ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 1817 จริงหรือเท็จ

ตอนที่ 1817 จริงหรือเท็จ

ตอนที่ 1817 จริงหรือเท็จ
“ตูม” ในเวลานี้เอง ตัวของหงส์พลันลุกเป็นไฟขึ้นมา เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงสามารถเผาผลาญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันคือไฟโลกันต์ที่จะหลอมกลั่นสรรพชีวิตได้

ทุกคนต่างเปิดเนตรฟ้าขึ้นมา เมื่อมองเห็นหงส์ตัวนี้ปะทุไฟขึ้นมาท่วมตัว ทุกคนต่างต้องการดูว่ามันคือหงส์แท้จริงหรือไม่ เมื่อทุกคนมองดูอย่างละเอียดแล้ว ต่างรู้สึกว่าไฟโลกันต์ที่ปะทุออกมาจากตัวของหงส์นั้นช่างเหมือนจริงอะไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่เหมือนเป็นภาพมายา

“อิ้วว” เสียงของหงส์ร้องดังก้องไปทั่ว ในขณะนี้หงส์ได้พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า บินร่อนอยู่เหนือท้องฟ้า ยามที่หงส์บินร่อนผ่านไปได้ทิ้งร่องรอยที่เป็นหางยาวบนท้องฟ้า ไฟโลกันต์เผาผลาญกระทั่งท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ย่อมสามารถประเมินถึงความน่ากลัวของมันได้ เหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถขวางอานุภาพของมันเอาไว้ได้

“เป็นหงส์จริงๆ รึ?” ในเวลานี้ทั้งจอมเทพหนานหยาง และจอมเทพเชียนจวินต่างก็ไม่สามารถยืนยันได้ ในใจของพวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจมาก

เริ่มจากน้ำพุทองคำกลับกลายเป็นมังกรทอง เวลานี้ก็เป็นรูปแกะสลักหินกลายเป็นหงส์ อภินิหารแบบนี้ชั่วร้ายผิดปรกติมากกว่าเสกหินให้กลายเป็นทองเสียอีก กระทั่งชั่วร้ายผิดปรกติยิ่งกว่าการที่สามารถเรียกหงส์หรือมังกรออกมาทันทีเสียอีก

ถ้าหากจะกล่าวว่า เมื่อผู้บำเพ็ญตนฝึกจนกระทั่งถึงระดับหนึ่งแล้ว การเสกหินให้กลายเป็นทองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับการเรียกหงส์หรือมังกรทองนั้น แม้ว่าจะมีความยากยิ่ง และโดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่ว่า อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้

ถ้าหากว่าจอมราชันหรือเซียนหวังสักองค์คิดจากทำให้หงส์ หรือมังกรทองให้เชื่องหรือเลี้ยงเอาไว้ แน่นอนที่สุด เขาย่อมสามารเรียกหงส์เรียกมังกรทองออกมาได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม การเรียกหาลักษณะเช่นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีอยู่ในครอบครอง จะอย่างไรเสียเมื่อมีหงส์สักตัว หรือมังกรทองสักตัวไว้ในครองครองแล้ว จึงสามารถเรียกหาหงส์หรือมังกรทองออกมาสักตัว หากไม่มีหงส์หรือมังกรทองแต่แรก แล้วจะไปเรียกออกมาได้อย่างไร?

ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นการตั้งอยู่บนพื้นฐานที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ เวลานี้หลี่ชิเย่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมีอยู่ ถ้าหากจะกล่าวว่ามังกรทองที่ปรากฎออกมาจากพื้นดินที่พวยพุ่งน้ำพุทองคำออกมานั้นอาจเป็นไปได้ที่หลี่ชิเย่มีมังกรทองตัวหนึ่งมาก่อนหน้าแล้ว

แต่ว่า หงส์ที่เห็นอยู่ในเวลานี้ทุกคนต่างเห็นกับตาตนเองว่า เขาแค่เอามือสัมผัสลูบคลำรูปแกะสลักหงส์ตัวนี้ทีหนึ่ง ขณะที่รูปแกะสลักหงส์ตัวนี้พลันมีชีวิตขึ้นมาทันที กลายเป็นหงส์จริงๆ ขึ้นมา

ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ประหลาดมากที่สุด หรือว่าหลี่ชิเย่สามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้ ขอเพียงเขาลงมือพลันสามารถประทานชีวิตให้กับหงส์ที่เป็นรูปแกะสลักหินได้ทันที

การประทานชีวิตให้กับรูปแกะสลักหินที่เป็นหงส์มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากขอบเขตอำนาจของสรรพชีวิต มันเป็นขอบเขตอำนาจของฟ้าดิน มีเพียงฟ้าดินเท่านั้นที่สามารถประทานชีวิตได้!

บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในสถานะใด จะเป็นจอมราชันเซียนหวังก็ดี ราชันเซียนเก้าแดนก็ช่าง ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถปั้นน้ำเป็นตัว ไม่สามารถประทานชีวิตได้ เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถสร้างชีวิตได้

เวลานี้หลี่ชิเย่เพียงแค่ลูบสัมผัสรูปแกะสลักทีหนึ่ง รูปแกะสลักหงส์ก็มีชีวิตขึ้นมาทันที หงส์ตัวเป็นๆ ตัวหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา

“มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!” ไม่ว่าจะเป็นจอมเทพหนานหยาง หรือจอมเทพเชียนจวินต่างปฏิเสธแนวคิดเช่นนี้ ถ้าหากหลี่ชิเย่สร้างชีวิตได้จริง เขาไม่ใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว แต่เขาคือสวรรค์!

ในโลกนี้สวรรค์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจ้าหนูที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้

ถ้าหากไม่ใช่สวรรค์ ถ้าเช่นนั้นอธิบายได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือเป็นภาพมายา หรือบางทีเจ้าหนูตรงหน้าผู้นี้อาจมีอภินิหารที่หาผู้ใดเปรียบไม่ได้ สามารถทำให้ภาพมายาเป็นจริงได้ แน่นอน หงส์ตัวที่ปะทุเป็นไฟโลกันต์ออกมาท่วมตัวก็คงไม่ใช่หงส์ที่แท้จริง

ความคิดแวบหนึ่งสร้างสรรค์สรรพสิ่ง หลี่ชิเย่อาศัยปณิธานที่ยอดเยี่ยมยากจะหาผู้ใดเทียม ทำการเปลี่ยนรูปแกะสลักหินให้กลายเป็นหงส์แท้จริงขึ้นมา มันมีพลังที่ควรมีของหงส์อยู่ในความครอบครอง แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งยากจะหาผู้ใดเทียมดวงนั้นของหลี่ชิเย่

ถ้าหากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนั้นของเขาไม่แกร่งพอล่ะก็ จะไม่สามารถรองรับกับพลังของหงส์ตัวหนึ่งได้ และตัวเขาเองนั่นแหละจะถูกไฟโลกันต์เผาผลาญจนเสียชีวิตไปก่อน

“อิ้วว” เสียงหงส์ร้องขึ้นมา ในขณะนี้ หงส์ได้พุ่งเข้าหาเวทีต่อสู้โบราณ มันบินขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงแล้วจิกหัวลงมา พร้อมกับหอบเอาไฟโลกันต์พุ่งเข้าโจมตีต่อจอมทิพย์งูหลามทอง

“ตูม ตูม ตูม” เวทีต่อสู้โบราณเกิดการสั่นไหวขึ้น จากการที่หงส์ได้หอบเอาไฟโลกันต์พุ่งจิกหัวลงมา ทำให้ท้องฟ้ากลับกลายเป็นเหมือนดั่งทะเลเพลิง ลองนึกภาพดู การที่ไฟโลกันต์เต็มท้องฟ้าเสมือนหนึ่งน้ำหลากที่ออกมาจากเขื่อนที่พังแล้วเทลงมาด้านล่าง มันช่างเป็นภาพที่น่ากลัวเหลือเกิน เมื่อไรที่ถูกไฟโลกันต์นี้ไหลมาท่วมตัว ต้องถูกเผาผลาญจนกลายเป็นจุนในพริบตา

บรรดาระดับบรรพบุรุษที่นั่งกันอยู่สองฟากฝั่งซ้ายขวาของบันไดหินต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อได้เห็นไฟโลกันต์ลักษณะเช่นนี้

“มาได้จังหวะ” จอมทิพย์งูหลามทองไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใดเมื่อได้เห็นหงส์ที่จิกหัวลงมานั่น ร้องคำรามเสียงยาวออกมา “แว้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น พลังขมุกขมัวหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านลิตรของเขาพลันถูกถ่ายทอดเข้าไปยังเกาทัณฑ์ยิงตะวัน ทำให้เกาทัณฑ์ยิงตะวันในมือของเขาส่งประกายเจิดจ้ายิ่งนัก จากนั้น เกิดการสั่นเทิ้มขึ้น ปรากฎลูกเกาทัณฑ์คมกริบที่ส่งประกายเจิดจ้ายิ่งออกมาดอกหนึ่งลอยขึ้นมา

เกี่ยวลูกเกาทัณฑ์กับสายเกาทัณฑ์ น้าวสายเต็มที่ ฉับพลันนั้น จอมทิพย์งูหลามทองได้ยิงลูกเกาทัณฑ์นั้นออกไป “ตูม” เสียงดังสนั่น ภายใต้เกาทัณฑ์ดอกนี้ทำเอาฟ้าสั่นสะเทือนหวั่นไหว อานุภาพราชันเซียนที่น่ากลัวล้วนแล้วแต่ถูกรวมอยู่ในลูกเกาทัณฑ์ดอกนี้

หนึ่งเกาทัณฑ์ที่ยิงออกไป ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานได้ ไม่มีใครสงสัยอานุภาพของเกาทัณฑ์ดอกนี้ มันสามารถยิงทะลุท้องฟ้า และทะลุผ่านท้องฟ้าที่พร่างพราวด้วยดวงดาวแต่ละแห่งได้อย่างแน่นอน!

หนึ่งเกาทัณฑ์ภายใต้อานุภาพจอมราชัน ขับเคลื่อนด้วยพลังขมุกขมัวหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านลิตรของจอมทิพย์งูหลามทอง ย่อมประเมินได้ว่ามีอานุภาพยิ่งใหญ่เพียงใด ต่อให้อานุภาพเกาทัณฑ์ดอกนี้ห่างชั้นกับจอมราชันยิงด้วยตัวเองเป็นอันมากก็ตาม

ถ้าหากคู่ต่อสู่ที่อยู่ในระดับเดียวกันไม่มีศาสตราวุธเต๋าในมือล่ะก็ ไม่สามารถต้านทานกับลูกเกาทัณฑ์ที่ปราศจากผู้ต่อกรนี้ได้อยู่แล้ว ต้องถูกสังหารไปในพริบตาไม่สามารถขัดขืนได้แม้แต่น้อย

“ตูม” จังหวะเกาทัณฑ์ที่ปราศจากผู้ต่อกรดอกนี้ยิงเข้ามา หงส์ตัวนั้นได้สะบัดปีกทีหนึ่ง พลันรวบรวมเอาไฟโลกันต์ที่รุนแรงเต็มท้องฟ้าเข้ามา ในเสี้ยววินาทีนี้เองไฟโลกันต์ทั้งหมดได้กลับกลายเป็นประตูบานหนึ่ง เสมือนหนึ่งเป็นลูกบอลคริสตัลปิดกั้นป้องกันหงส์เอาไว้ภายใน

“ปุ” หนึ่งเกาทัณฑ์ที่สะเทือนฟ้าดิน แต่ เกาทัณฑ์ดอกนี้ยังคงถูกขวางเอาไว้ได้ ต่อให้เป็นเกาทัณฑ์จอมราชัน ก็ไม่สามารถยิงทะลุผ่านประตูที่แปลงมาจากไฟโลกันต์ของหงส์ไปได้

“เป็นไปไม่ได้” ทั้งจอมเทพหนานหยางและจอมเทพเชียนจวินต่างก็นั่งกันไม่ติด ลุกขึ้นยืนในทันที สำหรับบรรดาระดับบรรพบุรุษที่อยู่สองฟากฝั่งของบันไดหินต่างมีดวงตาที่เบิกกว้าง

“หรือจะเป็นหงส์จริงๆ?” เวลานี้จิตใจของทุกคนสั่นคลอน ก่อนหน้านั้นทุกคนยังคงคาดเดาว่านี่เป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นเอง

แต่ว่า ด้วยหงส์ที่เป็นเพียงภาพมายาลักษณะเช่นนี้แหละ กลับสามารถต้านเกาทัณฑ์จอมราชันเอาไว้ได้ ถ้าหากจะกล่าวว่า ในโลกนี้ภายใต้กำลังความสามารถของตนล้วนๆ โดยไม่ต้องอาศัยอาวุธราชันแล้วรับมือกับเกาทัณฑ์จอมราชันได้อย่างง่ายดายล่ะก็ คงมีความเป็นไปได้หนึ่งเดียวก็คือหงส์ที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือหงส์จริงๆ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ภาพมายาจะสามารถต้านรับกับเกาทัณฑ์ดอกนี้เอาไว้ได้!

เวลานี้ ทั้งจอมเทพหนานหยางและจอมเทพเชียนจวินต่างลุกขึ้นยืน จ้องเขม็งไปที่หงส์ตัวนี้ พวกเขาต่างรู้สึกว่านี่เป็นเพียงภาพมายา แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นประหลาดเมื่อสามารถต้านรับกับเกาทัณฑ์จอมราชันได้

แม้แต่ฉีหลินกว่านลี่ที่เป็นระดับบรรพบุรุษของตระกูลราชันฉีหลินก็อ้าปากค้าง เขาเองก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันช่างประหลาดเหลือเกิน เมื่อไม่ใช่หงส์แท้จริงแล้วรับมือกับเกาทัณฑ์จอมราชันได้อย่างไรกัน

“ตูม ตูม ตูม…” จังหวะที่หงส์ได้ต้านรับเกาทัณฑ์ดอกแรกได้นั้น จอมทิพย์งูหลามทองปรากฎมีประกายพวยพุ่งออกมาทั้งตัว เขาได้ระเบิดพลังของตนจนถึงขีดสูงสุด ฉับพลันนั้นได้ยิงเกาทัณฑ์รวดเดียวออกไปหลายสิบดอก

ขณะที่ลูกเกาทัณฑ์คมกริบที่สามารถโจมตีท้องฟ้าที่พร่างพราวด้วยดวงดาวให้แหลกลาญถูกยิงออกไปดั่งห่าฝน อานุภาพที่ทรงพลังน่ากลัวจนปราศจากผู้เทียบเทียม เป็นอานุภาพที่สามารถทำลายล้างฟ้าดินได้เลยทีเดียว

เกาทัณฑ์ดอกหนึ่งดอกเล่าที่ถูกระดมยิงเข้าใส่แนวป้องกันของไฟโลกันต์หงส์ เสียงดัง “ปุ ปุ ปุ” ที่ดังขึ้นมา เกาทัณฑ์ที่น่ากลัวยิงจนไฟโลกันต์กระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นขึ้นมา ดุจดั่งว่าหากยังคงถูกโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ต่อไป จอมทิพย์งูหลามทองคงจะสามารถยิงทะลุแนวป้องกันจากไฟโลกันต์ของหงส์ไปได้

ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับบรรพบุรุษที่นั่งอยู่บริเวณสองฟากฝั่งของบันไดหิน หรือว่าจอมเทพหนานหยางและจอมเทพเชียนจวิน พวกเขาต่างจ้องเขม็งภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ลดละ ถ้าหากเกาทัณฑ์จอมราชันที่ระดมยิงออกไปอย่างบ้าคลั่งยังไม่สามารถยิงทะลุไฟโลกันต์ของหงส์ได้ล่ะก็ มันจะเป็นการสั่นคลอนต่อแนวความคิดแรกเริ่มของเขาไป

จอมทิพย์งูหลามทองเองก็ตั้งใจเปิดทางให้กับอาจารย์ของตน และเป็นผู้ไขความกระจ่างเกี่ยวกับอภินิหารของหลี่ชิเย่ให้กับอาจารย์ของตน ดังนั้น เขาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่เป็นพิเศษ ไม่เสียดายที่จะต้องสูญเสียงพลังขมุกขมัวปริมาณมหาศาล อดกลั้นเต็มที่แล้วปล่อยลูกเกาทัณฑ์ออกไปดอกแล้วดอกเล่ายิงถล่มเข้าใส่แนวป้องกันจากไฟโลกันต์ของหงส์นั่น เขาเองก็คาดหวังว่าสามารถยิงทะลุแนวป้องกันนี้ไปได้ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

ท่ามกลางเสียงร้องยาว “อิ้วว” ของหงส์ที่ดังขึ้นมา จากนั้น “ตูม” เสียงดังสนั่น นาทีนี้ตัวหงส์ได้ปลดปล่อยไฟโลกันต์ให้พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลันนั้น ไฟโลกันต์ได้โหมลุกไหม้เพิ่มทวีขึ้นอย่างเต็มที่ ไฟโลกันต์ที่โหมลุกไหม้สูงขึ้นไปหนึ่งล้านล้านจ้าง สามารถเผาผลาญท้องฟ้าแถบหนึ่งจนสิ้นไปได้

“ตูม” จากนั้น ตามติดด้วยหงส์ที่หอบเอาไฟโลกันต์ที่สามารถเผาผลาญทำลายท้องฟ้าพุ่งจิกหัวลงมาอีกครั้ง คราวนี้ ต่อให้จอมทิพย์งูหลามทองยิงเกาทัณฑ์เข้าใส่อย่างบ้าคลั่งอย่างไรมันก็ไม่สนใจอีกต่อไป ได้ยินแต่เสียง “ปุ ปุ ปุ” ที่ดังขึ้น เกาทัณฑ์จอมราชันแต่ละดอกที่ยิงเข้าใส่ไม่สามารถทะลุผ่านหรือทำลายแนวป้องกันของหงส์ตัวนี้ได้อยู่แล้ว

ครั้นหงส์พุ่งโจมตีถึงตัว จอมทิพย์งูหลามทองมีท่าทีหวาดผวา ก่อนหน้านี้เขามุ่งโจมตีอย่างเดียว เมื่อหงส์พุ่งโจมตีเข้าถึงตัวแล้วเขาคิดจะหนีก็ไม่ทันการเสียแล้ว

“อ๊ากก” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น ร่างของจอมทิพย์งูหลามทองท่วมไปด้วยไฟโลกันต์ ภายใต้ไฟโลกันต์ที่พาลและปราศจากสิ่งใดเทียบเทียมเช่นนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ร่างของจอมทิพย์งูหลามทองก็ถูกเผาผลาญจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่ซาก

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องสั่นเทาขึ้นในใจเมื่อได้เห็นภาพนี้ นี่มันคือยอดฝีมือระดับสวรรค์สัจธรรมเลยนะ มีพลังขมุกขมัวอยู่ในความครอบครองถึงหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านลิตรทีเดียว บทจะตายก็ตายเอาง่ายๆ เช่นนี้ กลายเป็นเถ้าธุลีไปในพริบตาเดียว มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

นาทีนี้ทุกคนจึงไม่สงสัยเลยว่า หลี่ชิเย่มีความสามารถที่จะบดขยี้ปณิธานของจอมเทพหนานหยางได้

สีหน้าของเสิ่นเชียนจวินเย็นดั่งน้ำแข็งเมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาทำได้เพียงจ้องมองตาปริบๆ เห็นศิษย์ของตนถูกเผาจนตายไปต่อหน้าต่อตา ศิษย์ของเขาท้าสู้กับหลี่ชิเย่ตัวต่อตัว เขาในฐานะที่เป็นอาจารย์ก็ไม่สามารถกลับคำได้ด้วยการยื่นมือเข้าไป เพราะจะเท่ากับเป็นคนไม่รักษาคำพูด

“ช่าาา” เวลานี้ หงส์ตัวนั้นได้บินกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม หุบปีกสองข้างลงและนั่งลงอยู่ตรงนั้น ไฟโลกันต์ได้จางหายไป เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หงส์ที่มีอานุภาพข่มผู้คนตัวนั้นเมื่อครู่นี้ได้กลับกลายเป็นรูปแกะสลักตามเดิม

ทุกคนจ้องมองดูอย่างละเอียด รูปแกะสลักยังคงเป็นรูปแกะสลัก มันยังคงเป็นรูปที่แกะสลักขึ้นมาจากหินให้เป็นรูปหงส์เท่านั้น มันไม่ได้แตกต่างไปจากรูปแกะสลักทั่วๆ ไปใดๆ ทั้งสิ้น!

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท