ตอนที่ 106 รางวัลชิ้นที่สอง
“สรุปแล้ว.. ข้าสามารถเลือกคัมภีร์ได้ทั้งหมดกี่เล่มกันแน่?!” หลงเฉินเอ่ยถาม และจ้องมองซุนด้วยความหวัง
“เจ้าไปดูคัมภีร์ทั้งหมดเสียก่อน และตัดสินใจเลือกคัมภีร์ที่ต้องการมา แล้วข้าจะบอกกับเจ้าเองว่า สามารถเลือกได้กี่เล่ม..” ซุนตอบยิ้มๆ
“ภายในห้องนี้มีชั้นตำราอยู่ทั้งหมดสามชั้นเท่านั้น หากข้าเดาไม่ผิด ชั้นที่สามน่าจักต้องเป็นตำราวรุยทธสำหรับจู่โจม ป้องกัน หรือแม้แต่เหาะเหินเดินอากาศเป็นแน่”
หลงเฉินพึมพำในขณะที่หยิบคัมภีร์เล่มแรกออกมาจากชั้นวางตำราอันที่สาม..
“หมัดสะท้านปฐพี – หมัดนี้มีพลังมากพอที่จะคร่าชีวิตอีกฝ่ายได้ และมีพลังมากพอที่จะทำให้ผืนพิภพแตกแยก หากฝึกจนถึงระดับสูงสุด เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถทลายภูเขาให้แตกเป็นชิ้นได้! วิชานี้จักเป็นประโยชน์ต่อข้าอย่างยิ่ง อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ข้าด้วย” หลงเฉินพึมพำเบาๆ หลังจากที่อ่านรายละเอียดในหน้าแรกจนจบ
“คชสารเทวะ! หืมม.. นี่ก็ดีไม่น้อยทีเดียว เป็นวิชาที่ใช้พลังชี่สร้างร่างของช้างขึ้นมาเพื่อใช้จู่โจมคู่ต่อสู้ หากคู่ต่อสู้อ่อนแอกว่า ก็ยากที่จะต้านทานได้อย่างแน่นอน” หลงเฉินพึมพำออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ดาบสายฟ้า! เป็นการหยิบยืนอสุนีบาตจากท้องนภามาใช้สังหารคู่ต่อสู้ และทำลายจิตวิญญาณของอีกฝ่าย ข้าชอบวิชานี้เช่นกัน” หลงเฉินพึมพำออกมาอีกครั้ง พร้อมกับวางคัมภีร์ไว้ที่เดิม
“หึ.. มีวิชาใดบ้างที่เจ้าไม่ชอบงั้นรึ?” ซุนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันล้อเลียน
“กรงอัคนี! เปลวเพลิงสามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างจนมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าถ่าน! ส่วนกรงก็สามารถกักขังคู่ต่อสู้มิให้หนีรอดไปได้เช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คู่ต่อสู้ก็คงทำได้เพียงแค่รอคอยความตายเท่านั้น” หลงเฉินเอ่ยออกมาหลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดของคัมภีร์เล่มนี้จนจบ โดยมิได้สนใจคำพูดของซุน
“วิชานี้น่าจะคล้ายคลึงกับแหวนเพลิงที่จักรพรรดิอสูรกายใช้กักขังข้า นับว่าเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์เช่นกัน!” หลงเฉินพึมพำพร้อมกับยิ้มออกมา
หลงเฉินใช้เวลาไม่นานนัก ก็อ่านรายละเอียดของคัมภีร์บนชั้นจนหมด..
