บทที่ 858 อย่าให้เขามาทำอะไรมั่ว ๆ
ต่อให้ไม่ใช่กู้ฮอน ทุกวันนี้เขาก็ยังต้องกัดฟันยืนหยัดต่อไป ให้ใครคนที่บ้านตัวเองไปสร้างปัญหากับคนกลุ่มนี้ล่ะ ซึ่งตอนนี้ไม่อาจจะถอนตัวออกมาได้แล้ว
สิ่งที่ตัวเองทำได้ ก็จะต้องรู้อย่างชัดเจนว่าถังเทียนจื๋อมาทำอะไร หากจะทำเพื่อให้เป่หมิงโม่ออกจากตระกูลเป่หมิง ก็จะยืนมองอย่างเฉย ๆ
เพราะว่าต่อให้กู้ฮอนจะออกจากตระกูลเป่หมิง เธอก็ยังมีชีวิตที่ดี เธอสามารถเป็นทนายต่อไปได้ และยังมีทรัพย์สินของเป่หมิงโม่อีก ถึงแม้เธอไม่ได้รับมาทั้งหมด แต่ได้สักนิดหนึ่งก็ทำให้เธอและลูก ๆ มีชีวิตที่ดีได้อย่างแน่นอน
แต่ ถังเทียนจื๋อนอกจากสิ่งพวกนี้แล้ว ยังมีเล่ห์กลอื่น ๆ ซ่อนอยู่ หากเขามีความคิดที่จะทำลายตระกูลเป่หมิง นั่นคือการล้ำเส้นของเขา
ก็ไม่อาจจะที่จะยืนมองเฉย ๆ ได้แล้ว
ตั้งแต่ถังเทียนจื๋อปรากฎต่อหน้าเป่หมิงยี่เฟิง ณ เวลานั้น เป่หมิงยี่เฟิงก็คิดแล้วคิดอีก คิดมากด้วย
ตอนนี้เขามีใบหน้าที่ค่อนข้างจริงจังต่อหน้ากู้ฮอน และยังมีท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ
เขายิ้มให้กับกู้ฮฮน “กู้ฮอน คนเป็นประธาน คุณมีอำนาจที่จะควบคุมฉันทั้งหมด และการกระทำของฉัน แต่ในแวดวงนี้ ประสบการณ์การใช้คน รู้จักคน ฉันกลับมีประสบการณ์มากกว่าคุณมากมายเลย ถังเทียนจื๋อเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยฉันเท่านั้นเอง มาช่วยฉันทำงาน อีกอย่างคุณก็เคยเป็นทนายให้กับเขาไม่ใช่หรือ ในเมื่อคุณยังสามารถร่วมงานกับเขาได้ ทำไมเปลี่ยนมาเป็นฉันไม่ได้ล่ะ ? ”
เป่หมิงยี่เฟิงสวนกลับไปทำให้กู้ฮอนพูดอะไรไม่ออกมา ไม่ว่าจะยืนอยู่ในมุมมองของตระกูลเป่หมิง หรือว่ามุมมองของตัวเอง สิ่งที่เธอจะอธิบายออกมาก็คงจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
เงียบไปสักครู่ เธอก็มองไปยังเป่หมิงยี่เฟิงแล้วพูดว่า “ยี่เฟิง คุณพูดไม่ผิดเลย ในด้านประสบการณ์การค้าขาย ฉันไม่สู้คุณเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ฉันรู้จักกับถังเทียนจื๋อนานกว่าที่คุณรู้จักเสียอีก ใช่ ฉันฟ้องร้องแทนเขา ให้เขาพ้นผิด เพราะเช่นนี้ ฉันก็เลยเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งเรื่องที่มองไม่เห็น ฉันเรียกคุณมาครั้งนี้ไม่ใช่ใช้ฐานะทางตำแหน่งมากดดันหรือควบคุมคุณ แต่แค่อยากจะมาปรึกษาและพูดคุยเพื่อหวังว่าคุณจะคิดให้ละเอียดและรอบคอบมากกว่านี้ ถังเทียนจื๋อคนนี้ใช้ไม่ได้ เขาอันตรายมาก”
คำพูดที่กู้ฮอนพูดถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง เหมือนกับเป่หมิงโม่กำลังเห็นกู้ฮอนที่เขาเคยรู้จัก
สายตาที่น่ากลัวของเขากลับกลายเปลี่ยนเป็นสายตาที่อ่อนหวาน “กู้ฮอน คนีท่เป็นเพื่อนกัน ฉันขอขอบคุณที่คุณพูดความจริงกับฉัน แต่ฉันก็ยังคนเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณ แต่ให้เขาเป็นคนที่น่ากลัวและเลวร้ายขนาดไหน ก็ยังมีส่วนที่เป็นประโยชน์ การเป็นคนที่อยู่ภายใต้อำนาจคุณ ฉันจะให้คำตอบกับคุณคือ คนนี้ฉันจะใช้อย่างแน่นอน แน่นอนว่าฉันก็จะนำความคิดเห็นของคุณไปครุ่นคิด ฉันจะระวังเขาให้มากกว่านี้ ไม่ให้ตระกูลเป่หมิงเกิดอะไรขึ้นหรอก”
เป่หมิงยี่เฟิงพูดถึงตรงนี้ ก็ก้มหน้าดูนาฬิกา แล้วก็พูดอย่างขอโทษว่า “ขอโทษที่กู้ฮอน ฉันยังมีเรื่องที่จะต้องสะสางอีก หากไม่ได้มีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ ฉันก็ขอตัวก่อนนะ” พอพูดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินไปยังประตูทางออก
……
เป่หมิงยี่เฟิงออกไปแล้ว กู้ฮอนได้พูดกับฉิงฮัวว่า “ดูแล้วยี่เฟิงจะยืนหยัดในการช่วงใช้ถังเทียนจื๋อ การปรากฏตัวของเขาไม่ใช่ความหมายที่ดีสำหรับตระกูลเป่หมิง”
แน่นอนว่าฉิงฮัวก็เข้าใจดี ตอนนี้เขาเป็นห่วงอย่างที่สุด ตอนนี้เจ้านายก็อยู่ที่คุก เผชิญกับคุณชายยี่เฟิงก็ทำให้คุณผู้หญิงลำบากใจแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีถังเทียนจื๋อมาเพิ่มอีกหนึ่งคน
ไม่รู้ว่ากู้ฮอนจะยืนหยัดได้อีกนานสักเท่าไหร่
“คุณผู้หญิง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไร ? บริษัทนี้ก็สร้างมาจากคุณท่านและเจ้านาย ฉันไม่อยากเห็นคุณชายเป่หมิงและถังเทียนจื๋อมาทำลายไป”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ให้พวกเขามาทำอะไรเรื่อยเปื่อยหรอก ยี่เฟิงเขาก็คงไม่ทำอะไรมั่ว ๆ ในมือคุณไม่ใช่มีคนอีกหลายคนหรือ ให้พวกเขาไปออกไปทำงานสักหน่อย ตอนนี้แผนกออกแบบไม่ใช่หาสมัครคนอยู่หรือ ให้คนพวกนี้สมัครเข้าไป แล้วอีกส่วนหนึ่งก็เฝ้าดูการกระทำของถังเทียนจื๋อ……” กู้ฮอนได้ให้ฉิงฮัวไปจัดการ
ถึงแม้ว่ากู้ฮอนไม่รู้เรื่องการวางแผนสักเท่าไหร่ แต่ยังดีที่เธอก็ได้ดูพวกหนังสือการต่อสู้ในราชวังหรือหนังละคร
เธอเห็นว่าบริษัทและราชวังในสมัยโบราณก็มีการปกครองที่ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
……
กู้ฮอนและฉิงฮัวได้ปรึกษากันอยู่ที่ห้องทำงานประธานบริษัท ซึ่งกำลังวางแผนและจัดการงานอย่างละเอียดรอบคอบ
ในบ้านของลั่วเฉียว ก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับเธอหนึ่งเรื่อง ก็ยังมีการดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ
ขณะที่กู้ฮอนและฉิงฮัวได้ขับรถออกมา ลูก ๆ ทั้งสามคนที่กำลังแกล้งนอนหลับอยู่ก็ลุกขึ้นมา
เด็กน้อยก็เป็นเช่นนี้ ในใจเหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ หากนอนไปแล้วก็จะดูไม่เหมือนจริงเท่าไหร่
“พี่ชายเฉิงเฉิง พี่ชายหยางหยาง หม่ามี๊เดินออกไปแล้ว” จิ่วจิ่วได้ยินเสียงรถที่อยู่ไกล ๆ ก็เลยพูดเบา ๆ ออกมา
เฉิงเฉิงก็ได้ค่อย ๆ ปีนขึ้นมา แล้วก็เอามือไปแง้ม ๆ หน้าต่างดู ความจริงแล้วอยู่บนตึก ต่อให้พวกเขาจะเดินแบบธรรมดา ด้านล่างก็ไม่ได้ยินอะไร
หลังจากที่มั่นใจในความปลอดภัยแล้ว เขาก็ได้หันกลับมาพูดว่า “ลุกขึ้นมาเถอะ”
หยางหยางได้ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “อั้ยหยา ฝันไปหนึ่งตื่น เหนื่อยจริง ๆ เลย”
“หยางหยาง จิ่วจิ่ว วันนี้คนทำรายการจะพาพวกคุณไปอัดรายการนะ ตอนนี้ไปเตรียมตัวก่อน” เฉิงเฉิงหันมาจากหน้าต่าง
“พี่ชายเฉิงเฉิง คุณจะไม่ไปกับเราจริง ๆ หรือ ?” จิ่วจิ่วได้ยินว่าเฉิงเฉิงไม่ไปด้วย ก็รู้สึกถึงความสงสัย
“เรื่องแบบนี้ฉันจะไม่เข้าร่วมแล้วล่ะ และฉันยังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำอีก เรื่องนี้อาจจะสัมพันธ์ไปถึงเรื่องของพ่อที่จะสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัยไหม ” เฉิงเฉิงพูดเสร็จ ก็ได้มายังหน้าโต๊ะของตัวเอง หลังจากนั้นก็เปิดคอมขึ้นมา
พอพูดถึง “คุณพ่อ” สองคำนี้ จิ่วจิ่วก็คิดไปถึง “ปีศาจสุขา” ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป แล้วก็วิ่งออกไป
และครั้งนี้เฉิงเฉิงก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร “น้องสาวเป็นอะไร ?”
