บทที่97: ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
ได้ยินตั้งนานแล้วว่าคุณหนูรองของบ้านจิ๋นก็จะมาร่วมงานหมั้นนี้ด้วย แต่ว่า ตั้งงานพิธีงานหมั้นเริ่มจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นโผล่หน้ามาเลย ทุกคนต่างนึกว่าข่าวมีความคลาดเคลื่อน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจิ๋นลี่หยาวจะปรากฎตัวมาจริงๆ
ยังปรากฎตัวด้วยท่าทางที่สวยสง่ามาก………
สีม่วงไม่ใช่สีที่ผู้หญิงคนไหนก็จะสามารถใส่ออกมาดูดีได้ แต่ จิ๋นลี่หยาวกลับใส่ออกมาสวยอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แม้กระทั่งทำให้สีที่ลึกลับนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งบนตัวเธอเลย ดีไซน์ที่เรียบง่าย ใบหน้าหน้าที่แต่งได้สวยสดงดงาม ทุกจุดทุกมุมต่างก็สรรหาแต่สิ่งที่ละเอียดอ่อนที่สุด
การปรากฎตัวของจิ๋นลี่หยาวเมื่อเทียบกับตอนที่ฉีเคอหานกับกู่ชูเหยาปรากฎตัวในเวลาเดียวกันแล้ว เธอก็ดูโดดเด่นไม่น้อยกว่าเลยแม้แต่นิด
ยินเสี้ยวเสี้ยวเพิ่งจะเคยเห็นจิ๋นลี่หยาวแต่งตัวหรูหราแบบนี้เป็นครั้งแรก ครั้งก่อนงานหมั้นของตัวเองกับจิ๋นลี่ยวนเธอก็ไม่ได้ใช้ใจแต่งขนาดนี้ นาทีนี้มองแล้วช็อกเหมือนราวกับว่าเห็นภูตน้อยอย่างไรอย่างนั้นเลย
ในขณะเดียวกัน เสี้ยววินาทีที่จิ๋นลี่หยาวปรากฎตัว พิธีกรที่อยู่บนเวทีก็ได้หยุดพูดอย่างไม่รู้ตัว เสี้ยววินาทีที่จิ๋นลี่หยาวปรากฎตัว ฉีเคอหานก็ได้ทิ้งกู่ชูเหยา และวิ่งไปที่ตรงหน้าของจิ๋นลี่ยวนโดยตรง
จิ๋นลี่หยาวพยักหน้าให้กับคนคุ้นเคยที่อยู่รอบๆด้วยรอยยิ้ม แต่สายตากลับหล่นอยู่ที่ทิศทางของจิ๋นลี่ยวน เธอเดินไปที่ฝั่งนู้นอย่างช้าๆทีละก้าว เดินจนกว่าด้านหน้ามีฉีเคอหานขวางเอาไว้
“ลี่หยาว……” เสียงที่คลุมเครือเรียกออกมาปุ๊บ คนที่อยู่ในงานมั้งหมดก็สงบลง
ฉีเคอหานชอบจิ๋นลี่หยาวอยู่ที่ตระกูลฉีกับตระกูลกู่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรแล้ว แม้กระทั่งตระกูลของทั้งสองมีความสัมพันธภาพที่ดีต่อกันก็ไม่ใช่ความลับอะไร ทุกคนแทบจะปาดเหงื่อหลังจากนาทีที่เห็นปฏิกิริยาของฉีเคอหาน มีคนหันไปมองกู่ชูเหยาที่ยืนสงบอยู่บนเวที เธอแม้กระทั่งไม่หันกลับมาเลยด้วยซ้ำ แผ่นหลังที่สวยงามยืนหันหลังให้กับทุกคน ราวกับว่าเธอยืนด้วยความแน่ใจว่าฉีเคอหานจะกลับไป………..
จิ๋นลี่หยาวมองฉีเคอหานที่อยู่ตรงหน้าแล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่ให้ฉีเคอหานได้มีโอกาสพูดเธอก็เปิดปากพูดก่อนว่า:“ยินดีด้วยนะ ทีนี้ก็ดีแล้ว ในที่สุดน้องชายที่สนิทที่สุดของพี่กับน้องสาวก็ได้หมั้นหมายกันเสียที พี่ขออวยพรให้พวกเธอมีความสุขนะ ดีที่สุดรีบปั๊มเบบี๋ที่น่ารักออกมาคนหนึ่งนะ”
จิ๋นลี่หยาวในนาทีนี้ให้ยินเสี้ยวเสี้ยวมีความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในความคิดเธอ จิ๋นลี่หยาวน่าจะเป็นผู้หญิงที่เหมือนสายลม ฟังคำพูดของคนในบ้านจิ๋นแล้ว จิ๋นลี่หยาวเป็นผู้หญิงที่เพื่อรักแล้วสามารถไม่แคร์ได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่กิริยาท่าทางดีงามและรู้รุกรู้รับคนนี้ ช่างต่างกับผู้หญิงที่อาจหาญไม่คิดมากและปล่อยตัวตามสบายทำอย่างที่ใจคิดในความคิดของเธอจริงๆ
จิ๋นลี่หยาวยิ้มให้กับฉีเคอหานอย่างจริงใจมาก ยื่นมือยกไวน์ขึ้นมาแก้วหนึ่งจากพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้างกาย ชูแก้วให้กับกู่ชูเหยาที่อยู่ทางไกล ประหนึ่งว่ากู่ชูเหยาก็สัมผัสถึงและหันหน้ามาก็ชูแก้วที่คนข้างกายยื่นให้ ผู้หญิงทั้งสองมีระยะห่างกันช่วงหนึ่ง และได้ยิ้มมุมปากจิบไวน์คำหนึ่งเหมือนกัน
อยู่ในโลกแห่งความรักของเธอ ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถแทรกเข้าไป!
พอพูดจบ ดื่มไวน์เสร็จจิ๋นลี่หยาวไม่แม้แต่จะเหลียวมองฉีเคอหานที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้า เธอได้เดินไปที่ทิศทางของยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวนโดยตรง
หลังจาฉีเฉิงผิงมาช่วยฉีเคอหานแก้ไขสถานการณ์ก็ได้ให้คนพาเขากลับขึ้นไปที่เวที งานหมั้นที่ติดขัดกลางคันนี้ได้จัดขึ้นต่อ แต่ว่าสีหน้าของฉีเคอหานชัดเจนมากว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กะจิตกะใจก็ยิ่งไม่ได้อยู่ที่นี่ ประหนึ่งว่าแต่ตั้งแต่ต้นจนจบกู่ชูเหยาไม่สังเกตเห็นเลยอย่างไรอย่างนั้น เธอดำเนินพิธีต่อด้วยรอยยิ้มเสมอ………….
เดินมาถึงข้างกายของจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่หยาวกลับหันหน้ามาเพ่งมองเฉิงชื่อชิงที่อยู่ตรงหน้า
พริบตาเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวเหมือนกับว่าได้กลิ่นตู่ๆ ด้วยความตื่นเต้นมือที่เรียวเล็กหยิกจิ๋นลี่ยวนทีหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว จิ๋นลี่ยวนที่ไม่ทันตั้งตัว หลุบตามองแววตาที่เปล่งประกายและอมยิ้มของเธอด้วยความแปลกใจ
เขาจะคอยดูซิ ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
“ชื่อชิง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” จิ๋นลี่หยาวยืนอยู่ที่ตรงหน้าของเฉิงชื่อชิง ถึงจะใส่รองเท้าส้นสูงแต่เธอก็ยังเตี้ยกว่าเฉิงชื่อชิงอยู่ครึ่งหัว คนหนึ่งสีม่วง คนหนึ่งสีเทายืนอยู่ด้วยกัน เป็นภาพที่สามัคคีกันมาก
ด้วยความประหลาดใจ ปรหนึ่งว่ายินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกตัวเองได้พบความลับที่ตะลึงโลกประมาณนั้นเลย เธอตื่นเต้นจนดึงจิ๋นลี่ยวนไว้อย่างโหด
ทำไมแววตาที่จิ๋นลี่หยาวมองเฉิงชื่อชิงถึงเต็มไปด้วยความรัก? แถมยังเต็มไปด้วยอ่อนโยน?
จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็นึกถึงคำพูดของบ้านจิ๋น สาเหตุที่จิ๋นลี่หยาวอายุยี่สิบเก้าแล้วยังโสดอยู่ เพราะว่าในใจเธอมีอยู่คนๆหนึ่งอยู่ตลอด หรือว่าคนๆนั้นก็คือเฉิงชื่อชิง?
โลกใบนี้มันแคบเกินไปรึเปล่า?
จิ๋นลี่ยวนดึงมือที่ถูกยินเสี้ยวเสี้ยวใช้ความรุนแรงออกอย่างออกจนปัญญา และเปลี่ยนเป็นยื่นมือไปโอบที่เอวเธอ ให้มือเรียวเล็กของเธอคืบคลานอยู่ที่อ้อมอกของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว สีหน้านั้นช่างน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก มองจนเขาพึงพอใจมาก ทั้งคู่ก็ไม่ได้ไปจากที่นี่ แค่มองดูทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ
นาทีที่จิ๋นลี่หยาวปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าสีหน้าของเฉิงชื่อชิงได้แข็งทื่อไปครู่หนึ่ง เพียงแต่ตอนที่จิ๋นลี่หยาวยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง เขาก็ได้กลับคืนสู่สีหน้าที่ดุจดั่งอาบลมในฤดูใบไม้ผลิตั้งนานแล้ว
“ใช่ครับ ไม่เจอกันนานเลย”ระหว่างพูด ทั้งสองได้ชนแก้วเบาๆทีหนึ่ง
จิ๋นลี่หยาวอ้าปากอยากพูดอะไรสักหน่อย แต่กลับถูกเฉิงชื่อชิงขัดจังหวะอย่างกะทันหัน ได้ยินแค่เขาพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยวว่า: “เสี้ยวเสี้ยว พ่อแม่ของผมไม่ได้เจอคุณมานานมากแล้ว ผมพาคุณไปเจอพวกท่านหน่อยเถอะ พวกท่านบ่นคิดถึงคุณอยู่ทุกวันเลย”
ยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าปากเล็กน้อย ด้วยจิตใต้สำนึกเธอมองไปยังทิศทางของจิ๋นลี่หยาว แต่กลับพบว่าสีหน้าแววตาเธอไม่เปลี่ยนเลย!เฉกเช่นแววตาที่เต็มไปด้วยความรักที่เธอเห็นเมื่อกี๊เป็นสิ่งจอมปลอมหมด!
หรี่ตาเล็กน้อย จิ๋วลี่ยวนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า:“พอดีเลย ผมก็ไปด้วย เสี้ยวเสี้ยวแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้จะขาดพ่อแม่ของคุณไม่ได้จริงๆ”
เฉิงชื่อชิงยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เพียงแค่พายินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนไปตามหาพ่อแม่ของตัวเอง ส่วนจิ๋นลี่หยาวได้หันหลังกลับมาคุยกับคนที่สนิทสนมกับตัวเอง ทุกอย่างดูเหมือนปกติมาก แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวดันรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว………..
งานหมั้นของตระกูลกู่กับตระกูลฉีพูดรวมๆแล้วถือว่าราบรื่นมาก ยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ในงานก็ได้รู้’ความลับ’ไม่น้อย นี่ทำให้เธอมีเรื่องกลับไปเม้าท์มอยกับถาวหยีเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย งานหมั้นทางนี้คือมีความสุขสามัคคีกัน ส่วนทางฝั่งบ้านยินกลับเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและกลัดกลุ้มใจ……..
