Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่141 คนที่ขาดสติสัมปชัญญะ

บทที่141 คนที่ขาดสติสัมปชัญญะ

บทที่141 คนที่ขาดสติสัมปชัญญะ

โรงพยาบาลหนันหยู หลังจากได้รับสายของคุณแม่เสิ่น ตั้งแต่มู่เยียนหรานกลับมา หมอโรคหัวใจที่รับผิดชอบมู่เยียนหรานมาตลอดก็เตรียมพร้อมแล้ว และยังทำการเตรียมสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอีก คนแก่ทั้งสองของตระกูลมู่ก็รีบจากบริษัทมาที่โรงพยาบาล ทุกคนต่างเหมือนกับเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง

“เยียนหราน เยียนหราน……”ตั้งแต่มู่เยียนหรานถูกจิ๋นลี่ยวนอุ้มลงมาจากรถ จื่อผู่หยางก็ตามขึ้นไป ส่วนมู่หลงก็ขมวดคิ้วอย่างทนไม่ไหว คิ้วที่ขมวดกลับนั้นทำให้ในตอนนี้เขาดูแล้วดุร้าย

มู่เยียนหรานที่ขึ้นรถพยาบาลส่งรอยยิ้มที่อ่อนแอไปให้พ่อแม่ของตัวเองอย่างอ่อนโยน ในที่สุดก็ไม่อยากปล่อยจิ๋นลี่ยวน แววตามีความปรารถนาที่ยากจะอธิบายส่งออกมา

พยาบาลรีบนำมู่เยียนหรานไปที่ห้องคนไข้โดยเร็ว แล้วคุณหมอเหลียงก็เริ่มทำการตรวจ

จิ๋นลี่ยวนยืนอยู่ด้านนอกไม่พูดอะไร หยิบโทรศัพท์มาโทรหายินเสี้ยวเสี้ยว ทันทีที่รับสายก็หมุนตัวไปที่อีกด้านของทางเดิน“เสี้ยวเสี้ยว คุณไม่เป็นไรนะ?ตกใจหรือเปล่า?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาลหนันหยู เห็นจิ๋นลี่ยวนโทรมาในใจก็ประหม่ามาก เธอกลัว กลัวจิ๋นลี่ยวนจะเหมือนคนใช้ของบ้านจิ๋นที่สงสัยเธอแบบนั้น แต่ตอนที่เขารับสายกลับพูดแบบนี้ ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวที่น้อยใจจากคุณย่าเกือบจะพังทลายลงทันที

ไม่พูดอยู่นาน ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามควบคุมหัวใจที่ร้องไห้ของตัวเองอย่างมาก

“เสี้ยวเสี้ยว……”จิ๋นลี่ยวนเรียกเบาๆ จากนั้นก็พูดไปประโยคหนึ่งว่า:“เสี้ยวเสี้ยว ครั้งหน้าล้อเล่นกับเยียนหรานแบบนี้ เธอมีโรคหัวใจ ถูกกระตุ้นไม่ได้ ……”

เวลาสั้นๆไม่กี่วินาที แค่หนึ่งประโยคนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวเหมือนกับผ่านจากสวรรค์ไปยังนรก

เธอก่อนหน้านี้เพราะว่าความใส่ใจของเขาเกือบจะบอกตัวเองอย่างน้อยใจ แต่ต่อมาเขาก็ตัดสินโทษเธออย่างนั้น แล้วยังไม่ให้แม้แต่โอกาสเธออธิบาย ก็ตัดสินอย่างเด็ดขาด เหมือนกับคนใช้ของบ้านจิ๋น จิ๋นลี่ยวนก็แค่ใช้วิธีพูดที่สละสลวย เขาบอกว่าเธอล้อเล่นกับเธอ?

จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็อยากยิ้ม เธอกับมู่เยียนหรานสนิทกันจนล้อเล่นได้เหรอ?

กัดปากตัวเองแน่น ทันใดนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกถึงความโกรธในใจที่พุ่งขึ้นสูง!

มู่เยียนหรานเธออะไรกันแน่ อยากให้เธอยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นใบ้พูดไม่ออกแบบนี้เหรอ?

ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้เสียสติไปแล้ว วางสายของจิ๋นลี่ยวนแล้วให้คนขับรถใช้ความเร็วที่สุดขับไปที่โรงพยาบาลหนันหยู

เพราะว่าเอ้อฮันฟังเธอมากที่สุด ชอบเธอที่สุด ดังนั้นเธอก็ต้องแบกรับความผิดที่ไร้เหตุผลเช่นนี้เหรอ?

เธอ ยินเสี้ยวเสี้ยวดูเหมือนน่ารังแกขนาดนั้นจริงๆเหรอ?

แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้ลืมไปโดยสิ้นเชิงว่า คนที่ไร้เหตุผลจะทำเรื่องผิดง่ายที่สุด……

โรงพยาบาลหนันหยู

ตอนยินเสี้ยวเสี้ยวมาถึงแผนกหัวใจ คุณหมอเหลียงกำลังตรวจมู่เยียนหรานเสร็จพอดี ไม่มีอะไรรุนแรงมากนักแค่ต้องพักเยอะๆ ก็ตกใจ จากนั้นก็ยังคงนำคำพูดทฤษฎีเดิมๆมาพูดกับตระกูลมู่ด้วยต้นเหตุที่เหมาะสม ส่วนมู่เยียนหรานก็ยังอยู่ในรายชื่อรอการปลูกถ่ายของแต่ละโรงพยาบาลใหญ่ๆ

ตอนที่จิ๋นลี่ยวนเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวก็เข้ามาถามเบาๆด้วยความเร็วและตกใจเล็กน้อยว่า:“คุณมาได้ไง?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยตามองเขา สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ยื่นมือไปดึงมือเขาที่คว้าแขนตัวเองออกแล้วถาม:“จิ๋นลี่ยวน คุณก็คิดว่าฉันจงใจทำแบบนี้ใช่ไหม?”

ตะลึงหน่อยๆ จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่พูดอะไร

ที่บ้านจิ๋น คนที่เอ้อฮันชอบที่สุดคือคุณย่าจิ๋นกับยินเสี้ยวเสี้ยว ซึ่งใครๆต่างก็รู้ หลายๆครั้งเอ้อฮันก็ไม่ฟังแม้แต่คนเลี้ยงสัตว์ แต่กลับฟังแค่คุณย่ากับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกกับเอ้อฮันปกติแล้วเชื่องสุดๆ แม้แต่เด็กๆที่ถูกแขกพามาขี่ก็ไม่เคยโมโหหนักแบบนี้ ครั้งนี้กลับทำเรื่องแบบนี้ออกมา……

ถอนหายใจเบาๆ จิ๋นลี่ยวนคิดแล้วจึงพูด:“เสี้ยวเสี้ยว เรื่องนี้โทษผมเอง ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้บอกคุณว่าเยียนหรานเป็นโรคหัวใจ ดังนั้นคุณเลยไปล้อเล่นกับเธอ ……”

“หุบปาก!”ยินเสี้ยวเสี้ยวตัดบทของจิ๋นลี่ยวน คำพูดต่อไปของเขาเธอไม่อยากฟังสักนิด เงยมองไปที่เขาตรงๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดแค่ประโยคเดียว:“จิ๋นลี่ยวน ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน เป็นเธอมู่เยียนหรานที่จะไปแย่งอาหารในปากของเอ้อฮันเอง ฉันเตือนเธอแล้ว เธอยังบอกฉันว่า เธอจะดูว่าพอเธอป่วยคุณจะปกป้องฉัน หรือว่าเธอ!”

“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณจะโกหกก็พูดให้มันน่าฟังหน่อยได้ไหม?”จื่อผู่หยางไม่รู้ว่าได้ยินยินเสี้ยวเสี้ยวพูดจากไหน ทันใดนั้นก็ยืนขึ้นมา มองเธอด้วยใบหน้าโกรธๆ ด้านข้างยังตามด้วยมู่หลง“เยียนหรานของพวกเราตั้งแต่เด็กก็เป็นเด็กที่พูดรู้เรื่อง เธอป่วยแต่คุณไปดูถูกเธอ!ฉันจะบอกคุณให้นะ คุณอย่าคิดจะผลักความรับผิดชอบของคุณจากลูกสาวฉัน ฉันไม่มีทางยอม!”

จื่อผู่หยางพูดออกมาด้วยความโกรธ จึงดึงดูดคุณย่าจิ๋นอย่างไว และยังมีหมอกับพยาบาลในโรงพยาบาลที่เดินผ่านมาไม่น้อยต่างหันมามอง จิ๋นลี่ยวนคือคนใหญ่โตที่โรงพยาบาลหนันหยู แม้แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นคนดัง ตอนนี้ทำให้คนที่มาดูเรื่องราวครึกครื้นนี้ก็มากขึ้นมาทันที

“คุณหญิงมู่ฉันได้โกหกหรือไม่คุณไปถามลูกสาวคุณก็รู้เอง”ยินเสี้ยวเสี้ยวยังพูดอย่างยืนหยัด แววตามีประกายความดื้อรั้น ความไม่เชื่อใจของจิ๋นลี่ยวนกระตุ้นเธออย่างแรง

“คุณพอแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยว!”ทันใดนั้นคุณย่าจิ๋นก็พูดเสียงดัง พูดกับเธอเสียงเฉียบ:“ยังไม่รีบขอโทษคุณหญิงมู่อีก”

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปที่คุณย่าจิ๋น ตอนนี้สีหน้าเธอยังมีรอยฝ่ามือ เธอยินเสี้ยวเสี้ยวแต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่คนที่ตบหัวแล้วลูบหลังก็จะหายโกรธได้ คุณย่าจิ๋นเธอไม่รู้อะไรสักนิดแล้วเรื่องอะไรต้องให้เธอมาขอโทษคนอื่นด้วย?

“ฉันไม่ขอโทษค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ทำไมฉันต้องมารับความผิดทั้งหมดด้วย”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดไปเสียงดังว่า“ถ้าฉันทำฉันยอมรับแน่นอน แต่ไม่ใช่ฉันทำ ฉันไม่รับเด็ดขาด”

ก็เหมือนกับเรื่องที่โรงพักตอนนั้น คุณย่าจิ๋นให้เธอคุกเข่าที่กระดานซักผ้า ถึงเธอจะต้องคุกเข่าลงจนต้องหมดสติไปก็ไม่มีทางยอมรับ!หลายๆเรื่อง เป็นเพราะหลักการของเธอเอง จะบอกว่าเธอดื้อรั้น หรือโง่ก็ได้ เพราะนี่คือแนวทางการใช้ชีวิตของเธอ

“เสี้ยวเสี้ยว”จิ๋นลี่ยวนคิ้วขมวด ได้แต่พูดกับจื่อผู่หยางและมู่หลง:“ขอโทษครับ ภรรยาผมหยาบคายเกินไป”

ยินเสี้ยวเสี้ยวสะบัดมือจิ๋นลี่ยวน เงยมองเขาแล้วถาม:“ทำไมต้องขอโทษ ฉันไม่ได้ทำอะไร ทำไมฉันต้องขอโทษ เรื่องอะไรฉันต้องรับความผิดนี้ด้วย มู่เยียนหรานเองชัดๆที่……”

“เสี้ยวเสี้ยว!”เสียงคมกริบ แววตาของจิ๋นลี่ยวนมีความเย็นชา ท่าทางนั้นน่าตกใจจนคนในนั้นเงียบไป

ปากเล็กๆของยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าเล็กน้อย คำพูดที่เหลือพูดไม่ออกสักคำ ได้แต่จ้องเขาอย่างตะลึงอย่างนั้น แล้วในดวงตาสีดำขาวนั้นก็ค่อยๆมีน้ำตาไหลออกมา

เขาไม่เชื่อเธอ ถึงแม้เธอจะหลับนอนเตียงเดียวหมอนเดียวกันกับเขา ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะก้าวหน้าอย่างมาก ถึงแม้เธอจะเป็นภรรยาของเขา พอเกิดเรื่องเขากลับไม่ให้โอกาสเธออธิบายสักนิดแล้วยังตัดสินว่าเธอผิด แล้วยังทำแบบนี้กับเธอ ……

เงยหน้าเล็กๆนั่น ยินเสี้ยวเสี้ยวจ้องมองชายตรงหน้าอย่างไม่กะพริบตา ปากเล็กๆนั้นเม้มเล็กน้อย น้ำตากลับไหลลงจากแก้มของเธอ

เธอยินเสี้ยวเสี้ยววันนี้ได้รู้สึกถึงความรู้สึกที่ถูกคนไม่เชื่อใจแล้ว……

ที่จริงคือ ดีเหมือนกัน ……

ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวน้ำตาไหลนั้น จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร ได้แต่หมุนตัวพูดกับจื่อผู่หยางกับมู่หลง:“คุณลุงคุณป้า เรื่องครั้งนี้ต้องขอโทษมากนะครับ หวังว่าทั้งสองจะยกโทษให้เธอ”

ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่ด้านหลังจิ๋นลี่ยวนมองแผ่นหลังของเขา เขาขอโทษแทนตัวเองชัดๆ ท่าทีอ่อนน้อมนั้นต่างโดยสิ้นเชิงกับท่าท่างสูงส่งในตอนปกติ แต่ในใจยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไม่ประทับใจสักนิด

ไม่ว่าเธอจะทำยังไง สุดท้ายเขาก็ไม่เชื่อเธอ

นิสัยหงุดหงิดของมู่หลงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในเมืองT ถึงจิ๋นลี่ยวนขอโทษแล้วเขาก็ไม่พอใจ พูดกับยินเสี้ยวเสี้ยวตรงๆ:“ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร และผมก็ไม่สนว่าคุณจะพูดจาคมคายแค่ไหน แต่ตอนนี้ลูกสาวผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็เพราะคุณมันคือความจริง!ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเพราะคุณ คุณก็ต้องขอโทษ!ไม่ใช่ให้สามีคุณมาปกป้อง!คนแบบคุณไม่รู้ว่าตอนนั้นเข้ามาที่ประตูบ้านจิ๋นได้ไงกัน ขายขี้หน้าบ้านจิ๋นมาก!ผู้หญิงที่แค่ขอโทษยังทำไม่ได้ แล้วจะกลายเป็นผู้หญิงบ้านจิ๋นได้ไง!”

คำพูดก่นด่า แทบจะทำให้คนทั้งโรงพยาบาลได้ยินหมด หมอกับพยาบาลที่ว่างอยู่ไม่น้อยต่างชะโงกหน้าออกมาดู

ตอนนี้คุณย่าจิ๋นก็โกรธมาก เดินมาดึงยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดเสียงเบา:“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณทำห่าอะไรกันแน่?อยากจะมีชื่อเสียงก็ไม่ควรทำแบบนี้ ที่นี่คือโรงพยาบาลหนันหยู เป็นสถานที่ที่ลี่ยวนทำงาน!คุณอยากให้เขาขายขี้หน้าไปถึงไหน?ที่มีคนแบบคุณเป็นภรรยาเหรอ?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวสูดหายใจลึกๆ ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่แห้งบนหน้าตัวเองเม้มปากไม่พูดอะไร

คุณย่าจิ๋นพูดแบบนี้ เธอยอมรับว่าพฤติกรรมของตัวเองบ้าบิ่น และอาจจะทำให้จิ๋นลี่ยวนขายหน้าจริงๆ แต่เธอไม่รู้จริงๆ ทำไมพวกเขาต่างคิดว่าจะต้องเป็นเธอที่สั่งให้เอ้อฮันพุ่งเข้าไป?

ดึงยินเสี้ยวเสี้ยวแรงๆ ตอนที่เท้าส่ายไปนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวเกือบจะล้มลงไป จิ๋นลี่ยวนรีบยื่นมือไปพยุง แต่แป๊บเดียวยินเสี้ยวเสี้ยวก็หลบมือของเขา ต่อต้านอย่างชัดเจน

จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดอะไร

บางครั้ง เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าท่าทางที่เธอยึดมั่นขนาดนั้น นั้นดีหรือไม่ดี

“ขอโทษ!”คุณย่าจิ๋นทำเสียงในคอใส่ แล้วดึงยินเสี้ยวเสี้ยวไปตรงหน้าสองสามีภรรยาตระกูลมู่

ยินเสี้ยวเสี้ยวค่อยๆเงยหน้าตัวเอง ตอนที่ทุกคนต่างคิดว่าเธอจะขอโทษ กลับเห็นเธอพูด:“คุณหญิงมู่ คุณชายมู่ เรื่องนี้ฉันคิดว่าพวกคุณสามารถไปถามลูกสาวสุดที่รักคุณได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ฉัน ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้ทำลงไป ถึงตีฉันตายฉันก็ไม่ยอมรับค่ะ”

ทันใดนั้นมู่หลงที่ท่าทางกำยำนั้นก็โกรธ มือใหญ่ๆที่อยู่สูงจะตบลงไปเหมือนเพื่อสั่งสอนลูกสาวตัวเอง คนที่อยู่รอบๆต่างกลั้นหายใจอย่างช่วยไม่ได้

มู่หลงตบไป หน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวเกือบจะแตกได้

“ลุงครับ กรุณาให้เกียรติด้วย”จู่ๆก็มีเสียงขึ้นมา จิ๋นลี่ยวนก็ขึ้นมายืนอยู่ข้างมู่หลง ฝ่ามือใหญ่จับข้อมือของมู่หลงไว้ ใบหน้าดูเย็นชาเป็นพิเศษ“เธอคือภรรยาผม ไม่ใช่ลูกสาวคุณ”

ประโยคเดียว สีหน้าของมู่หลงก็ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ฝ่ามือก็ปล่อยไปไม่ลง

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท