เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – บทที่ 892 กล่าวถึงจิ่วจิ่ว

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 892 กล่าวถึงจิ่วจิ่ว

บทที่​ 893 กล่าวถึงจิ่วจิ่ว

“ในเมื่อข้อตกลง​ของเราทั้งสองฝ่ายทำสำเร็จแล้ว เพื่อให้ทุกคนสะดวกสบาย​ ถ้าอย่างนั้น​พรุ่งนี้ก็เชิญ​คุณ​หนูแอนนิมาเซ็นสัญญา​ที่บริษัท​เป่หมิง​เลย​ ถึงเวลาเราเอาสัญญาส่งไปพร้อม​กัน​ ส่วนสิ่งที่เราสามารถ​เสนอ​ให้​กับคุณ​ ไม่เพียงแค่เงินที่สนับสนุน​เท่านั้น​ ยังเสนอหน้าร้านที่ใกล้จะสร้างเสร็จ​สมบูรณ์​ให้กับคุณ​อีกด้วย​ ใหญ่​เล็กได้หม​ด เพียงแค่คุณ​ไปเลือก​ จากนั้นพูดกับฮอนก็ได้แล้ว”

คำพูดโม้จิ่งเฉิงทำให้แอนนิตกใจ​ นี่มันเกินความคาดหมาย​ของเธอมากเกินไปมากเกินไป​แล้ว​

เธอรีบผายมือปฏิเสธ​พูดว่า:” ประธานโม้ จะให้หนูพูดอะไรดีน๊า​ ความจริง​ท่านและฮอนเป็นคนช่วยหนู​ หนู​เกรงใจมากทั้งรับเงินและยังเลือกหน้าร้านอีก​ แค่เสนออะไรให้กับฉันก็ได้ในพื้นที่ที่กว้างห้าสิบถึงหกสิบตารางเมตร​”

“แบบนี้ไม่ได้นะ​ พื้นที่กว้างแค่เนี้ย​จะพัฒนา​ได้อย่างไร​ ต่อให้ทำได้แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกนาน​ เกรงว่ารอให้ผมตายก็ยากที่จะได้เห็นขนาดของมันแล้ว​ เฮอเฮอ ทำงานใหญ่​ทุกเรื่อง​ ก็อย่ากลัวหน้าร้านมันใหญ่​ หน้าร้านใหญ่​ สามารถ​ร่วมรวมชื่อเสียงของคนได้มากขึ้น​ นอกจากสะดวกสบาย​ในการบริหาร​ ความกดดันที่นำมาก็จะทำให้หนูทำธุรกิจ​นี้อย่างตั้งใจมากขึ้น​”

โม้จิ่งเฉิงพูดถึงตรงนี้​ หันหน้าไปทางแอนนิ ตั้งใจกดเสียงให้ต่ำลง​เล็กน้อย​ แกล้ง​ทำเป็นน้ำเสียงที่ลับลมคมใน​ว่า:” อีกอย่าง​ สำหรับธุรกิจ​ เราหวังว่าได้ทุนคืนกลับมาล่วงหน้า​ จากนั้นก็ไปถึงผลประโยชน์​ไรไม่ใช่หรือ? ”

” เฮอเฮอ​ นี่เป็นเรื่องดี​ แต่ว่าโม้ คุณพูดแบบนี้ทำให้เด็กมันตกใจ​ ทำให้รู้สึก​ว่าคุณ​เป็นคนคิดแต่จะเอาผลประโยชน์​อย่างเดียว”

หวีหรูเจี๋ยพูดอยู่​ลุกขึ้นมาเดินไปข้างๆแอนนิ ตบไหล่เธอเบาๆ:” หนูจ๋า​ อย่ากลัว​ เขาชอบพูดเล่น​ ร้านใหญ่​มีข้อดี​ของมัน​ ร้านเล็กก็มีข้อดีของมัน​ ขอแค่อยู่ในความสามารถ​ที่หนูรับผิดชอบ​ได้ก็เพียงพอแล้ว”

แอนนิพยักหน้า​แรงๆ:” ขอบคุณ​ค่ะ​ หนูจะพยายาม​ทำให้เต็มที่ค่ะ”

หวีหรูเจี๋ยพยักหน้า​อย่างพอใจ​ จากนั้นหันไปพูดกับโม้จิ่งเฉิงว่า:” ธุระ​ของเราในวันนี้เสร็จ​สิ้นเรียบร้อย​แล้ว​ ควรกลับไปแล้วใช่ไหม”​

โม้จิ่งเฉิงพยักหน้า​:” อืม อยู่​ที่​นี้ก็นานแล้ว​ ควรกลับไปได้แล้ว” พูดอยู่​ เขาค่อยๆลุกขึ้นมาจากโซฟา

” คุณโม้ป้าหรูเจี๋ยทำไมกลับไปเร็วจังเหรอคะ​ ท่านดูสิคะ​ ช่วยเหลือ​หนูตั้งเยอะ​ หนูยังไม่ได้ต้อนรับท่านทั้งสองดีๆเลยค่ะ​ เอาอย่างงี้​มั้ยคะทานข้าวเย็น​กับพวกเราที่นี่เถอะ​ค่ะ”

” อย่าเลยอย่าเลย​ ถ้าอยากตอบแทนเราแล้วละก็​ ไม่ต้องรีบร้อน​ก็ได้​ รอให้ร้านอาหาร​ของหนูเปิดทำการแล้วค่อยเลี้ยงเราก็ไม่สาย​ เอาหล่ะ เรากลับไปก่อนแล้วนะ”

แอนนิและกู้ฮอนส่งพวกเขาออกไปจากบ้านเดี่ยว​ตลอดทาง​ จากนั้นมองดูพวกเขาขับรถยนต์​ออกไป​ จนกว่าไม่เห็นข้างหลังของพวกเขาแล้วถึงกลับไปที่บ้านเดี่ยว​

สำหรับแอนนิวันนี้ถือว่าโล่งใจ​แล้ว

เพียงแต่ว่าความกลุ้ม​ใจของกู้ฮอนยังไม่ได้กำจัดหายไป

***

หลังส่งโม้จิ่งเฉิงพวกเขาเรียบร้อย​ กู้ฮอนกลับไปที่บ้านเดี่ยว​ ยังคงรู้สึก​ถึงความกดดัน​ นั่นก็คือความกดดัน​ที่เป่หมิงโม่นำมาให้กับเธอ

คนแก่ได้ขับรถ​กลับไปแล้ว​ แต่ว่ายังมี​อีก​คนที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างนิ่งเฉย ไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเลยสักนิด​

ไม่ต้องพูด​ นั่นก็คือเป่หมิงโม่

มือของเขากำลังถือน้ำชาไว้​ นั่งไขว่ห้างและลิ้มลอง​น้ำชาอย่างสบายๆ

แอนนิสบตาให้กับกู้ฮอน “ฮอน ฉันไปดูเฉียวเฉียวบนตึกทางโน้น​ว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย”

“เฮ้ย…………”

ไม่รอให้กู้ฮอนพูดอะไร​สักคำ แอนนิก็หาข้ออ้างหนีไปแล้ว

ในห้องรับแขก​เหลือแค่พวกเขาสองคนแล้ว

กู้ฮอนนั่งก้มหัวอยู่​ที่โซฟา​ มีความรู้สึก​ว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง​สักเท่าไหร่​ เหมือนเป่หมิงโม่กำลังจ้องตัวเองอยู่ตลอดเวลา​

แต่ว่าเธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย​ แอบมองไปทางเป่หมิงโม่​ ตั้งแต่ต้นจนจบ​สายตาของเขากลับไม่ได้คลาดสายตา​ไปจากน้ำชาในแก้ว

“ขอบคุณ​นะ” เธอพูดไปนึงคำเบาๆ

เพียงแต่ว่าเสียงนั้นมันเบาซะจน​ ตัวเองก็เกือบ​ไม่ได้​ยินเหมือนพูดกับเขา​ แต่ไม่อยากให้เขาได้ยิน

“ขอบคุณ​อะไรผม?” เป่หมิงโม่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองเห็นกู้ฮอนกำลังก้มหน้าพอดี​ สายตาของเขาสับสน​มาก​ ไม่ได้โกรธ​และไม่ได้ดีใจ

“ขอบคุณ​ที่คุณช่วยเหลือแอนนิ”

“อืม น้ำชารสชาติ​ไม่เลว” เป่หมิงโม่พูดคนเดียว​ออกมา​หนึ่งคำ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมาดื่มน้ำชาในแก้วจนหมดแก้ว​ จากนั้นเอื้อม​ตัวไป​ หยิบกาน้ำชามาเทอีกหนึ่งแก้ว​เต็ม​ๆ เหมือนที่เขาพูดเมื่อสักครู่​พูดอย่างไม่ได้ใส่ใจ​

ขณะที่​เขามีความสุข​กับการสูดดม​กลิ่นหอม​ที่โชยออกมา​จาก​น้ำชา​ ค่อยๆพูดออกมานึงคำ:”เมื่อสักครู่​ผมเคยพูดไปแล้ว​ เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ” ไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักนิด​ นี่เป็นการค้าขายที่บริษัท​เป่หมิงและบริษัท​GTที่ร่วมทำกับแอนนิก็แค่นั้น​เอง​ ถ้าจะขอบคุณ​ เธอควรจะขอบคุณ​คุณ​ถึงจะถูก​ แต่ว่าถ้าจะให้พูด​ ตอนที่แอนนิอยู่​ที่​เมืองซาบาห์เธอดูแล​จิ่วจิ่ว มาตั้งนาน​ นี่ก็เป็นสิ่งตอบแทน​ที่เธอควรได้รับ”

กล่าวถึงจิ่วจิ่วปุ๊บ​ สติกู้ฮอนตื่นตระหนก​โดยไม่รู้ตัว​ อย่าดูหน้าตาที่เงียบสงบ​ของเป่หมิงโม่ที่เขาแสดงออกมา​ ส่วนใหญ่​ใต้ความสงบแบบนี้แหละมักซ่อนความอันตราย​เอาไว้

เธอก็ต้องยอมรับ​ ต่อให้ตัวเองได้ใบประกาศ​ทนายความมาแล้วก็ตาม​ แต่ว่าถ้าวันข้างหน้า​ต้องต่อสู้คดีแย่งลูกกันอีกครั้ง​ แต่ว่าตอนนี้เป็นแค่เพียง​มือใหม่​เท่านั้น

ส่วนเป่หมิงโม่ยังคงแค่กวักมือแบบเบาๆ ก็สามารถ​เคลื่อนย้าย​ทนายความออกมาเป็นชุดใหญ่​ๆมาช่วยต่อสู้​คดีให้กับเขา

ที่สำคัญ จินตนาการ​ไม่ยากเลย​ ต่อให้ตัวเองพยายาม​แค่ไหน​ มันก็ฝืนต่อสู้ได้แค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น​สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี

“อย่าใช้สายตาที่ระมัดระวัง​มามองผม​ หรือว่าคุณ​ยังกลัวผมจะพาจิ่วจิ่วไปเหมือนครั้งก่อนหรือ?” พูดอยู่สายตาอันแหลมคม​ของเป่หมิงโม่เจอกับสายตา​ ของกู้ฮอนพอดี

ทำให้สันหลัง​ของกู้ฮอน​รู้สึก​”ซือ” ออกมาหนึ่งครั้ง​ มีความเยือกเย็น​ออกมา​ ความเยือกเย็น​แบบนั้นมันออกมาจากกระดูก​ เส้นขนบนร่างกายทุกส่วนมันลุกขึ้น​มา

เธอเหมือนถูกสาปแช่ง​ พยักหน้า​เหมือนหุ่นยนต์​ พอเธอได้สติกลับมาอีกครั้งก็รีบส่ายหน้า​อย่างสุดกำลัง

เธอไม่อยากอยู่ต่อหน้าเป่หมิงโม่​ แสดงความกลัวของตัวเองออกมา​ ต่อให้ไปถึงขั้นนั้นจริงๆ​ ก็ทำให้เขาดูถูก​ตัวเอง​ไม่ได้

***

สีหน้าที่นิ่งสงบของเป่หมิงโม่เริ่มอ่อนโยน​ขึ้นมาบ้างแล้ว​ เขารู้จากจิตใต้สำนึกของตัวเองว่ากำลังทำให้ผู้หญิง​ตรงหน้าตกใจ

“ตอนนี้ผมยังไม่พาเธอกลับไปด้วยหรอกนะ​ ทีนี้คุณ​สบายใจขึ้นมาบ้างหรือยัง”

“ได้ยินคำพูดนี้​ กู้ฮอนโล่งอกและเป่าลมหายใจ​ออกมาเบาๆ แต่ว่าเธอยังถามไปอีกหนึ่งคำว่า:” อะไรคือ’ยังไม่พาไปตอนนี้’​ หรือว่าคุณ​อาจจะ​คิดว่ามีโอกาส​ที่เหมาะสมเมื่อไหร่คุณ​ก็​จะ​พาเธอกลับไปเลย? ถ้าหากแผนการ​คุณ​เป็นแบบนี้​ งั้นฉันจะบอกให้คุณ​อย่างชัดเจน​:” ฉันจะไม่ให้จิ่วจิ่วไปจากฉัน​ ต่อให้คุณ​ต้องการสู้คดี​ ฉันก็จะสู้กับคุณ​ให้ถึงที่สุด​”

เป่หมิงโม่ยักคิ้ว​ข้างนึงเบาๆ​ เขายกน้ำชาขึ้นมาดื่มอีกครั้ง:”คุณ​อาจเข้าใจความหมาย​ของผมผิดไปแล้ว​ ความจริงผมอยากพูดว่า…….”

“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด​ คุณ​ไม่เคยรับรู้​ถึงความรู้สึกในความ​เป็นแม่คนนึง ไม่เข้าใจหรอกว่าลูกสำคัญแค่ไหนต่อใจของเเม่”ไม่รอให้เขาพูดจบ​ กู้ฮอนก็แย่งคำพูดกลับมาแล้ว

*

พอฟ้าค่อยๆมืดเคริ้ม ขณะที่​ไฟถนนสว่างขึ้น​มา​ ฉิงฮัวและแอนนิเพิ่งออกมาจากห้องนอนลั่วเฉียว​ พวกเขารู้สึกว่าเวลาที่ให้กับกู้ฮอนและเป่หมิงโม่มันมากพอแล้ว

ปัญหา​ที่มากมาย​ อาจจะได้รับการแก้​ไขกับการพูดคุยกันที่ยาวนานในครั้งนี้แล้ว

แต่ว่าพอพวกเขาลงมาเห็นปุ๊บ​ มีแต่กู้ฮอนเท่านั้นที่นั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว​ ตรงข้ามของเธอมีแต่โซฟาที่ว่าง​เปล่า​ ยังมีน้ำชาแก้วนึงที่ดื่มไปได้แค่ครึ่ง​แก้ว

“ฮอน……..” แอนนิเดินมาข้างๆเธอ​ และเรียกไปนึงคำเบาๆ

เห็นแต่สายตาของเธอเงียบสงบ​มากๆ​ เงียบสงบจนทำให้คนรู้สึก​ไม่สบายใจ

“คุณ​หนูครับ​ เจ้านายกลับไปเมื่อไหร่​หรอครับ? ฉิงฮัวรีบถามขึ้นมานึงคำ

” กลับไปได้สักพัก​แล้ว​ “กู้ฮอนพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ

แอนนินั่งลงไปข้างๆเธออย่างเป็นห่วง​ ยื่นมือไปจับมือของเธอมา รู้สึก​ว่า​ระหว่าง​นิ้วมือของเธอมีแต่ความเยือกเย็น​ออกมา​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยังสั่นคลอน​เล็กน้อย​อีกด้วย​

ความรู้สึก​ที่ไม่ดีก็ได้ขึ้นมาในหัวใจ:”ฮอน พวกคุณ​คุยเรื่องจิ่วจิ่วไม่สำเร็จใช่มั้ย? เป่หมิงโม่จะแย่งลูกไป?”

*

ไฟที่บ้านเดี่ยวกลางภูเขา​สว่างขึ้นมาอีกครั้ง​ เป่หมิงโม่กลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่า​อย่างโดดเดี่ยว​เดียวดาย​

เขาไม่เคยรู้สึก​ว่าร่างกายและหัวใจมันช่างเหนื่อยล้าถึงเพียงนี้​ ล้มลงไปที่โซฟาโดย​ตรง

นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขานอนอยู่ที่นี่​

ส่วนครั้งแรกที่อยู่ที่นี่​ ก็คือคืนที่อยู่​กับกู้ฮอน​ในคืนนั้น..

….

สำหรับครั้งที่สอง​ ก็คือเมื่อคืน​ นอนคนเดียว​ที่นี่ตลอดทั้งคืน​จนถึงเมื่อเช้าถูกความหนาวเย็น​ทำให้ตื่น​ ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ห่มผ้าห่ม​ทั้งคืน​

ในวันนี้​ เขาขับเรือพาพวกเขาออกมาที่ทะเล​ แล้วก็ถูกลมทะเล​เป่า

ในขณะนั้น​ เขาก็​รู้สึก​ว่า​ร่างกายตัวเองไม่ค่อยสบาย​บ้างแล้ว​ แต่ยังคงอดทนไว้

ไม่ใช่อะไรหรอก​ ตอนนั้นเขาไม่อยากให้หลี่เชินและถังเทียนจื๋อเห็น​ เพื่อไม่ให้พวกเขาฉวยโอกาส​ทำเรื่องอะไรที่คาดไม่ถึง​ขึ้น​มา​

โดยเฉพาะ​ถังเทียนจื๋อ เขาเป็นคนที่ตัวเองคอยระมัดระวัง​มาโดยตลอด​ ตั้งแต่ครั้งแรก​ที่​เขาปรากฏตัว​จนถึงตอนนี้

ส่วนตอนที่อยู่​ใน​บ้านเดี่ยว​ฉิงฮัว เขาก็ฝืนทนไว้​ นั่นเป็นเพราะว่า​ไม่อยากให้แม่เห็น​ ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงตัวเองอีก

และอีกอย่างไม่อยากให้กู้ฮอนเห็น​ สำหรับเหตุผล​ ตอนนี้เขายังพูดไม่ออก

ในที่สุด​ ขณะที่​เขากลับมาในบ้านเดี่ยว​กลางภูเขา​ ทนต่อไป​ไม่ไหวอีกแล้ว​ ล้มลงไปบนโซฟาที่กว้างใหญ่​ เขาหรี่ตา​ไว้​ กำแพงที่อยู่​ตรงหน้า​ของเขา​ เป็นภาพวาดที่จะมอบให้​กับ​เธอรูปนั้น

***

ไม่รู้​ว่า​ผ่านไปนานแค่ไหน​แล้ว​ เป่หมิงโม่รู้สึก​ว่า​หน้าผากตัวเองเหมือนมีอะไรเปียก​ๆกำลังขยับไปมา

ไม่เพียงแค่นี้​ ยังรู้สึก​เหมือนมีความร้อนที่พ่นใส่หน้าตัวเองอย่างไม่ขาดสาย​

ความรู้สึก​แบบนั้นมันช่างแปลกๆ

เขาขมวดคิ้ว​โดยไม่รู้ตัว​

อยากลืมตาขึ้นมาดู แต่ว่าหนังตา​ตัวเองกลับหนัก​ผิดปกติ​ เหมือนต้องใช้มือเข้ามาช่วยดึงขึ้นมา

ลองขยับแขนดู​ กลับรู้สึก​ว่าหนักกว่าหนังตาอีก

นี่มันเป็นอะไร? นี่เป็นความรู้สึก​ที่ไม่เคยมีมาก่อน​

ยังดีความรู้สึก​แบบนี้คาด​ว่า​ครองเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง​

หลังจากร่างกายตัวเองถูกตัวเองควบคุม​ใหม่อีกครั้ง​ มีเพียงความรู้สึก​ที่ไม่ดีอย่างนึงยังคงอยู่​ นั่นก็คือความรู้สึกเปียกๆที่หน้าผาก​ตัวเอง​ ยังมีความร้อนที่ไม่ได้หายไปไหนสักที

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท