Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – ตอนที่ 42 ไม่ทราบว่าคือหนังสือพิมพ์รายวัน‘เทียนหยู’รึเปล่า

ตอนที่ 42 ไม่ทราบว่าคือหนังสือพิมพ์รายวัน‘เทียนหยู’รึเปล่า

ตอนที่ 42 ไม่ทราบว่าคือหนังสือพิมพ์รายวัน‘เทียนหยู’รึเปล่า

ยินจื่อเจิ้นมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยความเป็นห่วง ไม่รอให้เธอได้เอ่ยปากพูด ยินรั่วอวิ๋นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกระวนกระวาย

“แม่คะ หนูไม่ยอม หนูจะแต่งงานกับเซี่ยงเฉิง อย่าให้พี่สาวทำลายงานแต่งงานของหนูเลยนะคะ” ยินรั่วอวิ๋นเป็นกังวลเล็กน้อย กระชากแขนเสื้อของหลี่หมึ้งด้วยความรุนแรง น้ำตาบนใบหน้าของเธอไหลลงมา หันไปมองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดขึ้น:“พี่คะ พี่อย่าทำลายงานแต่งงานของฉันได้ไหมคะ? ฉันกับเซี่ยงเฉิงเรารักกัน ฉันเตรียมตัวเอาไว้แล้ว ฉันจะเป็นภรรยาของเซี่ยงเฉิง พี่คะ พี่แต่งงานกับคุณลุงจางเถอะค่ะ คุณลุงต้องดีกับพี่มากแน่……”

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูยินรั่วอวิ๋นด้วยความเย็นชา ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับน้ำตาของเธอแม้แต่น้อย หลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋นโน้มตัวเข้ามาใกล้กับเตียง เธอรู้สึกรำคาญมากจริงๆ เลิกผ้าห่มขึ้นเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินลงมาจากบนเตียง เดินไปทางประตู จากนั้นหันมาบอกกับทุกคน:“สิ่งที่ฉันควรจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว เรื่องของฉัน ฉันจัดการเอง พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ ฉันต้องการพักผ่อน”

ขณะที่พูด ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองไปที่ประตู เห็นได้ชัดว่าต้องการส่งแขก

หลี่หมึ้งตกใจกับท่าทีที่เย็นชาของยินเสี้ยวเสี้ยว จู่ๆเธอก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา เดินขึ้นหน้าไปจับมือของยินเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ พูดด้วยท่าทีน่าสงสาร:“เสี้ยวเสี้ยว กำลังโกรธแม่อยู่หรอ? โกรธที่แม่บอกให้ลูกไปเอาเอกสาร ดังนั้นแม้แต่ตอนนี้ลูกก็ยังทำสีหน้าเย็นชาให้กับพ่อ? เสี้ยวเสี้ยว ลูกอย่าทำแบบนี้สิ เป็นความผิดของแม่ แม่ควรจะไปเอา หรือไม่ก็ให้รั่วอวิ๋นไปเอา จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับพวกเราคนไหนก็ดีกว่าเกิดขึ้นกับลูก เสี้ยวเสี้ยว อย่าโกรธแม่เลย คุณพ่อเขารักลูกมาก…… เสี้ยวเสี้ยว ลูกยกโทษให้แม่ได้ไหม?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวหัวเราะเบาๆ จู่ๆก็รู้สึกว่าหลี่หมึ้งที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเธอดูเหนื่อยมาก ยื่นมือขึ้นอยากจะออกจากพันธนาการ ทว่ากลับคิดไม่ถึง หลี่หมึ้งกลับจับโดนแผลของเธอ ตอนนี้ความเจ็บปวดแผ่ซ่าน ไม่ได้ทรมานแล้ว ทว่ากลับคิดไม่ถึง ความไม่ทรมานของเธอเกือบแลกมาด้วยตบของยินไป่ฝัน!

คำพูดของหลี่หมึ้งไม่ได้พูดผิดตรงไหน ทั้งหมดล้วนพูดด้วยความเป็นห่วงจอมปลอมตามฉบับ

อะไรคือสิ่งที่เรียกว่า‘เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับพวกเราคนไหนก็ดีกว่าเกิดขึ้นกับลูก’? พูดให้ใครฟัง?

หมายความว่าจะให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับหลี่หมึ้ง หรือเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับยินรั่วอวิ๋น?

ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน แต่คำพูดของหลี่หมึ้ง เมื่อยินไป่ฝันได้ฟัง ต่อให้เธอไม่เคยคิดก็ต้องแปลว่าเคยคิด ใครใช้ให้ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปแบบนี้? เมื่อก่อนจะคอยทำตัวดีๆระมัดระวังในการวางตัวเพื่อให้ได้ความรักจากพ่อ แต่เมื่อผ่านเรื่องนี้ไปนั้น เธอเสียใจมากจริงๆ การที่มีท่าทีเปลี่ยนไปนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อคนอื่นได้ฟังนั้นกลับเปลี่ยนเป็นคนละความรู้สึก……

ยินไป่ฝันได้ฟังคำพูดนี้แล้วนั้น โมโหเดินสาวเท้าใหญ่ๆไปด้านหน้า มือที่ง้างขึ้นมานั้น ขณะที่มองดูแล้วจะตบลงมา กลับได้ยินเสียงที่ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวสบายใจจากหน้าประตู ยินจื่อเจิ้นที่ยืนอยู่ด้านหลังหยุดเดิน

“คุณยิน คุณคงเสพติดการตบตีทำร้ายภรรยาผมใช่ไหมครับ?” จิ๋นลี่ยวนเต็มไปด้วยความเย็นชา ยืนอยู่ตรงประตูโดยไม่แอบซ่อนความรู้สึกแม้แต่น้อย มองจ้องเข้าไปในตาของยินไป่ฝัน บรรยากาศนั้น ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกถึงความอึดอัดขึ้นมา

เดินก้าวเท้าเข้ามาใกล้ยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนยื่นมือโอบกอดยินเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ ทำให้เธอออกจากพันธนาการของหลี่หมึ้งไปโดยปริยาย หันไปมองยินไป่ฝัน แล้วพูดขึ้นเสียงเบา:“คุณยินครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณไปได้ยินมาจากที่ไหนครับว่าผมจะไม่แต่งงานกับเสี้ยวเสี้ยวแล้ว? ถ้ารู้แล้วช่วยบอกผมหน่อยนะครับ ผมจะได้เขียนหนังสือแจ้งไปที่ทนาย ฟ้องร้องคนพวกนั้นข้อหาทำลายชื่อเสียง”

ยินไป่ฝันดึงมือตนเองกลับ หันไปมองจิ๋นลี่ยวนด้วยความโมโห:“จิ๋นลี่ยวน ผมเป็นพ่อตาของคุณ มารยาทขั้นพื้นฐานคุณยังไม่มีหรอ?”

เมื่อจิ๋นลี่ยวนได้ยินคำพูดนี้ก็กระตุกยิ้มมุมปาก จากนั้นพูดขึ้น:“คุณยินครับ คุณคงลืมไปแล้ว เมื่อสักครู่คุณพุ่งบอกว่าจะไม่ยอมให้ลูกสาวของคุณแต่งงานกับผม แต่ตอนนี้คุณกลับมาบอกว่าตนเองเป็นพ่อตาของผม เรื่องนี้เราไม่ควรคิดกันแบบนี้สิครับ

เมื่อถุกจิ๋นลี่ยวนพูดเช่นนี้ สีหน้าของยินไป่ฝันก็ดูไม่ดีนัก เขาหันหังแล้วพูดขึ้นด้วยความเหิมเกริม:“ หึ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็ขอให้คุณหมอจิ๋นอยู่ให้ห่างจากลูกสาวของผม ลูกสาวของผมยังเด็กเธอไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับผู้จัดการจาง ผมไม่อยากได้ยินข่าวลือแย่ๆที่ถูกแพร่ออกไปอีก!”

ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ฟัง รู้สึกหวาดกลัว มือบางที่ถูกจิ๋นลี่ยวนจับอยู่นั้นถึงกับสั่นเทาเล็กน้อย

จิ๋นลี่ยวนจับเอาไว้แน่น ไม่ได้หันไปมองยินเสี้ยวเสี้ยวแต่กลับตอบยินไป่ฝันไปตรงๆ:“คุณยินครับเหมือนว่าคุณจะเข้าใจความหมายผมผิดไปนะครับ ที่ในตอนนี้ผมเรียกคุณว่าคุณยินล้วนเป็นเพราะคิดเผื่อเสี้ยวเสี้ยว ก่อนที่เธอจะแต่งงานเข้ามายังตระกูลจิ๋นอย่างเป็นทางการนั้น ผมควรจะเรียกคุณแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ? สำหรับผู้จัดการจาง ถ้าข่าวของผมไม่ผิดละก็ ชีวิตนี้ของเขาไม่มีวันที่จะเดินทางดีๆได้ คุณยินแน่ใจนะครับว่าจะส่งลูกสาวตนเองไปอยู่ข้างกายคนแบบนี้?”

คำพูดนี้เมื่อถูกพูดออกไป สีหน้าของหลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋นก็ดูไม่สู้ดีนัก เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นพวกเขาได้ยินมาบ้างแล้ว เมื่อนึกถึงผู้ชายตรงหน้า เวลาที่โมโหขึ้นมานั้น ความโมโหของเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอสามารถทนรับได้ อีกทั้งยินจื่อเจิ้นหันไปมองผู้เป็นพ่อของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา ในใจของเขาเคล้าไปด้วยความผิดหวัง!

ไม่ให้ยินไป่ฝันมีโอกาสที่จะพูด จิ๋นลี่ยวนยังคงพูดต่อ:“ทุกคนครับ ในประเทศของเรา ให้ความสำคัญกับการแต่งงานอย่างเป็นอิสระ แม้ว่าคุณจะเป็นพ่อของเสี้ยวเสี้ยว แต่ในเมื่อผมกับเสี้ยวเสี้ยวเราจดทะเบียนสมรสด้วยกันแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิบีบบังคับให้เราต้องหย่ากัน”

พูดจบ จิ๋นลี่ยวนไม่แม้แต่จะหันไปมองยินไป่ฝัน ประคองยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นไปนอนพักบนเตียง ท่าทีละมัดระวังนั้นทำให้ยินรั่วอวิ๋นเม้มปากกัดฟันแน่น!เธอไม่เชื่อหรอกว่า จิ๋นลี่ยวนสามารถรับชื่อเสียงแย่ๆของยินเสี้ยวเสี้ยวได้!

หลังจากปรับอารมณ์ของตนเองแล้วนั้น ยินรั่วอวิ๋นขมวดคิ้วเป็นปม พูดด้วยความน่าสงสาร:“คุณหมอจิ๋นคะ ได้ยินว่าคุณเป็นคนช่วยพี่สาวฉันออกมา ตอนที่คุณเข้าไป พี่สาว……พี่สาวฉันเธอ เป็นยังไงบ้างคะ?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวเย็นวาบไปทั้งตัวในทันที หันไปมองยินรั่วอวิ๋นนิ่งๆ ยังไม่รอให้ยินรั่วอวิ๋นพูดขึ้นเธอก็ตอบ:“ขอบคุณในความเป็นห่วงของน้องสานะ แต่ความเป็นห่วงของน้องสาวนั้นมากเกินไป ที่วันนี้พี่ต้องมานอนพักที่โรงพยาบาล เพราะพี่ดีดดิ้นขัดคืนจนเกินไป ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นตนอที่คุณจิ๋นลี่ยวนเข้าไปนั้น พี่ยังขัดคืนไม่หยุด”

ความหมายในสิ่งที่เธอพูดนั้นชัดเจน ยินรั่วอวิ๋นอยากจะทำให้ในใจของจิ๋นลี่ยวนรู้สึกแย่ บอกว่าเธอนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์ แต่เธอทำมันไม่สำเร็จ!

ทว่ายินรั่วอวิ๋นกลับไม่ยอมแพ้เธอหันไปมองจิ๋นลี่ยวน แล้วพูดขึ้นเสียงเบา:“พี่เขยคะ จริงหรอคะ? ถ้าแบบนั้นก็ดีมากเลยสิคะ แต่ว่า…..ก่อนจะแต่งงาน พวกพี่ไปตรวจกันก่อนเถอะค่ะ พี่สาวจะได้ไม่ต้อง……”

ยังไม่ทันพูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็โมโหขึ้นมา ความโมโหในครั้งนี้เธอแสดงมันออกไปตรงๆ หยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนตู้ข้างหัวเตียง สาดมันไปบนตัวของยินรั่วอวิ๋น!

“ยินรั่วอวิ๋น เธอยังทำตัวได้น่ารังเกียจมากกว่านี้อีกไหม!” โมโหจนใบหน้าเล็กๆของเธอแน่นไปหมด ดวงตาของเธอถลึงขึ้นจนใหญ่ ยิ่งทำให้เห็นนัยน์ตาดำกับขาวชัดเจนยิ่งขึ้น มองดูแล้วน่าตกใจ อย่างน้อยทุกคนในห้องก็ตกใจกับความโมโหของยินเสี้ยวเสี้ยว ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งตัวตรง แล้วพูดเสียงเหี้ยม:“เธอผิดหวังมากหรอที่ฉันไม่ถูกย่ำยี? ยินรั่วอวิ๋น ฉันจะบอกอะไรให้นะ อย่าบีบบังคับให้ฉันต้องทำ ไม่อย่างนั้นวันข้างหน้าฉันอาจจะทำในสิ่งที่แม้แต่ตัวฉันยังคาดไม่ถึง!”

ภายในห้องเงียบลงทันที ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น

ในตระกูลยิน ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เป็นคนนิสัยดีมากนัก ทุกคนต่างก็รู้ดี แต่กลับไม่เคยมีใครเห็นเธอโมโหขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวโมโหแบบนี้ เวลานี้เอง ทั้งห้องได้ยินเพียงเสียงน้ำหยดลงมาจากหน้าของยินรั่วอวิ๋น นอกเหนือจากนั้นล้วนถูกปกคลุมด้วยความโมโหของเธอ

จิ๋นลี่ยวนนั่งอยู่ข้างเตียง ลูบหลังของเธอเบาๆ เป็นการปลอบโยนที่ไร้เสียง นัยน์ของเขากลับเคล้าไปด้วยความปวดใจ

ครั้งนี้ยินเสี้ยวเสี้ยว ถูกทำให้โกรธมากจริงๆ

ยินรั่วอวิ๋นดึงสติกลับมา หันไปร้องไห้ในอ้อมกอดของหลี่หมึ้ง ร้องไห้แล้วพูดกับยินไป่ฝันด้วยความน่าสงสาร:“พ่อคะ หนูไม่ได้หมายความแบบนั้น พี่ไม่ฟังแม้แต่สิ่งที่หนูพูด หนูแค่อยากจะบอกว่าถึงยังไงก่อนแต่งงานก็ต้องตรวจสุขภาพไม่ใช่หรอคะ? ครั้งนี้พี่ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ก็อยากให้ไปตรวจสุขภาพดีๆเท่านั้น จะไม่ได้ไม่ต้องเจ็บป่วยอะไร……”

คำพูดแต่ละคำนั้นล้วนไม่พอใจในตัวยินเสี้ยวเสี้ยว ทำตัวน่าสงสาร

ยินรั่วอวิ๋นหันไปมองยินเสี้ยวเสี้ยว จากนั้นขยับเข้ามาใกล้แลวพูดขึ้น:“พี่คะ พี่จะใส่ร้ายหนูแบบนี้ได้ยังไง? หนูไม่ได้คิดแบบนั้น พี่ทำแบบนี้จะให้คุณหมอจิ๋นมองหนูเป็นคนยังไงคะ?”

ขณะที่พูด ยินรั่วอวิ๋นร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของหลี่หมึ้ง เสียงสะอื้นนั้น ทำให้คนรู้สึกสงสารจริงๆ

ยินเสี้ยวเสี้ยวพ่นลมหายใจเบาๆ หันไปซบจิ๋นลี่ยวนด้วยความเหนื่อยล้า สำหรับยินรั่วอวิ๋น เธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนล้วนรู้ดีแก่ใจ เธอไม่อยากจะยุ่งกับผู้หญิงคนนี้

ยินไป่ฝันมองดูท่าทีน่าสงสารของยินรั่วอวิ๋น ในใจรู้สึกโกรธมาก เดินขึ้นหน้ากำลังจะพูดบางอย่าง แต่จิ๋นลี่ยวนกลับพูดขึ้นมาก่อน :“เสี้ยวเสี้ยวเหนื่อยแล้ว ถ้าพวกคุณไม่มีธุระอะไร เชิญกลับไปเถอะครับ”

พูดจบ จิ๋นลี่ยวนยืนขึ้นส่งแขก แม้แต่ยินจื่อเจิ้นก็ถูกเชิญครับ

เมื่อเข้ามาในห้องนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ท่าทางของเธอดูอ่อนเพลียและเหนื่อยล้ามาก

จิ๋นลี่ยวนเดินเข้าไป กำลังจะพูดบางอย่าง เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้น ทำให้จิ๋นลี่ยวนต้องออกไปรับโทรศัพท์ ทว่าภายในห้อง หลังจากจิ๋นลี่ยวนเดินออกไปแล้วนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น

ฟังเสียงของจิ๋นลี่ยวนที่อยู่นอกประตูด้วยความตั้งใจ ยินเสี้ยวเสี้ยวถอนหายใจเบาๆ

เขาเป็นคนสุดท้ายของเธอ และเป็นโอกาสเดียวของเธอ ตอนนี้ ไม่ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอต้องจับผู้ชายคนนี้เอาไว้ให้แน่น ไม่อย่างนั้นเธอจะกลายเป็นสินค้าที่ต้องแต่งงานเพื่อธุรกิจของตระกูลยิน

หยิบโทรศัพท์ออกมา ยินเสี้ยวเสี้ยวกดโทรออกอย่างไม่ลังเล ครั้งนี้ เธอต้องปกป้องงานแต่งงานนี้เอาไว้ และต้องปกป้องอิสระของตนเอง!เช่นนี้ ไม่ว่าจะต้องลำบากแค่ไหน มันก็คุ้มค่า!

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่หนังสือพิมพ์รายวันเทียนหยู’รึเปล่าคะ? ฉันคือยินเสี้ยวเสี้ยว คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลยินค่ะ……”

ทุกครั้งที่โทรหาใคร ยินเสี้ยวเสี้ยวจะพูดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ด่วน เธอล้วนยิ้มรับทุกคนด้วยความยินดี บอกความต้องการของตนออกไป แล้ววางสาย

เธอโทรหาคนไม่มากนัก แค่สามคน แต่แค่สามสายนี้ ก็ทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับเมืองTได้แล้ว

ตอนที่จิ๋นลี่ยวนเดินเข้ามานั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวโทรหาทุกคนจนหมดแล้ว นั่งเงียบๆอยู่บนเตียง มองดูจิ๋นลี่ยวนแล้วคลายยิ้ม เธอดูเชื่อฟังและสวยมาก

จิ๋นลี่ยวนเดินเข้าไป มองดูแผลในมือของเธอ กลับถามขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย:“ยินเสี้ยวเสี้ยว เมื่อไหร่คุณถึงจะเรียนจบ?”

เธอเคยพูดเอาไว้ ต้องรอให้ตนเองเรียนจบถึงจะยอมแต่งงานกับเขา……

ส่วนเขา ตั้งแต่เริ่มจนจบกลับจำได้ดี

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท