ตอนที่ 836 เขาเป็นผู้ต้องสงสัย
อย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าการเสียชีวิตกะทันหันของคุณแม่นั้นจะเกี่ยวข้องกับเป่หมิงโม่
“วันนี้คุณพ่อของลูกกลับมาหรือยัง”
เฉิงเฉิงส่ายหน้า “คุณพ่อไม่ได้กลับมาครับ ทั้งยังไม่ได้โทรศัพท์มาหาพวกเราสักสายเลยครับ คุณแม่จะไปไหนหรือ จะไปหาคุณพ่อหรือครับ”
เฉิงเฉิงเอ่ยจบ ก็เห็นว่าหลังจากที่คุณแม่ฟังจบแล้วก็สะบัดผ้าห่มออกลงจากเตียงในทันที
กู้ฮอนจัดการเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย สะพายกระเป๋าใบเล็กของตัวเองแล้วก็เอ่ยกับเฉิงเฉิงว่า “จะถือว่าแบบนั้นก็ได้ ลูกรัก ตอนที่ลูกกลับบ้านให้จำเอาไว้ว่า เรื่องนี้ไม่สามารถพูดกับใครได้รู้ไหม”
เฉิงเฉิงพยักหน้าอย่างแรง
กู้ฮอนพาเฉิงเฉิงเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย คนที่รับผิดชอบดูแลไม่ได้หยุดยั้งการเคลื่อนไหวของพวกเธอแม่ลูก
เมื่อถึงหน้าประตูโรงพยาบาล กู้ฮอนก็หยุดรถแท็กซี่คันหนึ่งเอาไว้แล้วให้เฉิงเฉิงขึ้นไปนั่งเพื่อกลับไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง
จากนั้นตัวเองก็รีบขับรถไปยังสถานีตำรวจ
สถานีตำรวจในเมือง A มีหลายแห่ง แต่ละสถานีก็แบ่งหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าเป่หมิงโม่ถูกพาไปสถานีตำรวจไหน จึงทำได้เพียงแค่เตรียมใช้วิธีการที่โง่มากที่สุดอย่างการไปหาในแต่ละแห่ง
เพียงแต่ที่เธอเลือกสถานีตำรวจที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่แถวโรงพยาบาลก่อนก็เป็นเพราะว่าสถานีแห่งนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด
เมื่อเธอมาถึงสถานีตำรวจเฉิงซีตาม GPS และพูดจุดประสงค์ในการมากับคุณตำรวจชัดเจนแล้วก็ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วว่า เมื่อคืนวานเป่หมิงโม่นั้นถูกพาตัวมาที่สถานีตำรวจแห่งนี้จริงๆ
เพียงแต่ว่าก่อนที่เธอจะมาถึงก็ถูกส่งกลับไปยังบ้านตระกูลเป่หมิงแล้ว
อย่างไรเป่หมิงโม่ก็เป็นถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในเมือง A คนหนึ่ง ก่อนที่ทางฝ่ายตำรวจจะหาหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอมาได้มากกว่านี้ ก็ยังคงไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาอย่างบุ่มบ่ามได้
เพียงแต่จำกัดการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของเขา เพราะว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความผิดร้ายแรงฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
“คุณตำรวจคะ คุณสามารถอธิบายรายละเอียดให้ดิฉันฟังหน่อยได้ไหมคะว่าคดีความนี้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงได้ดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
สำหรับการตายของคุณแม่ จนวันนี้กู้ฮอนก็ยังไม่รู้สถานการณ์ทั้งหมด
ตำรวจที่รับผิดชอบรับรองเธอลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยว่า “ตามกฎระเบียบแล้วผมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในคดีให้กับคุณได้ แต่เนื่องด้วยคุณกับผู้เคราะห์ร้ายมีความสัมพันธ์แม่ลูกกัน อย่างนั้นผมก็จะเปิดเผยให้คุณทราบสักเล็กน้อย หลังจากพวกเราได้ตรวจสอบและวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่ของคุณแล้ว ผลสรุปที่ได้ออกมาคือการเสียชีวิตของเธอเกิดจากอาหารเป็นพิษที่ทำให้มีภาวะหายใจไม่ออกจนเสียชีวิต”
“ความหมายของคุณตำรวจก็คือ คุณแม่ของดิฉันเสียชีวิตเพราะหายใจไม่ออกหรือคะ” กู้ฮอนนั้นไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง “คุณแม่ของฉันทานอาหารของทางโรงพยาบาลมาโดยตลอด อีกทั้งทุกคนก็ล้วนทานด้วย ทำไมถึงได้เกิดจากอาหารได้กัน พวกคุณตรวจสอบผิดหรือเปล่าคะ”
“คุณกู้ ผมรู้ว่าสำหรับคุณแล้วเรื่องนี้มันยากที่จะเชื่อ แต่ว่านี่คือความจริง พวกเราตรวจพบส่วนผสมของโหราน้ำเต้าและยาจีนที่มีพิษชนิดอื่นๆจากการทดสอบในกากอาหารที่คุณแม่เคยทานมาก่อน”
“โหราน้ำเต้าหรือ มันคืออะไรหรือคะ” กู้ฮอนนั้นเพิ่งได้ยินว่ามีสิ่งแบบนี้อยู่ด้วยเป็นครั้งแรก
ตำรวจนายนั้นจึงต้องอธิบายให้เธอฟังว่า “เดิมโหราน้ำเต้าเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง คนปกติทานในปริมาณ 9 กรัมนั้นถือว่าปลอดภัย แต่หากทานมากไปจะทำให้บริเวณคอหอยบวมเป็นอย่างมากจนทำให้เสียชีวิตลงจากภาวะหายใจไม่ออก คุณแม่ของคุณก็ถูกจัดอยู่ในประเภทนี้”
***
กู้ฮอนได้ยินแล้วร่างกายก็อ่อนแรงจนเกือบจะร่วงลงไปกองกับพื้น โชคดีที่ตำรวจที่อยู่ด้านข้างนั้นตาไวมือเร็วจึงพยุงเธอเอาไว้ได้ทันการณ์ “คุณกู้ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
กู้ฮอนพยุงร่างให้ยืนได้อย่างมั่งคงแล้วก็เอ่ยเสียงเบาว่า “คุณตำรวจ ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ทำไมคุณถึงต้องไปหาเป่หมิงโม่กันคะ”
“นั่นก็เป็นเพราะว่า พวกเราดึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่อยู่รอบๆห้องพักผู้ป่วยของคุณแม่คุณมา ก่อนที่เหยื่อจะเสียชีวิตสามวันก่อนหน้านี้นั้น คุณเป่หมิงล้วนกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยของคุณแม่คุณ ทั้งยังนำกล่องอาหารมาด้วยกล่องหนึ่ง หลังจากที่พวกเราได้รับการรายงานจากทางโรงพยาบาล พวกเราก็ทำการปิดล้อมห้องพักผู้ป่วยที่คุณแม่คุณพักอยู่ในทันที ทั้งยังสกัดส่วนผสมของโหราน้ำเต้าที่ผมบอกกับคุณเมื่อครู่นี้ออกมาได้จากในกล่องอาหารที่ถูกทิ้งเอาไว้ก่อนเสียชีวิตด้วย ดังนั้น พวกเราจึงคาดว่าคุณเป่หมิงนั้นอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับการเสียชีวิตของคุณแม่คุณ”
สำหรับกู้ฮอนแล้ว นี่ช่างเป็นที่การโจมตีครั้งหนึ่งบวกกับการโจมตีอีกครั้งหนึ่งจริงๆ
การเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดของคุณแม่ กลับเกี่ยวข้องกับอาหารที่เป่หมิงโม่นำมาส่งให้เธอ
เป่หมิงโม่เป็นฆาตกรที่ฆ่าคุณแม่ตายหรือ
ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กัน แม้ว่าคุณแม่จะเคยบอกกับตัวเองว่าอย่าไปมาหาสู่กับเขาอีก แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นินา
อีกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผู้ป่วยที่คุณแม่พักอยู่ไปจนถึงคุณหมอที่ให้การรักษาก็ล้วนเป็นการจัดการของเป่หมิงโม่
ในตอนนี้นั้นเธอคิดไม่ออกจริงๆว่าเหตุผลอะไรกันแน่ที่สามารถทำให้เป่หมิงโม่เกิดอยากจะฆ่าคุณแม่ขึ้นมา
แม้ว่าตัวเองจะคิดแบบนี้ แต่ก็ไร้หนทางเปลี่ยนแปลงความจริงเรื่องหนึ่งที่ว่า ตอนนี้เป่หมิงโม่นั้นกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมผู้อื่นแล้ว
*
เป่หมิงโม่กลายเป็นผู้ต้องสงสัย ก็เป็นสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงเลยเช่นกัน
แต่ต่อหน้าหลักฐานที่ทางตำรวจนำมาเสนอ เขากลับไม่มีอะไรจะพูด เพราะว่าบนกล่องอาหารนั้นมีรอยนิ้วมือของตัวเองทิ้งเอาไว้
ในกล้องวงจรปิด มีเงาร่างของตัวเองเดินเข้าออกห้องพักผู้ป่วยของลู่ลู่ ตอนนี้ทางตำรวจนั้นถือได้ว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวได้แน่นหนาแล้ว
ตอนที่เขาออกมาจากสถานีตำรวจนั้น เดิมคิดจะกลับไปเยี่ยมกู้ฮอนที่โรงพยาบาล แต่เขาก็รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอาจจะไม่เหมาะสมไปพบกับเธออีก
เขากลับไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิงเองคนเดียว
ตอนนี้เฉิงเฉิงกลับมาก่อนไปก้าวหนึ่ง
เขาเห็นคุณพ่อกลับมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าคุณแม่ไปหาคุณพ่อที่สถานีตำรวจแล้ว
แต่ว่าคุณพ่อกลับมาแล้ว ส่วนคุณแม่กลับไม่ได้อยู่ข้างกายคุณพ่อ
เป่หมิงโม่มองเฉิงเฉิงที่มองมาที่ตัวเอง ตอนนี้พ่อลูกสองคนเข้าใจกันและกันโดยไม่ต้องพูดอะไรออกมาแล้ว
ถึงอย่างไรคนที่รู้เรื่องราวความจริงในบ้านนี้ก็มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
*
กู้ฮอนออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว ในสมองของเธอตอนนี้มีทั้งคำถามและความโมโหที่ทำให้จิตใจของเธอสับสนวุ่นวายจริงๆ
บางทีตอนนี้การกลับไปบ้านของลั่วเฉียวถึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
*
นับตั้งแต่แอนนิโทรศัพท์หากู้ฮอนแล้ว เธอก็เหมือนกับว่ามีความทุกข์ในใจอยู่อย่างหนึ่ง
เธอเป็นกังวลแทนกู้ฮอนมากจริงๆ เธอรู้ว่าในใจของกู้ฮอนนั้นลู่ลู่มีน้ำหนักมากขนาดไหน
จนกระทั่งตอนกลางคืนที่เธอเห็นกู้ฮอนกลับมา ในใจถึงจะโล่งอก
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ไปไหนมาหรือคะ ทำไมตอนที่จิ่วจิ่วตื่นมาก็ไม่เห็นหม่ามี๊แล้ว” ทารกน้อยกางแขนออกอย่างดีใจ วิ่งออกจากห้องรับแขกมาหากู้ฮอน
กู้ฮอนฝืนยิ้มออกมา ย่อตัวลงอุ้มจิ่วจิ่วขึ้นมา “ทารกน้อย ขอโทษนะคะ สองวันนี้คุณแม่มีเรื่องสำคัญมากต้องไปทำจึงไม่ได้กลับบ้าน”
เธอเห็นท่าทางน่ารักไร้เดียงสาของจิ่วจิ่วแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดเชื่อมโยงไปถึงตัวเองกับคุณแม่