“ดูเหมือนคัมภีร์วรยุทธต่อสู้ทั้งหมดในชั้นนี้ จะเป็นวรยุทธจู่โจมเสียมากกว่า มีหลายเล่มที่ข้าอยากได้ ว่าแต่มิมีวรยุทธที่เกี่ยวกับการเหาะเหินไปมาในอากาศเลยรึ?” หลงเฉินหันไปถามซุน
“ข้ามิคิดว่าครั้งนี้จักมีวรยุทธเหาะเหินให้เจ้าเลือก แต่เจ้าเองก็มีวิชาที่พาเหาะเหินได้ดีอยู่แล้ว เหตุใดยังต้องการอีกเล่า?” ซุนตอบพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน
“ก็จริงของเจ้า! เอาล่ะซุน ข้าอ่านคัมภีร์ทุกเล่มแล้ว ครานี้เจ้าจะบอกให้ข้ารู้ได้หรือยังว่า ข้าสามารถเลือกคัมภีร์ได้ทั้งหมดกี่เล่มกันแน่?” หลงเฉินจ้องมองซุนพร้อมกับเอ่ยถาม
“เวลานี้ข้ามีคัมภีร์ที่เลือกไว้ในใจทั้งหมดสามเล่ม ซึ่งเลือกมาจากแต่ละชั้น แต่หากสามารถเลือกได้มากกว่านั้น ก็ยังมีคัมภีร์วรยุทธอื่นๆที่อยู่ในใจของข้าเช่นกัน” หลงเฉินบอกกับซุน
“นับว่าเป็นโชคดีของเจ้า.. เพราะจำนวนคัมภีร์ที่เจ้าสามารเลือกได้ก็คือสามเล่มจากชั้นวางทั้งสาม แล้วเจ้าเลือกเล่มใดงั้นรึ? เชิญเจ้าไปหยิบมาได้ พวกเราจะได้ออกจากห้องนี้เสียที” ซุนเอ่ยขึ้นพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ
“ข้าเลือกสามเล่มนี้ ดาบสายฟ้า ราชันย์ปฐพี และกายาราชันย์ปีศาจ” หลงเฉินหยิบคัมภีร์ทั้งสามเล่มมา พร้อมกับอ่านชื่อคัมภีร์ให้ซุนฟัง
“นี่เจ้าเลือกคัมภีร์กายาราชันย์ปีศาจจริงๆงั้นรึ แม้ว่าข้าจะเตือนเจ้าแล้ว นับว่าเจ้าเป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากทีเดียว” ซุนหันไปมองหลงเฉิน
“ข้าเชื่อว่าข้าจะสามารถควบคุมตัวเองได้!” หลงเฉินเอ่ยบอกยิ้มๆ
“เอาล่ะ.. ในเมื่อเจ้าเลือกคัมภีร์ทั้งสามเล่มนี้ พวกเราก็ออกจากห้องไปได้แล้ว เมื่อเจ้าก้าวเท้าออกจากห้องนี้ไป คัมภีร์ทั้งสามเล่มก็จะหายไป แต่ข้อความที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ทั้งหมด จะถูกถ่ายโอนไปปรากฏในความทรงจำของเจ้าแทน” ซุนอธิบายพร้อมชี้ไปทางประตู
“ข้ารู้ว่าตนเองมิควรโลภมากนัก แต่ว่า.. มิมีรางวัลอื่นอีกงั้นรึ?” หลงเฉินเหลือบมองซุนพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
“ยังมีรางวัลสำหรับเจ้าอีกแน่..” ซุนเอ่ยตอบอย่างมีเลศนัยพร้อมกับหายวับไปทันที
หลงเฉินเดินตามซุนออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด และพบว่าซุนกำลังยืนรออยู่ด้านหน้า
“เอาล่ะ.. ได้เวลาไปรับรางวัลอีกห้องแล้ว เชิญเจ้าเข้าไปด้านในได้!” ซุนเอ่ยบอกหลงเฉินที่เดินตามออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูที่หลงเฉินเพิ่งก้าวออกมา
หลงเฉินเดินกลับเข้าไปด้านในโดยไม่เอ่ยถามสิ่งใดอีก..
และเมื่อเขาเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก็พบว่าภาพภายในห้องแตกต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง ไม่มีชั้นวางตำรา หรือคัมภีร์แม้แต่เล่มเดียว ห้องทั้งห้องเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า เขาเหลือบมองผนังและพบว่าลวดลายบนผนังดูแปลกตาไป
“ข้าจักได้รางวัลอะไรจากห้องนี้งั้นรึ?” หลงเฉินเหลือบไปมองซุนพร้อมกับเอ่ยถาม
“ผนังนั่นยังไงเล่า..” ซุนเอ่ยตอบยิ้มๆ
“เกี่ยวอันใดกับผนังงั้นรึ?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เจ้าเห็นลวดลายต่างๆบนผนังหรือไม่? เจ้าเพียงแค่แตะลวดลายที่เจ้าชื่นชอบ เจ้าก็จักได้รับความรู้ที่น่าสนใจกลับไป แต่จะได้ความรู้ชนิดใดกลับไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับลวดลายที่เจ้าเลือก..” ซุนอธิบาย
“มันคือความรู้ด้านใดกัน?” หลงเฉินเอ่ยถาม
“เจ้าจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อลองสัมผัสลวดลายบนผนังดูเท่านั้น เรื่องนี้ข้ามิอาจช่วยเจ้าได้!” ซุนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
หลงเฉินเดินตรงไปด้านหน้า เขาจ้องมองลวดลายต่างๆบนผนัง เขาพบว่าบนผนังมีลวดลายแตกต่างกันมากกว่ายี่สิบลาย เขามิได้เข้าใจว่าแต่ละลวดลายมีความหมายเช่นใด จึงได้แต่สุ่มเลือกไปหนึ่ง
“ข้าเลือกลายนี้ก็แล้วกัน!”
หลงเฉินเดินตรงไปยังผนังทางด้านซ้ายมือ และเลือกลวดลายที่อยู่มุมสุดซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับต้นไม้ ซุนจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หลงเฉินยกมือขึ้นสัมผัสเข้ากับลวดลายดังกล่าว แต่แล้วจู่ๆก็หมดสติล้มลงไปกองกับพื้นทันที
“ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี ข้าเดาว่าเจ้าเลือกเส้นทางเดินที่แตกต่างจากเทียนเฉิน” ซุนพึมพำออกมาในระหว่างที่จ้องมองลวดลายคล้ายกระบี่ซึ่งอยู่บนผนังด้านขวามือ
“เอ่อ.. นี่ข้าอยู่ที่ใดกัน?” หลงเฉินพึมพำออกมาทันทีที่ลืมตาขึ้น
“ดูเหมือนจะยังคงอยู่ภายในเจดีย์สืบสายโลหิต!” เขาเหลือบมองไปรอบๆ และเมื่อเห็นซุนยังคงนั่งอยู่จึงได้พึมพำออกมา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?! แต่เดี๋ยวก่อน.. ความรู้ที่อยู่ในหัวของข้าเวลานี้… มันมิเคยมีอยู่มาก่อน นี่มัน..” หลงเฉินพึมพำออกมาในระหว่างที่ยกมือทั้งสองข้างกุมศรีษะตนเองแน่น
“เจ้าสงบจิตสงบใจไว้ก่อน ข้ารู้ว่ามันยากที่จะดูดซับข้อมูลมากมายเข้าไป แต่อดทนอีกไม่กี่อึดใจ การดูดซับความรู้ก็จะสิ้นสุดลงแล้ว!” ซุนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ความรู้นี้!! นี่มันคือความรู้เกี่ยวกับการหลอมกลั่นโอสถนี่!! มีทั้งวิธีการปรุงโอสถ สมุนไพรต่างๆ ใบสั่งยา แล้วก็อีกมากมาย!!”
หลงเฉินร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่ได้รับความรู้เข้าไปมากมาย..
“ความรู้มากมายถึงเพียงนี้ ข้ามั่นใจว่าแม้แต่นักหลอมโอสถที่เลื่องชื่อที่สุดในจักรวรรดิ ก็ยังมิรู้มากถึงเพียงนี้แน่!” หลงเฉินพึมพำออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“นี่คือรางวัลชิ้นที่สองของเจ้า ความรู้เรื่องการหลอมโอสถนี้ หากเทียบกับความรู้ของเหล่านักหลอมโอสถในโลกของเจ้า พวกเขาก็เสมือนมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น!” ซุนบอกกับหลงเฉิน
“แต่ถึงอย่างไร ความรู้ด้านการหลอมโอสถนี้ ก็เป็นเพียงแค่ทฤษฎีเท่านั้น เจ้าจักสามารถก้าวขึ้นเป็นนักหลอมโอสถอันดับต้นๆได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าสามารถนำทฤษฏีเหล่านี้ไปปฏิบัติได้ต่างหาก ซึ่งนั่นคือส่วนที่ยากที่สุด แต่หากเจ้าสามารถทำสำเร็จ เจ้าก็จักกลายเป็นนักหลอมโอสถผู้ยิ่งใหญ่ที่มิอาจหาใครเทียบได้” ซุนอธิบายเพิ่มเติม
“ที่แท้ลวดลายที่ข้าเลือกก็คือความรู้ด้านการหลอมโอสถงั้นรึ? เวลานี้เท่ากับว่าข้ามีความรู้ของนักหลอมโอสถที่เก่งกาจที่สุดในจักรวาลเลยสินะ? ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!!” หลงเฉินพึมพำออกมาพร้อมกับยิ้มกว้าง
“เอ่อ.. คงจะไม่ถึงขั้นนั้น!” ซุนลุกขึ้นยืนพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน