ต้นชาสัจธรรมนะเนี่ย…มองดูต้นชาดึกดำบรรพที่คล้ายดั่งเจดีย์เมฆต้นนั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อยากได้มากจนน้ำลายไหลยืด แม้แต่บรรดานักศึกษาที่มีชาติกำเนิดมาจากสายสำนักราชันเซียนก็มีสภาพไม่ต่างกัน เนื่องจากในทวีปเจียวเหิงโจวคงมีต้นชาสัจธรรมอยู่เพียงต้นเดียวที่สถาบันศึกษาเทพเจ้าแห่งนี้เท่านั้น ที่หาได้ยากยิ่งกว่านั้นก็คือ ต้นชาสัจธรรมต้นนี้กลับเปิดให้กับนักศึกษาทุกคนโดยไม่จำกัด
“ปีนี้อาจารย์ได้คงใบอ่อนให้กับพวกเราตั้งมากมาย น่าเสียดาย พวกเราเก็บกันมาได้ไม่เท่าไร” นักศึกษาจากจวนราชันกล่าวทอดถอนใจออกมา
“ข้าพึงพอใจแล้วหละ” นักศึกษาจากจวนราชันผู้หนึ่งได้แบมือออกมา เห็นบนฝ่ามือมีใบอ่อนเรียงรายอยู่สามใบ ใบอ่อนทั้งสามใบนี้ล้วนแล้วแต่มีกฎเกณฑ์สองสายล้อมรอบ กล่าวยิ้มแต้ว่า “ใบชาสองสายสามใบเพียงพอใช้สำหรับข้าแล้ว วันหน้าเวลาฝึกวิชาหากบังเกิดมารเข้าแทรก อมไว้ใบหนึ่งก็สามารถช่วยให้ข้าผ่านพ้นอุปสรรคไปได้แล้ว”
แท้จริงแล้ว ต้นชาสัจธรรมต้นนี้ที่อยู่ตรงหน้ามีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา ผู้คนเรียกขานมันว่าชาเซียน มีความล้ำค่ายิ่งนัก ได้มาสักใบสามารถช่วยป้องกันจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ขจัดมารในใจ เมื่อถึงช่วงที่ยากลำบากสามารถช่วยให้กลับออกมาจากการถูกธาตุไฟเข้าแทรกได้
ใบอ่อนของต้นชาสัจธรรมมีการแบ่งเป็นระดับชั้นเอาไว้ ยิ่งใบชาที่มีกฎเกณฑ์จำนวนสายมากเท่าไรก็จะล้ำค่ามากเท่านั้น และหรือเป็นการบ่งบอกว่าใบอ่อนที่อยู่สูงขึ้นไปด้านบนก็จะล้ำค่ามากขึ้น ใบที่ล้ำค่ามากที่สุดก็คือใบอ่อนที่ขึ้นอยู่สูงสุดที่มีกฎเกณฑ์ล้อมรอบสิบสองสาย
“ใบอ่อนขนาดสองสายนะเนี่ย นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทักษะยุทธของพี่กระเรียนขาวในจวนราชันของพวกเรานับว่าอยู่อันดับต้นๆ อยู่แล้ว” นักศึกษาคนอื่นๆ กล่าวด้วยความอิจฉาขึ้นมา
“นั่นสิ ในครั้งนี้สวนชาเปิดมานานขนาดนี้แล้ว คงมีนักศึกษาเพียงห้าท่านเท่านั้นที่เก็บใบชาสัจธรรมได้ นักศึกษาที่ทำได้ดีที่สุดก็แค่ใบอ่อนขนาดสามสายเท่านั้นเอง” นักศึกษาอีกผู้หนึ่งถึงกับเอ่ยขึ้นมา
ใบอ่อนของชาสัจธรรมนั้นล้ำค่ายิ่งนัก แต่เก็บได้ยากมาก เรียกได้ว่าผู้ที่คิดจะเก็บใบอ่อนของชาสัจธรรมให้ได้ล้วนแล้วแต่มีการบรรลุที่สุดยอดยากจะหาผู้ใดเทียมทั้งสิ้น มีความเข้าใจในความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมที่หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร
ในบางแง่มุมอาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่คิดจะเก็บใบชาสัจธรรมทักษะแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรง เหมือนดั่งคนสองคนที่มาเก็บใบชาสัจธรรมพร้อมๆ กัน คนหนึ่งอ่อนด้อย คนหนึ่งแข็งแกร่ง แต่ ถ้าหากผู้ที่อ่อนด้อยมีความเข้าใจในสัจธรรมลึกซึ้งกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ใบชาสัจธรรมที่เขาจะเก็บได้ย่อมต้องดีกว่าผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