เรื่องราวมากมายล้วนรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
หรือจะพูดว่า ไม่ได้เลี้ยงดูลูกๆก็ไม่รู้ถึงบุญคุณของพ่อแม่
แต่ยังไม่ถึงตอนที่เธอจะกตัญญูต่อคุณแม่จริงๆ คุณแม่ก็จากตัวเองไปทั้งแบบนี้แล้วตลอดกาล
***
“คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรไปคะ” จิ่วจิ่วถูกคุณแม่อุ้มอยู่ แต่เธอเห็นว่าสีหน้าของคุณแม่ในวันนี้ไม่เหมือนกับสองวันก่อนหน้านี้เลย
อีกทั้งยังสามารถเห็นประกายของบางสิ่งกลิ้งไปมาอยู่ในหน่วยตาของคุณแม่ด้วย
กู้ฮอนฝืนอดทนต่อความทุกข์ทรมาน โค้งตัวลงวางจิ่วจิ่วบนพื้น “ทารกน้อย ลูกไปเล่นที่อื่นก่อนสักครู่นะคะ แม่อยากจะอยู่เงียบๆสักพัก”
แม้ว่าจิ่วจิ่วจะไม่เข้าใจว่าคุณแม่เป็นอะไรกันแน่ แต่เธอก็รู้ว่าตอนนี้คุณแม่อารมณ์ไม่ดี
“ทารกน้อย ป้าจะพาหนูไปหาคุณป้าเฉียวเฉียวดีไหมคะ ทารกน้อยในครรภ์ของเธอเตะเธอทุกวันเลย ตอนนี้หนูเป็นพี่สาวตัวน้อยแล้ว หนูต้องบอกให้เขาอยู่ในท้องคุณแม่อย่างว่านอนสอนง่ายเข้าใจไหมคะ”
แอนนิรีบกล่อมให้จิ่วจิ่วไปหาลั่วเฉียว
เธอยังไม่ได้บอกกับลั่วเฉียวเรื่องที่คุณแม่ของกู้ฮอนเสียชีวิตไปแล้ว
เพราะว่าตอนนี้เธอเป็นหญิงมีครรภ์คนหนึ่ง รักษาสภาพจิตใจให้สงบถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด
เมื่อแอนนิกลับมาอีกครั้งก็เห็นว่าทั้งร่างของกู้ฮอนพิงเข้ากับพนักโซฟา นัยน์ตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา
“ฮอน เรื่องราวแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อยากพบเจอ แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องเผชิญหน้ากับมันไม่ใช่หรือ”
“แอนนิ ที่จริงแล้วตอนที่ฉันคุยกับเธอก็ปล่อยวางได้แล้ว เพียงแต่ตอนที่ฉันพบว่า คุณแม่ของฉันถูกคนฆ่าตายนั้น ในใจของฉันก็ไม่สามารถสงบลงได้”
“ฮอน เธอพูดอะไรน่ะ คุณแม่เธอถูกคนฆ่าตายหรือ” หลังจากแอนนิได้ยินแล้วก็มีท่าทางตะลึงเป็นอย่างมาก
กู้ฮอนพยักหน้า “ตอนแรกฉันก็ตกตะลึงมาก แต่ว่านี่คือความจริง ความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“ถ้าอย่างนั้นทางตำรวจเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ สืบสวนพบหรือไม่ว่าใครเป็นฆาตกร”
กู้ฮอนถูกถามถึงคำถามนี้แล้ว เธอก็ไร้คำพูดอยู่บ้าง เพราะเธอไม่อยากพูดกับใครก่อนที่ทางตำรวจจะตัดสินว่าเป่หมิงโม่เป็นฆาตกรแม้แต่คนเดียว
“ตำรวจเข้ามาแทรกแซงแล้ว สำหรับฆาตกรนั้น พวกเขากำลังตรวจสอบอยู่”
“ฮอน แม้ว่าฉันจะอยู่ร่วมกับคุณแม่ของเธอได้ไม่นาน แต่ฉันสามารถยืนยันได้ว่าเธอเป็นคนที่จิตใจดีมากคนหนึ่ง ฆาตกรคนนี้ช่างชั่วร้ายเสียจริง กระทั่งคนที่จิตใจดีคนหนึ่งก็ยังฆ่า จะต้องมีจุดจบที่ไม่ดีอย่างแน่นอน” แอนนิกัดฟันพูด
“ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ก็พูดกันถึงตรงนี้เถอะ ตอนนี้ฉันเหนื่อยเล็กน้อย อยากจะพักผ่อนสักหน่อย แอนนิ ยังคงต้องฝากให้เธอช่วยนอนเป็นเพื่อนกับทารกน้อยหน่อยได้ไหม ฉันไม่อยากให้ตัวเองไปรบกวนการพักผ่อนของเธอ”
