ตอนที่ 829 ชีวิตที่ลูกจากไป
เป่หมิงโม่หันหน้าไป มองดูกู้ฮอนยืนอยู่ที่เดิมตั้งนานก็ไม่ขยับตัว ที่สำคัญสีหน้าเธอเปลี่ยนไปจากเมื่อสักครู่เล็กน้อย
“คุณยังยืนซื่อบื้ออยู่ที่นี่ทำไม? ถึงเวลาพวกเขาลงไปถึงที่พื้นเรายังกลับไปไม่ถึงบ้านอีก” เป่หมิงโม่พูดอยู่ยื่นมือไปจูงมือกู้ฮอนอีกครั้ง ลากไปที่ทิศทางรถยนต์ของตัวเอง
” นี่นี่ ปล่อยมือ คุณจะพาฉันไปไหน? “เวลานี้กู้ฮอนได้คิดถึงเรื่องเก่าๆอีกครั้ง เป่หมิงเอ้อคงไม่ใช่เห็นว่าเด็กๆไม่อยู่ ก็คิดจะทำเรื่องเหลวไหลหรอกนะ
เป่หมิงโม่หยุดเดิน หันหน้ากลับไปมองกู้ฮอน วินาทีนี้เธอเหมือนคนที่หนีสุดกำลังเพื่อให้พ้นจากหมาป่าที่หิวจัดซึ่งลากตัวเองเข้าไปในถ้ำ
สีหน้าเป่หมิงโม่นิ่งเงียบ:”ผมว่าคุณคิดมากไปแล้ว รถยนต์คุณกินพื้นที่หน้าบ้านผม ช่างยุ่งยากจริงๆ
คำพูดนี้ออกไป หน้าผากกู้ฮอนมีเส้นสีดำออกมาหลายเส้นอีกครั้ง
ใช่สินะ หลังจากตัวเองขับรถไปครั้งก่อน ก็ไม่ได้ขับรถกลับมาอีกเลย ที่แท้ไอ้เป่หมิงเอ้อคนนี้เห็นว่ามันกินพื้นที่
“ไปก็ไปสิ” กู้ฮอนเชิ้ตหน้าหนี และสบัดมือของเป่หมิงโม่ออกไป จากนั้นเดินไปทางรถยนต์ของเขา
เป่หมิงโม่มองดูข้างหลังของเธอ ยิ้มแย้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริงๆ ทีแรกเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอม ตอนนี้มีความกล้าหาญก้าวต่อไปแล้ว
เฮ้ย……..
เป่หมิงเอ้อนะเป่หมิงเอ้อ ทำไมนายไม่เข้าใจหัวอกผู้หญิงนะ
*
“ปี๊ดปี๊ดปี๊ด………..”
รอบๆรถยนต์มีเสียงเตร่ดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
“ปากหมาจริง” กู้ฮอนนั่งข้างๆฝั่งคนขับและบ่นๆไปนึงคำ
รถยนต์ของพวกเขา ออกมาจากสนามบิน ไม่นาน ก็เจอกับรถติด
เวลานี้ถึงแม้ไม่ใช่เวลาเลิกงาน แต่ว่ารถยนต์เมืองAเยอะจนน่าตกใจ ที่สำคัญไปถึงไหนก็เหมือนกัน
มือทั้งคู่ของเป่หมิงโม่จับพวงมาลัยไว้ ไม่ถงเถียงกับกู้ฮอนใดๆ แต่กลับตั้งใจมองการเคลื่อนไหวของรถยนต์ข้างหน้า
สองชั่วโมงเกือบผ่านไปแล้ว รถยนต์ของพวกเขาขยับไปข้างหน้าระยะทางไม่ถึงห้ากิโลเมตร
ขณะนี้ มือถือในกระเป๋ากู้ฮอนดังขึ้น
กู้ฮอนรีบหยิบมือถือออกมา เปิดออกมาดูเฉิงเฉิงโทรศัพท์เข้ามานี่เอง
“แม่ครับ เราลงเครื่องแล้ว ตอนนี้แม่กับพ่ออยู่ที่ไหนครับ?” เฉิงเฉิงคุยโทรศัพท์อย่างเสียงดัง รอบๆมีเสียงดังรบกวนดังออกมาจากสนามบินข้างใน
กู้ฮอนมองหน้าเป่หมิงโม่ที่กำลังขับรถยนตร์ จากนั้นถอนหายใจยาวๆ:”ตอนนี้แม่กับพ่อติดอยู่บนถนนระหว่างทางกลับบ้าน คาดว่าพอเราถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว”
” แม่ครับ พวกเราจากไปแม่คิดถึงเรารึเปล่าครับ?” หยางหยางแย่งมือถือมาจากมือเฉิงเฉิง
“คิดถึงพวกนายแน่นอน โดยเฉพาะนาย” กู้ฮอนพูดอยู่ใบหน้ามีรอยยิ้มออกมา
“อ๋อ?แม่คิดถึงผมอะไรหรอกครับ? “หยางหยางถามขึ้นมา
” คิดถึงนายก่อเรื่องบนเครื่องรึเปล่า”
***
คำพูดของกู้ฮอน ทำให้เป่หมิงโม่และหยางหยางที่อยู่โทรศัพท์ทางโน้นต่างรู้สึกหนาวเย็นจับใจ
“ฮอน คุณพูดความจริงกับผม หยางหยางและเฉิงเฉิงเป็นลูกที่เกิดจากคุณแท้ๆรึเปล่า?” เป่หมิงโม่หันไปมองหน้ากู้ฮอน
เขาถามแบบไร้เหตุผล ทำไมไม่เหมือนคำพูดที่แม่แท้ๆสามารถพูดออกมาหล่ะ
กู้ฮอนวางมือถือลง จ้องหน้าเป่หมิงโม่แรงๆ:”คุณพูดไร้สาระจริงๆ ไม่ใช่ลูกแท้ๆที่เกิดจากฉัน งั้นคงจะเป็นลูกแท้ๆที่เกิดจากคุณสินะ”
เป่หมิงโม่พยักหน้า พูดแบบล้อเล่น:”ถูกต้อง เป็นลูกแท้ๆของผมเอง”
“ถุ้ย ต่อให้คุณต้องการ ต้องมีฟังก์ชั่นนี้ด้วยถึงจะทำได้ ฉันไม่อยากเถียงกับคุณ ฉันต้องการคุยกับลูก คุณหุปปากเอาไว้ดีๆ และขับรถของคุณดีๆ”
กู้ฮอนพูดจบ หยิบมือถือออกมาใหม่ หน้าบึ้งๆเปลี่ยนไปเป็นหน้ายิ้มแย้ม:” ลูกสุดที่รักของแม่อากาศทางโน้นร้อนรึเปล่าครับ?ลูกบอกกับเฉิงเฉิง ต้องดื่มน้ำเยอะๆ อย่าร้อนในหล่ะ ยังมีอีก…….. ”
” คุณแม่ครับ…….. แม่วางใจเถอะครับ เราไม่ใช่เด็กห้าหกขวบแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว แม่อยู่กับพ่อสองต่อสองอย่างสบายใจเถอะครับ” หยางหยางรำคาญเล็กน้อยไม่รอให้แม่พูดจบก็แย่งพูดขึ้นมาก่อน
” ไอ้เด็กตัวดีคนนี้ รอนายกลับมาดูสิแม่จะจัดการกับนายยังไง” กู้ฮอนพูดจบวางสายไปในทันที
ตอนที่พวกเขากลับมาถึงบ้านเป่หมิง ก็หลังจากสี่ชั่วโมงที่ผ่านมาแล้ว
เป่หมิงโม่จอดรถยนต์เรียบร้อย มองดูกู้ฮอนลงไปจากรถยนต์และรีบเดินไปที่รถยนต์ของเธออย่างเร่งด่วน
“ทำไมคุณไม่อยู่ที่นี่สักพักหรือ? “มือเป่หมิงโม่ตรึงไว้บนหลังคารถยนต์
กู้ฮอนนั่งเข้าไปในรถยนต์เรียบร้อย ลดกระจกรถยนต์ลงมาชะโงกหัวออกไป:”คุณเป็นท่านประธานใหญ่ มีธุระหรือไม่คุณพูดอะไรก็ถูกหมดแหละ ฉันก็แค่ทำงานเป็นลูกจ้าง ไม่เสร็จภารกิจหนึ่งวันก็ไม่ได้ ฉันกลับไปทำงานจริงๆจังๆดีกว่า
*
ลูกๆสองคนถูกเป่หมิงยันพาออกไปเที่ยว กู้ฮอนกลับรู้สึกยิ่งกังวลมากขึ้น
นอกจากทำงาน ดูแลแม่และกลับไปดูแลจิ่วจิ่ว ที่เหลือก็คือโทรศัพท์ให้กับลูกๆทุกวัน ดูสิว่าพวกเขาปลอดภัยดีทุกๆวันรึเปล่า
เร็วมากครึ่งเดือนก็ได้ผ่านไปแล้ว
กลางคืนวันนึง กู้ฮอนนอนอยู่บนเตียง กล่อมจิ่วจิ่วนอนหลับเรียบร้อย
ที่นี่ของลั่วเฉียวพอถึงกลางคืนปุ๊บ เงียบสงบมาก
แต่ว่าสิ่งแวดล้อมเช่นนี้แหละ กู้ฮอนกลับนอนยังไงก็นอนไม่หลับ
เธอรู้สึกว่าจิตใจตัวเองวุ่นวายสับสน
ก็เลย ลุกขึ้นมานั่ง หยิบมือถือและเดินออกไปจากห้องนอน
ขณะนี้ แอนนิ ลั่วเฉียวพวกเธอได้พักผ่อนเรียบร้อยแล้ว
เธอมาถึงห้องรับแขกของชั้นหนึ่ง นั่งอยู่บนโซฟา
เงยหน้าขึ้นมาดูนาฬิกาที่กำแพง ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว
ตอนเช้าวันนี้คุยโทรศัพท์กับลูกๆ รู้ว่าสบายดีทุกอย่างที่สำคัญยังฟังทางโทรศัพท์ออก พวกเขาเที่ยวเล่นที่ข้างนอกอย่างมีความสุขจนลืมบ้านเกิดไปแล้ว
อาจต้องไตร่ตรองควรเรียกเด็กๆกลับมาแล้ว โดยเฉพาะหยางหยาง ถึงแม้ผลการสอบครั้งนี้ดีมาก แต่ว่าได้มาจากการเรียนพิเศษที่บ้านและเฉิงเฉิงสอนให้กับเขาเอง
เธอกังวลว่าถ้าหยางหยางเล่นจนสนุกเกินไป ถึงเวลาเปิดเทอมผลการเรียนก็จะตกลงไปที่เหวอีกครั้ง
แต่ว่าควรจะพูดกับลูกๆว่ายังไงดีหล่ะ? พวกเขาไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ออกไปเที่ยวเล่นสักครั้งอย่างสนุกสนาน
เฮ้ย……….
คิดๆไปก็ปวดหัว
เธอหยิบมือถือออกมา ตอนนี้นอนไม่หลับ ไปดูคลิปวีดีโอในอินเตอร์เน็ต สักพักอาจง่วงขึ้นมาและสามารถนอนหลับไปเลย
***
เป็นจริงซะด้วย กู้ฮอนเลื่อนหน้าจอมือถือ หลังกู้ฮอนดูข่าวไปหลายข่าวและดูคลิปตลกไปสองคลิป เธอก็เหาง่วงติดต่อกันตั้งหลายครั้ง ความง่วงนอนเริ่มเกิดขึ้นมาแล้ว
แต่ว่าขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวลุกขึ้นมาจากโซฟาไปนอนที่ห้องนอน เสียงกริ่งมือถือก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
กู้ฮอนไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน ที่สำคัญความรู้สึกแบบนี้เธอเคยรับรู้มันมาแล้ว
ไม่รู้ว่าโทรศัพท์สายนี้จะพาข่าวอะไรมา
เธอรีบรับสายขึ้นมา:”ฮัลโหล สวัสดีฉันคือกู้ฮอน ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรรึเปล่าคะ?”
“สวัสดี คุณคือลูกสาวของคุณลู่ลู่ใช่ไหมคะ?”
กู้ฮอนรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างกะทันหัน สีหน้าเธอเคร่งเครียด:”สวัสดี ฉันเป็นลูกสาวเธอ ไม่ทราบว่าแม่ดิฉันมีอะไรรึเปล่าคะ? ”
” คุณรีบมาเถอะ ถึงเวลาเราจะคุยรายละเอียดกับคุณเอง”พูดจบ ฝ่ายตรงข้ามก็วางสายไปทันที
สติกู้ฮอนตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว โรงพยาบาลโทรศัพท์มาหมายความว่ายังไงกันแน่? หรือว่าแม่เธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา?
แต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีเวลาคิดมาก รีบไปที่โรงพยาบาลสำคัญกว่า
เธอเร่งรีบเข้าไปในห้องนอนตัวเอง หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เคาะประตูห้องนอนแอนนิเบาๆ
ขณะนี้แอนนิยังไม่นอน ตั้งแต่ได้รับกำลังใจจากกู้ฮอนและลั่วเฉียว หลังให้เธอเปิดร้านอาหาร
เริ่มวางแผนการทุกคืนในการเปิดร้านอาหารทุกอย่างจากการตกแต่งในร้าน มาจนถึงการเลือกถ้วยชามกะละมังและยังมีเมนูอาหารที่สั่งทำอีก
ทุกรายละเอียดเธอต้องคิดทบทวนไปมาตั้งหลายครั้งไม่ใช่อะไร แต่เธอรู้ดีว่าการเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
เธอได้ยินเสียงเคาะประตูของห้องตัวเองดังขึ้น จึงรีบลุกขึ้นมาไปเปิดประตู
“ฮอน คุณมาได้ไง มีธุระอะไรรึเปล่า? สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่” แอนนิเปิดประตู เห็นกู้ฮอนยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าเธอเคร่งเครียด ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา
กู้ฮอนจับมือแอนนิไว้:” เมื่อครู่ฉันได้รับสายที่โทรมาจากโรงพยาบาล ให้ฉันรีบไป คืนนี้ฉันอาจจะไม่กลับมาทั้งคืน เพราะฉะนั้นจึงรบกวนคุณดูแลลูกสุดที่รักให้หน่อย”
แอนนิพยักหน้า:”ได้เลย คุณสบายใจเถอะ ถ้าหากโรงพยาบาลมีเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือแล้วละก็ โทรศัพท์มารู้รึเปล่า ยังมีอีก อย่าใจร้อนเกินไป เวลาขับรถต้องระมัดระวังความปลอดภัย ตอนนี้คุณไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ ที่บ้านยังมีลูกอีกสามคนรอคุณอยู่”
กู้ฮอนพยักหน้า จากนั้นเดินลงไปที่ตึกอย่างเร่งรีบ
เร็วมาก ได้ยินเสียงเตร่รถยนต์ข้างล่างตึกดังขึ้นมา จากนั้นค่อยๆหายไป
ระหว่างทางไปโรงพยาบาล กู้ฮอนใจร้อนเป็นบ้า
เธอไม่รู้ว่าแม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาในโรงพยาบาลกันแน่หกล้มบาดเจ็บรึเปล่า? หรือว่าอาการป่วยกำเริบ?
ยังดีนะหัวสมองเธอคิดฟุ้งซ่าน แต่ว่าเวลาขับรถเธอยังไม่ลืมระมัดระวังความปลอดภัย เหมือนที่แอนนิพูด ตอนนี้เธอไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ที่บ้านยังมีลูกอีกสามคน
หลังหนึ่งชั่วโมงกว่า รถยนต์กู้ฮอนขับเข้าไปในประตูโรงพยาบาล จอดไว้ที่ระเบียงทางเดิน
เธอลงจากรถอย่างเร่งด่วน วิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล
เธอวิ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วยของแม่ ขณะที่เธอเปิดประตู มองดูทุกอย่างตรงหน้า อึ้งไปทันที
***
ข้างในห้องผู้ป่วยตรงหน้ากู้ฮอน ว่างเปล่าไม่มีใครสักคน แม่หายไปแล้ว
แต่ว่าในห้องผู้ป่วยข้าวของอื่นๆยังอยู่ ที่สำคัญยังมีร่องรอยจากการใช้งานอีกด้วย
“แม่คะ แม่” กู้ฮอนเรียกไปสองครั้งอย่างใจร้อน
ทันทีนั้นเธอคิดถึงเรื่องครั้งก่อนที่แม่ได้หายตัวไป หลี่เชินเป็นคนทำรึเปล่า?
แต่ว่าเร็วมากเธอก็ได้รับการยืนยันจากการสงสัยครั้งนี้ว่าเป็นความผิด
“คุณหนู คุณมีธุระอะไรรึเปล่าคะ?”
เสียงตะโกนของกู้ฮอน ได้นำพยาบาลคนนึงมา
เธอหยิบสมุดบันทึกเดินเข้ามา
กู้ฮอนตั้งสติสักพัก พูดกับพยาบาลว่า:”ผู้พักฟื้นในห้องผู้ป่วยนี้เป็นแม่ของฉันลู่ลู่ เมื่อสักครู่ฉันได้รับสายที่โทรมาจากโรงพยาบาลคุณ ให้ฉันมาที่นี่”
” อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง” พยาบาลคนนั้นเปิดสมุดบันทึกในมือตัวเองดู จากนั้นพูดกับกู้ฮอนว่า:”คุณคือคุณหนูกู้ใช่มั้ย เมื่อสักครู่ฉันดูสมุดบันทึก แม่ของคุณลู่ลู่ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินชั้นหนึ่งกำลังทำการช่วยชีวิตอยู่”
ช่วยชีวิต
คำคำนี้เหมือนกับฟ้าผ่ากลางแจ้งดังขึ้นมาบนหัวกู้ฮอน
“ขอบคุณพยาบาล” กู้ฮอนพูดจบหันหลังวิ่งไปทางห้องฉุกเฉิน
พอเธอมาถึงที่ห้องฉุกเฉิน ไฟฉุกเฉินยังไม่ได้ดับลง