ตอนที่ 822 ช่วงเวลาที่ว่างเปล่า
ไม่รู้ว่าขั้นต่อไปถังเทียนจื๋อจะจัดการกับเป่หมิงโมยังไง ตั้งแต่เฟยเอ๋อไปจากเขาที่นั่น แล้วไปไหนต่อ?
จะเป็นเหมือนวิญญาณที่หลบซ่อนอย่างลับๆในละแวกบ้านเป่หมิงรึเปล่า หรือจะเป็นอย่างที่เธอพูดไปจากเมืองที่นี่เมืองที่ทำให้เธอรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก?
เป่หมิงโม่จะเป็นยังไง ความจริงการปรากฏตัวของถังเทียนจื๋อเขาเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาแล้วละก็ ลูกทั้งสองคนควรทำยังไงดี?
สุดท้ายก็คือเจียงฮุ่ยซินแล้ว รอยยิ้มที่ใจดีบนใบหน้าของเธอ ซ่อนความคิดอะไรเอาไว้กันแน่
ตอนนี้ มีแต่ลั่วเฉียวที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้นถึงจะเป็นที่ที่’สงบ’
*
วันที่สองเช้าตรู่ หลังเป่หมิงโม่ส่งเฉิงเฉิงไปสอบเทอมสุดท้ายเรียบร้อยถึงมาที่ห้องทำงานตัวเอง
ขณะนี้ ฉิงฮัวได้นั่งอยู่ที่นี่และเริ่มทำงานแล้ว
แต่ว่า ที่นั่งของกู้ฮอนยังคงว่างเปล่า
“ทำไมเธอยังไม่มา? พวกนายไม่ได้ออกมาพร้อมกันหรือ?” เป่หมิงโม่ชี้ไปที่ที่นั่งกู้ฮอน
“เจ้านายครับ เมื่อคืนคุณหนูกลับไปดึกมาก เพราะฉะนั้นวันนี้เธอ……” ฉิงฮัวตัดสินใจเตือนเป่หมิงโม่นิดนึง
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย:”นายบอกว่าเธอกลับไปดึกมาก? ”
ฉิงฮัวพยักหน้าอย่างมั่นใจ ตามที่กู้ฮอนได้บอกกับเขาเมื่อวาน หลังเธอออกมาจากบ้านเป่หมิง นอกจากนั่งรถไปที่บริษัทเป่หมิง ก็คือโทรศัพท์เรียกตัวเองไปรับเธอ
“เมื่อคืนคุณหนูโทรศัพท์หาผมตอนเที่ยงคืนกว่า ให้ผมไปรับเธอที่ตึกบริษัทเป่หมิง”
“เที่ยงคืน?” เป่หมิงโม่แปลกใจ ทำไมดึกขนาดนี้เธอเพิ่งจะโทรหาฉิงฮัว เมื่อคืนเขากลับไปที่ห้องนอนตัวเองก็เพิ่งจะสี่ทุ่มราวๆ
ถ้าอย่างนั้นหลังกู้ฮอนออกมาจากบ้านเป่หมิง ช่วงนี้เธอไปไหนกันแน่?
” ตอนที่นายเห็นเธอพบความผิดปกติอะไรรึเปล่า?” เป่หมิงโม่ถาม
***
ฉิงฮัวขมวดคิ้ว คิดๆดูแป๊บนึงแล้วส่ายหน้าพูดว่า:”ตอนที่ผมเห็นคุณหนู เธอดูปกติมาก นอกจากรู้สึกว่าเธอดูเหนื่อยๆนิดหน่อย อารมณ์ก็ดีทีเดียว เจ้านายครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ? ”
ฉิงฮัวรู้สึกว่าคำถามของเป่หมิงโม่แปลกๆเหมือนผิดปกติ
เป่หมิงโม่ส่ายหน้า:”ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากรู้อาการของเธอเท่านั้นเอง”
*
พอกู้ฮอนตื่นขึ้นมา เวลาก็สิบโมงกว่าตอนเช้าแล้ว เธอรีบลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยและลงมาจากตึก
เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองไปทำงานสายแล้วแน่นอน หลังไปถึงไม่แน่อาจถูกเป่หมิงโม่ว่าจนเสียๆหายๆ
ฮอน คุณตื่นแล้ว หิวไหม ฉันไปต้มหมี่ร้อนๆให้คุณสักถ้วยเอาไหม? ”
พอกู้ฮอนสะพายกระเป๋าเล็กๆของตัวเองเดินลงมาจากลิฟต์อย่างเร่งรีบ ก็ได้พบกับแอนนิจูงมือจิ่วจิ่วอยู่ในห้องรับแขกกำลังมองหน้าเธอ
” แม่คะ ทำไมเมื่อคืนแม่กลับมาดึกนักเหรอค่ะ? ”
กู้ฮอนส่ายหน้า:” เวลาสายแล้ว แม่ต้องรีบไปทำงาน”จากนั้นเดินไปตรงหน้าจิ่วจิ่ว ก้มตัวลงและพูดกับเธอว่า:”เมื่อวานพี่ชายสอบ แม่พาพวกเขาไปเล่นจ้า”
จิ่วจิ่วได้ยินขมวดคิ้วทันที ทำปากจู๋:”แม่ใจร้าย เมื่อวานพาพี่ๆออกไปเล่น แต่ไม่พาจิ่วจิ่วไปด้วย”
พูดจบเธอได้หันหน้าไปข้างๆอีกด้วย
” ลูกสุดที่รัก อย่าโกรธสิคะ แม่ไม่ใช่ว่าไม่อยากพาหนูไปเพียงแต่ว่าแม่เจอผีร้ายเฝ้าห้องน้ำ กลัวมันจะรังแกลูกสุดที่รักของเรา เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้พาหนูไป รออีกไม่กี่วัน แม่มีวันหยุดแล้ว ค่อยพาหนูและพี่ๆออกไปเล่นด้วยกันดีไหม?”
พูดอยู่กู้ฮอน กอดจิ่วจิ่วไว้ในอ้อมกอด จูบแก้มที่ตุ้ยนุ้ยของเธอแรงๆหนึ่งครั้ง
สำหรับจิ่วจิ่ว พลังของผีร้ายที่ห้องน้ำมันไม่น้อยจริงๆ ขณะที่เธอได้ยินชื่อนี้ ร่างกายเล็กๆของเธอกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
” ถ้าอย่างนั้น แม่ค่ะเรามาสัญญากันเถอะ” พูดจบ เธอยื่นมืออ้วนๆของตัวเองออกมา:”เกี่ยวก้อย”
กู้ฮอนก็ยื่นมือออกมา เกี่ยวก้อยกับเธอ
*
เฉิงเฉิงยังต้องสอบอีกสองวัน เช้าตรู่ของวันนี้ถูกเป่หมิงโม่ส่งไปที่โรงเรียนเรียบร้อย
หยางหยางสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาสามารถนอนหลับสบายๆแล้ว
ตอนที่เขาตื่นเวลาก็เกือบสิบโมงเช้าแล้ว
สำหรับเขา วันหยุดซัมเมอร์ครั้งนี้ถือว่าได้เริ่มขึ้นแล้ว ต้องดีใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ขณะที่เขาครวญเพลงลงมาจากตึก อารมณ์ดีๆก็ได้หายไปจนหมดสิ้น
นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเห็นคุณย่ากำลังนั่งดูทีวีในห้องรับแขก
สำหรับอารมณ์ที่แปรปรวนของหยางหยาง เจียงฮุ่ยซินถือว่าชินมาตั้งนานแล้ว
ขณะที่เธอเห็นหยางหยางลงมา สั่งคนรับใช้เตรียมอาหารเช้าให้กับเขาหนึ่งชุด
หยางหยางวิ่งเข้าไปทานข้าวในห้องรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว
*
ข้างนอกห้องรับแขกมีเสียงรถยนตร์ ถัดมามีเสียงที่ดังกึกก้องดังออกมา
“Hi everybody……ผมเป่หมิงสามกลับมาอีกแล้ว” ไปตามเสียงที่ดังกึกก้อง ฉีเย่นใส่ชุดทะเลเต็มชุด ใส่หมวกฟาร์มสีน้ำตาล บนจมูกยังใส่แว่นตาแฟชั่น
ตั้งแต่ครั้งก่อนเธอกับลูกชายจากกันด้วยความหมางเมินจนถึงตอนนี้ นับๆดูก็หลายเดือนแล้ว
ในช่วงเวลานี้ เป่หมิงยันไม่เคยโทรศัพท์หาเธอแม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่งข้อความก็ไม่ส่งให้ให้กับเธอ
ทำเหมือนกับว่าต้องการตัดขาดกับบ้านเป่หมิงและแม่อย่างเธอคนนี้
ชีวิตที่แก่ชราแล้วไม่มีลูกหลาน ทำให้เจียงฮุ่ยซินไม่มีชีวิตชีวา สีหน้าทั้งหมดก็เปลี่ยนไปและแย่กว่าต้นปี
***
ขณะที่เป่หมิงยันยืนอยู่ตรงหน้าเจียงฮุ่ยซิน ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย
เธอแค่รู้สึกว่าทุกอย่างตรงหน้าเหมือนเป็นเพียงแค่จินตนาการ
แต่ว่าเธอแน่ใจได้อย่างรวดเร็ว คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือลูกชายตัวเอง
“ไอ้เด็กบ้าคนนี้รู้จักกลับมาด้วยหรือ ฉันคิดว่าหลังทิ้งฉันไปก็ไม่กลับมาอีกแล้ว” เจียงฮุ่ยซินพูดถึงตรงนี้ น้ำตาไหลลงมาอย่างกับสายน้ำ
เป่หมิงยันกอดแม่ตัวเองไว้ในอ้อมกอด:”เอาหล่ะเอาหล่ะ ผมกลับมาแล้วนี่ไง”
ต่างพูดกันว่าพ่อลูกไม่มีความแค้นฝังใจ แม่ลูกก็เป็นเช่นนี้ยิ่งกว่า
ตอนแรก หลังเป่หมิงยันเอากระเป๋าเดินทางตัวเองออกไปจากบ้าน ไม่นานเขาก็คิดทบทวนพฤติกรรมของตัวเอง
หรือว่าตัวเองไม่ควรเอาแต่ใจแบบนี้ ไม่ควรทำกับแม่แบบนี้
แต่ว่าพอคิดถึงการวางแผนของแม่ที่เจาะจง เขาเริ่มลังเลขึ้นมา
สุดท้าย เขาตัดสินใจเรื่องที่บ้านเป่หมิงเขาจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม แต่ว่าจะไม่สนใจแม่ไม่ได้ ยังไงซะตัวเองเป็นลูกชายแท้ๆของเธอ
เป่หมิงยันเอากระดาษทิชชู่ออกมา เช็ดน้ำตาบนใบหน้าแม่ จากนั้นจับตัวเธอไปนั่งที่โซฟา
เขาเห็นใบหน้าของแม่มีริ้วรอยเพิ่มขึ้นมา ทรมานใจไม่น้อย
“ลุงสาม”
เสียงเรียกที่สดใสได้ดังขึ้นมา หยางหยางวิ่งออกมาจากห้องรับประทานอาหาร
เขาเพิ่งหยิบขนมปังขึ้นมาและกินไปนึงคำเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ดังออกมาจากข้างนอก
จึงหยิบขนมปังวิ่งออกมาจากห้องรับประทานอาหาร
การปรากฏตัวของหยางหยางทำให้เป่หมิงยันรู้สึกแปลกใจ:”นายไม่ไปเรียน อยู่ที่บ้านทำไม? แกล้งป่วยหนีเรียนใช่มั้ย?”
เดิมทีท่าทางหยางหยางดีใจมาก ถูกเป่หมิงยันถามจนหน้าบึ้งทันที:”ลุงสาม ทำไมลุงไม่พัฒนาขึ้นมาบ้างเลยอ่ะครับ ทำไมใช้เป็นแต่สายตาเก่าๆมามองผม ผมไม่ได้หนีเรียนน่ะครับ เมื่อวานเพิ่งสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วต่างหาก
“อ้อ? สอบเสร็จแล้ว งั้นนายสอบได้กี่คะแนน? ถ้าสอบได้คะแนนดีแล้วละก็ ลุงมีรางวัลอย่างงามให้เลยนะ
เป่หมิงยันดูท่าทางหยางหยาง ดูท่าคะแนนสอบครั้งนี้นับว่าไม่เลว
มิเช่นนั้น ตามนิสัยของเป่หมิงยัน ทำไมหยางหยางถึงได้วิ่งออกมาอย่างดีอกดีใจ
หยางหยางแบะมือออกมาตรงหน้าเป่หมิงยัน:”ลุงสาม รางวัลงามๆของลุงคืออะไร? อย่าบอกนะว่าเป็นเพียงแค่เช็คเปล่าๆ”
“ถ้าสอบได้260คะแนน ลุงจะพานายไปเล่นที่สวนสนุกสักครั้ง 280คะแนนก็จะพานายไปดูการแข่งรถ เป็นไง น่าดึงดูดไหมหล่ะ”
หยางหยางฟังถึงตรงนี้ ทำปากจู๋:”รางวัลแค่นี่เองเหรอครับ ยังมีรางวัลงาๆที่มากกว่านี้มั้ยครับ?”
” มากกว่านี้? “เป่หมิงยันยื่นมือไปขยี้ผมของหยางหยาง:” ่ต่อให้มีนายก็ไม่น่าจะสอบติด ถ้านายสอบได้สามร้อยคะแนนแล้วละก็ ลุงจะพานายไปกองถ่ายละครของลุง”
หยางหยางฟังปุ๊บนัยน์ตาตาสดใสขึ้นมาทันที แต่ก็หายไปในทันที
“ดูสิ ลุงพูดถูกใช่มั้ย ตอนนี้นายทำได้แต่อิจฉาตาร้อนไหนพูดมาก่อนสินายสอบได้กี่คะแนน” เป่หมิงโม่หัวเราะและล้อเล่นกับหยางหยาง
หยางหยางทำหน้าบึ้งพูดว่า:”ผมสอบได้แค่295คะแนน”
เป่หมิงยันได้ยินตกตะลึงอย่างกะทันหัน:”ไม่เลวนิไอ้เด็กน้อย คิดไม่ถึงจะสอบได้คะแนนสูงขนาดนี้ไม่เลวไม่เลว สมควรให้รางวัลแก่นาย”
” ให้รางวัลมีประโยชน์อะไร ยังไงผมก็ไม่ได้รางวัลใหญ่แล้ว”
หยางหยางมีความชอบหลายอย่างเช่น เกมส์ แข่งรถและดูหนัง…….. ขอแค่ได้เล่น เขาชอบหมด
เพราะว่าเป่หมิงยันเป็นนักแสดง เพราะฉะนั้นหยางหยางจึงยังไม่พอใจที่ดูแต่ในหน้าจอ เขาอยากรู้ด้านตรงข้ามของหน้าจอว่าเป็นโลกแบบไหนมากกว่า และถ่ายทำหนังยังไง
***
เป่หมิงยันมองหน้าหยางหยางแบบตกตะลึง คิดไม่ถึงไอ้เด็กคนนี้จะมีผลการสอบที่สูงถึงเช่นนี้
ในความทรงจําของเขา ผลการสอบหยางหยางจะใช้คำว่าดีมาเปรียบเทียบไม่ได้ มิเช่นนั้นทำไมเป่หมิงโม่ถึงยอมเสียแรงตั้งมากมายหาครูสอนพิเศษให้กับเขาหล่ะ
สีหน้าของเขามีความร้ายผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน:”เฮเฮ บอกความจริงมา นายโกงข้อสอบใช่มั๊ย?”
หยางหยางไม่ชอบฟังอะไร ก็ยิ่งถูกพูดถึง หน้าผากหยางหยางมีเส้นสีดำๆออกมาตั้งหลายเส้นในทันที
“ยันยัน ดูนายสินายพูดจาไม่เพราะเลย เมื่อวานหยางหยางเกือบหนีออกจากบ้านเพราะเรื่องนี้แหละ พาเฉิงเฉิงออกไปตามหาเขาที่ข้างนอกจนเจอไม่ใช่ง่ายๆนะ” เจียงฮุ่ยซินไม่อยากทำให้เกิดเรื่องเมื่อวานอีกครั้ง ความรับผิดชอบของตัวเองผลักไสไม่ได้
เป่หมิงยันยิ่งตกตะลึง:” หยางหยาง ดูไม่ออกนะเนี่ย นายใจกล้ามากเลยนะที่หนีออกจากบ้าน”พูดอยู่ยกนิ้วโป้งขึ้นมาต่อหน้าเขา จากนั้นลากเขาเข้ามาข้างๆตัวเอง:” จุดนี้ ลุงสามเลื่อมใสนายมาก เฮ้อ นายรู้มั้ย เมื่อในอดีตลุงก็เคยคิดอยากหนีออกจากบ้าน เพียงแต่ว่า……..”
เป่หมิงยันพูดถึงตรงนี้ ถอนหายใจยาวๆ สีหน้าเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน
เดิมทีหยางหยางมีอคตินิดหน่อยต่อเป่หมิงยัน ทำไมตัวเองสอบได้คะแนนดี ทุกคนในบ้านไม่มีใครเชื่อสักคนคุณพ่อ คุณแม่ และเฉิงเฉิงพวกเขาไม่เชื่อก็ช่างเถอะแต่ว่าแม้แต่ลุงสามที่ถูกชะตากับตัวเองมากที่สุดก็มองตัวเองแบบนี้
แต่ว่าหลังได้ยินประสบการณ์ที่เขาหนีออกจากบ้าน จึงพูดความสนุกสนานขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
เขามองบนให้กับเป่หมิงยัน:”สุดท้ายเป็นยังไงหล่ะ?”
เจียงฮุ่ยซินรีบผายมือให้กับเป่หมิงยัน:”ยันยัน ทำไมนายไม่สอนหยางหยางดีๆ กลับเล่าเรื่องชั่วๆของนายให้เขาฟัง ตอนนี้หยางหยางยังเด็ก แยกแยะไม่ออกผิดชอบชั่วดี ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา แม่จะคอยดูนายจะบอกกับเป่หมิงโม่ยังไง”