เฉิงเฉิงที่มีสภาพงงงวย หยางหยางก็หัวเราะออกมา “แหะ ๆ น้องสาวคงจะถูกคุณพ่อทำให้ตกใจแล้วก็ไปห้องน้ำอีกแล้วล่ะ ก็มีแต่คุณแม่นี่แหละ ที่ทำให้คุณพ่อกลายเป็นปีศาจสุขา คุณดูสิ คุณแม่มีความคิดแบบนี้ต่อเขาแล้ว พวกเรายังจำเป็นที่จะต้องช่วยคุณพ่ออีกหรือ ?”
เฉิงเฉิงฟังประโยคนี้แล้วก็รู้สึกไม่พอใจ “หยางหยาง ตอนแรกคุณก็ตอบรับกับฉันแล้วว่าจะไม่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคุณพ่อไง ฉันถึงยินยอมที่จะช่วยคุณ คุณอย่ามากลับกลอกแบบนี้ หากฉันจะโทรศัพท์แค่ครั้งเดียว เรื่องของพวกเราวันนี้ก็จะได้รู้กันหมด”
หยางหยางรีบส่ายมือ “อย่าเลย ฉันก็แค่ล้อเล่นเอง และอีกอย่างฉายาปีศาจสุขาก็เป็นคุณแม่ตั้งขึ้นมา ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับฉันเลยสักนิด”
……
ด้านล่าง แอนนิและลั่วเฉียวกำลังพูดคุยกันอยู่บนโซฟา ช่วงนี้ท้องของลั่วเฉียวได้มีการขยับมากยิ่งขึ้น
“แอนนิ ฉันกำลังจะคลอดแล้วหรือ ? ” ลั่วเฉียวได้ลูบที่ท้องตัวเองเบา ๆ ใบหน้ามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
หลังจากตั้งท้องเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เธอเหมือนกับยังไม่ได้เตรียมตัวกับการเป็นแม่คนเลยสักนิด ถึงแม้ช่วงนี้เธอจะเตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับทารกแรกเกิดขึ้นมามากมายก็ตาม แม้กระทั่งฉิงฮัวก็ได้มีการเตรียมห้องให้กับลูกของตัวเองด้วย
แอนนิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูวันเดือนปี หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ดูจากเดือนแล้ว คุณใกล้จะกลายเป็นแม่คนแล้วล่ะ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นไหมล่ะ ?”
