บทที่ 121 หรือว่าเขาจะเป็นสัตว์เดรัจฉาน?
คอหอยบนลำคอระหงขยับอย่างแรง จิ๋นลี่ยวนมองยินจื่อเจิ้นด้วยสายตาคั่งแค้นพลางพูดว่า “คุณชายใหญ่ยินกังวลมากไปหรือเปล่า? ถ้าคนไม่รู้คงคิดว่าคุณหลงรักน้องสาวตัวเองแล้วแน่เลย!”
เขาอยากพูดหลายเรื่องมานานแล้ว เพียงแต่เขาไม่คิดเลยว่า จะพูดอย่างไม่คิดทบทวนด้วยความโกรธจนหน้ามืดออกมาต่อหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวอย่างนี้
พอพูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวหันไปมองหน้าจิ๋นลี่ยวนอย่างไม่เชื่อสายตา เหมือนไม่รู้จักเขามาก่อนยังงั้นแหละ!
ยินจื่อเจิ้นสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ถ้ายินเสี้ยวเสี้ยวสังเกตเขาสักนิด เธอจะพบว่าเขาไม่ได้โต้แย้ง
เพี๊ยะ!
เสียงตบหนึ่งฉาดดังขึ้นในความเงียบ ทำเอาผู้ชายสองคนในห้องตกตะลึง
จิ๋นลี่ยวนมองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างประหลาดใจ และอึ้งกับการตบหน้าที่มาโดยไม่ทันตั้งตัวนี้!
เธอถึงกับตบเขา? เพราะยินจื่อเจิ้น?
“จิ๋นลี่ยวน ระวังคำพูดด้วย! อย่าลบหลู่พี่ชายฉัน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวสองตาเบิกกว้างด้วยความโกรธ มือสั่นเทา แต่ไม่เสียใจเลยสักนิด
ต่อให้เป็นจิ๋นลี่ยวน เธอก็ไม่ยอมให้เขาลบหลู่พี่ชายเธอเด็ดขาด
ยินจื่อเจิ้นเป็นคนที่ให้ชีวิตที่สองกับเธอ เขาเป็นคนพาเธอออกมาจากฝันร้ายนะ!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว!” เสียงต่ำเรียกแผ่วเบาในลำคอ ดวงตาคมหรี่ตามอง “คุณคิดว่าพี่ชายรักใคร่เอ็นดูคุณเหมือนน้องสาวหรือไง? คุณตาบอดหรอถึงมองไม่เห็น! เขาเป็นผู้ชาย จะไม่คิดอกุศลกับคุณเลยได้ไง?”
ยินจื่อเจิ้นหน้าซีดขาว คิ้วขมวดแน่น หัวใจตุ้มๆต่อมๆเหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะ
เสี้ยวเสี้ยวตบจิ๋นลี่ยวนเพื่อเขา เขาดีใจมาก แสดงว่าเขาสำคัญมากสำหรับเธอ แต่คำพูดของเธอที่ว่า ‘อย่าลบหลู่พี่ชายฉัน’ กลับทำให้เขาอดเยาะหยันตัวเองไม่ได้
ฐานะพี่ชายนี้ฝังรากหยั่งลึกในใจยินเสี้ยวเสี้ยว!
“จิ๋นลี่ยวน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวตะคอกกลับ สีหน้าเคร่งเครียด “อย่าเอาความคิดสกปรกของคุณมายัดใส่พี่ชายฉัน!”
ไม่ว่าจิ๋นลี่ยวนจะพูดว่ายังไง ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หันกลับไปหายินจื่อเจิ้นบอกว่า “พี่คะ กลับไปก่อนนะคะ ฉันจัดการเรื่องทางนี้เสร็จแล้วจะโทรหานะคะ”
คำพูดไม่น่าฟังพวกนี้เธอไม่อยากให้เขาฟัง และในขณะเดียวกันก็มีบางคำพูดที่ไม่เหมาะให้เขาอยู่ฟัง พอเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวสีหน้าเคร่งเครียด เขาสะกดความตื่นเต้นในใจ และยอมไปจัดการปัญหานักข่าวก่อน ไม่งั้นชีวิตของยินเสี้ยวเสี้ยวคงโดนวิพากย์วิจารณ์กระหน่ำแน่
ส่วนเรื่องอื่น ปล่อยไหตามธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกว่าตอนนี้มีคนพูดเรื่องนี้ก็ดีเหมือนกัน
อย่างน้อยต่อไปถ้าเขาดีกับเธอ เธอคงจะตะหงิดๆอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรอ?
