บทที่ 982 ล้มอยู่บนทุ่งดอกไม้
หยินปู้ฝันได้มองไปยังกู้ฮอนด้วยสายตาที่เข้าใจ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น “โอเค ฉันจะกลับไปพักผ่อนก่อน แล้วจะรอข่าวจากคุณ”
เสี่ยวหวังก็รีบลุกขึ้นมา “ไม่มีปัญหา ถึงเวลานั้นฉันจะรอโทรศัพท์จากพวกคุณนะ”
*
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนได้ออกจากสำนักงานขายตึก แล้วกลับมายังโรงแรมขนาดเล็ก คาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันที่จะเข้ามาถึงห้องพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์
“ไม่คิดว่าเสี่ยวหวังจะทำการไวขนาดนี้ สักครู่เดียวก็ติดต่อผู้เฒ่าทั้งสองได้แล้ว” หยินปู้ฝันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองไปยังโทรศัพท์ แล้วขมวดคิ้วตัวเอง
****
กู้ฮอนยืนอยู่ด้านข้างหยินปู้ฝัน เธอเห็นสีหน้าที่เขาทำแบบนั้น ก็พอเดาออกได้บางอย่าง เลยใช้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มถามไปว่า “ทำไมคุณไม่รับล่ะ ?”
ได้ยินเพียงแต่เสียงที่โหวกเหวกหัวเราะออกมา “ทนายความหยิน คุณไม่ให้หน้ากับฉันเลย อยู่ที่ตรงนั้นของพวกเราแล้ว ทำไมไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ออกไปแล้วล่ะ ? หรือว่าอยู่ตรงที่พวกเราดูแลมันไม่สบายหรือไง ?”
“เอิ่ม……. คุณช่าย คุณมีความเข้าใจผิดแล้ว เป็นเพราะสถานที่ที่พวกเราจะทำงานมันอยู่ไกลน่ะ ดังนั้นก็เลยเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้นเอง”
“เดิมทีเป็นแบบนี้ งั้นบอกพวกเราหน่อยว่าคุณอยู่ที่ไหน ถึงเวลาฉันจะไปหาพวกคุณพูดคุยสักหน่อย ” ช่ายซินซินไม่ได้มีความหมายจะปล่อยหยินปู้ฝันไป แต่กลับจะติดตามอย่างไม่ลดละ
ทำให้หยินปู้ฝันเหมือนรู้สึกขี่บนหลังเสือไม่อาจจะลงมาได้เลย เหมือนกับมีความเสียใจอย่างมากมาย
ตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ ?
“คุณช่าย หลายวันมานี้พวกเราค่อนข้างจะยุ่ง อีกสองวันถึงจะมีเวลา แน่นอนว่าจะต้องไปหาคุณ คุณคิดว่ายังไง ?”
“หึ……ผู้ชายอย่างพวกคุณ ก็ต่างไม่รับผิดชอบ ปากพูดว่าจะมาหาฉัน แต่สุดท้ายก็วิ่งจนไม่เห็นเงาเลยนะ ฉันช่ายซินซินไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ฟังไม่รู้เรื่อง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ยุ่งไปก่อนเถอะ ฉันจะรอคุณทำงานเสร็จ แล้วจะดูว่าคุณเป็นผู้ชายที่มีคุณธรรมจริงไหม” ช่ายซินซินพูดเสร็จก็ได้ตัดสายโทรศัพท์ไป
“คุณทำให้เธอรู้สึกมีใจให้แล้วนะ ตอนนี้รู้สึกว่าไม่อาจจะปฏิเสธได้ใช่ไหม ?” กู้ฮอนยิ้มและพูดกับหยินปู้ฝันด้วยคำพูดที่เสียดสี เธอไม่เคยเห็นเขาเจอปัญหาแล้วไม่มีทางแก้แบบนี้เลย
“วางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันจะต้องจัดการให้แน่นอน ถึงจะทำให้คุณไม่ต้องมาหัวเราะฉันอีก” หยินปู้ฝันแสดงท่าทีที่มั่นใจเป็นอย่างมาก เขาเปิดประตูออกมา แล้วก็มองไปยังกู้ฮอน “คุณจะเข้าไปนั่งก่อนไหม ?”
กู้ฮอนแบ๊ปาก “ฉันไม่เข้าใจแล้วล่ะ หากอยู่ดีดีคุณช่ายตามหาคุณถึงที่นี่ แล้วเห็นฉันอยู่ในห้องของคุณ ฉันก็คงพูดอะไรไม่ได้อีกเลย” ขณะที่พูดอยู่ เธอก็ได้เปิดประตูห้องตัวเองเข้าไปแล้วก็ปิดประตูเรียบร้อย
หยินปู้ฝันเห็นเธอเข้าห้องแล้ว ตัวเองก็ไม่ต้องอยู่นอกห้องให้เสียเวลา วันนี้วิ่งตามพนักงานขายผู้หญิงแซ่หวังคนนั้นไปดูห้องหลายที่ ถึงแม้จะมีลิฟต์ให้บริการ และยังมีบ้านหลายหลัง ถึงแม้ตึกจะไม่สูง แต่เดินไปเดินมาก็ทำให้เหนื่อยมากมายเช่นกัน
เขาเดินเข้ามาข้างใน อาบน้ำง่าย ๆ แล้วก็นอน
กู้ฮอนกลับมายังห้องของตัวเอง ยุ่งมากทั้งวัน เธอก็เลยโทรศัพท์หาลูก ๆ รู้ว่าพวกเขาสบายดีไม่มีปัญหาก็สบายใจ หลังจากนั้นเธอก็โทรศัพท์หาฉิงฮัว ถามเกี่ยวกับตระกูลเป่หมิง
หลังจากที่กู้ฮอนห่างจากตระกูลเป่หมิง เหมือนกับอะไร ๆ ก็เงียบไปหมด ความเงียบสงบตรงนี้ไม่เพียงทำให้กู้ฮอนไม่สบายใจ แม้กระทั่งฉิงฮัวก็ไม่ปกติ
เมื่อหลายวันมาก่อน ติงฉางชิ่ง ถูกกู้ฮอนเชิญออกจากตระกูลเป่หมิง หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องพนักงานไม่ทำงาน แต่หลังจากถูกเป่หมิงยี่เฟิงจัดการ แต่หากพูดตามหลัก ติงฉางชิ่งคงไม่ยอมง่าย ๆ แต่กู้ฮอนออกข้างนอกก็ไม่ใช่เป็นความลับ หากอยากจะต่อกรกับกู้ฮอนแล้ว ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่สุด
***
ฟ้ามืดเริ่มมา
กู้ฮอนโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อย ได้แต่นั่งอยู่บนเตียงยังไม่ได้พักผ่อน ถึงแม้ว่าร่างกายของเธอจะมีความเหนื่อยระดับสิบ แต่เพื่อเป็นการพบหน้ากับสองผู้เฒ่าก็รู้สึกมีสติขึ้นมาอย่างมากมาย
หรืออาจจะเป็นการพบในครั้งนี้ของพวกเขา จะสามารถรู้อย่างชัดเจนได้เสี่ยวเฉินซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นการคืบหน้าของเรื่องนี้อย่างมากมาย
นี่ก็ทำให้กู้ฮอนรู้ว่าเป่หมิงยี่เฟิงทำเต็มสุดกำลังกับการทุ่มเทให้กับการเมือง ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ทำให้สบายใจ
“ก๊อก ๆ ๆ ๆ” เสียงที่ชัดเจนกังวานของการเคาะประตู
กู้ฮอนรีบลุกขึ้นมา
“เมื่อสักครู่นี้ เสี่ยวหวัง โทร พูดว่าได้ติดต่อกับพ่อแม่ของเสี่ยวเฉินแล้ว ให้พวกเราไปที่บ้านเขาเถอะ ตอนนี้คุณรีบเตรียมตัวก่อนนะ ฉันจะไปรอที่ด้านล่าง” หยินปู้ฝันพูดเสร็จก็พันหลังเดินลงไป
กู้ฮอนก็จัดการเก็บของง่าย ๆ แล้วก็รีบวิ่งลงไป
สองคนลงมาพบกันที่ห้องโถง แล้วก็รีบเดินทางไปยังสถานที่ที่เสี่ยวหวังนัดหมาย คือศาลาเล็กของชุมชนหย่วนหยาง
หลังจากที่พวกเขามาถึง เสี่ยวหวังก็มารอที่นี่แล้ว ตอนนี้เขาเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อสบาย ๆ
“พวกคุณมาแล้ว ฉันพูดเรื่องราวคร่าว ๆ ให้กับผู้เฒ่าทั้งสองเรียบร้อยแล้ว พวกเขาดีใจมากมาย และหวังว่าพวกคุณจะรีบไปดูห้องนะ”
“ดีเลย พวกเราไปตอนนี้กันเลย” หยินปู้ฝันพูด และเขากับกู้ฮอนก็เดินตามเสี่ยวหวังอ้อมศาลาเล็กไป พวกเขาเดินลงเขาจากด้านขวามือ หลังนั้นก็เข้าไปที่ประตูใหญ่
พ่อแม่ของเสี่ยวเฉินอยู่ชั้นที่ 15
“คุณชายหยินคุณดูสิ ทั้งตึกนี้ก็มีคนอาศัยอยู่เพียงสี่คน และตรงกลางทางเดินก็มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้ร่วมกัน หลังจากที่มีการเฉลี่ยกันแล้วก็หนึ่งชั้นอาศัยสี่ครอบครัว และยังไม่กระทบต่อสาธารณะด้วย”ด้านหนึ่ง เสี่ยวหวังพูดไป ด้านหนึ่งก็เดินออกมาจากลิฟต์เลี้ยวซ้าย หลังจากที่บ้านหนึ่งครอบครัว เธอก็ได้กดเสียงออดหน้าประตู
ประตูเปิดออกมาอย่างรวดเร็ว
หยินปู้ฝันเห็นก็เป็นคุณตาที่มาสำนักงานขาย
“เสี่ยวหวัง พวกคุณมาแล้ว รีบเข้ามาสิ” ขณะที่พูด เขาก็ได้ให้พวกเขาเข้าไป
“ลุงเฉิน นี่คือคนที่อยากจะดูห้องของท่านน่ะ” เสี่ยวหวังยิ้มแล้วก็ชี้ไปยังกู้ฮอนและหยินปู้ฝัน
“สวัสดีพวกคุณ เรื่องนี้ก็ลำบากเสี่ยวหวังแล้ว ห้องของเธอยังขายไม่ออกไป แต่กลับเอาลูกค้าคนใหม่มาที่นี่ ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลยล่ะ สองคนค่อย ๆ ดูห้องเถอะนะ หากมีความพอใจ พวกเราค่อยมาคุยกัน” ลุงเฉินพูดจาอย่างเกรงใจที่สุด
หยินปู้ฝันและกู้ฮอนยิ้มพยักหน้า แล้วก็เริ่มดูไปรอบ ๆ
“ลุงเฉิน การตกแต่งห้องนี่ไม่เลวเลยนะ ฉันฟังเสี่ยวหวังบอกมา คุณเพิ่มจะตกแต่งเสร็จ และยังอยู่ไม่กี่วันก็จะรีบขายออกไป ท่านไม่รู้สึกเสียดายหรือ ?” หยินปู้ฝันมองห้องไปด้วย แล้วก็คุณกับลุงเฉินไปด้วย
พอพูดถึงตรงนี้ ลุงเฉินก็ได้ถอนหายใจ “เห้ออออ…..นั่นสินะ ฉันรู้สึกเสียดายจริง ๆ แต่ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ลูกชายฉันรีบร้อนใช้เงิน และเงินที่พวกเรามีทั้งหมดก็เอามาซื้อบ้านไปหมดแล้ว ดังนั้นไม่มีวิธีอื่นก็ได้แต่ขายออกไป แล้วให้ลูกชายไปใช้”
***
“ให้ลูกชายใช้ ?” หยินปู้ฝันกับกู้ฮอนได้ยินผู้เฒ่าพูดถึงลูกชาย ในใจก็เริ่มชัดเจนแล้วว่าเป็นใคร
แต่เพื่อเป็นการไม่ทำให้ความลับแตก ก็ต้องแสร้งทำเป็นอะไร ๆ ก็รู้ไปหมด
คนแก่พูดถึงลูกชาย ตาก็ปิดอย่างไร้อาวรณ์ ด้านหนึ่งก็ส่ายหัว ด้านหนึ่งก็ถอนหายใจยาว ๆ ดูออกว่า ลูกชายคนนี้ทำให้คนแก่ไม่สบายใจเป็นที่สุด
เหมือนกับเสี่ยวหวังก็ได้ยินเป็นครั้งแรก เลยมีความงุนงงแล้วก็ปลอบใจ “ลุงเฉิน ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก มันเกิดเรื่องอะไรหรือที่จะต้องให้ท่านต้องขายห้อง ?”
พอถึงตรงนี้ หยินปู้ฝันกับกู้ฮอนไม่ต้องพูดอะไรออกมา หากเปรียบกับเสี่ยวหวังพวกเขาเป็นคนนอก เป็นลูกค้าที่มาซื้อห้องแค่นั้นเอง และเรื่องนี้ต้องให้คนแก่พูดออกมาถึงจะเป็นธรรมชาติ หากตัวเองถามไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้อึดอัดเปล่า ๆ
“ขอโทษด้วยนะทุกคน เดิมทีจะมาดูห้อง แต่กลับกลายเป็นต้องมาฟังเรื่องที่ไม่น่าฟัง พวกคุณมานั่งทานผลไม้ก่อน” ตอนนี้ผู้หญิงแก่ที่มาสำนักงานขายก็ได้ออกมาจากห้องครัว ในมือยังถือจานออกมา ในจานได้ใส่แตงโมอยู่เต็มไปหมด
เธอยังคงสั่น ๆ อยู่แบบนั้น ทำให้คนที่มองรู้สึกมีความเป็นห่วงอย่างที่สุด
“คุณแม่ ให้ฉันมาเถอะ” กู้ฮอนไม่อาจจะทนมองได้ เลยรีบไปช่วย และมืออีกหนึ่งได้พยุงเอาไว้แล้วค่อย ๆ มานั่งตรงโซฟา
“คุณนี่นะ พวกเขามาดูห้อง ไม่ใช่มาฟังพวกเราพูดเรื่องไร้สาระนี้” ผู้หญิงเฒ่านั่งลงมาแล้วก็พูดถึงคุณตาแก่ ๆ
“คุณแม่ อย่าพูดแบบนี้เลย พวกท่านมีเรื่องเดือดร้อนเลยต้องมาขาย ในเมื่อพวกเรามาแล้ว ก็ถือเป็นวาสนาของพวกเรา พวกเราก็นอกจากจะมาซื้อห้องนี้แล้ว ก็ยังจะสามารถช่วยเรื่องอื่น ๆ ได้นะ แน่ช่วยอย่างแน่นอน”
หยินปู้ฝันพูดถึงตรงนี้ ก็ต้องพูดอีกสักหน่อยแล้ว เพื่อเป็นการให้ผู้เฒ่าทั้งสองลดระดับความกังวล ให้พูดเรื่องลูกชายเขาออกมา ให้พวกเขาหาเสี่ยวเฉินได้ไว ๆ
“ใช่แล้ว ลุงเฉิน พวกเขาล้วนเป็นคนที่ คุณชายหยินเป็นทนายเชียวนะ หากลูกชายของพวกคุณมีปัญหาอะไร พวกจะต้องช่วยอย่างแน่นอน” เสี่ยวหวังช่วยพวกเขาพูด
ลุงเฉินเห็นสภาพแบบนี้ ก็ไม่ต้องมีอะไรให้พูดอีกแล้ว ก็เลยพูดเรื่องทั้งหมดให้ฟังไปหนึ่งรอบ ทำให้หยินปู้ฝันและกู้ฮอนรู้สึกเหนือความคาดหมาย ไม่คิดว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้
ลุงเฉินพวกเขาเพียงแต่รู้ว่าลูกชายตัวเองไม่ค่อยสู้งาน ไปทำงานข้างนอกหลายปี พวกเขาก็ยังให้คนอื่นหางานให้ลูกชายตัวเองทำ
โชคดีที่ได้ทำงานชั่วคราวที่ราชการท้องถิ่น ก็เลยได้รับลูกชายเข้าทำงาน
ถึงแม้จะไม่ใช่เป็นหลักแหล่งอะไร เขาก็ไม่เคยพูดออก แต่เรื่องราวที่รันทดใจก็ค่อย ๆ มาทีละเรื่อง ไม่พูดอย่างอื่น ทุกวันมีแต่กลิ่นเหล้ากลับบ้านก็ทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองมีความไม่สบายใจแล้ว
หลังจากนั้นก็เห็นสิ่งของล้ำค่ามากมายกลับมายังบ้าน พอถามเขาก็บอกว่ามีคนให้มา