ตอนที่ 746 การไม่ไว้หน้าของประธานเป่หมิง
ที่จริงแล้วในใจของเธอ ไม่ว่าผู้ชนะจะเป็นใคร เป่หมิงโม่หรือเป่หมิงยี่เฟิง นั่นขัดแย้งกันมากจริงๆ แต่ก็ไม่มีค่าอะไรอย่างเห็นได้ชัด
“ทนายกู้ ตอนนี้คุณก็ประกาศผลสักหน่อยเถอะ” ปี้เหอเอ่ยปากขึ้นมาบ้างในตอนนี้
กู้ฮอนพยักหน้า “หลังจากผ่านการตัดสินใจเลือกของท่านประธาน ดิฉันขอประกาศผลแทนเขานะคะ สุดท้ายแล้วผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการสร้างตึกบริษัทGTก็คือ……”
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว ผมยอมแพ้” เป่หมิงยี่เฟิงยกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้กู้ฮอนพูด
เขาไม่อยากได้ยินชื่อของเป่หมิงโม่ออกมาจากปากของกู้ฮอนจริงๆ
เป่หมิงโม่ในตอนนี้นั้น มุมปากยกขึ้นน้อยๆ ชัยชนะในครั้งนี้สำหรับเขาเป็นการแข่งขันที่ผู้มีความสามารถแข่งกับผู้ที่มีฝีมือธรรมดาสามัญแล้วชนะมาอย่างง่ายดายอย่างไรอย่างนั้น
กู้ฮอนหยุดชะงัก จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “ประธานเป่หมิง ท่านประธานเชิญคุณไปพบที่ห้องของเขาเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้างสักเล็กน้อยค่ะ”
เป่หมิงโม่ดันตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง จากนั้นก็ตบบ่าฉิงฮัว “นายอยู่ปรึกษาหารือกับเขาที่นี่สักหน่อย ฉันจะกลับไปแล้ว”
“ประธานเป่หมิง……” ปี้เหอก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังแฝงไปด้วยความรู้สึกโกรธเคือง
แม้ว่าที่แห่งนี้บริษัทGTจะมีชื่อเสียงสู้บริษัทเป่หมิงไม่ได้ แต่ดีร้ายอย่างไรก็เป็นถึงบริษัทข้ามชาติ ในฐานะที่เป็นพนักงานของบริษัทGTเขาต้องยืนอยู่ข้างท่านประธานของตัวเองเป็นธรรมดา สำหรับการกระทำที่ไม่สนใจของเป่หมิงโม่ที่มีต่อประธานของพวกเขา เขารู้สึกทนดูไม่ได้อยู่บ้าง
“ผู้จัดการปี้” กู้ฮอนส่ายหน้าให้เขาเบาๆ ความหมายก็คือไม่ให้เขามีโทสะ
จากนั้นก็เอ่ยกับเป่หมิงโม่ว่า “ประธานเป่หมิง การเจรจาธุรกิจกับท่านประธานของพวกเราจะทำให้ตัวคุณเสื่อมเสียหรือไงคะ แบบนี้ จะส่งผลต่อการร่วมมือทำงานระหว่างทั้งสองบริษัท เป็นภัยเงียบมากมายในวันหลังได้นะคะ”
เป่หมิงโม่หมุนตัวกลับมา มองมาที่กู้ฮอนยิ้มๆ “ทนายกู้ ที่จริงแล้วผมไม่ได้ไม่ยินยอมที่จะเจรจาธุรกิจกับเขาต่อ เพียงแต่ผมไม่ต้องการพบกับคนอื่นเท่านั้นเอง”
ประโยคนี้ทำให้ปี้เหอและเป่หมิงยี่เฟิงตะลึงค้าง คนที่อยู่ในสถานการณ์มีเพียงแค่ไม่กี่คน ทั้งยังเป็นบทสนทนาระหว่างประธานของทั้งสองบริษัท จะมีบุคคลที่สามได้อย่างไรกัน
แม้ว่ากู้ฮอนจะอยู่ด้วย นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
***
ประโยคนี้ของเป่หมิงโม่ มีแค่กู้ฮอนที่เข้าใจมากที่สุด ว่าเขาไม่อยากพบกับคุณแม่หวีหรูเจี๋ยที่เคยทำร้ายเขามาก่อน
การร่วมงานกับบริษัทGTนั้นเป็นการถอยหลังก้าวหนึ่งของเขาแล้ว
เขารู้ว่าโม้จิ่งเฉิงไม่ได้จงใจให้เขาพบกับหวีหรูเจี๋ย เพราะอาศัยเพียงแค่แบบแปลนที่ไม่สัญลักษณ์ใดๆทั้งสองแบบ ถ้าหากเขาจงใจเลือกงานออกแบบของตัวเองแล้วล่ะก็ ความเป็นไปได้ก็มีเพียงแค่ 50% เพียงเท่านั้นเอง
คนนอกสายงานมองก็เห็นเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกและประโยชน์ในการใช้สอย
ตอนแรกที่เป่หมิงโม่ออกแบบก็คิดพิจารณาในเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ถ้าหากว่าเป่หมิงยี่เฟิงคิดถึงเรื่องเหล่านี้ล่ะก็ แม้ว่าด้านอื่นๆจะมีข้อตำหนิมากมาย คาดว่าโม้จิ่งเฉิงก็อาจจะเลือกได้
กู้ฮอนคิ้วขมวด ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยกับเป่หมิงโม่ว่า “ประธานเป่หมิง ไม่อย่างนั้นคุณรอสักครู่ ดิฉันจะไปปรึกษากับท่านประธานของพวกเราสักหน่อย จากนั้นก็จะให้คำตอบกับคุณ”
ในใจของปี้เหอนั้นไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก อาศัยอะไรที่ประธานบริษัทตัวเองต้องมีท่าทีประจบประแจงด้วย
แต่ตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองนั้นต่ำต้อยมาก เพราะหน่อยก็คือผู้รับผิดชอบ ไม่น่าฟังหน่อยก็เป็นแค่คนทำเรื่องจุกจิกระดับสูงคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ฉิงฮัวก็ไม่อยากให้เป่หมิงโม่เสียมารยาทแบบนี้ เพราะเขาเป็นถึงตัวแทนภาพลักษณ์ของบริษัทเป่หมิง
“เจ้านาย คุณรอคำตอบของคุณผู้หญิงเถอะครับ”
เป่หมิงโม่มองไปที่ฉิงฮัว จากนั้นก็มองไปที่กู้ฮอน คิ้วขมวดพลางครุ่นคิด “ได้ คุณก็รีบไปรีบกลับแล้วกัน”
กู้ฮอนไม่กล้ารีรอ ไม่อาจทำให้เรื่องใหญ่อย่างการร่วมมือของสองบริษัทต้องมาล่าช้าเพียงเพราะเขาไม่ต้องการพบคุณป้าหวีหรูเจี๋ยได้
เมื่อกู้ฮอนเคาะประตูห้องโม้จิ่งเฉิงอีกครั้ง ประตูห้องเปิดแล้ว เธอเดินเข้าไป
โม้จิ่งเฉิงยังคงนั่งอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม ท่าทางดูสง่างามสบายๆอย่างเห็นได้ชัด โต๊ะน้ำชาเบื้องหน้ามีถ้วยน้ำชาวางอยู่สามถ้วย ถาดผลไม้หนึ่งถาดและขนมหวานที่ทำอย่างประณีตอีกสองถาด
เขาเห็นกู้ฮอนกลับมาแล้วก็หันไปมองด้านหลังเธอ “ฮอน ทำไมลูกมาคนเดียวล่ะ ทำไมนักออกแบบที่ถูกเลือกแบบแปลนคนนั้นถึงไม่มากัน”
“พ่อบุญธรรม คนที่ถูกคุณเลือกก็คือเป่หมิงโม่ค่ะ เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากขึ้นมาพบคุณ” กู้ฮอนพูด ใบหน้าเผยสีหน้าไม่น่าดูออกมา
โม้จิ่งเฉิงพยักหน้า เขาเป็นคนฉลาด จะไม่เข้าใจได้อย่างไร ที่จริงแล้วบทสนทนาระหว่างพวกเขา หวีหรูเจี๋ยที่อยู่ในห้องนอนก็สามารถได้ยิน
เธอเดินออกมาจากในห้องนอน “จิ่งเฉิง โม่น่าจะไม่อยากเจอฉัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ เพื่อที่จะไม่ทำให้เรื่องใหญ่ล่าช้า ฉันแค่หลบเลี่ยงก็พอแล้ว ฉันอยู่ในห้องนอน ปิดประตูเอาไว้ก็ได้แล้วค่ะ”
โม้จิ่งเฉิงได้ยินหวีหรูเจี๋ยพูดเช่นนี้ เขาจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้า จากนั้นก็เอ่ยกับกู้ฮอนว่า “โอเค เรียกเขาขึ้นมาเถอะ”
กู้ฮอนพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไป กลับไปยังห้องประชุมอีกครั้ง “ประธานเป่หมิง เงื่อนไขของคุณ ท่านประธานของพวกเราเห็นด้วยแล้ว คุณก็ขึ้นไปด้วยกันกับฉันเถอะค่ะ”
เป่หมิงโม่ลังเลชั่วครู่ แต่ก็ยังคงพยักหน้า “ได้ พวกเราไปกันเถอะ”
จากนั้นก็เอ่ยกับฉิงฮัวว่า “นายกับหัวหน้าเป่หมิงไปรอฉันที่ห้องโถงชั้นล่าง ฉันไปครู่เดียวก็กลับมา”
ฉิงฮัวพยักหน้า
“ไม่จำเป็นหรอก ผมกลับไปเองก็ได้” เป่หมิงยี่เฟิงในตอนนี้นั้นไม่กะจิตกะใจจะรอเขา
เป่หมิงโม่มองเป่หมิงยี่เฟิง พลางลอบถอนหายใจ ยังคงเป็นเด็กที่ไม่โตคนหนึ่ง
พบเจอกับความพ่ายแพ้เล็กๆก็มีท่าทางเหมือนกับว่าโลกทั้งใบติดหนี้เขาอย่างไรอย่างนั้น
ช่างมันเถอะ ไม่สนใจเขาแล้ว
“อย่างนั้นนายก็รอฉันที่ห้องโถงใหญ่สักพัก” เป่หมิงโม่กำชับฉิงฮัวแล้วเดินตามกู้ฮอนมาถึงประตูห้องเพรสซิเด้นท์สูท
กู้ฮอนกดกริ่งที่ประตูเบาๆ สักพักหนึ่งประตูก็เปิดออก
โม้จิ่งเฉิงก็มองเห็นเป่หมิงโม่ที่อยู่ด้านหลังกู้ฮอนในครั้งเดียว
“ประธานเป่หมิงนั้นความสามารถไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” โม้จิ่งเฉิงเอ่ยขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้ามา
***
กู้ฮอนหันกลับมาปิดประตูให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลากเก้าอี้มานั่งด้านข้าง
เป่หมิงโม่และโม้จิ่งเฉิงนั่งตรงข้ามกัน
“ประธานโม้ ไม่ทราบว่าคุณมีปัญหาอะไรถึงได้เรียกผมขึ้นมาพบครับ” เป่หมิงโม่พูดจาไม่เกรงใจ
โม้จิ่งเฉิงมองเป่หมิงโม่พลางยิ้มบางๆ ชี้ไปที่ถ้วยน้ำชาบนโต๊ะน้ำชา “มาตั้งนานแล้ว ดื่มช้ากับทานของว่างสักหน่อย”
เป่หมิงโม่โบกมือไปมา “ประธานโม้ ผมไม่เหมือนกับคุณที่มีเวลามากมาย ในมือของผมยังมีเรื่องราวอีกเยอะแยะรอให้ผมไปจัดการ”
“ในเมื่อประธานเป่หมิงเป็นคนที่มีงานรัดตัว ผมก็จะพูดสั้นๆก็แล้วกัน ผมยอมรับแบบแปลนที่คุณออกแบบ นอกจากนั้นผมยังหวังว่าบริษัทเป่หมิงของพวกคุณจะสามารถทำแบบแปลนนี้ให้เป็นจริงได้” โม้จิ่งเฉิงเอ่ย ยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มไปอึกหนึ่ง แต่สายตาไม่ได้ละไปจากเป่หมิงโม่เลย
เป่หมิงโม่ก็มองมาที่โม้จิ่งเฉิงเช่นเดียวกัน เขายิ้มเฉยชา “ขอบคุณประธานโม้ในความห่วงใยและความชื่นชอบ ในฐานะบุคคล ผมไม่ได้อยากจะมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้”
กู้ฮอนที่ได้ยินว่าพ่อบุญธรรมจะยกโครงการนี้ให้กับบริษัทเป่หมิงทำ เธอก็เดาได้ว่าแปดส่วนเป่หมิงโม่นั้นไม่ยอมรับ
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยจริงๆ ถือได้ว่าเขาเอ่ยปฏิเสธซึ่งๆหน้า
สำหรับคำตอบนี้ โม้จิ่งเฉิงก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
เพียงแต่เขายังคงมีความหวังอยู่เล็กๆ “ประธานเป่หมิง ผมคิดว่าการร่วมมือกันระหว่างบริษัทของพวกเราสองแห่ง ไม่ว่าจะสำหรับบริษัทเป่หมิงหรือว่าบริษัทGTของผม ก็ล้วนแล้วแต่ได้ประโยชน์ทั้งคู่
เป่หมิงโม่พยักหน้า “คำพูดนี้ของประธานโม้ผมก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก แต่คุณฟังเพียงแค่ครึ่งประโยคแรกของผม”
เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ในฐานะประธานบริษัทบริษัทหนึ่ง จะไม่นำบุญคุณความแค้นส่วนตัวเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้นผมยังคงตัดสินใจเห็นด้วยที่จะให้บริษัทของพวกเราร่วมมือกันต่อไป”
โม้จิ่งเฉิงเห็นเป่หมิงโม่พยักหน้าเห็นด้วยแล้ว ใบหน้าของเขาก็ยิ้มจนมีรอยย่น หยิบถ้วยชาขึ้นมา “ที่ผมอยู่นี้ไม่มีเหล้า พวกเราก็ใช้ชาแทนเหล้า ชนแก้วก็แล้วกัน”
เอ่ยแล้วก็ส่งสัญญาณให้กู้ฮอน “ฮอน พวกเรามาชนแก้วด้วยกัน”
หลังจากดื่มชาแล้ว เป่หมิงโม่ก็ลุกขึ้นยืน “ประธานโม้ ผมจะยังมีเรื่องอื่นอีก ต้องขอตัวก่อนแล้ว” เอ่ยจบก็หมุนตัวจากไป
กู้ฮอนหันไปมองเงาร่างของเป่หมิงโม่ที่เดินจากไป เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ไปมากกว่านี้จริงๆ
ในตอนนี้เอง ประตูห้องนอนก็เปิดออกเบาๆ หวีหรูเจี๋ยเดินออกมาจากด้านใน
สีหน้าของเธอไม่ได้ผิดหวังหรือโศกเศร้าอย่างชัดเจนแบบที่กู้ฮอนคิด แต่ดูท่าทางเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านเป็นอย่างมาก
หลายปีมานี้เธอชินเสียแล้ว
เห็นหวีหรูเจี๋ยเดินออกมา กู้ฮอนก็รีบลุกขึ้น “พ่อบุญธรรม คุณป้าหวีหรูเจี๋ย ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว หนูก็ลงไปแล้วนะคะ”
เอ่ยจบก็จากไปอย่างรวดเร็ว
โม้จิ่งเฉิงเกิดรู้สึกสงสัยขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่รู้ว่าลูกสาวบุญธรรมของเขาคนนี้เป็นอะไรไป วันนี้เมื่อพบกับหวีหรูเจี๋ย อารมณ์ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
*
เป่หมิงโม่ลงมาชั้นล่าง ตอนที่เดินผ่านห้องโถงใหญ่ ฉิงฮัวก็รอเขาอยู่ที่นั่น
เขากวาดตามองไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงใหญ่ ก็ไม่เห็นเงาร่างของเป่หมิงยี่เฟิงอย่างที่คิดไว้
ช่างมันเถอะ เขาก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ไม่ต้องไปสนใจเขา แล้วก็นั่งรถกลับไปยังบริษัทเป่หมิง
เมื่อเขากลับมาถึงห้องทำงาน ฉิงฮัวก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เป็นปี้เหอของ บริษัทGTโทรมาแจ้ง นัดหมายเรื่องการลงนามสัญญาที่โรงแรมแมนดารินในวันพรุ่งนี้เช้า ประธานเป่หมิงจำเป็นต้องเข้าร่วมด้วย
ฉิงฮัวรับปากเรียบร้อยแล้วก็บอกกับเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่ได้ยินแล้วก็ทำแค่พยักหน้า “พวกเขาอยากจะทำอย่างไรก็ให้ทำอย่างนั้นเถอะ”
*
เป่หมิงยี่เฟิงนั่งรถบัสกลับมาที่บริษัทเป่หมิง เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานในฝ่ายออกแบบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจนไม่น่าดู
แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าตัวเองออกแบบสู้เป่หมิงโม่ไม่ได้ แต่กลับโกรธที่เขาไม่แสดงให้เห็นว่าตัวเองจะเข้าร่วมการออกแบบครั้งนี้ด้วย
นี่ทำให้ตัวเองไม่ได้ใช้ความคิดอย่างสุดความสามารถ จนทำให้เขาได้ผลประโยชน์ไป
***
การร่วมมือกันระหว่างบริษัทGTและบริษัทเป่หมิงเพื่อก่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ บริษัทGTในเมือง A
สำหรับกู้ฮอนแล้วมีเอกสารมากมายที่เธอต้องเตรียมออกมา
ไม่เพียงแต่เท่านั้น โม้จิ่งเฉิงให้ปี้เหอจัดห้องประชุมให้กลายเป็นสถานที่จัดงานแถลงข่าว ทั้งยังแจ้งให้สื่อต่างๆทราบว่าจำเป็นต้องมาถึงที่นี่ในวันพรุ่งนี้เช้า
นับตั้งแต่กู้ฮอนกลายเป็นตัวแทนทนายความของบริษัทGTโม้จิ่งเฉิงก็เปิดห้องชุดที่โรงแรมให้เธอห้องหนึ่ง เพื่อให้เป็นห้องทำงานของเธอ
พรุ่งนี้จะมีงานแถลงข่าวแล้ว วันนี้ตอนบ่าย กู้ฮอนก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทำงานเพื่อจัดเตรียมเอกสารต่างๆที่ต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ให้พร้อม
“ก๊อกๆ……” เสียงเคาะประตูห้องเบาๆ ทำให้กู้ฮอนที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ต้องหยุดทำงานในมือชั่วคราว
ตอนที่เธอเปิดประตูห้องออกไป ก็เห็นหยินปู้ฝันยืนอยู่หน้าประตู ในมือถืออาหารเอาไว้หลายอย่าง
“นายมาได้อย่างไรกันน่ะ” กู้ฮอนประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
หยินปู้ฝันมองเธอยิ้มๆแล้วเดินเข้ามาในห้อง วางของในมือลงบนโต๊ะน้ำชาที่เต็มไปด้วยเอกสารต่างๆ “เธอดูสิว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว”
กู้ฮอนก็เดินตามเข้ามา
ได้ยินเขาถามแบบนี้ ก็ก้มหน้ามองนาฬิกาที่สวมอยู่บนข้อมือ ตอนนี้เข็มบอกเวลาชี้ไปที่หกโมงเย็นแล้ว