ยินจื่อเจิ้นพึ่งจากไป จิ๋นลี่ยวนก็โมโห ตะคอกใหญ่ “ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณโง่หรือเปล่า? ยินจื่อเจิ้นน่ะชอบคุณ คุณดูไม่ออกหรอ? หรือว่าไม่อยากดูออก?”
ครั้งแรกที่เจอยินจื่อเจิ้น เขาก็รู้แล้วว่ายินจื่อเจิ้นชอบเธอ!
เวลาผู้ชายมองผู้หญิง กับเวลาพี่ชายมองน้องสาวน่ะ มันไม่เหมือนกันเลย!
“จิ๋นลี่ยวน หุบปากไปเลยนะ!” ยินเสี้ยวเสี้ยวหมุนตัวกลับมามองหน้า รู้สึกหมดแรงฉับพลัน แต่ยังพยายามพูดต่อ “เขาเป็นพี่ชายฉัน เป็นพี่ชายคนละแม่ของฉัน! คุณอย่ามาคิดสกปรกได้ไหม! อย่าเอาความคิดต่ำๆของคุณมาคิดกับเขา!”
ตอนนี้จิ๋นลี่ยวนโกรธยิ้มเย็นออกมา
เขายอมรับว่า เขาเจ็บปวดกับสิ่งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวเจอมาทั้งวันนี้ เขาปวดใจกับตอนที่โดนคนเปิดโปงต่อหน้าคนมากมาย เธอยังถามเขาจนพูดไม่ออก แต่พอเชื่อมโยงไปถึงพี่ชายเธอ เรื่องทั้งหมดกลับโดนโยนทิ้งไปไกลสุดขอบโลก มีหรือจะยังจำได้?
ในใจเธอ ยินจื่อเจิ้นมีความสำคัญไม่ธรรมดาเลย เขารู้มาตลอด แต่กลับไม่รู้ว่าจะสำคัญขนาดนี้! สำคัญถึงขนาดตบหน้าเขาเพียงเพราะคำพูดคำเดียว!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว!” จิ๋นลี่ยวนระเบิดความโรกธ ผู้ชายที่ไม่ได้ระเบิดอารมณ์มาหลายปี ตอนนี้กลับทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาบีบไหล่เธอโดยแรง ดันเธอเช้าชิดผนัง หน้าหล่อยื่นเข้าไป ถามด้วยเสียงต่ำว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว ทางที่คุณภาวนาละกันว่าให้เรื่องนี้มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดของผม ไม่งั้นคุณต้องเสียใจกับการกระทำในวันนี้แน่!”
การกระทำของจิ๋นลี่ยวนทำเธอตกใจมาก เธอยืนเหม่ออยู่อย่างนั้น กว่าจะได้สติกลับมา ก็เห็นสีหน้าโมโหร้ายของเขา เธอโมโหมาก สวนกลับไปว่า “จิ๋นลี่ยวน คุณคิดว่าผู้ชายทุกคนบนโลกเหมือนกันหมดหรือไงกัน? หรือคุณคิดว่าระหว่างชายหญิงนอกจากความรักแล้ว มันจะไม่มีความรักแบบครอบครัวหรือเพื่อนเลยหรอไง? ฉันว่าคุณน่ะบ้าไปแล้ว! กล้าพูดเรื่องบ้าๆแบบนี้ออกมา!”
จิ๋นลี่ยวนแค่นเสียงพลางมองเธอ
บ้าไปแล้ว?
เธอบอกว่าเขาเป็นบ้า!
“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณยังไม่เคยเห็นตอนผมบ้าล่ะสิ!” เขากัดฟันกรอด พลางคว้าเอวเธอ มือหนึ่งบังคับหน้าเธอให้หันมาทางเขา พูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ผมจะบ้าให้ดู! วันนี้สิ่งที่ผมอยากทำ ผมรับประกันด้วยชีวิตเลยว่า ยินจื่อเจิ้นก็อยากทำแบบนี้!”
พูดจบปุ๊บ จิ๋นลี่ยวนบังคับจูบยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างแรง
จูบรุนแรงดุดันมาที่เธอ เธอโดนแย่งอากาศไปหมด
มือเล็กทุบตีหน้าอกเขาอย่างเดือดแค้น อยากผลักไสเขาออกไป แต่ตอนนี้เขาเหมือนกำแพงเหล็กหนักอึ้ง ผลักยังไงก็ไม่ขยับเลย
ความโกรธของจิ๋นลี่ยวนหายไปจนหมดสิ้นทันทีที่ปากทั้งคู่สัมผัสกัน ความร้อนแรงดุดันแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนพลิ้วไหว ค่อยๆตะล่อมให้เธอคล้อยตาม แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด!
เขาไม่อยากปล่อยสาวน้อยในอ้อมกอดไป ตั้งแต่เขารู้ตัวว่าตกหลุมรักเธอ ก็เริ่มอยากครอบครองมากขึ้นเรื่อยๆ พอเห็นยินจื่อเจิ้นโอบเธอไว้ในอ้อมกอด เขาแทบอดใจไว้ไม่อยู่ชกออกไปแล้ว…
มือใหญ่โอบเอวเธออย่างอ่อนโยน ลมหายใจเริ่มร้อนระอุขึ้น…
จิ๋นลี่ยวนที่ตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองคิดว่าเรื่องมันคงจะดำเนินไปแบบนี้ ทันใดนั้นเขารับรู้ได้ถึงรสเค็มแปร่งๆและอุ่นๆ เขาตัวแข็งค้างไปชั่วขณะ จิ๋นลี่ยวนลืมตาขึ้นทันที…
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเขาตาเบิกกว้าง เธอเหมือนตุ๊กตากระดาษขาดตัวหนึ่งไร้ชีวิตจิตใจ สายตาสงบนิ่งไม่มีความรู้สึก เธอไม่เถียง ไม่ดิ้นรน ไม่พูดอะไร แม้แต่มือน้อยๆที่ดิ้นรนเมื่อกี้ยังปล่อยทิ้งข้างตัวอย่างหมดแรง ท่าทีเธอทำให้จิ๋นลี่ยวนใจกระตุกเฮือก…
“เสี้ยวเสี้ยว…” เขารู้สึกมือตัวเองสั่นเทา เรียกเธอเสียงร้อนรน “เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว…พูดอะไรหน่อยสิ นะ…”
เขาอุ้มเธอวางลงบนโซฟา จิ๋นลี่ยวนรีบตรวจดูให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือว่าเมื่อกี้เขาทำร้ายเธอ? หรือเธอเจ็บมาก่อนหน้านี้แล้ว?
“เสี้ยวเสี้ยว อย่านิ่งเงียบแบบนี้สิ พูดกับผมหน่อยนะได้ไหม?” จิ๋นลี่ยวนในตอนนี้เสียใจไม่น้อย เสื้อผ้าของเธอโดนเขาทำขาดจนเห็นเอวน้อย สารรูปแบบนี้มันโดนทำร้ายชัดๆเลยนี่นา? “เสี้ยวเสี้ยว….เสี้ยวเสี้ยว อย่าทำแบบนี้สิ….”
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดสักคำ ได้แต่ร้องไห้มองเขานิ่ง ตัวสั่นเทาไม่หยุด!
เขาเกือบจะข่มขืนเธอ!
ทำไมเขาถึงทำกับเธอในเวลานี้แบบนี้ได้นะ?
ใจของยินเสี้ยวเสี้ยวเกิดความกลัวอย่างรุนแรง แต่พอเผชิญหน้าเขา ก็ดิ้นรนอย่างแรงขึ้นมา เธอยกมือผลักไสเขาออกไป ดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองไม่หยุด ตะโกนว่า “จิ๋นลี่ยวน คุณอยากได้ไม่ใช่หรอไง? เอาไปสิ มาสิ! เสร็จกิจแล้วต่างคนต่างไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก
!”
เสียงตะโกนของยินเสี้ยวเสี้ยวทำจิ๋นลี่ยวนตกใจมาก เขามองเธอนั่งบนโซฟา ดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองไม่หยุด ทั้งๆที่โกรธมากขนดานั้น แต่ใบหน้ากลับฉายความอ่อนแอออกมา…
“จิ๋นลี่ยวน คุณมัน….” เดรัจฉานชัดๆ!
เธออยากด่าออกมามาก แต่เธอรู้ว่า การที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะห้ามใจตัวเองไม่ได้น่ะเอง
ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะนิ่งเฉยกับผู้หญิงในอ้อมแขนตัวเองได้หรอก สำหรับเรื่องนี้ เธอเป็นผู้หญิงเธอยังรู้เลย…
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ดี
ในใจเขา เธอเป็นภรรยา หรือเป็นแค่ผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่งล่ะ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งบนโซฟา สภาพดูไม่ได้ สภาพในบ้านเละเพราะการมาของนักข่าวบวกกับการชกต่อยของยินจื่อเจิ้นเมื่อกี้ แต่เธอยังไม่ทันจัดกาอะไรก็ทะเลาะกับจิ๋นลี่ยวนอีก! เสื้อผ้าโดนตัวเองดึงทึ้งกระจาย แทบจะปิดร่างกายไม่มิด เธอทั้งร้องไห้และสั่นเทา แต่ยังคงทำเก่ง มองเขาอย่างคนได้รับบาดเจ็บ
สายตาแบบนี้สาดมาที่จิ๋นลี่ยวน มันเหมือนโทษประหาร ใช้มีดกรีดเนื้อและกระดูกของเขาทีละแผลๆ
จิ๋นลี่ยวนเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวในสภาพนี้ เขารู้สึกเหมือนโดนบีบคอ สายตาส่อแววขอลุแก่โทษ และปราดตามองไปที่เสื้อนอกของยินจื่อเจิ้นที่ตกอยู่ แต่ก็ดึงสายตาไป เขาหมุนตัวไปเปิดหน้าต่างบ้าน และเก็บกระเป๋าของยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นมา สุดท้ายเลยอดไม่อยู่รวบเธอเข้าอ้อมกอด
“ขอโทษ เสี้ยวเสี้ยว ขอโทษ…ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…” เสียงจิ๋นลี่ยวนพูดกระซิบข้างหูเธอ น้ำเสียงเสียใจกดดันยินเสี้ยวเสี้ยวหนักขึ้น จนร้องไห้ออกมาเรื่อยๆ
เพียงแต่น้ำตาครั้งนี้ไม่ได้เป็นความเสียใจแบบเมื่อก่อน
“จิ๋นลี่ยวน! ทำไมทำกับฉันแบบนี้!” การพูดเสียงต่ำของเขาทลายปราการความรู้สึกในใจยินเสี้ยวเสี้ยวเธออย่างสิ้นเชิง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความเสียใจและไม่รู้จะทำอย่างไร “ทำไมคุณทำแบบนี้! ทำได้ยังไง!”
จริงด้วย เขาทำได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่าเธอพึ่งโดนขุดคุ้ยข่าวร้ายแบบนั้นมา ไม่เพียงไม่ปลอบใจเธอ ยังบอกเธอว่าพี่ชายที่เธอไว้ใจมาตลอดชอบเธอ และยังเกือบจะข่มขืนเธอโดยที่เธอไม่ยินยอมอีก…
เขาทำแบบนี้ได้ยังไง?
นี่เขาเป็นสัตว์เดรัจฉานหรอ?
จิ๋นลี่ยวนเสียใจมาก กอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น กระซิบข้างหูเธอว่าขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า…
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ในอ้อมกอดเขา ท่าทีแบบนั้นเหมือนอยากจะร้องเอาความรู้สึกที่เจอมาทั้งหมดในช่วงนี้ออกมาให้หมด ปากเธอร้องฮือๆ มันสะท้อนใจจิ๋นลี่ยวน และดึงความโกรธเขาขึ้นมาด้วย!
คนทั้งหมดที่ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องมาเจอเรื่องนี้ ต้องได้รับการชดใช้!