ตอนที่ 834 การกลับมาอย่างกะทันหัน
ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด ประโยคนี้ไม่เกินไปเลยที่จะบรรยายถึงเจียงฮุ่ยซิน แม้ว่าภายในใจของเธอจะมีความสงสัยและความคิดมากมายก็จะไม่เผยมันออกมา เธอจะคอยเฝ้าดูความเป็นไปของสถานการณ์เท่านั้น
***
ในตอนที่เจียงฮุ่ยซินกำลังขึ้นบันไดโดยมีคนรับใช้ประคองเธออยู่ เธอก็ได้ยินเสียงเครื่องรถยนต์ที่อยู่นอกบ้าน เธอหยุดฝีเท้าทันที หันหน้าไปทางประตู
ข้างนอกนั่นไม่ใช่เป่หมิงโม่แน่นอน แค่ฟังเสียงเธอก็รู้ ไม่ว่าจะเป็นเป่หมิงโม่หรือฉิงฮัว พวกเขาจะไม่เร่งเครื่องเช่นนี้หลังจากเข้ามาในลาน
มีเพียงคนเดียวในตระกูลเป่หมิงที่สามารถทำเช่นนี้ได้และนั่นคือลูกชายอวดดีของเธอ เป่หมิงยัน
แต่เธอรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
เหตุผมง่ายๆนั้นก็คือตอนนี้เขาควรจะพาเฉิงเฉิงและหยางหยางไปที่ตงหยางแล้วจะกลับมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเป่หมิงยันเอารถคันโปรดของเขาฝากส่งไปด้วยกันแล้ว
นอกจากพวกเขาแล้วมีใครอีกที่จะมาคฤหาสน์หลังเก่าของเป่หมิงอย่างตามอำเภอใจ
แต่ไม่นานก็ได้คำตอบ
ตามมาด้วยเสียงดังในสนาม จากนั้นเสียงของเด็กสองคนก็ดังขึ้น
“ดูสิ ฉันกับอาสามก็บอกแล้วที่บ้านไม่มีอะไร นายยังจะอยากกลับมา เยี่ยมมาก ฉันอดถ่ายรูปกับนางฟ้าของฉันแล้ว หลังจากเปิดเรียนนายจะให้ฉันอวดคนอื่นๆยังไง” ฟังแค่เสียงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นหยางหยาง
หลังจากที่เฉิงเฉิงและพ่อของเขาคุยกันเสร็จ เขาก็ตัดสินใจว่าอย่างไรก็ต้องกลับไปดู
แม้ว่าเป่หมิงยันและหยางหยางจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เฉิงเฉิงอยู่ แต่สุดท้ายก็ไร้ผล
ในที่สุดเป่หมิงยัน ก็ตัดสินใจขับรถกลับบ้าน
ในที่สุดก็กลับถึงบ้าน เมื่อหยางหยางเห็นความสงบที่บ้านเขาก็หยุดทันทีและเริ่มบ่นเฉิงเฉิง
เฉิงเฉิงยังคงสงบนิ่งและเขารู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองไม่ผิดพลาด
“หลานชายที่รักของฉันกลับมาแล้ว ทำไมพวกเธอไม่อยู่เที่ยวเล่นอีกสองสามวันหล่ะ”เจียงฮุ่ยซินต้อนรับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ต้องโทษเฉิงเฉิงเลย เขายืนกรานว่าที่บ้านมีบางอย่างเกิดขึ้น และบังคับให้พวกเรากลับมา” หยางหยางไม่มีเหตุผลนิดหน่อย
“หยางหยาง ไม่ต้องพูดมากหน่า เฉิงเฉิงแค่เป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่เขาครับ ไม่มีเรื่องอะไร ไว้ตอนปิดเทอมหน้าหนาวเดี๋ยวอาพาไปเที่ยวอีกดีไหม” ในเวลานี้เป่หมิงยันทำได้แค่เกลี้ยกล่อมหยางหยาง
เฉิงเฉิงไม่พูดอะไร แค่มองไปรอบๆและไม่พบสิ่งผิดปกติ
“คุณยายครับ ช่วงนี้คุณพ่อยังกลับดึกอยู่ไหมครับ” เฉิงเฉิงถาม
เจียงฮุ่ยซินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ในชีวิตที่ดูปกติ ทำไมเฉิงเฉิงถึงถามคำถามแบบนี้ออกมา
เธอพยักหน้า “พ่อหลานก็เหมือนปกตินะ ออกไปแต่เช้ากลับมาก็ดึก”
“ยันยัน พวกลูกไปเจอเรื่องอะไรกันมา” เธอหันไปถามเป่หมิงยัน
เป่ยหมิงยันยักไหล่ “อันที่จริงผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เฉิงเฉิงโทรหาเป่หมิงเอ้อเขาก็จะกลับมาให้ได้”
“เฉิงเฉิงเป็นเพราะห่างจากพ่อแม่นานหรือเปล่า คิดถึงบ้านใช่ไหม ทุกอย่างที่บ้านโอเค เดี๋ยวตอนดึกพวกหลานก็จะได้เจอพ่อแล้ว ตอนนี้พวกหลานไปอาบน้ำให้สะอาดๆ ทานข้าวกันมารึยังล่ะ ให้ยายสั่งคนรับใช้เตรียมอาหารให้ดีไหม”
“พวกเราทานกันมาแล้วครับคุณแม่ ตอนนี้เหนื่อยนิดหน่อย อาบน้ำแล้วพักสักครู่ก็โอเคแล้ว” เป่หมิงยันพูด
หยางหยางเห็นว่าเรื่องจบแล้วก็หยุดไว้แค่นี้
จากเหิงเตี้ยนถึงเมืองAใช้เวลาขับรถค่อนข้างนานพอสมควร เขานั่งรถมานานจนตอนนี้ไม่ไหวแล้ว
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือการอาบน้ำจากนั้นก็นอนหลับสบายๆ
รอพบคุณพ่อคุณแม่แล้วค่อยไปฟ้องเรื่องเฉิงเฉิง
เมื่อทุกคนไปพักผ่อน เฉิงเฉิงกลับนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเองและหยิบแล็ปท็อปออกมา
***
ทั้งหยางหยางและเป่หมิงยันนอนหลับสบาย เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาตื่นขึ้นมามันก็มืดแล้ว
เจียงฮุ่ยซินได้เตรียมอาหารเย็นไว้ก่อนเวลาอันควร แต่ต้องการให้ลูกชายของเธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดังนั้นเธอจึงไม่เรียกพวกเขา
รอจนพวกเขาลงมาทานอาหาร ก็สามทุ่มกว่าแล้ว
เฉิงเฉิงไม่ได้พักผ่อนและถือแล็ปท็อปไว้ตลอด ไม่กี่วันมานี้ที่พวกเขาออกไปเที่ยว เป่หมิงยันแทบจะอยู่ไม่ห่างจากพวกเขาเลย จึงไม่มีโอกาสดูว่าที่บ้านเกิดอะไรขึ้นหรือไม่
เขาใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่หายากนี้ตรวจสอบสถานการณ์ที่บ้านอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาสั้นเกินไปบวกกับช่วงเวลาที่บันทึกไว้ก็นานมาก รีบตรวจสอบอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่พบเบาะแส การบันทึกที่ช้าแบบนี้ตลอด 24 ชั่วโมงในหลายๆวัน ต้องใช้เวลาสองสามวันในการดูให้จบ
ขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารอยู่ในห้องอาหาร เสียงฝีเท้าดังมาจากห้องโถง เป่หมิงโม่กลับมาแล้ว
เขาได้ยินเสียงในห้องอาหารจึงเดินเข้าไปดู เห็นลูกชายทั้งสองของเขาและเป่หมิงยันกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่
เป่หมิงยันยิ้มและยกมือขึ้นทักทายเขา “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เป่หมิงโม่สบตาเขาจากนั้นจึงถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง “พวกนายกลับมาได้ยังไง”
“เฮ้ เรื่องมันยาว ก็คือ…” ขณะที่เป่หมิงยันกำลังตั้งท่าจะอธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงกลับมา หยางหยางก็ชิงเปลี่ยนเรื่อง
เขาพูดกับเป่หมิงโม่แบบเดิมกับที่พูดกับเจียงฮุ่ยซินตอนที่เขาเพิ่งถึงบ้าน โดยเริ่มบ่น “หลังจากที่เรากลับมาถึงแล้วพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน ทุกอย่างก็ปกติ คุณพ่อคิดว่าเฉิงเฉิงกังวลเกินไปไหม แค่ได้ยินว่าน้ำเสียงของพ่อไม่เหมือนเดิมก็พูดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้าน”
แม้ว่าใบหน้าของเป่หมิงโม่จะนิ่งเฉย แต่เขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าเฉิงเฉิงใส่ใจจนได้ยินน้ำเสียงที่ไม่เหมือนเดิมทางโทรศัพท์
เขามองไปที่เฉิงเฉิงก็เห็นว่าเขากำลังเงยหน้ามองตัวเองราวกับว่าเขาคาดหวังว่าตัวเองจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่ในเวลานี้ เป่หมิงโม่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กๆมีเรื่องกวนใจ
เป่หมิงโม่เดินไปตรงหน้าเฉิงเฉิง ยื่นฝ่ามือใหญ่ของเขาออกไปลูบหัวเล็กๆของเขาอย่างเบามือ “ลูกคิดมากแล้วล่ะ วันนั้นพ่อไม่สบายนิดหน่อยเลยทำให้ลูกเข้าใจผิด”
“ฮึ่ย…ที่แท้เรื่องก็เป็นแบบนี้นี่เอง เฉิงเฉิง นายกังวลมากเกินไปแบบนี้ มันทำให้ฉันเศร้า” หยางหยางเริ่มบ่นเมื่อความจริงปรากฏขึ้น
“หยางหยางหยุดพูดได้แล้ว จริงๆแล้วที่เฉิงเฉิงทำก็เพื่อครอบครัวไม่ใช่เหรอ พอแล้วๆ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องหาคนรับผิดชอบหรอกให้มันผ่านไป รีบทานอาหารกันเถอะ” เป่ยหมิงยันเริ่มทำตัวเป็นผู้สร้างสันติอีกครั้ง
เฉิงเฉิงได้ฟังคำพูดของพ่อก็โล่งใจ แต่เขาเห็นท่าทางของพ่อในตอนนี้เหมือนกับว่ามันไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่เขาพูด บางทีอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง แต่พ่อไม่ต้องการให้พวกเขารู้
แค่เขาไม่ยอมพูด เลยจับไม่ได้ หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านจริงๆ…
หลังจากรับประทานอาหารเย็นทุกคนก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง
คืนนี้ค่อยๆดึกขึ้นเรื่อยๆ เฉิงเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
หน้าต่างห้องเฉิงเฉิงหันหน้าเข้าหาสนาม ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไหร่ เขาได้ยินเสียงรถยนต์ไม่ชัดตามมาด้วยเสียงเปิดประตูหน้าบ้าน
***
เฉิงเฉิงประหลาดใจเล็กน้อย ดึกขนาดนี้แล้ว ยังมีคนในบ้านออกไปข้างนอกอีกเหรอ
ในห้องของเขาไม่ได้ปิดผ้าม่าน มีแสงสีแดงและน้ำเงินเข้ามาทางหน้าต่าง
เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติทันที แสงสีแดงและสีน้ำเงินไม่ใช่แค่ไฟตำรวจเท่านั้นเหรอที่เป็นสีนี้
เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจริง
ทันใดนั้นเขาก็ลงจากเตียงและมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง
แน่นอนว่าเขาเดาไม่ผิด เพราะด้วยแสงจันทร์ เขาเห็นรถตำรวจจอดอยู่ด้านล่าง แสงไฟของรถตำรวจที่สว่างเป็นพิเศษแยงตาเขา
เฉิงเฉิงออกมาจากห้องของเขา เดินผ่านทางเดินอย่างระมัดระวังและลงไปชั้นล่าง
ทันทีที่เขามาถึงชั้นหนึ่งก็เห็นตำรวจสองสามคนยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องหนังสือของคุณพ่อ
ประตูห้องหนังสือเปิดอยู่ ตำรวจกำลังคุยกับคุณพ่ออยู่ แม้ว่าเสียงของพวกเขาจะไม่ดัง แต่ก็พอจะได้ยินเสียง
“คุณคือคุณเป่หมิงโม่ใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ”
“คุณรู้จักลู่ลู่ไหมครับ”
“รู้จักครับ เธอคือยายของลูกทั้งสองคนของผม”
เฉิงเฉิงฟังเสียง รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมเขาต้องมาหาคุณพ่อเรื่องคุณยายด้วย
ตำรวจกล่าวต่อว่า “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณลู่ลู่ได้เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ทางเราได้ชันสูตรศพและผลออกมาว่าเธอเสียชีวิตจากพิษ ก่อนที่เธอจะกลายเป็นศพทางเราได้ตรวจสอบระยะเวลาจากกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาลและพบว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่ไปพบเธอในช่วงเวลานี้ ดังนั้นพวกเราจึงขอเชิญตัวคุณไปให้ปากคำเพื่อช่วยในการสอบสวน”
ดวงตาของเฉิงเฉิงเบิกกว้างขึ้นทันที ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริงและยายของเขาก็จากโลกนี้ไปแล้ว
นึกย้อนไปตอนที่คุยกับคุณพ่อ จริงๆแล้วคุณพ่อรู้ว่าคุณยายจากไปแล้ว แต่เขายังบอกเราว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
คงเป็นเพราะไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบตัวเองและหยางหยาง เป็นไปได้ว่าคุณแม่ก็รู้เรื่องนี้แล้ว
แล้วตำรวจจะทำอย่างไรกับพ่อ เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะสงสัยว่าคุณพ่อฆ่าคุณยาย
นี่มันไร้สาระสิ้นดี คุณพ่อกับคุณยายไม่มีความแค้นระหว่างกัน
“คุณพ่อ” เมื่อเห็นพ่อของเขากำลังจะถูกตำรวจพาตัวไป เฉิงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป
หลังจากตำรวจและเป่หมิงโม่ได้ยินเสียง ก็หันกลับมามองที่เฉิงเฉิง
เป่หมิงโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นลูกชายของเขายืนอยู่ที่ด้านบนสุดของบันได เขาพูดกับตำรวจว่า “ผมจะไปกับคุณ แต่ผมอยากคุยกับลูกชายของผมสักหน่อย”
ตำรวจพยักหน้าตกลง
เป่หมิงโม่เดินไปตรงหน้าเฉิงเฉิง ยื่นมือไปลูบหัวเล็กๆของเขาอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงของเขาเป็นปกติ “เฉิง ทำไมลูกยังไม่นอนอีก”
“ผมนอนไม่หลับ คุณพ่อครับ พวกเขาจะพาคุณพ่อไปไหน” เฉิงเฉิงพยายามอย่างมากในการข่มอารมณ์ ขอถามหน่อยเถอะมีเด็กคนไหนบ้างที่จะไม่ตื่นตระหนกเมื่อเห็นคนในครอบตัวเองถูกคนอื่นพาตัวไปต่อหน้าต่อตา เพียงแต่เฉิงเฉิงคิดได้ว่าเขาควรจะสงบนิ่งเหมือนพ่อของเขาในตอนนี้ คือต้องมีสติ
เป่ยหมิงโม่มองเขา มุมปากของโค้งงอเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ “พ่อแค่ให้ความร่วมมือกับพวกเขาในการสืบสวนและจะกลับมาเร็วๆนี้ ลูกเป็นพี่ เมื่อพ่อไม่อยู่ลูกต้องดูแลหยางให้ดีนะ รู้ไหม”
เฉิงเฉิงออกแรงพยักหน้า จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “คุณพ่อครับ คุณยายจากไปแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้เหรอครับ”
จริงๆแล้ว ตอนที่เป่หมิงโม่รู้ว่าเฉิงเฉิงปรากฏตัว เขาเดาว่าลูกชายคงได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับตำรวจแล้ว
เขารู้สึกว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกต่อไป พยักหน้านิ่งๆ
***
เฉิงเฉิงรู้สึกตกใจทันที เขาอยากทำให้ตัวเองรู้สึกว่าความคิดของเขามันผิด ทุกคนในครอบครัวปลอดภัย สุขภาพร่างกายแข็งแรง
แต่ในความเป็นจริง มันร้ายแรงมากสำหรับเขา