เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – บทที่ 1061 ดึกแล้ว

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1061 ดึกแล้ว

บทที่ 1061 ดึกแล้ว

เธอพูดจบ ก็รีบหดหัวกลับเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นปิดประตูแน่นแล้วล็อกกลับ

เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ห้องน้ำมีขนาดใหญ่มากพอ ข้างในมีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่ง พอดีที่ดันไว้บนมือจับประตูด้านได้

แม้ว่าเขาจะมีกุญแจ เพื่อจะเปิดล็อกประตูอย่างไรก็ไม่สามารถเข้ามาได้

“เป่หมิงโม่ ชักช้าอยู่ได้ รีบไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ฉัน!” กู้ฮอนพูดเสียงดังอยู่ในห้องน้ำ

เป่หมิงโม่เห็นปฏิกิริยาของเธอเช่นนั้น ทำได้เพียงยิ้มเบาๆ

ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้มีความเจ้าเล่ห์มากขึ้นจริงๆ ความโง่งมเมื่อก่อนหายไปได้อย่างไรกัน

คนฉลาดอย่างเป่หมิงโม่ จะไม่เข้าใจเหตุผลง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร ‘ปรากฏการณ์ปลาดุก’ ไงล่ะ

จากนั้นไม่นาน เขาก็เดินลงไปที่ชั้นสองและหยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากตู้เสื้อผ้าใหม่อีกครั้งแล้วกลับไปที่ประตูห้องน้ำ

“ปึงปัง……”

เขาเคาะประตูเบาๆ “เฮ้ คุณหลับอยู่ข้างในหรือเปล่า ผมหยิบเสื้อผ้ามาแล้ว รีบเปิดประตูเร็วเข้า”

ในเวลานี้กู้ฮอนถือขวดแชมพูสระผมไว้ในมือ พลางจ้องมองไปที่หน้าประตู เมื่อกี้นี้เธอได้ยินข้างนอกไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะวิ่งเข้ามา ตอนที่ตนเองกำลังเผลอ

หลังจากผ่านไปไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่อีกครั้ง

“คุณ คุณก็แค่วางไว้ที่หน้าประตูนั่นแหละ แล้วคุณต้องอยู่ให้ห่างจากประตูห้องน้ำร้อยเมตรด้วยนะ” เธอตะโกนไปที่ประตู

“ร้อยเมตร……” เป่หมิงโม่ยิ้ม “ห่างจากที่นี่ไปห้องนั่งเล่นก็ยังไม่ถึงร้อยเมตรเลยนะ คุณวางใจเถอะ ผมจะไปทำอะไรคุณได้อีก”

“เรื่องนี้คุณยังทำน้อยไป มักแต่จะเอาเปรียบคนอื่น ฉันไม่สน ตอนนี้คุณต้องอยู่ให้ห่างจากฉันยิ่งห่างยิ่งดี หากอยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร ก็ไปอยู่ตรงประตูทางเข้าได้เลย”

“โอเค ไม่คิดว่าคุณจะยังไม่ไว้ใจผมถึงขนาดนี้ จะว่าไปคุณยังมีความลับอะไรที่ผมยังไม่รู้” เป่หมิงโม่หันหลังกลับไปอย่างทำอะไรไม่ได้และเดินไปที่หน้าประตูอย่างช้าๆ

คำพูดนี้เป่หมิงโม่กลับพูดไม่ผิด

จะอย่างไรพวกเขาต่างมีลูกด้วยกันสามคน แม้ว่าจะไม่ใช่คู่สามีภรรยา ที่แต่งงานกันมานาน แต่ก็มีความชัดเจนแล้ว

กู้ฮอนถอนหายใจเบาๆ จากนั้นค่อยๆเดินไปที่หน้าประตู หูแนบกับประตูฟังความเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านนอก

จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงของเป่หมิงโม่ดังมาจากไกลๆ “ได้หรือยังคุณหนูกู้”

เธอจึงเอาเก้าอี้ออกด้วยความโล่งใจ จากนั้นค่อยๆเปิดประตู โดยเว้นช่องว่างเอาไว้ก่อน หลังจากพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอก เธอจึงเปิดประตูกว้างขึ้นเล็กน้อย มองลงไปเห็นเสื้อผ้าวางอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าประตู

เธอรีบเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าเข้ามา จากนั้นก็ได้ค้ำยันประตูไว้อีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน กู้ฮอนก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดที่สวมใส่ไว้อย่างเรียบร้อย

“ผมดูคุณคงจะเหนื่อยมากจริงๆ อาบน้ำแล้วยังออกมาเป็นแบบนี้”

เสียงของเป่หมิงโม่ทำให้กู้ฮอนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำนั้นรู้สึกหนาวสั่นอยู่ข้างหลัง

ไม่ใช่เพราะข้างนอกหนาว แต่เสียงนั่นที่มาจากหน้าประตูห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังของเธอ!

ให้ตายเถอะ ตนเองเพิ่งจะได้ยินเสียงของเขาดังอยู่ไกลๆอย่างชัดเจน เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะวิ่งมาถึงด้านหลังของตัวเองได้เร็วขนาดนี้ อีกทั้งไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยสักนิด

ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ผีใช่ไหม บ้านหลังนี้เป็นบ้านผีสิง……

หรือจะเหมือนอย่างไป๋เนี๋ยงจื่อ(นางพญางูขาว)หลอกชูเชียนแบบนั้นหรือเปล่า

***

กู้ฮอนรวบรวมสติ มือข้างหนึ่งล็อกคอของตนเองไว้แน่น

เสื้อคลุมอาบน้ำของเป่หมิงโม่ใหญ่เกินไปสำหรับเธอจริงๆ เมื่อสวมใส่บนร่างกายของตัวเองมันเกือบจะกลายเป็นคอวีลึกแล้ว

หากถูกไอ้คนนั่นเห็นเข้า ไม่แน่ว่าคืนนี้จะได้นอนหรือเปล่า

ไม่สนที่จะหันหลังกลับ ได้แต่เดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อสงบสติอารมณ์

มีเพียงสถานที่ที่กว้างขวางแบบนี้เท่านั้น ที่ตนเองจะสามารถรอดพ้นจาก “การโจมตี” ครั้งต่อไปของเขาและไม่ถูกเขาจับได้

อันที่จริงก็เพราะว่าเธอกังวลเกินไป ถ้าเป่หมิงโม่เกิดทำอะไรกับเธอขึ้นมาจริงๆ เธอก็สามารถเดินออกจากห้องน้ำได้โดยทันที หรือสามารถเปิดประตูห้องน้ำได้ในพริบตา

อีกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่มีการต่อต้านในเวลานั้น

“คุณไม่รักษาคำพูด” กู้ฮอนเดินไปที่ต้นคริสต์มาส หันมาขมวดคิ้วพลางมองไปยังเป่หมิงโม่ที่อยู่ไม่ไกลจากเธอ

ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เอามือทั้งสองล้วงกระเป๋าพลางมองมาที่เธอ “ผมแค่พิสูจน์ว่าตัวผมเองไม่ได้อันตรายอย่างที่คุณคิดก็เท่านั้นเอง

“ฮึ อันตรายหรือไม่อันตรายก็ขึ้นอยู่กับคุณจะตัดสินใจ เรื่องครั้งก่อนฉันจะจดจำมันไปตลอดชีวิต! ดังนั้นคุณควรเก็บมันเอาไว้ดีกว่า ไม่มามัวไร้สาระกับคุณแล้ว ตอนนี้ฉันง่วงแล้ว” กู้ฮอนพูดจบ เธอหาวนอนและไม่ได้สนใจเป่หมิงโม่อีกจากนั้นขึ้นไปยังชั้นบน

เมื่อถึงชั้นสอง มีประตูเพียงสองบานที่อยู่ตรงข้ามห้องเด็กสามคน

แม้ว่าที่ผ่านมาจะอาศัยอยู่ที่นี่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้มากนัก

หนึ่งในสองห้องนี้เป็นห้องนอนของเป่หมิงโม่ และอีกห้องหนึ่งที่บอกว่าเป็นห้อง แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แยกตัวออกมาต่างหาก

เจ้าบื้อเป่หมิงผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร เป็นผู้ชายคนเดียวในตระกูลที่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหญ่กว่าผู้หญิงใช้

แน่นอนว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่ได้เล็ก แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้องนอนเลย

โชคดีที่เป็นบ้านหลังใหญ่ ก็เลยมีพื้นที่

กู้ฮอนก็ไม่เกรงใจ จึงยึดครองห้องนอนทั้งห้องนี้ไว้โดยตรง

เตียงของเป่หมิงโม่นั้นใหญ่มากจริงๆ ความนุ่มนั้นกลับทำให้ร่างกายไม่รู้สึกถึงความอึดอัดใดๆ ทั่วทุกส่วนกำลังพอเหมาะพอดี

เป็นคนรวยนี่มันสุขสบายจริงๆเลย การได้นอนอยู่บนนั้นก็เหมือนนอนอยู่บนทุ่งหญ้าอ่อนนุ่มในฤดูใบไม้ผลิ

ค่อยๆหลับตาลงช้าๆ สัมผัสได้ถึงลมที่พัดมาอย่างอ่อนโยนและเย็นสบายเข้ามากระทบกับร่างกายของเธอ แม้จะไม่รู้สึกถึงความเย็นสักเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยให้นอนหลับได้มากขึ้น

เธอยังไม่ทันนับแกะครบสิบตัวก็ได้นอนหลับลึกไปแล้ว

คืนนี้ก็ได้ดึกมากแล้ว เป่หมิงโม่เดินออกมาจากห้องที่อบอุ่นตามลำพัง ยืนรับลมหนาวพลางมองเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้

ในที่ ๆไกลออกไปมาก แม้จะมองได้ไม่ชัดแต่ก็ยังมองเห็นประกายของดอกไม้ไฟทุกจุดที่ถูกจุด ช่อดอกไม้ที่สวยงามเบ่งบานอยู่เต็มท้องฟ้ายามค่ำคืน

เขาหยิบบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาสูบอยู่ด้านนอก จากนั้นก็หยิบบุหรี่สิบมวนที่อยู่ในกล่องใส่บุหรี่ พร้อมไฟแช็กเหวี่ยงแขนด้วยความแรง โยนเข้าไปในหุบเขาลึก

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลิกบุหรี่แล้ว

ขณะเดียวกัน เขาก็ให้ตัวเองเริ่มต้นใหม่

วันเวลาที่ต้องอยู่เฉยๆออกห่างจากสังคมไม่เหมาะกับตนเองจริงๆ ตรงกันข้ามกลับทำให้เกิดปัญหายุ่งยากกับตนเองโดยไม่จำเป็น

*

ลมหายใจของกู้ฮอนนั้นสม่ำเสมอและนุ่มนวล เหมือนกับเด็กทารกที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ

ในตอนนี้ ประตูห้องนอนที่ทะลุไปยังห้องเสื้อผ้าถูกเปิดออกอย่างเบาๆ

เป่หมิงโม่เดินเข้ามาช้าๆ ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอและมองดูเธอที่กำลังนอนหลับสนิท ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

ค่อยๆลูบผมของเธอที่ห้อยลงมาโดยไม่ตั้งใจ เห็นแค่เพียงคิ้วของเธอที่ขมวดเล็กน้อย

***

ดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นจากขอบฟ้า

แม้ว่าแสงสว่างของมันไม่ได้อบอุ่นเหมือนกับสามฤดูอื่นนั่น แต่ก็ยังคงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับฤดูหนาวนี้ได้อยู่บ้าง

แวบแรกที่เด็กๆตื่นจากความฝัน ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังอยู่ในแดนแห่งความฝัน

พวกเขาต่างได้พบกับสิ่งที่ตัวเองอยากจะเจอมากที่สุด หรือได้รับของที่ต้องการ

เฉิงเฉิงฝันถึงด้านวิทยาศาสตร์ หยางหยางฝันถึงโลกแห่งกีฬา ส่วนความฝันของจิ่วจิ่วคืออาณาจักรแห่งเทพนิยาย……

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับของขวัญในเทศกาลคริสต์มาสที่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความตื่นเต้น

ไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตัวเองที่เห็นจริงๆ ว่ามันเป็นแค่ความฝัน ถึงอย่างไรพวกเขาก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่านี่คือโลกใบเล็กๆของตัวเองจริงๆ

พวกเขารีบแต่งตัวด้วยความตื่นเต้น และเปิดประตูห้องนอนของตัวเองเกือบจะพร้อมกัน

พวกเขามองตากัน ยากจะซ่อนความสุขภายในใจของตัวเองเอาไว้ได้

“เฮ้ นายรู้อะไรไหม ห้องของฉันมันน่าเหลือเชื่อมาก อย่างกับความฝันเลย……”

“ของฉันก็ด้วย”

“พี่เฉิงเฉิง พี่หยางหยาง ที่นี่ที่ไหนอะ” มีเพียงจิ่วจิ่วที่รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของป้าเฉียวเฉียว

“ที่นี่คือบ้านของพ่อ ครั้งที่แล้วฉันกับหยางหยางเคยมา เพียงแต่ว่าครั้งที่แล้วไม่ได้ดีเท่าตอนนี้ พ่อน่าจะปรับปรุงซ่อมแซมมันใหม่ ฉันชอบที่นี่มากจริงๆ”

“ใช่ใช่ ที่นี่ฉันมีเครื่องออกกำลังกายมากมาย และยังฝึกชกมวยได้ด้วย……ฉันเริ่มไม่อยากจะออกไปจากที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปบอกแม่ว่าอยู่ที่นี่กันดีกว่า”

“โอเค โอเค งั้นฉันก็ได้เล่นกับตุ๊กตาได้ทุกวันแล้ว” จิ่วจิ่วว่าตาม

แต่เฉิงเฉิงดูเหมือนจะไม่ได้มองโลกในแง่ดีอย่างกับพวกเขา เขารู้อารมณ์ของแม่ดี

“พวกเราลงไปกันก่อนเถอะ เดาว่าพวกพ่อกับแม่รอพวกเราอยู่ด้านล่างแล้ว แต่วันนี้เป็นวันคริสต์มาสนะ ควรจะเตรียมของขวัญวันคริสต์มาสไปให้พวกพ่อกับแม่”

“ของขวัญวันคริสต์มาสหรือ” หยางหยางขมวดคิ้ว และใช้มือเล็กๆเกาผมของตัวเอง

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรับของขวัญ แต่การให้ของขวัญนี้……เริ่มทำให้เขาลำบากใจแล้ว

แน่นอนว่า ไม่เพียงแค่เขาคนเดียว จิ่วจิ่วก็เริ่มลำบากใจ

เฉิงเฉิงคาดไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องลำบากใจในเรื่องนี้ แต่โชคดีที่เขาคิดไว้แล้วว่าควรจะทำอย่างไร “พวกเธอแค่ตามฉันมาก็ได้แล้ว”

สามพี่น้องลงไปชั้นล่างอย่างระมัดระวัง

“โฮ่งโฮ่ง……” เมื่อพวกเขาลงมาถึงชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า

“นี่คือเสียงของ ‘เบลล่า’ ไม่นานจิ่วจิ่วก็ฟังออกแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน เบลล่าก็ได้กระดิกหางและปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าของเด็กทั้งสามคน

“ฮ่า ‘ลูกบอลลูกนี้’ ใช่เธอจริงๆด้วย แต่เมื่อวานฉันจำได้ชัดเจนว่าไม่ได้พาเธอออกไปนะ เธอรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราอยู่ที่นี่” หยางหยางย่อตัวลง และลูบหัวของเบลล่าเบาๆ

“โฮ่ง……” เบลล่าจะพูดได้อย่างไรล่ะ เมื่อมันรู้ว่ากลางดึก ตัวเองก็ถูกนายให้พามา

ที่นี่สำหรับมันแล้วยังคงเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แต่มีกลิ่นของนายน้อยสามคนและนายหญิง

นั่นสิ หลังจากรุ่งเช้า มันก็ได้พบนายน้อยสามคนที่นี่

“เฮ้เฮ้ นายจะลากฉันให้ทำอะไร”

หลังจากแค่เห็นว่าเบลล่าเลียหยางหยาง ใช้ปากกัดแขนเสื้อของหยางหยางเข้า จากนั้นก็พยายามามลากเขาไปที่แห่งหนึ่ง

“คงจะไม่ใช่มันอยากจะไปขับถ่ายใช่ไหม” เฉิงเฉิงมองไปที่มันราวกับว่าต้องการจะให้หยางหยางพามันออกไป

***

หยางหยางดึงแขนเสื้อของตัวเองออกจากปากของเบลล่าอย่างแรง “เธออยากจะไปขับถ่ายไหม ถ้าใช่ก็เห่าหนึ่งครั้ง ถ้าไม่ใช่ก็เห่าสองครั้ง”

“โฮ่ง……”

“อืม ดูแล้วเหมือนกับที่เธอคาดไว้เลย ไป ฉันจะพาเธอออกไป” หยางหยางพูดพลางพาเบลล่าเดินออกไปข้างนอก

แต่ก่อนที่เขาจะเดินไปยังห้องนั่งเล่น ก็ได้เห็นต้นคริสต์มาสต้นนั้น

“ว้าว พวกเธอรีบมานี่เร็ว นี่ต้นคริสต์มาส ใหญ่จังเลยอะ” หยางหยางอุทาน

เฉิงเฉิงและจิ่วจิ่วก็รีบตามมา

“ต้นไม้ใหญ่อันแสนสวย ข้างบนยังแขวนนางฟ้าตัวน้อยและระฆังเล็กๆด้วย” จิ่วจิ่ววิ่งไปใต้ต้นไม้ และเงยหน้าขึ้นมอง

เครื่องประดับเล็กๆที่อยู่ข้างบนทำให้เธออดใจไม่ได้ที่อยากจะหยิบมันมา

“เมื่อคืนวานพ่อกับแม่ต้องวางของพวกนี้ไว้ที่นี่แน่ๆ”

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท