บทที่93 มีสัญญาณของการตั้งครรภ์สักที่ไหน
สถานที่อย่างโรงพยาบาลไม่เหมือนที่อื่น ไม่ว่าจะอยู่โรงพยาบาลแบบไหน ทรัพยากรทางการแพทย์มักจะขาดแคลนอยู่เสมอ และเตียงผู้ป่วยเตียงหนึ่งก็ถือว่าเป็นทรัพยากรทางการแพทย์เช่นกัน ผู้ป่วยมากมายมาถึงที่โรงพยาบาลต้องการเตียงผู้ป่วยสักเตียงแต่กลับไม่มีเตียงว่าง คนที่ต้องการใช้จริงๆกลับไม่ได้ใช้ แต่คนอย่างมู่ซูวไม่มีความจำเป็นแท้ๆแต่กลับมากั๊กเตียงเอาไว้ ไม่แปลกเลยที่ทำให้หมอและพนังงานพยาบาลไม่พอใจ…..
คนในโรงพยาบาลยังไม่รู้เรื่องที่จิ๋นลี่ยวนได้จัดงานแต่งไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจิ๋นลี่ยวนก็คือคุณชายสามของบ้านจิ๋น แต่กลับรู้จักมู่ซูว ท่าเต้นบาเล่ต์ในคืนนั้นของมู่ซูวได้กระจายข่าวออกไปทั่วเมืองTอย่างร้อนแรงตั้งนานแล้ว ฐานะคุณหนูรองของตระกูลมู่ก็ถูกเปิดเผยออกมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเธอเป็นแฟนสาวที่เคยคบกับจิ๋นลี่ยวนมาสองปี!
“มาได้ยังไงครับ?”จิ๋นลี่ยวนไม่สนใจคำถามของมู่ซูวเลยด้วยซ้ำ และเจาะจงไปถามยินเสี้ยวเสี้ยวโดยตรง
ตามที่เขารู้ จริงๆแล้วยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ค่อยชอบสถานที่แบบโรงพยาบาลสักเท่าไหร่นัก
ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไหลตามจิ๋นลี่ยวนไม่สนคำถามของมู่ซูว เงยหน้าพูดว่า:“พ่อกับแม่ให้เรากลับบ้านไปทานข้าวด้วยกันคะ”
คำพูดเดียว ไม่ได้พูดชัดเจนเลยว่าเป็นบ้านยินหรือบ้านจิ๋น แต่จิ๋นลี่ยวนก็รู้เลยว่าที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดคือบ้านยิน เพราะว่าถ้าเป็นบ้านจิ๋น เธอไม่จำเป็นมาถึงที่โรงพยาบาลแบบนี้หรอก แค่กลับไปรออยู่ที่บ้านก็โอเคแล้ว มีแต่บ้านยินเท่านั้นถึงไม่เป็นแบบนั้น
ยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา จิ๋นลี่ยวนพูดว่า:“ผมยังเหลืออีกสามสิบนาที คุณไปรอผมที่ห้องทำงานนะ?”
ขมวดคิ้วเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนถามด้วยเสียงเบา แต่ดันเป็นเพราะคิ้วที่ขมวดขึ้นไปเล็กน้อยทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวมองแล้วหน้าแดงอย่างไม่รู้ตัว ก้มหน้าไม่กล้ามองเขาอีก
ความหล่อของผู้ชายคนนี้เสน่ห์แรงเกินไปรึเปล่า?
ตอบกลับเสียงเบาแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เตรียมจะหันหลังจากไป แต่กลับถูกจิ๋นลี่ยวนเรียกเธอไว้ หลังจากนั้นก็รู้สึกถึงจิ๋นลี่ยวนเดินมาที่ข้างกายของตัวเอง เสียงพูดของเขาดังขึ้นข้างหู:“ด้านซ้ายของโต๊ะทำงานนับถอยหลังลิ้นชักชั้นที่สองข้างในมีขนมหลายอย่าง คุณไปหาเองนะ มีเรื่องอะไรก็ไปสอบถามที่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาล ดูว่าผมอยู่ที่ไหน……”
“โอ้โห คุณหมอจิ๋นคะ ฉันว่าแล้วเชียวผู้ชายอย่างคุณชอบกินขนมตั้งแต่เมื่อไหร่ หัวหน้าพยาบาลอย่างฉันคนนี้ยังไม่รู้เลย ตอนนี้ดูๆแล้วเพื่อเตรียมไว้ให้ใครบางคนนี่เอง……” ทันใดนั้น เสียงของหัวหน้าพยาบาลพี่หลิงได้ดังก้องมา ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้าก็มองเห็นเธอเข็นยาเยอะแยะเข้ามา มองดูสายตาของเธอกับจิ๋นลี่ยวนเต็มไปด้วยการหยอกล้อ “ขนมพวกนั้นฉันจำได้ว่าฉันขอกับคุณ คุณยังไม่ให้ฉันเลย…….”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้ามองจิ๋นลี่ยวนอย่างโดยธรรมชาติ
กระแอมทีนึง จิ๋นลี่ยวนถึงก้มหน้าพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยว:“ไปเร็ว”
จริงๆแล้วยังมีอะไรอยากถามเขา แต่ร่างกายของยินเสี้ยวเสี้ยวกลับจากไปโดยสัญชาตญาณ!
จนถึงตัวเองนั่งอยู่ในห้องของจิ๋นลี่ยวนแล้ว เธอยังรู้สึกว่าตัวเองซื่อบื้อจริงๆเลย?
ทำไมจิ๋นลี่ยวนทำเหมือนสั่งสอนลูกอย่างนั้น และเธอยังเชื่อฟังสักขนาดนั้น? สมองไม่ทำงานแล้วใช่มั้ย?
กินขนมที่จิ๋นลี่ยวนเตรียมไว้ให้ แต่ละถุงบรรจุได้อย่างดี วางไว้ที่สะอาด ไม่ทำให้สกปรกได้ง่ายๆ และก็ไม่ทำให้เกิดสถานการณ์ประหลาดได้ง่ายๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวได้กินอย่างสบายใจเฉิบ…….
ก๊อก ก็อก
มีคนมาเคาะประตูของห้องทำงาน ยินเสี้ยวเสี้ยวดื่มน้ำผลไม้คำนึงแล้วลุกขึ้นจะไปเปิดประตูแต่กลับคิดไม่ถึงว่าประตูถูกเปิดออกแล้ว คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน ไม่ใช่คุณหมอฉิงจะเป็นใครที่ไหนได้?
“ดูๆแล้วนิสัยของคุณหมอฉิงไม่เปลี่ยนเลยนะ? ก็ยังชอบไปไหนมาไหนตัวคนเดียวอยู่เหมือนเดิม”ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พอใจกับนิสัยแบบนี้ของคุณหมอฉิงมากๆ ถ้าหากจิ๋นลี่ยวนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ข้างในจะทำยังไง?
คุณหมอฉิงไม่สนใจคำถามที่เหมือนเด็กผู้หญิงของยินเสี้ยวเสี้ยวเลยแม้แต่น้อย และเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างลักษณะท่าทางที่ดุดัน(ในขณะที่โกรธ) คนยังมาไม่ถึงความโมโหในเสียงก็มาถึงก่อน:“ยินเสี้ยวเสี้ยว นี่คุณไม่เอาไหนขนาดนี้เลยหรือ? ตอนนี้แฟนเก่าของจิ๋นลี่ยวนหามาถึงที่โรงพยาบาลเตรียมจะมาตามตื๊อตามราวีแล้ว จนถึงวันนี้แล้วคุณเพิ่งมาโรงพยาบาลเนี่ยนะ? นี่คุณมั่นใจตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ? คุณต้องรู้ว่า ใบหน้าที่ไม่ว่าจะสวยยังไงมันก็ต้องแก่ลงสักวัน ความรักคือต้องสะสมไปแต่ละวันๆ! หากคุณทำตัวอย่างนี้ไปตลอด สักวันคุณหมอจิ๋นต้องถูกคนอื่นแย่งไปแน่ๆ!”
ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบที่ตัวเองเพิ่งเดินเข้าก็ถูกตะโกนใส่หรอกนะ ยิ่งเป็นเด็กที่เพิ่งออกจากโรงเรียนอย่างยินเสี้ยวเสี้ยว?
“คุณหมอฉิง คุณเป็นห่วงเรื่องนี้มากเกินไปรึเปล่าคะ? เรื่องระหว่างฉันกับจิ๋นลี่ยวน เป็นเรื่องที่คุณจะมาแทรกแซงได้ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”ยินเสี้ยวเสี้ยวก็สวนกลับอย่างไม่ยอมน้อยหน้า เธอรู้มาตลอดว่าคุณหมอฉิงชอบจิ๋นลี่ยวน แต่จิ๋นลี่ยวนไม่ชอบไม่ใช่หรือ? ในสายตาเธอ ขอแค่ไม่ได้ชอบก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร! “คุณวางใจได้เลย ถึงจะมีวันที่จิ๋นลี่ยวนถูกแย่งไปจากฉัน คนๆนั้นก็ไม่ใช่คุณแน่นอน!”
คุณหมอฉิงรู้สึกว่าตัวเองสามารถถูกยั่วโมโหจนบ้าเพราะยินเสี้ยวเสี้ยวชัดๆ มู่ซูวคนนั้นมาพักอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยปรากฎตัวเลย นั่นไม่ได้การแสดงออกที่ยอมถอยให้หรือ? ต่อหน้าแฟนเก่าของจิ๋นลี่ยวนยังไม่มีกิริยาแข็งข้อขนาดนี้ แต่ต่อหน้าเธอกลับแข็งกร้าวเช่นนี้?
คุณหมอฉิงไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่า การที่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เป็นห่วงเลย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าการทำตัวของจิ๋นลี่ยวนตอนงานแต่ง
ผู้ชายคนหนึ่งสามารถทำได้ถึงขนาดนั้น แค่เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระเธอ เธอยังจะสงสัยได้ยังไง?
“ยินเสี้ยวเสี้ยว ขอให้คุณมั่นใจแบบนี้ไปตลอดก็แล้วกัน ฉันจะคอยดู!” จริงๆแล้วคุณหมอฉิงไม่ค่อยมองบวกกับคู่จิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยวนัก จริงๆแล้วอายุห่างกันสี่ปีก็เหมาะสมกันดี แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวดันยังเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา ถ้าหากช้าไปอีกสักสองสามปีไม่แน่อาจจะดีกว่านี้ แต่เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คิด และในเวลาเดียวกันตัวเธอเองก็ชอบจิ๋นลี่ยวน เป็นเรื่องปรกติที่เธอก็อยากให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเลิกกับจิ๋นลี่ยวน “ฉันจะคอยดูวันที่คุณถูกจิ๋นลี่ยวนทิ้ง!”
เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งหน้าบึ้งอยู่ที่ด้านหลังโต๊ะทำงานมองหน้าคุณหมอฉิงที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าเล็กๆของเธอตึงไปหมด!
“คุณหมอฉิง คนเราอย่าคิดแต่ว่าความรู้สึกตัวเองนั้นถูกไปหมด คุณเข้ามาในห้องทำงานของสามีฉันบ่อยๆทำเหมือนที่นี่ไม่มีคน ถ้าเป็นก่อนที่ฉันจะแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวนล่ะก็ฉันพอจะเข้าใจได้ แต่ตอนนี้จิ๋นลี่ยวนเป็นคนที่แต่งงานแล้ว คุณไม่คิดว่าตัวเองควรจะรู้ตัวและรักษาระยะห่างหน่อยหรือคะ?” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างเย็นชา ในคำพูดเต็มไปด้วยคำประชด “และเรื่องความรักของฉันกับจิ๋นลี่ยวนคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือว่ามู่ซูว คนหนึ่งอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลา อีกคนหนึ่งมีพื้นฐานความรักมาสองปี สุดท้าย…….”
ระหว่างพูด ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนขึ้นและเดินทีละก้าวไปตรงหน้าของคุณหมอฉิง แล้วพูดอย่างเชิดหน้า:“สุดท้าย คนที่แต่งงานกับเขา ก็คือฉัน!”
สีหน้าของคุณหมอฉิงเปลี่ยนไปทันที!
เธอดูถูกยินเสี้ยวเสี้ยวเกินไปแล้ว!
เด็กสาวคนนี้ปากเก่งจะตาย แถมยังรู้จักใช้ข้อได้เปรียบในมือให้เป็นประโยชน์โจมตีฝ่ายตรงข้ามให้ล้มอย่างราบคาบ! ยินเสี้ยวเสี้ยวคนนี้ ตั้งแต่แรกก็ใช่ย่อยซะที่ไหน!
ปิดประตูแรงๆและจากไปด้วยความโมโห คุณหมอฉิงโกรธจนตรงไปดู“อาการป่วย” ของมู่ซูว………
ณ บ้านยิน
หลี่หมึ้งได้สั่งให้คนใช้ในบ้านเตรียมการทุกอย่างไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว ทั้งหมดก็เหลือแค่ยินเสี้ยวเสี้ยวพาจิ๋นลี่ยวนกลับมาเท่านั้น ก่อนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจะมาถึงสิ่งที่หลี่หมึ้งเป็นห่วงที่สุดก็คือท้องของยินรั่วอวิ๋น
เวลานี้ยินรั่วอวิ๋นกลับรู้สึกดีที่ตัวเองตั้งท้องแล้ว อย่างน้อยความรู้สึกที่ถูกทุกคนเอาใจแบบนี้มันก็ดีจริงๆ ไม่ใช่หรือ? รอยยิ้มตรงมุมปากเต็มไปด้วยความได้ใจและความภาคภูมิใจ
“แม่คะ เรายังต้องรออีกนานเท่าไหร่คะ?” มองดูเวลาก็ใกล้จะหกโมงครึ่งแล้ว แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนดันยังไม่กลับมา ยินรั่วอวิ๋นบ่นอย่างไม่พอใจอีกครั้ง แต่ก่อนกินข้าวมี่บ้านยินใครจะไปสนใจว่ายินเสี้ยวเสี้ยวจะกลับมารึเปล่า? ก็มีเพียงบางครั้งที่ยินจื่อเจิ้นอยู่ที่บ้านถึงจะนึกถึงคนๆนี้ แต่ตอนนี้ยินจื่อเจิ้นก็ไม่อยู่ แต่หลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันกลับผิดจากไปจากปกติและยืนหยัดที่จะรอเธอกลับมา “แม่คะ ฉันหิวน่ะไม่เป็นไร แต่ลูกในท้อง…..”
แต่ยินรั่วอวิ๋นยังไงก็คิดไม่ถึงว่าถึงแม้หลี่หมึ้งจะได้ยินคำพูดแบบนี้แล้วก็ไม่ยอมตามใจเธอ เพียงแค่สั่งให้คนรับใช้รีบตักน้ำซุปถ้วยนึงมาให้ยินรั่วอวิ๋น โคนน้ำซุปไปและพูดไปด้วยว่า:“รั่วอวิ๋นจ๋า ลูกอดทนหน่อยนะ ตอนนี้ในบ้านเราไม่ได้มีแค่ลูกคนเดียวนะที่ตั้งท้อง ยังมียินเสี้ยวเสี้ยวอีกคนหนึ่งด้วย เดี๋ยวรอให้พ่อของหนูคุยกับจิ๋นลี่ยวนให้เสร็จก่อนเถอะ ต่อไปนี้ก็สบายแล้ว”
ยินรั่วอวิ๋นฟังแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปแต่ก็รีบซ่อนเอาไว้ แกล้งทำเป็นเด็กดีและดื่มน้ำซุปลงไป
ยินเสี้ยวเสี้ยว! ยินเสี้ยวเสี้ยว! แกอีกแล้ว!
เธอก็แค่บอกข่าวที่ยินเสี้ยวเสี้ยวท้องแล้วให้กับคนในบ้าน ใครจะไปรู้ว่าหลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันจะมือเท้าไวขนาดนั้นถึงได้ชวนให้พวกเขากลับมาที่บ้านอย่างกะทันหันแบบนี้ เธอรู้ว่าหลี่หมึ้งกับยินไป่ฝันไม่มีทางให้ยินเสี้ยวเสี้ยวใช้ชีวิตอย่างสบายหรอก แต่ตอนนี้ความแตกต่างอย่างนี้ทำให้เธอไม่พอใจอย่างยิ่ง!
แม้แต่คนที่บ้านยินเห็นเป็นคนสำคัญมาตลอดอย่างเซี่ยงเฉิงมองอยู่ข้างๆก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง เพียงแต่สิ่งที่เขาไม่พอใจคือการมาเยือนของจิ๋นลี่ยวนพริบตาเดียวก็ทำให้ฐานะเขาต่ำต้อยไปเลย!
ยังดีที่ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนไม่ได้ให้ทุกคนรอนานนัก เวลาหกโมงสี่สิบนาทีทั้งคู่ก็มาถึงบ้านยินแล้ว
ยินเสี้ยวเสี้ยวแค่เดินเข้าประตูสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ยินไป่ฝันดูกระปรี้กระเปร่า สีหน้าแจ่มใส มีร่องรอยของการป่วยซะที่ไหน?
“เสี้ยวเสี้ยว ลี่ยวน มากันสักทีนะ” หลี่หมึ้งเห็นเขาสองคนเดินเข้ามาก็รีบไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ยินเสี้ยวเสี้ยวเห็นสีหน้าที่ประจบประแจงของเธอแล้วรู้สึกขยะแขยง “มาเร็ว กับข้าวบนโต๊ะแม่อุ่นไปหลายรอบแล้ว พวกลูกกลับมาสักทีนะ”
จิ๋นลี่ยวนยกมุมปากขึ้น ไม่พูดอะไร
อุ่นไปหลายรอบ? นี่กำลังโทษว่าพวกเขามาสายอย่างงั้นเหรอ?
เพียงแต่ การที่นัดคนอย่างกะทันหันแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่มารยาทอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขายกเลิกโปรแกรมของตัวเองทั้งวันก็เพราะคำโกหกของเธอคนเดียว เธอยังมีหน้ามาพูดคำพูดที่ยิ้มซ่อนมีดแบบนี้อีกหรือ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่สนอะไรทั้งนั้น แค่เดินตามจิ๋นลี่ยวนตรงไปที่โต๊ะอาหาร แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลี่หมึ้งจะยิ่งเป็นมิตรไมตรีขึ้นมา และตักน้ำซุปถ้วยนึงให้ยินเสี้ยวเสี้ยว หลังจากนั้นคำพูดแรกก็คือ:“ครั้งนี้บ้านยินเรามีเรื่องมงคลสองเรื่องเข้ามาพร้อมๆกันเลยนะ รั่วอวิ๋นตั้งท้องแล้ว เสี้ยวเสี้ยวก็ตั้งท้องแล้วเช่นกัน ดีจริงๆ เสี้ยวเสี้ยว ตั้งครรภ์แล้วลูกก็เป็นแม่คนแล้วนะ ต่อไปจะทำตัวนิสัยเหมือนเด็กไม่ได้แล้วนะ ไม่มีธุระอะไรก็กลับมาบ่อยๆ แม่จะได้สอนลูกดีๆ…….”
คำพูดเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนอึ้งไปเลย
จิ๋นลี่ยวนหันไปมองที่ท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างไม่รู้ตัว แบนเรียบจนไม่น่าเชื่อว่ามีร่องรอยของการตั้งครรภ์เสียที่ไหน? แต่ถ้าไม่ได้ตั้งท้อง แล้วทำไมคนในบ้านยินถึงพูดแบบนี้?
แววตากระพริบ จิ๋นลี่ยวนมองยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยสีหน้าสงสัย…