เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – ตอนที่ 847 ข่าวที่คาดไม่ถึง

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 847 ข่าวที่คาดไม่ถึง

ตอนที่ 847 ข่าวที่คาดไม่ถึง

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะต้องพิจารณากันใหม่แล้วว่าควรจะทำอย่างไร

“เป็นอย่างไร เรื่องนี้ยากสำหรับคุณหรือไม่” เป่หมิงยี่เฟิงที่ยังคงเต็มไปด้วยภาพที่วาดฝันเอาไว้เอ่ยถามหนึ่งประโยค

ถังเทียนจื๋อขมวดคิ้ว “คุณอย่าเพิ่งบุ่มบ่ามทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ รอข่าวจากผมก่อนก็พอ” ถังเทียนจื๋อเอ่ยจบก็ตัดสายโทรศัพท์ไป

เป่หมิงยี่เฟิงได้ยินเสียงสายไม่ว่างจากฝ่ายตรงข้ามแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าหลังจากที่ตัวเองพูดชื่อของกู้ฮอนออกไปแล้ว ถังเทียนจื๋อก็รีบวางสายโทรศัพท์ในทันที

หรือว่ากู้ฮอนจะมีอะไรปิดบังเอาไว้กัน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เป่หมิงยี่เฟิงก็รู้สึกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ เขาเป็นเพื่อนกับกู้ฮอนมาตั้งหลายปี เธอเป็นอย่างไร ตัวเองยังไม่ชัดเจนอีกหรือไงกัน

บางทีคนคนนั้นอาจจะมีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทำพอดีก็ได้

*

ถังเทียนจื๋อวางสายโทรศัพท์แล้ว เขารู้สึกว่าโทรศัพท์สายนี้สำคัญสำหรับเขาและอาจารย์ของเขาเป็นอย่างมากจริงๆ

เพียงแต่ก่อนที่จะบอกเรื่องนี้กับอาจารย์ เขายังต้องทำอะไรบางอย่างก่อน

เป่หมิงโม่ถูกกักขังเอาไว้เพราะฆ่าคนโดยเจตนา แบบนี้สำหรับถังเทียนจื๋อแล้วไม่ถือว่าเป็นการทำให้ความเกลียดจางหายไป

เพราะเขาไม่ได้ล้มลงด้วยมือของตัวเอง เขาจำเป็นต้องราดน้ำมันบนกองไฟให้กับเป่หมิงโม่ในเวลานี้สักหน่อย

สำหรับเรื่องคดีฆ่าคนโดยเจตนาที่เป่หมิงโม่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น เขาจำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

***

ถังเทียนจื๋อบอกข่าวเรื่องที่เป่หมิงโม่ถูกตำรวจกักตัวเอาไว้ให้กับหลี่เชินอย่างรวดเร็ว

หลี่เชินฟังแล้วก็รู้สึกแปลกใจ เขาถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “คนอย่างเป่หมิงโม่คนนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ด้วย ดูเบาเขาไปแล้วจริงๆ ฉันไม่ชอบเลยที่คนที่ฉันต้องต่อสู้ด้วย เกิดเรื่องก่อนที่ฉันจะลงมือกับเขา ถึงเวลานั้นเธอก็ไปสืบข่าวสักหน่อยว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรกันแน่”

เมื่อเอ่ยถึงกู้ฮอน ถังเทียนจื๋อก็นึกถึงเรื่องที่เป่หมิงยี่เฟิงบอกกับเขาขึ้นมาได้ในทันที

“อาจารย์ ผมยังมีอีกข่าวหนึ่งที่ต้องบอกกับคุณ นั่นก็คือก่อนที่เป่หมิงโม่จะถูกตำรวจพาตัวไป เขาได้เปิดประชุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเป่หมิง ภายในการประชุมเขาได้กำหนดบุคคลที่จะมาเป็นประธานบริษัทคนต่อไปของบริษัทเป่หมิงเอาไว้ด้วย”

หลี่เชินเคาะบ้องสูบยาที่ทำจากปะการังสีดำกับถาดเขี่ยก้นบุหรี่เบาๆ “เป่หมิงโม่เข้าคุกไปแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่พวกเราที่ทำ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องเช่นกัน สำหรับทางฝั่งบริษัทเป่หมิงนั้น ก็ให้เจ้าเด็กเป่หมิงยี่เฟิงนั่นดูแลและจัดการไปตามสมควรเถอะ ปัญหาเรื่องบุคคลผู้ถูกเลือกมาเป็นประธานบริษัทของพวกเรานั้น ฉันไม่มีความสนใจเท่าไร”

สำหรับหลี่เชินนั้น เมื่อเป่หมิงเจิ้งเทียนตายไป เป่หมิงโม่เข้าคุกแล้ว ทั้งสองคนนี้มีจุดจบแบบนี้ก็ถือว่าความแค้นระหว่างตัวเองและพวกเขาสิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็สามารถระบายความแค้นที่เกิดขึ้นเพราะหวีหรูเจี๋ยทำลูกเขาหายไปได้ไม่มากก็น้อย

ตอนนี้กู้ฮอนก็หาพบและได้อยู่ร่วมกันกับลู่ลู่แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่นับถือว่าตัวเองเป็นพ่อคนหนึ่ง แต่ตอนที่ไปเยี่ยมเยียนลู่ลู่ คนในครอบครัวก็สามารถอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ สำหรับหลี่เชินนั้นถือว่าเป็นความสุขที่หาได้ยากอย่างหนึ่ง

แต่ว่า…..ความสุขนี้สั้นเกินไปจริงๆ สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ไม่มีวันจางหายไปชั่วชีวิต

ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวีหรูเจี๋ยในปีนั้น บางทีพวกเขาอาจจะใช้ชีวิตที่มีความสุขและงดงามตั้งแต่ต้นจนจบเช่นนี้ อีกทั้งพวกเธอแม่ลูกก็ไม่ต้องประสบพบเจอกับอุปสรรคมากมายตลอดระยะเวลา 20 ปีนี้ด้วย

เดิมก่อนที่เป่หมิงโม่จะเกิดเรื่อง หลี่เชินก็มีโอกาสมากมายที่จะจัดการกับเขาให้จบสิ้น

จำได้ว่าระหว่างที่พูดคุยกับลู่ลู่ครั้งหนึ่งก็ได้รับรู้อย่างคาดไม่ถึงว่าลูกสาวมีลูกชายฝาแฝดกับเป่หมิงโม่คู่หนึ่ง ทั้งยังมีลูกสาวคนเล็กอีกคนด้วย

นี่ทำให้เขาเริ่มที่จะลังเล

บุญคุณความแค้นและโชคชะตาบนโลกมนุษย์ก็ถูกร้อยเข้าด้วยกันเช่นนี้

บุญคุณความแค้นของผู้อาวุโสที่ลากมาจนถึงรุ่นลูกกลับต้องใช้วิธีการแบบนี้มาอธิบายให้เข้าใจ

ความคิดเดิมที่เคยคิดเอาไว้นั้นไม่สามารถใช้ได้แล้ว เพราะในฐานะผู้ใหญ่ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารุ่นหลานจะมีชีวิตที่มีความสุข

เขาไม่อยากให้เด็กๆทั้งสามคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แม้ว่าตอนนี้กู้ฮอนกับเป่หมิงโม่จะไม่ได้เดินเข้าโบสถ์แต่งงานกันก็ตาม

อย่างน้อยตอนที่ฝ่ายสาวและฝ่ายชายล้วนยังไม่ได้แต่งงานก็ยังถือว่ามีโอกาสอยู่บ้าง

การตายของเป่หมิงเจิ้งเทียน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเดิมงานแต่งงานที่เป่หมิงโม่ต้องการจัดนั้นถูกล้มเลิกไปแล้วจริงๆ

ถังเทียนจื๋อก็เข้าใจว่าตอนนี้อาจารย์ของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าหากอาจารย์ไม่รู้เรื่องนี้แล้วให้เป่หมิงยี่เฟิงกระทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสานในบริษัทเป่หมิงล่ะก็ บางทีอาจจะโยงไปสู่คนคนหนึ่ง นั่นก็คือกู้ฮอนได้

“อาจารย์ครับ สำหรับบุคคลที่ถูกเลือกมาเป็นประธานบริษัทเป่หมิงนั้น ผมคิดว่าคุณควรจะรู้ดีกว่า”

“หืม เธอคิดว่านี่เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้อย่างนั้นหรือ” หลี่เชินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่าทำไมถังเทียนจื๋อถึงได้ให้ความสนใจกับบริษัทเป่หมิงมากนัก

ถังเทียนจื๋อพยักหน้า “ผมคิดว่าจำเป็นมากครับ เพราะว่าก่อนที่เป่หมิงโม่จะถูกนำตัวไปนั้นได้กำหนดให้กู้ฮอนเป็นประธานบริษัท”

***

หลี่เชินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเดาความคิดของเป่หมิงโม่ได้ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก

ตำแหน่งประธานบริษัทสามารถหาใครมาแทนก็ได้อย่างนั้นหรือ นี่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ถึงจะสามารถรับตำแหน่งได้

หรือว่าเป่หมิงโม่คิดว่าเมื่อตัวเองเข้าไปแล้วจะออกมาได้ยากกัน

ได้ยินถังเทียนจื๋อพูดว่า ก่อนหน้านี้เป่หมิงโม่ก็ไม่ถูกกับตระกูลเป่หมิงนานแล้ว บีบบังคับให้เป่หมิงเฟยหย่วน พี่ชายคนโตต้องจากไป ทั้งยังใช้อุบายในการนำสิทธิ์ในหุ้นของเขาทั้งหมดมาครอบครองเอาไว้เอง จนได้กลายเป็นประธานบริษัทเป่หมิง

เขาสามารถพูดได้ว่าพยายามทำทุกวิถีทางอย่างยากลำบากเพื่อที่จะครอบครองบริษัทเป่หมิงเอาไว้ในมือ ทำไมถึงได้ฝากฝังบริษัทเป่หมิงไว้กับเธออย่างสะเพร่าได้กัน

แม้ว่าคนคนนี้จะเป็นลูกสาวของตัวเอง แม้ว่าจะมีความแค้นต่อตระกูลเป่หมิง แต่เขาก็ยังมองปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

เป่หมิงโม่คงไม่ได้ปล่อยมือจากหม้อที่แตกแล้วหรอก เพราะเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรต่อกู้ฮอน แต่ในอ้อมอกเขาก็ยังมีลูก ไม่อาจไม่ทิ้งอะไรไว้ให้กับลูกๆของตัวเองได้

เขาจะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวกู้ฮอนอย่างแน่นอน

“ใช่แล้วครับอาจารย์ ผมสืบมาได้ว่า หลังจากที่กู้ฮอนเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือเธอ นั่นก็คือฉิงฮัว” ตอนนี้ถังเทียนจื๋อก็เสริมขึ้นมาอีกประโยค

เมื่อได้ยินชื่อฉิงฮัวแล้ว หลี่เชินก็ยังวางใจได้บ้าง ลูกสาวของตัวเองมีคนคนนี้เป็นผู้ช่วยแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว

คิดไม่ถึงเลยว่าเป่หมิงโม่จะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับไมตรีจิตที่มีต่อกันคนหนึ่ง ลูกสาวของตัวเองให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวให้กับเขา ตอนที่เขาลำบากก็ไว้วางใจที่จะมอบธุรกิจทั้งหมดให้กับเธอ อีกทั้งยังให้ผู้ช่วยที่มีความสามารถมากที่สุดของตัวเองมาช่วยเหลือด้วย นี่ทำให้ชีวิตของพวกเธอแม่ลูกสี่คนในคืนวันหลังจากนี้นั้นมั่งมีศรีสุข ไม่ต้องกังวลอะไร

หลี่เชินคิดถึงตรงนี้ก็พยักหน้าเล็กน้อย “ดูท่าเป่หมิงโม่ก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรน่าชื่นชมเสียทีเดียว ในเมื่อเขาตัดสินใจแบบนี้แล้ว อย่างนั้นพวกเราก็ควรถอนมือออกมาได้แล้ว”

ถังเทียนจื๋อเข้าใจความตั้งใจของอาจารย์ได้อย่างรวดเร็ว ลูกสาวของตัวเองนั่งอยู่อย่างมั่นคงในบริษัทเป่หมิงแล้ว

“อาจารย์ ถ้าตอนนี้จะถอนมือออกมาก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เพียงแต่ว่าเป่หมิงยี่เฟิงเขาอาจจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ โดยเฉพาะผมได้ยินมาว่าฮอนรับปากกับเป่หมิงโม่ว่าจะเป็นประธานบริษัทให้ชั่วคราวเท่านั้นเอง ถึงเวลานั้นก็ยังต้องมีคนอีกคนหนึ่งมาแทนเธอ”

“นี่ไม่ง่ายหรอกหรือ อย่างนั้นเธอก็จัดการเอาเงินทุนของสองพ่อลูกเป่หมิงยี่เฟิงกลับมาก็ได้แล้ว” ดูเหมือนว่าหลี่เชินจะตัดสินใจช่วยรักษาตำแหน่งของลูกสาวตัวเองเอาไว้ เพียงแค่เป่หมิงยี่เฟิงไม่แย่งมันไป อย่างนั้นคนอื่นๆในบริษัทเป่หมิงก็ไม่มีความสามารถนี้

ถังเทียนจื๋อพยักหน้า “อาจารย์วางใจเถอะครับ ผมเข้าใจแล้วว่าควรจะทำอย่างไร”

*

ถังเทียนจื๋อวางสายโทรศัพท์ เขาเริ่มวางแผนการที่จะนำเงินทุนที่อัดฉีดให้กับเป่หมิงยี่เฟิงก่อนหน้ากลับมา

เรื่องนี้พูดน่ะง่าย แต่เมื่อลงมือทำจริงๆแล้วก็ยังมีความยากอยู่ไม่มากก็น้อย อีกทั้งยังต้องระวังไม่ให้เขาทำเรื่องอะไรที่ส่งผลเสียต่อบริษัทเป่หมิงหรือกู้ฮอนออกมาหลังจากที่ได้รับรู้ว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

แบบนี้จะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียจริงๆแล้ว

*

นับตั้งแต่เฉิงเฉิงและหยางหยางมีความคิดแตกต่างกันเป็นอย่างมากในปัญหาเรื่องที่ว่าจะประกาศหาคู่แต่งงานให้กับคุณแม่แล้วนั้น พวกเขาก็ไม่พูดจากับอีกฝ่ายเลย

มองใครก็ล้วนขัดตาไปหมด

นี่ทำให้จิ่วจิ่วที่อยู่ในฐานะน้องสาวลำบากใจเป็นอย่างมาก เธอไม่อยากเห็นพี่ชายทั้งสองคนมีใบหน้าที่มึนตึงทั้งวี่ทั้งวัน เธอต้องการเหมือนกับเมื่อก่อนที่พี่ชายทั้งสองคนล้วนโอ๋ตัวเองให้อารมณ์ดีในแต่ละวัน

***

ห้าวันผ่านไปนับตั้งแต่เป่หมิงโม่ถูกพาตัวไป

ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลเป่หมิง หรือว่าทางด้านกู้ฮอน ล้วนไม่ได้รับการแจ้งว่าจะพิจารณาตัดสินคดีความเป่หมิงโม่เมื่อใด

ในระหว่างนั้น หลี่เชินก็พาถังเทียนจื๋อมาถึงอาคารเป่หมิง

กู้ฮอนกำลังยุ่งวุ่นวายกับการตรวจสอบเอกสารในห้องทำงาน สองวันมานี้ดูเหมือนว่าทางเป่หมิงยี่เฟิงจะเกิดปัญหาเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ฉิงฮัวได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งที่ไม่ยินยอมเปิดเผยชื่อและนามสกุลคนหนึ่งบอกกับเขาว่า โครงการก่อสร้างของบริษัทเจียเม้ามีพนักงานก่อสร้างคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิต

แม้ว่าฉิงฮัวจะไม่ได้เชื่อเรื่องที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามบอกมาทั้งหมด แต่ว่านี่จะเกี่ยวพันกับเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว อีกทั้งยังเกิดขึ้นหลังจากเป่หมิงโม่ถูกจับไปด้วย

ถ้าหากว่าจัดการไม่ดีแล้วล่ะก็ จะส่งผลกระทับต่อบริษัทเป่หมิงเป็นอย่างมาก

เขาไม่กล้ารีรอ ด้านหนึ่งก็ส่งคนสนิทสองสามคนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ อีกด้านหนึ่งก็แจ้งให้กู้ฮอนรู้ เพื่อให้เธอเตรียมตัวรับมือกับเรื่องทั้งหมดให้ดี

แต่เมื่อกู้ฮอนเตรียมจะเรียกเป่หมิงเฟยหย่วนและเป่หมิงยี่เฟิงพ่อลูกสองคนนั้นมา กลับได้รับข่าวอันน่าประหลาดใจว่าพวกเขาลาป่วยสองวันแล้ว ตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

นี่ทำให้กู้ฮอนรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง

ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ กลับเหลือเธอเพียงคนเดียวที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้

ตอนนี้เองที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก หลี่เชินและถังเทียนจื๋อเดินเข้ามา

แม้ว่าฉิงฮัวจะไม่เคยพบกับหลี่เชิน แต่เขากลับรู้จักถังเทียนจื๋อ ดูท่าผู้มาเยือนอย่างพวกเขาจะมีเจตนาไม่ดี จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาเดินอ้อมที่นั่งของตัวเองมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขวางอยู่ที่ด้านหน้าพวกเขา “ขอโทษด้วยครับ พวกคุณเข้ามาได้อย่างไรกัน ได้นัดเอาไว้หรือไม่ครับ”

หลี่เชินสีหน้าทะมึนเหลือบมองไปที่ฉิงฮัว เดิมอารมณ์เขาก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นของเขา จะมากจะน้อยก็ต้องกดอารมณ์โมโหของตัวเองไว้บ้าง “การที่ผมมาพบลูกสาวของผมจำเป็นต้องนัดเวลาด้วยหรืออย่างไร”

ประโยคนี้ทำให้ฉิงฮัวตะลึงค้าง

เขาก็ได้ยินมาบ้างว่า คุณพ่อของกู้ฮอนนั้นหาร่องรอยไม่ได้มานานแล้ว แต่จู่ๆวันนี้โผล่มาได้อย่างไรกัน

เห็นเพียงแค่ใบหน้าท่าทางจริงจังเข้มงวดเป็นอย่างมากของผู้ชายคนนี้ หว่างคิ้วแสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามที่ทำให้ผู้คนต้องหลีกเลี่ยงการปะทะออกมา

อีกทั้งด้านหลังเขากลับเป็นบุคคลที่เขารังเกียจและไม่พอใจมากที่สุดอย่างถังเทียนจื๋อ

นี่ทำให้เขาสงสัยเล็กน้อยว่า ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ด้านหน้าท่านนี้พูดความจริงหรือไม่

ไม่ต้องรอให้หลี่เชินและถังเทียนจื๋อเอ่ยพูดอะไรก็ได้ยินเสียงกู้ฮอนลอยมาจากด้านหลังตัวเอง “ฉิงฮัว ฉันรู้จักสองคนนี้”

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท