบริษัทเป่หมิงหรือ!” หวางซื่อที่ได้ยินก็เริ่มพูดจาตะกุกตะกัก ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด
เขาฟังคำพูดของไอ้หมอนั่นอย่างตะลึงค้าง บวกกับที่ไปสร้างเรื่องใหญ่โตเอาไว้ที่โรงแรมแมนดารินโดยทางอ้อม นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการล่วงเกินผู้มีอำนาจหรอกหรือ
เป่หมิงโม่ยิ้มเย็นชาให้กับคนคนนั้น “ในเมื่อคุณรู้จักผม อย่างนั้นก็ควรจะรู้ว่าผมจะถามคุณเรื่องอะไร”