ขอข้าลองดู…ในขณะนี้ มีนักศึกษาที่มีลักษณะฮึกเหิมและลำพองใจได้มาถึง นักศึกษาผู้นี้มีบุคลิกท่าทางที่ไม่ธรรมดา ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียว พลันขึ้นสูงไปถึงครึ่งเขา ทันใดนั้นได้เข้าใกล้ต้นชาดึกดำบรรพ์
เสียงแว้งค์ดังขึ้น ขณะที่นักศึกษาผู้นี้เข้าใกล้ต้นชาดึกดำบรรพ์นั้น ทันใดนั้นต้นชาดึกดำบรรพ์ได้ปล่อยสัจธรรมสายหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้านักศึกษาผู้นี้ และขยายใหญ่ขึ้น เหมือนหนึ่งพาดผ่านนับล้านล้านลี้ สามารถตลบเอาฟ้าดินเข้าไปอยู่ข้างในของมัน
สัจธรรมอันยิ่งใหญ่ ปรากฏอักขระยันต์ที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา โดยที่อักขระยันต์และละตัวคล้ายดั่งน้ำในแม่น้ำที่ไหลรินอยู่ และไหลพลุ่งพล่าน สามารถท่วมผู้คนจนมิดในพริบตาเดียว ต่อให้ไม่ได้ท่วมจนมิดแต่ก็ทำให้ต้องตาลายได้
เมื่อตกอยู่ท่ามกลางสัจธรรมเช่นนี้ ไหนเลยยังจะมีต้นชาดึกดำบรรพ์อะไรนั่น ไหนเลยยังจะมีใบอ่อนอีก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกบดบังโดยอักขระยันต์สัจธรรมนั่น ถูกสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามท่วมจนมิด
เปิด…ในเวลานี้นักศึกษารุ่นพี่ผู้นี้คำรามเสียงยาวออกมา สายตาจับจ้องไปที่ความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมหนึ่ง ลงมือโดยฉับพลัน ยื่นมือไปที่ความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมดังกล่าว เด็ดเอาความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมติดมือมา
เสียงปุดังขึ้น ขณะนักศึกษารุ่นพี่เด็ดเอาความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรมติดมือมาได้แล้วนั้น พลันถูกพลังดีดจนตัวลอยกลับมาอยู่จุดเดิม
ในขณะนี้บนมือของเขาปรากฏใบอ่อนใบหนึ่ง โดยใบอ่อนใบนี้มีกฎเกณฑ์ขนาดจิ๋วดั่งใยไหมสามสายล้อมรอบ
“พี่แรดแดงยอดเยี่ยมมาก ถึงกับสามารถเด็ดใบชาสามสายได้ใบหนึ่ง” บรรดานักศึกษาคนอื่นๆ ต่างทยอยส่งเสียงร้องแสดงความยินดีเมื่อเห็นนักศึกษารุ่นพี่ผู้นี้สามารถเก็บใบชาที่มีกฎเกณฑ์ล้อมรอบสามสาย
ใบหน้าของนักศึกษาผู้นี้แดงก่ำ หัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “พูดไปแล้วก็น่าละอายยิ่งนัก เดิมทีข้าตั้งใจเก็บใบชาที่มีกฎเกณฑ์ล้อมรอบสี่สาย ไม่นึกเลยว่าไม่สามารถบรรลุอย่างถ่องแท้ถึงความลึกซึ้งพิสดารของสัจธรรม จึงเก็บได้เพียงใบชาที่มีกฎเกณฑ์สามสายเท่านั้น”
“น้องแรดแดงนับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ไม่เสียทีที่เป็นยอดฝีมืออันดับสองของหอศักดิ์สิทธิ์พวกเรา” เวลานี้ปรากฎเสียงร้องให้กำลังใจดังขึ้น มองเห็นคนสองคนที่เหินฟ้าเข้ามา ปรากฎการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผู้คนจำนวนมากทยอยกันต้อนรับ
“ยุวกษัตริย์กับเทพบุตรมาแล้ว” มีนักศึกษาที่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ทันทีที่มองเห็นสองคนนี้ที่เหินฟ้าเข้ามา
“เทพบุตรล้อเล่นแล้วหละ เทียบกับเทพบุตรแล้ว น้องละอายที่เทียบไม่ได้” นักศึกษาผู้นี้พูดถ่อมตนขึ้นมา
สองคนที่เหินฟ้าเข้ามาก็คือยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงนั่นเอง การมาถึงของพวกเขาทำให้มีนักศึกษาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ใครใช้ให้พวกเขาคือผู้นำของหอศักดิ์สิทธิ์ และศตาคารกันเล่า
“หากสามารถชงชาสัจธรรมดื่มสักกา ชีวิตนี้ก็ไม่เสียดายอีกแล้ว” เวลานี้เทพบุตรซือจงถึงกับทอดถอนใจออกมา ขณะมองดูต้นชาดึกดำบรรพ์ที่คล้ายดั่งเจดีย์เมฆต้นนั้น
“การกระทำเช่นนี้ของเทพบุตรนับว่าสิ้นเปลืองเหลือเกิน ชาสัจธรรมหนึ่งกานั่นต้องใช้ใบชาอ่อนจำนวนเท่าไรกัน อย่าว่าแต่พวกเราที่เป็นนักศึกษาเลย ต่อให้เป็นอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็คงมีไม่กี่คนที่ทำได้กระมัง เกรงว่านอกจากผู้อำนวยการเก่าและผู้เฒ่าม่อแล้ว ยากจะมีอาจารย์ท่านใดสามารถชงชาได้สักกาแล้ว” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ยิ้มกล่าว
“เก็บเอามาชงตั้งกาหนึ่ง นี่มันเป็นการสิ้นเปลืองเหลือเกิน” นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างทยอยกันหัวเราะขึ้นมา นักศึกษาผู้หนึ่งได้กล่าวว่า “หากเป็นข้า สามารถเก็บใบชาชนิดแปดสายได้สักใบหนึ่งข้าก็พึงพอใจแล้วหละ ใบชาลักษณะเช่นนี้ ช่วงเวลาที่อันตรายต้องสามารถช่วยชีวิตข้าได้อย่างแน่นอน”ไอรีนโนเวล
“การจะเก็บใบชาชนิดแปดสายให้ได้สักใบหนึ่ง นับว่ามีความยากโดยแท้” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ถึงกับทอดถอนใจออกมาว่า “หากเป็นข้า เกรงว่าคงเก็บมาได้แค่สี่สายเท่านั้นเอง”
“ข้าเองก็คงเหนือกว่าพี่ยุวกษัตริย์สักเท่าไร” เทพบุตรซือจงหัวเราะและส่ายหน้าเอ่ยขึ้นมา
สามเทพบุตรสถาบันศึกษาเทพเจ้า พวกเขาทั้งสามต่างมีชาติกำเนิดที่สูงส่ง อีกทั้งพวกเขาทั้งสามคนมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาก มีข้อตกลงในใจในระดับหนึ่ง ดั่งเช่นยุวกษัตริย์หกกระบี่คือผู้นำของศตาคาร เทพบุตรซือจงคือผู้นำของหอศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่นายน้อยทะยานฟ้าคือผู้นำของจวนราชัน พวกเขาทั้งสามเข้ากันได้ดีมาก ส่งผลให้ชั้นเรียนใหญ่ทั้งสามของสถาบันศึกษาเทพเจ้ามีความขัดแย้งกันน้อยมาก เนื่องจากพวกของยุวกษัตริย์หกกระบี่ทั้งสามคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน
แน่นอนที่สุด ชั้นเรียนเช่นเรือนตำรา และมหาบุรุษไม่อยู่ในข้อกำหนดนี้
“ในสถาบันของพวกเรามีใครนะที่สามารถเก็บใบชาชนิดแปดสายได้?” ในขณะนี้ มีนักศึกษาเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
คำพูดลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั้งยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงต่างมองหน้ากันและกัน สุดท้าย ยุวกษัตริย์หกกระบี่หัวราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “บางทีในบรรดานักศึกษาเช่นพวกเราอาจไม่มีใครสามารถเก็บใบชาชนิดแปดสายได้กระมัง ถ้าหากพูดถึงคนหนุ่มแล้ว ความเห็นส่วนตัวของข้า อาจารย์เชียนเสวียนและอาจารย์ฉวี่หังคงมีศักยภาพเช่นนี้กระมัง ส่วนอาจารย์ระดับอาวุโสก็ไม่สามารถรู้ได้แล้วหละ”
นักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดเช่นนี้ และกล่าวว่า “ที่พูดมาก็ถูก ในบรรดาอาจารย์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่คงมีแต่อาจารย์เชียนเสวียนและอาจารย์ฉวี่หังที่แข็งแกร่งที่สุดกระมัง และด้านพรสวรรค์ก็สุดยอดที่สุด ไม่มีใครเทียบ”
“ได้ยินมาว่าเร็วๆ นี้เรือนตำราก็มีอาจารย์มาคนหนึ่งที่ชื่อหลี่ชิเย่ ฟังจากนักศึกษาคนอื่นๆ บอกว่าเขายังหนุ่มแน่นมาก อายุน้อยเพียงนี้ก็สามารถเป็นอาจารย์ได้ ไม่แน่นักอาจมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้ต่อกร เป็นไปได้ที่เขาก็อาจสามารถเก็บใบชาแปดสายได้” นักศึกษาจากหอศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งอดที่จะเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
พลันที่มีการพูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงมีสีหน้าบึ้งตึงทันที ยุวกษัตริย์หกกระบี่มีความแค้นกับหลี่ชิเย่เป็นเรื่องที่ไร้ข้อกังขาอยู่แล้ว ส่วนเทพบุตรซือจงก็ไม่ชอบหลี่ชิเย่เช่นกัน เนื่องจากหลี่ชิเย่ใกล้ชิดกับเหมยซู่เหยามากเกินไป ซึ่งทำให้เขาไม่สบอารมณ์มากเป็นพิเศษ
“อายุน้อยเป็นอาจารย์ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะแข็งแกร่ง เรื่องราวในโลกพูดกันยาก ถ้าหากเขาเก่งขนาดนั้นจริง คงไม่ไปเป็นอาจารย์ที่เรือนตำราแล้ว ทั่วทั้งเรือนตำราก็มีเพียงนักศึกษาเหมือนดั่งหมาแมวสามตัวเท่านั้น ดูอาจารย์ฉวี่หังสิ อายุเพียงเท่านี้ก็สามารถไปบรรยายให้กับหอศักดิ์สิทธิ์แล้ว นี่แหละคืออัจฉริยะบุคคลที่แท้จริง ศักยภาพของเขาไม่มีใครกล้ากังขาอยู่แล้ว” มีนักศึกษาที่สนิทกับเทพบุตรซือจงจึงรีบเอ่ยขึ้น จงใจด้อยค่าหลี่ชิเย่
“นั่นสิ คนทั่วๆ ไปใครจะยอมไปเป็นอาจารย์ที่เรือนตำราเล่า” มีนักศึกษาคนอื่นๆ ที่กล่าวสนับสนุน “ไปเป็นอาจารย์ที่เรือนตำราเท่ากับเป็นการเนรเทศไปชายแดนชัดๆ ไม่แน่นักอาจมีผลงานแย่ จึงถูกกำหนดให้ไปเป็นอาจารย์ที่เรือนตำรานั่น”
“พูดมาก็ถูก อาจารย์ฉวี่หังเก็บใบชาชนิดแปดสายคงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด” มีนักศึกษาเปลี่ยนประเด็นสนทนาทันที และกล่าวว่า “ฟังว่าในครั้งนั้นเหรินเซิ่นได้เก็บใบชาชนิดเก้าสายได้ที่ตรงนี้”
“ถูกต้อง” เมื่อเอ่ยถึงเหรินเซิ่น แม้แต่ยุวกษัตริย์หกกระบี่และเทพบุตรซือจงก็ต้องลุกขึ้นแสดงความเคารพด้วยความเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง จะอย่างไรเสีย ในยุคนี้เหรินเซิ่นเรียกได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์
“อาจารย์ฉวี่หังกับเหรินเซี่นคือนักศึกษารุ่นเดียวกัน ต่างก็เป็นนักศึกษาที่มีพรสวรรค์สูงที่สุด เกรงว่าพวกเขาคงต่างกันไม่มาก” มีนักศึกษาทยอยกันกล่าวสนับสนุน
“แม้แต่เหรินเซิ่นที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลปราศจากผู้เทียบเทียมยังเก็บใบชาได้เพียงแค่ชนิดเก้าสาย ยังจะมีใครที่สามารถเก็บได้สิบสาย หรือสูงกว่าสิบเอ็ดสาย และสิบสองสายหรือไม่?” มีนักศึกษาที่ถามด้วยความสงสัย
“ถ้าเป็นส่วนของอาจารย์ และหรือราชันเซียนไม่ได้มีการบันทึก หรือเล่าลือกันเอาไว้ แต่ว่า มีบันทึกหนึ่งเกี่ยวกับนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้าพวกเรา เคยมีนักศึกษารุ่นหนึ่งที่สามารถเก็บใบชาชนิดสิบสายได้” เทพบุตรซือจงที่มีความรู้กว้างขวางทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมา
“คือนักศึกษาคนไหนรึ?” คำพูดนี้พลันสร้างความสนใจให้กับนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์
“จอมทระนงอเวจี” เทพบุตรซือจงเอ่ยขึ้นช้าๆ
“จอมทระนงอเวจี” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ก็พยักหน้า และกล่าวว่า “จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง ชื่อชั้นเดียวกันกับบิดาของข้า”
“ข้าเคยได้ฟังบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับจอมทระนงอเวจี ได้ยินว่าเขาเคยเป็นนักศึกษาที่กำแหงและยโสที่สุดของสถาบันศึกษาเทพเจ้า และเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดของสถาบันศึกษาเทพเจ้า” นักศึกษาผู้หนึ่งได้กล่าวทอดถอนใจออกมาว่า “ฟังว่าขณะที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสถาบันศึกษาเทพเจ้า เขาไม่ยอมให้แม้กระทั่งผู้เป็นอาจารย์ คิดว่าโลกนี้ผู้ที่เป็นอาจารย์เขาได้มีน้อยถึงน้อยที่สุด”
“นั่นสิจอมทระนงอเวจี นับว่าเป็นระดับจอมเทพที่เลื่องชื่อของร้อยชาติพันธุ์พวกเรา กำแหงและยโสไร้ผู้เทียบเทียม ได้ยินมาว่า ภายหลังเขาไปท้าสู้กับเทพโบราณกุยฝาน หวังจะสั่นคลอนฐานะของเทพโบราณกุยฝาน แต่ว่า นับจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีข่าวคราวของเขาอีกเลย เล่าลือกันว่า เขาได้ตายด้วยน้ำมือของเทพโบราณกุยฝานแล้ว” นักศึกษาที่มีชาติกำเนิดจากสำนักเจ้าลัทธิอีกคนก็เอ่ยขึ้น
เมื่อเอ่ยถึงเทพโบราณกุยฝานทำให้ทุกคนต้องนิ่งเงียบ จะอย่างไรเสียเทพโบราณกุยฝานมีความแข็งแกร่งมากมายเหลือเกิน โลกนี้มีระดับเทพโบราณเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ขณะที่เทพโบราณกุยฝานไม่เพียงเป็นระดับเทพโบราณเท่านั้น ยังมีสายเลือดราชามนุษย์ในครอบครองอีกด้วย นับว่าฝืนลิขิตสวรรค์มากเหลือเกิน
…………………………………………………………