ลั่วเฉียวก็ถอนหายใจ ใบหน้าเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ “แน่นอนว่าตื่นเต้นสิ ไม่รู้ว่าเด็กที่เกิดมาจะเป็นลูกสาวหรือลูกชาย มีหน้าตาเหมือนฉันก็ยังพอพูดไปได้อยู่ หากเหมือนกับฉิงฮัวแล้วล่ะก็……”
พอพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเธอก็รู้สึกมีความไม่ชอบเล็กน้อย
แอนนิเห็นเธอที่มีท่าทางแบบนี้ก็เลยยิ้มมุมปาก “ทำไมล่ะ ? ตอนนี้คุณก็เริ่มไม่ชอบเขาแล้วหรือ ? เขาคือคนที่คุณเลือกเป็นคู่ชีวิตเลยนะ”
“ฉันเลือก ? นั่นคือการเลือกที่ไม่มีทางเลือก หากให้โอกาสฉันอีกรอบหนึ่งแล้วล่ะก็ ฉันยินยอมที่จะไม่ยอมมีอะไรกับเขาในคืนนั้นหรอก ฉันคงจะไม่สูญเสียอาชีพการแสดงของฉันไป ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต ……. ฉันรู้สึกมีความคิดถึงวัยเยาว์ที่ฉันสูญเสียไป”
เห็นลั่วเฉียวที่มีท่าทีเหม่อลอย แอนนิก็ได้ตบไหล่เธอ “ช่างมันเถอะ อย่าไปอะไรมากมายนักเลย ดูคุณสิ ตอนนี้มีบ้านให้อยู่ มีรถหรูให้นั่ง ยามปกติก็ยังมีอาหารดีดีเสื้อผ้าดีดีให้กับคุณอีก ฉิงฮัวก็ไม่ได้บกพร่องในการดูแลคุณเลยนะ แค่นี้ก็ทำให้คนอื่นอิจฉาคุณแล้วล่ะ คุณอยู่ในความสุขแล้วก็อย่าคิดว่าไม่มีความสุขสิ”
“แต่ในใจฉันกลับรู้สึกถึงความไม่สบายใจเลย”
“คุณคงไม่เป็นโรคซึมเศร้าหรอกนะ”
ลั่วเฉียวเม้มปากตัวเอง แล้วก็ส่ายหัวเบา ๆ
ตอนนี้ เห็นจิ่วจิ่วได้วิ่งเข้าไปห้องน้ำอีกรอบหนึ่ง
“เฉียวเฉียว คุณนั่งที่นี่ก่อนนะ ฉันจะไปดูจิ่วจิ่วก่อนนะว่าเป็นอะไร ” แอนนิพูดเสร็จก็เดินไป
“หนูน้อย ไม่เป็นไรใช่ไหม ?” แอนนิได้เปิดประตูห้องน้ำเบา ๆ เห็นจิ่วจิ่วนั่งอยู่บนชักโครก
พอเห็นแอนนิ ในใจของเธอก็เริ่มสงบขึ้นมาอีกครั้ง “ต้องโทษพี่ชายที่นิสัยไม่ดี”
แอนนิรู้สึกตกใจ “พวกเขาไม่ใช่รักเรามากเลยไม่ใช่หรือ ? ทำไมทำให้เราโกรธล่ะ ?”
“ก็พวกเขาพูดถึงชื่อของคุณพ่อไง…..”
แอนนิฟังแล้ว ก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอก็เลยยิ้มออกมา “ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่ไม่ดีเลยนะ โดยเฉพาะเฉิงเฉิง เขาเติบโตมากับพ่อ ก็เหมือนกับที่หยางหยางและคุณเติบโตมากับแม่ไงล่ะ ก็จะต้องคิดถึงแม่เป็นธรรมดา”
“แต่ แต่ว่าพอได้ยินคำว่าพ่อ ก็คิดถึงที่คุณแม่บอกว่าปีศาจสุขา แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ” จิ่วจิ่วแน่นอนว่าเข้าใจในความหมายนี้ แต่ในใจเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ และไม่สามารถรับมันได้เลย
“งั้นคุณก็ไม่ต้องพยายามไปคิดก็ได้แล้ว ไม่งั้นก็คิดไปถึงเรื่องอื่น แบบนี้ก็คงจะทำให้มันดีขึ้น”
จิ่วจิ่วมีความอยากรู้อยากเห็น “งั้นจะจินตนาการให้คุณพ่อเป็นอะไรดีล่ะ ? แอปเปิล สับปะรด หรือว่ากล้วยหอม หรือตุ๊กตาดีล่ะ ?”
แอนนิยิ้มอ่อนออกมา “งั้นก็ต้องดูคุณแล้วล่ะ เพียงแต่เป็นสิ่งของที่คุณไม่กลัวก็พอแล้ว”
ณ ตอนนี้ หยางหยางก็วิ่งลงมา แล้วก็ถามลั่วเฉียวว่า “คุณน้าลั่วเฉียว เห็นน้องสาวไหม ?”
…..
ลั่วเฉียวยังไม่ทันพูดเสร็จ แอนนิก็เดินจับมือจิ่วจิ่วออกมาแล้ว
“หยางหยาง คราวหลังคุณกับเฉิงเฉิงอย่าพูดถึงคุณพ่อบ่อยได้ไหม ? ” แอนนิเห็นหยางหยางมาที่นี่ก็เลยพูดออกมา
หยางหยางก็ได้ยกมือขึ้นมา แสดงถึงว่าตัวเองไม่ได้ผิด “ก็จะต้องโทษเฉิงเฉิง เขาได้พูดถึงคุณพ่อขึ้นมา”
“ติ๊งต่องงงง”
กระดิ่งที่แขวนอยู่บนห้องรับแขกก็ดังขึ้นมา
แอนนิก็ได้เดินไปกด
และก็ได้มีเสียงผู้ชายพูดเข้ามา “สวัสดีครับ ฉันเป็นยามของเขตนี้ รถของรายการXXXมาจอดอยู่ตรงหน้าทางเข้า พวกเขาจะมาสัมภาษณ์คุณหญิงกู้ฮอน ไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้ไหม