บทที่ 928 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลังจากที่ได้ลองสืบดูแล้ว ก็ค้นพบความเชื่อมโยงที่น่าสนใจระหว่างเป่หมิงโม่กับกู้ฮอน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะมีลูกด้วยกันถึงสองคน
พูดถึงเป่หมิงโม่คนนี้ ประธานหลี่ยังพอที่จะรู้จักเขาอยู่บ้าง เช่นเดียวกันที่รู้ว่าข้างกายเขาก็ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง โดยเฉพาะดาราสาวที่เขาเคยคบด้วยอย่างซูยิ่งหวั่น ที่ก่อให้เกิดสถานที่อย่างเย่หยิงอีพิน
ภายหลังก็ได้ยินว่าเขากำลังจะแต่งงาน ทว่าเจ้าสาวกลับเป็นผู้หญิงอื่น…
สำหรับกู้ฮอนผู้หญิงที่สามารถคลอดลูกให้เขาได้วันนี้ ยิ่งไม่ง่ายเข้าไปใหญ่
รวมไปถึงข่าวการฟ้องร้องกันระหว่างสองคนนี้ในครั้งนั้น สำหรับประธานหลี่แล้ว เขาคิดว่านี่ก็เป็นเพียงแค่การแสดงของเป่หมิงโม่เท่านั้น
อย่าเอาแต่มองภายนอกที่พวกเขากำลังปะทะกันอย่างดุเดือด เพราะจุดประสงค์ที่แอบแฝงอยู่ในนั้นก็คือการที่เป่หมิงโม่พยายามใช้เด็ก ๆ ในการผูกมัดกู้ฮอนเอาไว้ ทำให้เธอต้องอยู่ข้างกายเขาตลอดไป
หลังจากที่ประธานหลี่เข้าใจเรื่องราวพวกนี้แล้ว เขาก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นั่นก็คือการพบกับประธานคนใหม่ของบริษัทเป่หมิง
แต่ถ้าหากเขานัดเธอให้มาคนเดียว บางทีเธอก็อาจจะไม่มา ดังนั้นเขาเลยคิดหาข้ออ้างด้วยการนัดเป่หมิงโม่มาด้วย แบบนี้ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกว่า
*
ตอนที่กู้ฮอนและเป่หมิงโม่ปรากฏตัวขึ้นที่บริษัทเจียเม้านั้น ประธานหลี่ก็เริ่มสังเกตพวกเขาผ่านจอมอนิเตอร์ภายในบริษัท
กู้ฮอนยังทั้งสาว ทั้งสวย ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน แล้วที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ เธอเป็นผู้หญิงของเป่หมิงโม่
และเป่หมิงโม่ … เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่สุดในการเข้าสู่วงการออกทางแบบสถาปัตยกรรมของเขา
ในตอนนี้เอง ทฤษฎีของเขาได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะพิชิตบริษัทเป่หมิง อยากได้ก็ต้องพิชิตผู้หญิงคนนั้นให้ได้เสียก่อน อีกอย่างตอนนี้เป่หมิงโม่ก็ได้ถูกย้ายไปอยู่ในอันดับที่สองแล้ว จึงสามารถที่จะปล่อยเขาไปก่อนชั่วคราวได้
เขารู้สึกตื่นเต้นกับความคิดที่เหมือนจะบ้าบอนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก เขาพร้อมที่จะลองแล้ว…
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบ ได้ติดต่อ พูดคุย ได้จับมือกับกู้ฮอน และหลังจากนี้อาจจะมีครั้งแรกอีกมากมายที่รอเขาทำ…
การสัมผัสการตามมารยาทนี้ กลับทำให้ประธานหลี่รู้สึกถึงรสชาติที่แตกต่าง…
***
ประธานหลี่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ดวงตาของเขาจับจ้องกู้ฮอนไว้แน่น นี่จะเป็นเป้าหมายใหม่ของเขา และเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ท้าทายที่สุด
เขามองออกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ที่สามารถที่ใช้เงินหรือตำแหน่งมาจัดการได้ง่าย ๆ
เพราะของที่เขามีพวกนั้น ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็มีเช่นกัน อีกทั้งยังมีไม่น้อยไปกว่าเขา ส่วนด้านอื่น ๆ …
เธอสามารถที่จะเผชิญหน้ากับเป่หมิงโม่ในชั้นศาลได้ และถึงแม้ว่าเธอจะแพ้ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าชื่นชม ความกล้าหาญนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะละเลยไม่ได้
ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้ที่จะจัดการกับกู้ฮอนแทบจะเท่ากับศูนย์ แต่ถ้าหากลองทุ่มสมองเพื่อให้ได้มาก็ยังนับได้ว่ามีความหวังอยู่บ้าง ยิ่งเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากก็ยิ่งรู้สึกน่าสนใจ
ประธานหลี่คิดเอาไว้มากมายจริง ๆ นี่คือสิ่งที่จิ้งจอกเฒ่าผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจคิดที่จะทำ แผนการทั้งหมดจะต้องถูกวางไว้อย่างรัดกุม ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด เข้าไม่คุ้นชินกับการไม่เตรียมตัวล่วงหน้าถ้าไม่ได้รับผลประโยชน์
“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าประธานกู้จะยังอายุ ไม่ทราบว่าขอถามอายุหน่อยได้ไหมครับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของคนที่ถูกถามอายุอย่างกู้ฮอนแข็งค้าง อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ถือสาอะไรกับคำถามเช่นนี้ แต่พอมันถูกถามโดยประธานหลี่แล้ว กลับทำให้รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ท้ายที่สุดแล้วกู้ฮอนก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ให้ราบรื่นได้เหมือนเป่หมิงโม่ เลยทำให้บรรยากาศในตอนนี้ค่อนข้างที่จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ประธานหลี่นับได้ว่าเป็นผู้ที่เจนสนาม เมื่อเขาพบว่าหัวข้อการสนทนาหยุดชะงัก ก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง “ฮ่า ฮา ขอโทษด้วยครับคุณกู้ ต้องโทษผมแล้วที่ทำตัวไร้มารยาท ลืมไปว่าอายุของผู้หญิงไม่ใช่อะไรที่นึกอยากจะถามก็ถามได้”
ในเมื่อเขายอมหาทางลงให้ตัวเองได้แล้ว เช่นนั้นเธอก็ไม่ควรที่จะมาไว้หน้าเขามากเกินไป เพราะตอนนี้ยังมีเรื่องของผลประโยชน์ของทั้งสองบริษัท
เธอยิ้มน้อย ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ”พูดพลางก็คิดที่จะดึงมือออก
ทว่าว่าหลังจากลองดึงอยู่สองครั้ง รู้สึกว่าเหมือนถูกคีมขนาดใหญ่หนีบไว้ ทำอย่างไรก็ไม่สามารถจะดึงออกมาได้
เธออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาว่าแย่แล้วในใจ
ดูเหมือนว่าประธานหลี่ยังเอาแต่ให้ความสนใจกับการสนทนาเป็นการส่วนตัว “คุณกู้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่บอกว่าคุณอายุเท่าไหร่ แต่ผมก็พอจะเดาออก น่าจะยังไม่ถึงสามสิบใช่ไหม”พูดถึงตรงนี้เขาก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ท่าทีเช่นนั้นราวกับกำลังหวนรำลึกถึงอดีตอันสวยงามก็ไม่ปาน “วัยรุ่นนี่ดีจริงๆเลยนะ ตอนนี้ผมอายุเท่าคุณ จะอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง มันยากจริง ๆ ที่เด็กสาวอย่างคุณต้องมารับผิดชอบบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ โบราณว่าไว้ สนามธุรกิจก็เหมือนกับสนามรบ ระดับของอันตรายที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่สามารถจินตนาการได้ ในเมื่อบริษัทของพวกเราทั้งสองคนต่างก็เป็นหุ้นส่วนกันอยู่แล้ว ตามหลักอารมณ์และเหตุผลแล้ว ผมไม่สามารถที่จะเอาแต่ยืนชมอยู่ข้าง ๆ ได้ หลังจากนี้ถ้าคุณมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ก็มาหาผมได้ ผมคิดว่าประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าหลายสิบปีที่ผมมี น่าจะสามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง”
ขณะที่เขาพูดนิ้วของเขาลูบลงบนฝ่ามือของเธอเบา ๆ
การกระทำนี้ทำให้ประสาทของกู้ฮอนตึงเครียดทันที สีหน้าของเธอไม่สงบอีกต่อไป และดูเหมือนเธอจะตื่นตระหนกเล็กน้อย
การกระทำเช่นนี้ประธานหลี่ต้องการที่จะแอบบอกอะไรเธอหรือเปล่า กู้ฮอนไม่แน่ใจนัก แต่เธอรู้สึกได้จริง ๆ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธออย่างแน่นอน
บางทีเธอควรที่จะหาเหตุผลออกไปจากที่นี่ได้แล้ว หลังจากนั้นก็พยายามอย่าได้พบเจอกับประธานหลี่คนนี้อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการคิดหาทางรอดจากเงื้อมมือเขาก่อน
***
การจับมือกันครั้งแรกระหว่างหลัวกับกู้ฮอนทำให้กู้ฮอนรู้สึกอึดอัดมาก ทว่าเธอกลับไม่สามารถที่จะดึงมือของตัวเองออกมาได้
สายตาของเธอย้ายไปมองที่ระเบียงดาดฟ้า เรากลับว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ว่าเธอกลับต้องผิดหวังเพราะเธอหามันไม่พบ
คนสมควรตายเป่หมิงโม่นั่นหายหัวไปไหนแล้ว ตอนที่เธอต้องการเขากลับไม่เห็นแม้แต่เงา แต่พอไม่ต้องการเขากลับเอาแต่ก่อกวนอยู่รอบ ๆ ตัวเธอเหมือนเป็นแมลงวัน
ในเมื่อพึ่งพาเขาไม่ได้ เธอก็ควรที่จะคิดหาวิธีอื่น ถ้าหากหาทางไม่ได้แล้วจริงๆ ก็อยากโทษที่เธอต้องหันหน้าอย่างไร้ความปรานี แม้ว่ามันจะส่งผลการร่วมมือของทั้ง 2 บริษัท เธอก็ไม่สนใจ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ตอนที่กู้ฮอนกำลังจะใช้มาตรการพิเศษของตัวเองนั้น ทันใดนั้นเองเสียงที่เหมือนมาจากสวรรค์ก็ดังขึ้น ทำให้หัวใจที่ตึงเครียดของเธอผ่อนคลายลงในทันที เธอรู้ว่าเธอกำลังหลุดพ้นจากอันตรายแล้ว
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับประธานหลี่”เป็นเสียงของเป่หมิงโม่
หลังจากที่ประธานหลี่ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง ในเมื่อเขารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกู้ฮอนกับเป่หมิงโม่ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจสไตล์ของเป่หมิงโม่เช่นกัน ผู้ชายคนนั้นขึ้นชื่อเรื่องความ ‘ร้ายกาจ’
แม้ว่าในใจของประธานหลี่จะมีแผนสำหรับตระกูลเป่หมิง แต่เขาก็ไม่ได้มองข้ามเป่หมิงโม่ จึงรีบปล่อยมือกู้ฮอนทันที
เขาหันกลับมาด้วยใบหน้าที่ยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ได้ อีกทั้งยังทำตัวกระตือรือร้นเรากลับได้พบเจอเพื่อนเก่าอย่างไรอย่างนั้น “ประธานเป่หมิง คุณพูดถูกแล้ว พวกเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วจริง ๆ ”
เป่หมิงโม่มองเห็นภาพที่ประธานหลี่จับมือของกู้ฮอนเอาไว้อย่างแนบแน่นตั้งนานแล้ว เป่หมิงโม่เคยได้ยินการกระทำที่มีต่อผู้อื่นเช่นนี้ของเขาอยู่บ้าง
เช่นเดียวกันที่ว่าเขาคิดถึงความร่วมมือระหว่างสองบริษัท จึงไม่ได้พุ่งเข้ามากระแทกหมัดใส่หน้าประธานหลี่ให้ฟันหลุดออกมาสักสองสามซี่ แล้วลากกู้ฮอนไปจากที่นี่ทันที
เป่หมิงโม่แก้วไวน์ นัยน์ตาที่เหมือนกับคบเพลิงของเขามองไปที่ประธานหลี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมองจากเท้าขึ้นมาที่หัว
เมื่อถูกมองอย่างสำรวจเช่นนี้แล้วทำให้ทางร่างกายของประธานหลี่รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ทว่าเขายังคงสามารถรักษารอยยิ้มบนหน้าเอาไว้ได้ “ประธานเป่หมิง ได้ยินมาว่าคุณวางมือจากตำแหน่งประธานของบริษัทเป่หมิงแล้วยกมันให้กับคุณกู้แล้ว เหมือนว่าเธอจะสำคัญกับคุณมาก ”
เป่หมิงโม่แสดงท่าทีไม่ใส่ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเ “ก็ไม่เลวครับ แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าสำคัญหรือไม่สำคัญ คนดูแลบริษัทนี้มานานหลายปีแล้ว รู้สึกเหนื่อยไม่น้อย ก็เลยอยากที่จะปล่อยภาระนี้ไป ตอนที่กำลังคิดว่าจะหาใครมารับตำแหน่งนี้แทนดี ก็เงยหน้ามองเห็นเธอเข้า ดังนั้น…”
“ดังนั้นประธานเป่หมิงก็เลยให้คุณกู้ขึ้นเป็นประธานของตระกูลเป่หมิง ฮ่า ฮ่า ประธานเป่หมิงช่างเป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำดีจริง ๆ ”ประธานหลี่รีบพูดรับคำ
กู้ฮอนคนข้างหลอกตาใส่เป่หมิงโม่อยู่หลายครั้ง ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจจริง ๆ
ฟังดูแล้วเหมือนเอาเธอไปเทียบกับผักในแผงขายผักอย่างไรอย่างนั้น เป่หมิงโม่แค่เลือก ๆ เธอมา เธอจึงได้กลายเป็นประธานของบริษัทที่เป็นที่ผู้คนจับจ้อง
อย่างไรก็ตามมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่ฟังดูน่าเกลียดไปหน่อย
“ประธานหลี่ครับ จะถึงเวลาแล้ว ควรจะเริ่มได้แล้วหรือเปล่าครับ”ผู้ช่วยของประธานหลี่เดินเข้ามากระซิบเข้าข้าง ๆ เขา
“อืม เริ่มได้แล้ว” พูดพลางก็โบกมือให้เป่หมิงโม่และกู้ฮอน “ใกล้จะถึงเวลาแล้ว พวกเราไปกินข้าวแล้วค่อย ๆ คุยกันดีกว่า” จากนั้นเขาก็เดินนำไปที่ระเบียงดาดฟ้า
***
ที่ระเบียงดาดฟ้ามีโต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางอยู่ไม่ไกลจากห้องชมวิว
มีผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดคลุมอยู่ข้างบน ตรงกลางมีร่มกันแดดที่สามารถคลุมได้ทั้งโต๊ะ สามารถช่วยป้องกันแสงแดดแรงจัดในตอนเที่ยงได้
พนักงานบริการได้จัดชามและตะเกียบสี่ชุดไว้รอบโต๊ะอาหาร แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้เงาของร่มกันแดด แต่ก็ยังคงเปล่งประกายด้วยแสงคริสทัล
“วันนี้อากาศไม่เลว มีลมไม่มาก ถ้าเป็นเหมือนอย่างเมื่อสองสามวันก่อน ตอนนั้นมีลมพัดค่อนข้างแรง ไม่ต้องขอบคุณโชคดีของประธานเป่หมิงกับคุณกู้แล้ว อ้อ ผมพูดผิดแล้ว ตอนนี้ควรจะเรียกคุณกู้ว่าประธานกู้สินะ”
ประธานหลี่นั่งอยู่บนที่นั่งหลักพูดคุยและหัวเราะ เป่หมิงโม่และกู้ฮอนถูกจัดให้อยู่อีกด้านหนึ่ง ทว่าฝั่งตรงข้ามของพวกเขากลับเป็นเก้าอี้ว่าง
ตอนที่กู้ฮอนแทบจะไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเป่หมิงโม่ เธอค่อนข้างที่จะรู้สึกสบายใจ เธอสามารถออกมาจากความรู้สึกที่น่าหวั่นใจพวกนั้นที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ได้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าความรู้สึกขุ่นเคืองต่อประธานหลี่คงหลงเหลืออยู่ก็ตาม
เธอยิ้มจาง ๆ “ประธานหลี่ล้อเล่นแล้ว ฉันมีหน้ามีตาใหญ่โตขนาดนั้นได้ที่ไหนกัน”
เป่หมิงโม่มองไปที่ที่นั่งว่างฝั่งตรงข้าม “ดูเหมือนว่าวันนี้ประธานหลี่จะมีแขกคนอื่นนอกจากพวกเราอีก”
“อ้อ ฮ่า ฮ่า นอกจากพวกคุณสองคนแล้ว ความจริงผมยังเชิญคนอื่นมาด้วย หวังว่าพวกคุณสองคนจะไม่ถือสานะ”
“ในเมื่อประธานหลี่วางแผนไว้แบบนั้นแล้ว พวกเราที่เป็นแขกก็เอาตาที่ผู้จัดงานอย่างคุณว่าก็แล้วกัน ” เป่หมิงโม่พูดจบก็หยิบไวน์แดงบนโต๊ะแล้วรินใส่แก้วตรงหน้า
เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นพื้นที่ของคนอื่น ทว่าเขากลับวางตัวอย่างสบาย ๆ
สถานการณ์ราวกับถูกทำให้หยุดชะงักไปอีกครั้ง ไม่รู้ว่าควรจะยกหัวข้ออะไรขึ้นมาพูดคุยกันต่อดี