หลี่หมึ้งที่สวมชุดจีนนั่งอยู่บนโซฟาโมโหจะแย่ ยินไป่ฝันที่อยู่ข้างๆก็ใส่ชุดสูทนั่งตัวตรง อีกด้านหนึ่งยังมียินรั่วอวิ๋นที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับเซี่ยงเฉิงที่โกรธกริ้วจนกระหืดกระหอบ
หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันเฝ้ารองานหมั้นของตระกูลกู่และตระกูลฉีนี้มานานเท่าไหร่แล้ว? ก็เพื่อจะอาศัยงานหมั้นนี้ให้บ้านยินได้เข้าสู่แวดวงไฮโซ! แต่ดันการ์ดเชิญของจิ๋นลี่ยวนก็ได้ส่งมาแล้ว พวกเขาก็เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว เตรียมจะถือสิทธิ์แสดงบทบาทแทนเจ้าของงานในงานหมั้นนี้เพื่อทำให้ชื่อเสียงของบ้านยินโด่งดังขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ให้บ้านยินกับบ้านจิ๋นผูกมัดไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น จู่ๆยินรั่วอวิ๋นกลับถูกจับได้ว่าไปพัวพันกับผู้ชายคนอื่น! คนของบ้านเซี่ยงโมโหจนลากยินรั่วอวิ๋นกลับมาที่บ้านยินกลางงานหมั้นเลย ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้านเซี่ยงยิ่งแล้วใหญ่โมโหจนสะบัดมือแล้วไปจากเลย……..
ในห้องรับแขกที่เงียบสงบ มีแต่ในทีวีกำลังฉายภาพงานหมั้นที่ดึงดูดสายตาผู้คน การปรากฎตัวของจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยว พวกเขาต่างมองจนเกิดความโกรธแค้นขึ้นมา เดิมทีพวกเขาก็สามารถปรากฎตัวอยู่ที่นั่นเหมือนกัน แถมยังสามารถถือโอกาสแฉเรื่องที่ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งครรภ์ บ้านยินกับบ้านจิ๋นก็ถือว่าได้ได้มัดอยู่ในเรือลำเดียวกันแล้ว แต่ยินรั่วอวิ๋นดันไม่เอาไหนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้!
เพิ่งแต่งงานเป็นข้าวใหม่ปลามันกันเพิ่งจะตั้งครรภ์ก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องดีเลยจริงๆ! เวลานี้ขอแค่มีสติหน่อย หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันก็จะไปร่วมพิธีงานหมั้นนั้นไม่ได้ ได้แต่กลับมาจัดการเรื่องวุ่นวายกวนใจเรื่องนี้!
ยินรั่วอวิ๋นร้องไห้ไปและดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่สวยสง่างามอยู่ในทีวี ไฟแค้นในใจยิ่งอยู่ยิ่งลุกท่วมขึ้นมา!
ถือสิทธิ์อะไร ถือสิทธิ์อะไรกันแน่?! ทั้งๆที่หัวหน้าครอบครัวของบ้านยินคือแม่ของเธอ เธอสิถึงจะเป็นคุณหนูของบ้านยิน เธอสิถึงจะเป็นคนที่คู่ควรแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน เธอสิถึงจะเป็นคุณนายสามของบ้านจิ๋น ยินเสี้ยวเสี้ยวสิถึงควรเป็นคนที่ถูกสามีจับได้ว่าสำส่อนทางเพศถึงขั้นตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย!
“ยินรั่วอวิ๋น! วันนี้ถ้าคุณไม่พูดให้รู้เรื่อง งั้นเราก็ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย! บ้านเซี่ยงของเรายังไม่หน้าหนาพอที่จะกล้าให้คุณคลอดลูกที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน!” เซี่ยงเฉิงโมโหจนจะบ้าอยู่แล้ว ในตอนต้นตอนที่อยู่ยินรั่วอวิ๋น เธอเป็นคนอ่อนโยนและเอาใจใส่ เป็นที่ประทับใจมาก แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงก็ได้ใจเขามากเป็นพิเศษ แต่หลังจากแต่งงานทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เธอเอะอะก็น้ำตาไหล คอยพูดจายุยงปลุกปั่นความสัมพันธ์ในครอบครัว ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ถูกตัวเองจับได้ว่าพัวพันกับคนอื่นอยู่หน้าบ้าน ยังเหลือนิสัยเดิมเหมือนตอนแรกเสียที่ไหน? “คุณกับผมเพิ่งแต่งงานกันเดือนกว่าๆ ตอนนี้ลูกในท้องของคุณก็เพิ่งจะแค่สี่สัปดาห์ ไม่นึกเลยว่าคุณก็จะนัดเจอกับชู้อยู่หน้าบ้านแล้ว! ยินรั่วอวิ๋น คุณนึกว่าบ้านเซี่ยงของเราจะรังแกได้ง่ายๆเหรอ?”
สีหน้าของยินไป่ฝันก็ค่อนข้างแย่ เรื่องแบบนี้ยกมาพูดที่ตรงหน้าอย่างเขาที่เป็นพ่อ มันช่างอึดอัดเสียจริงๆ
เซี่ยงเฉิงมองหน้าตาของยินรั่วอวิ๋นที่ไม่พูดสักคำเอาแต่จ้องดูทีวี จู่ๆเขาหัวเราะเยาะเสียงหนึ่งและพูดว่า: “ยินรั่วอวิ๋น อย่าคิดว่าบ้านเซี่ยงเคยขอความช่วยเหลือจากบ้านยินแล้วคุณก็วางมาดใส่ผมได้นะ ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของผม ขอแค่ไม่พอใจ ผมก็สามารถหย่ากับคุณได้ทุกเมื่อ!ผู้หญิงที่ยังเรียนจบและมีลูกอย่างคุณ ผมจะคอยดูซิว่าจะมีผู้ชายคนไหนมีปัญญารับเลี้ยงคุณ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่คุณพูดกรอกหูผมตลอดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ที่บ้านคุณไม่มีสถานะอะไรเลย ผมจะแต่งงานกับคุณเหรอ? ตอนนี้พอมาดูสารรูปที่คุณย่ำยีตัวเอง คุณทำตัวเองแท้ๆ!”
คำพูดเหล่านี้ พูดจนสีหน้าของบ้านยินซีดกันเป็นแถว เรื่องนี้มีหรือที่บ้านยินจะไม่รู้เรื่อง?
ในที่สุดยินรั่วอวิ๋นก็ดึงสติกลับมา หลังจากวกวนวนอยู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วรีบพูดว่า “เซี่ยงเฉิง หรือคุณยังไม่เข้าใจฉันอีกหรอคะ? ฉันรักคุณมากขนาดนี้ เราเพิ่งแต่งงานกัน เราเพิ่งสร้างครอบเล็กๆของเราขึ้นมา แม้กระทั่งในท้องของฉันยังมีลูกของคุณอยู่ ถึงฉันโง่แค่ไหนก็คงไม่ถึงขั้น…..ให้คุณมาจับได้ที่หน้าบ้านมั้งคะ?”
เซี่ยงเฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ใช่ ยินรั่วอวิ๋นฉลาดมากจริงๆ เธอไม่มีทางทำเรื่องที่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอก!
แววตาลึกๆของยินรั่วอวิ๋นขยับเล็กน้อย เอามือลูบหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง เด็กคนนี้มีประโยชน์มากเชียวนะ เธอรอเอาไว้โจมตียินเสี้ยวเสี้ยวอย่างหนัก และรอวันที่ตัวเองตำแหน่งเลื่อนพรวดพราด จะล้มลงที่นี่ได้ยังไง?
ไม่ว่าวันนี้เธอจะนัดเจอชู้รึเปล่า? เซี่ยงเฉิงก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องถูกสวมเขา! ของที่เธออยากแย่งจากยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ว่าของอะไรก็ไม่เคยพลั้งมืออยู่แล้ว!