แอนนิพยักหน้า “เธอไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ยังมีฉันอยู่นะ”
*
บ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง
เป่หมิงโม่นั่งอยู่ในห้องหนังสือของตัวเอง คิดย้อนกลับไปถึงเรื่องในสถานีตำรวจ
เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่า การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของลู่ลู่จะเกี่ยวข้องกับตัวเอง ทั้งยังเป็นบุคคลที่น่าสงสัยมากที่สุดด้วย
เพียงแต่ตอนนี้เขามีเรื่องบางอย่างที่ไม่สามารถพูดกับทางตำรวจได้ เพราะว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมากมาย
“ก๊อกๆ……” เสียงเคาะประตูห้องหนังสือของเขาดังขึ้น
“เข้ามาได้” เป่หมิงโม่เอ่ย
เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นเฉิงเฉิงเดินเข้ามาจากด้านนอก เขาเข้ามาในห้องแล้วก็หมุนตัวกลับไปปิดประตูให้เรียบร้อย
“ลูกมีเรื่องอะไรหรือไม่”
เฉิงเฉิงเดินไปถึงเบื้องหน้าเป่หมิงโม่ “คุณพ่อ บ่ายวันนี้ผมไปเยี่ยมคุณแม่มาครับ”
“อาการเธอยังดีอยู่ไหม” เป่หมิงโม่ยังคงเป็นห่วงกู้ฮอนมากเช่นเคย
“ตอนที่ผมไป เธอกำลังพูดคุยโทรศัพท์กับคุณป้าแอนนิอยู่ แต่ผมมองออกว่าเหมือนคุณแม่จะร้องไห้มาก่อน อีกอย่างผมก็ไม่มั่นใจว่าคุณแม่จะบอกเรื่องที่คุณยายเสียชีวิตกับคุณป้าแอนนิหรือไม่”
“แม่ของลูกนั้นเธอรู้จักขอบเขตความเหมาะสม เพียงแต่ตอนนี้ถ้าหากว่ามีคนสามารถแบ่งเบาความทุกข์ของเธอได้ อย่างนั้นก็ดีมากจริงๆ”
***
เฉิงเฉิงพยักหน้า คุณแม่นั้นต้องการคนที่สามารถแบ่งเบาเรื่องที่รบกวนจิตใจเธอมากจริงๆ
เพียงแต่ว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่มีความสามารถนั้นมากพอ
“ใช่แล้วครับคุณพ่อ ตอนที่ผมกลับมา คุณแม่ก็ไปที่สถานีตำรวจแล้ว พวกคุณไม่ได้พบกันหรือครับ”
เป่หมิงโม่พยักหน้า “พ่อไม่ได้เจอเธอ” เขาพูดพลางก้มมองนาฬิกา
“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ลูกไปพักผ่อนเถอะ”
เฉิงเฉิงรู้ว่าคุณพ่อไม่อยากสนทนาหัวข้อนี้กับตัวเองอีก จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้า “คุณพ่อ คุณพ่อก็พักผ่อนเช้าหน่อยนะครับ”
เป่หมิงโม่เห็นว่าลูกชายจากไปแล้วก็เข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง
ที่จริงแล้ว ตอนที่อยู่ที่สถานีตำรวจเขาก็รู้แล้วว่ารายละเอียดทั้งหมดของคดีนั้นไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง
ถ้าหากว่าตัวเองไม่มีหลักฐานอื่นๆมาพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วล่ะก็ บางทีเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับการใช้ชีวิตระยะยาวในคุกแล้ว
ในใจของเป่หมิงโม่ชัดเจนเป็นที่สุดว่าการตายของลู่ลู่นั้นเกี่ยวข้องกับคุณแม่ของตัวเอง
เพราะว่ากล่องอาหารที่นำไปส่งให้กับลู่ลู่ทั้งสามวันนี้ล้วนมีหวีหรูเจี๋ยเป็นผู้จัดเตรียม