ตูม ตูม ตูมขณะที่ปี้โซ่วยังอยู่ห่างจากเมืองปี้โซ่วเฉิงอีกไกลมาก ก็เห็นฝุ่นละอองที่ฟุ้งลอยขึ้นสูงเป็นหมื่นจ้างแล้ว ขณะที่ปี้โซ่วจำนวนนับไม่ถ้วนบุกเข้าหานั้น คล้ายน้ำหลากที่ทะลักเข้ามา ดุจดั่งเป็นคลื่นยักษ์ที่พลิกตัวขึ้นสูงเป็นล้านล้านจ้างอย่างนั้น
โอ้แม่จ๋า…ในเวลานี้เอง ผู้คนจำนวนมากจึงได้รับรู้ถึงความน่าสยองขวัญของคลื่นสัตว์ ทำเอาคนบางส่วนทยอยกันถอยหลังให้ห่างไกลจากเส้นทางผ่าน ด้วยเกรงว่าถูกคลื่นสัตว์พัดพาเอาไปด้วย
เมื่อคลื่นสัตว์ใกล้เข้ามาทุกขณะ ผู้คนจำนวนมากจึงมองเห็นปี้โซ่วได้อย่างชัดเจน ความจริงแล้วปี้โซ่วไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรกับสิงสาราสัตว์มากมายนัก อย่างน้อยเหมือนกัน และหรือใกลเคียงในด้านรูปลักษณ์ แน่นอนย่อมมีสัตว์โบราณที่หน้าตาแปลกประหลาดอย่างยิ่ง แต่มันก็คือส่วนน้อย
คลื่นสัตว์ที่กวาดครอบคลุมพื้นที่เข้ามานั้นมีปี้โซ่วที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปหลากหลาย บ้างเหมือนเป็นวัวมุทะลุตัวหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่มาก ยาวสามจ้างเศษ สีแดงกล่ำทั้งตัว ขณะที่วิ่งเข้ามาอย่างบ้าบิ่น กีบทั้งสี่ที่ร้อนผ่าวได้สลักเป็นรอยเท้าอยู่บนพื้น และมีสัตว์ดุร้ายที่คล้ายเสือดาวหิมะ แม้ว่ารูปร่างของมันจะไม่ใหญ่ แต่มีความว่องไวดั่งสายฟ้าแลบ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็วิ่งพรวดมาอยู่แถวหน้าสุด ร่างสีขาวประดุจเกล็ดหิมะ บริเวณที่มันวิ่งผ่านไปล้วนแล้วแต่กลายเป็นน้ำแข็ง และมี ปี้โซ่วตัวเล็กๆ ที่แลดูคล้ายเป็นลิงป่าตัวหนึ่ง มันจะเกาะอยู่บนหลังของสัตว์ยักษ์โดยตรงตัวหนึ่ง ขณะที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเหมือนว่ายอมรับฟังคำสั่งของมันอย่างยิ่ง…
ปี้โซ่วที่วิ่งเข้ามาปะทะมีจำนวนมากเหลือเกิน และมีรูปลักษณ์ที่หลายหลาก นับกันไม่หวั่นไม่ไหว ทุกคนต่างจ้องมองดูกันจนตาลาย แต่ว่า ไม่ว่าปี้โซ่วเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์หน้าตาอย่างไรก็ตาม จะเป็นสัตว์บกก็ดี หรือสัตว์ปีกก็ช่าง พวกมันต่างก็มีจุดๆ หนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือบริเวณหน้าผากจะมีลวดลายอยู่ โดยลวดลายดังกล่าวแลดูคล้ายเป็นเหรียญกษาปณ์ทองคำเหรียญหนึ่งที่ถูกสลักประทับเอาไว้ตรงนั้น ด้วยลวดลายลักษณะเช่นนี้นี่เอง พวกมันจึงถูกขนานนามว่าปี้โซ่ว
ปัง ปัง ปังเสียงสะเทือนปฐพีดังขึ้นเป็นระลอก ท่ามกลางคลื่นสัตว์นั้นก็มีปี้โซ่วที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารรวมอยู่ด้วย โดยที่สัตว์ยักษ์ประเภทนี้จัดอยู่ในรุ่นยักษ์ใหญ่
มองเห็นวานรยักษ์ตัวหนึ่งที่มีขนาดสูงใหญ่เมื่อเทียบกับภูเขาลูกที่สูงที่สุดแล้วมันยังสูงกว่าหัวหนึ่ง ยามที่มันก้าวเท้าก้าวหนึ่งคือระยะทางหนึ่งพันลี้ หนึ่งเท้าที่เหยียบลงไปก็คือรอยเท้าขนาดยักษ์ แม้แต่ภูเขาก็ถูกมันเหยียบจนราบเป็นหน้ากลอง เมื่อมันพุ่งชนเข้าไปตรงๆ ไม่รู้ว่ามีภูเขาจำนวนเท่าไรที่ถูกมันชนจนแหลกละเอียดไปเท่าไรตลอดเส้นทางที่มันผ่านมา มีความดุร้ายยิ่งนัก
ยามที่วานรยักษ์ตัวนี้เหยียบลงมานั้น ไม่รู้ว่ามีปี้โซ่วจำนวนเท่าไรที่ถูกมันเหยียบขยี้ ปี้โซ่วบางตัวถูกมันเหยียบจนกลายเป็นเนื้อบดในหนึ่งเท้า แต่ก็มีปี้โซ่วจำนวนมากที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุกขึ้นมาวิ่งได้ต่อ
ยังมีงูยักษ์ที่มีลำตัวยาวเป็นพันลี้ พลันที่มองเห็นมันแลบลิ้นก็จะได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง ภูเขาลูกที่อยู่ด้านหน้าถูกมันโจมตีจนแหลกละเอียดไปโดยพลัน แม้ว่างูยักษ์ลักษณะเช่นนี้จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่มาก แต่มันกลับมีความเร็วที่ยากจะหาผู้ใดเทียม เลื้อยผ่านไปดั่งสายฟ้าแลบ
ยามที่งูยักษ์ตัวนี้เลื้อยผ่านไปนั้น จะได้ยินเสียงดังคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกขึ้นมา ต้นไม้ที่มีลำต้นสูงเทียมฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน และภูเขาแต่ละลูกที่ถูกมันบดขยี้จนแหลกละเอียด บริเวณที่มันเลื้อยผ่านไปจะถูกมันบดขยี้จนกลายเป็นเส้นทางสายหนึ่งขึ้นมาดื้อๆ ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับอ้าปากตาค้าง
เสียงตูม…ดังสนั่น ภายในระยะเวลาอันสั้น คลื่นสัตว์ที่น่าสยองขวัญก็บุกมาถึงบริเวณที่เป็นอาณาเขตของเมืองปี้โซ่วเฉิงแล้ว พลันบังเกิดเหมือนฟ้าถล่มดินทลายขึ้นมา ไม่รู้ว่ามีต้นไม้ที่สูงตระหง่านเทียมฟ้าจำนวนเท่าไรที่แหลกละเอียดไปทันที และไม่รู้ว่ามีภูเขาจำนวนเท่าไรที่แหลกละเอียดและพังครืนลงมา
โอ้แม่เจ้า พวกเราอยู่ใกล้เกินไปแล้ว ยามที่คลื่นสัตว์กวาดครอบคลุมเข้ามานั้น ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่เลือกอยู่ภูเขาลูกที่อยู่ใกล้กับเส้นทางผ่านมาก เมื่อคลื่นสัตว์เข้ามาถึงพวกเขาก็จะโดนประทะเป็นกลุ่มแรก ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยพลันถูกคลื่นของสัตว์ปกคลุมจนมิด
อ๊ากกก… เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นไม่ขาดสาย ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ถูกคลื่นของสัตว์ที่น่าสยดสยองเข้าปกคลุมและจากนั้นก็ถูกเหยียบย่ำจนกลายเป็นเนื้อบด เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นมาไม่ขาด
มีผู้บำเพ็ญตนที่รีบเร่งเหินฟ้าขึ้นไป แต่ว่า พวกเขากลับโชคร้ายอย่างยิ่ง เมื่อเสียงอิ๊วววดังขึ้น สัตว์ปีกขนาดยักษ์โฉบผ่านเข้ามา ปีกขนาดยักษ์ของมันที่กวาดเข้ามา ทำให้ผู้บำเพ็ญตนเหล่านี้ส่งเสียงร้องน่าเวทนาอ๊ากกกขึ้นมา ร่างกายของพวกเขาถูกตัดขาดกลางลำตัว ทำให้เกิดเป็นฝนเลือดที่สาดลงมา
แต่ก็มีผู้บำเพ็ญตนบางส่วนที่โชคดีมาก พวกเขาได้ทำการจัดวางเหรียญแท้จริงของตนเอาไว้แต่แรก เมื่อปี้โซ่วที่วิ่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าสุดมองเห็น และมีจำนวนที่เหมาะกับปี้โซ่วตัวนั้น มันก็จะกลืนเอาเหรียญแท้จริงนั้นเข้าไป
เมื่อผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นเห็นปี้โซ่วกลืนกินเหรียญแท้จริงของตนเข้าไปก็จะทยอยกันกระโดดขึ้นไปและนั่งบนตัวของปี้โซ่ว ปล่อยให้พวกเขาทุกพวกเขาพุ่งตัวเข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิง
แต่ว่า มันมีทั้งที่โชคดี และโชคร้าย ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนเพิ่งจะได้นั่งบนหลังของปี้โซ่ว ได้ยินเสียงดังปังขึ้นมา ปรากฏเงามืดปกคลุมอยู่ด้านบนท้องฟ้า เท้าขนาดยักษ์ข้างหนึ่งที่เหยียบย่ำลงมา พลันทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นเนื้อบดรวมทั้งตัวปี้โซ่วที่นั่งโดยสารมาด้วย พวกเขาตายโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ การตายในลักษณะนี้นับว่าไม่เป็นธรรมเหลือเกิน
แน่นอน มีปี้โซ่วบางตัวแม้ผู้บำเพ็ญตนบนหลังของมันจะถูกเหยียบจนกลายเป็นเนื้อบด แต่ตัวของพวกมันเองกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่พวกเราไม่ได้อยู่ใกล้ถนนมากขนาดนั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่กล่าวด้วยความรู้สึกโชคดี เมื่อเห็นเหล่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่มากที่สุดถูกเหยียบจนกลายเป็นเนื้อบด กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วการที่พวกเขาไม่สามารถแย่งยอดเขาที่อยู่ด้านหน้าสุดตั้งแต่แรก ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง
ฮือออ…เวลานี้ ได้มีปี้โซ่วบางส่วนที่เบี่ยงออกจากเส้นทางหลักและวิ่งไปตรงหน้าผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้น อ้าปากกลืนกินเหรียญแท้จริงลงท้องไป
บรรดาผู้บำเพ็ญตนเหล่านี้ต่างทยอยกระโดดขึ้นนั่งบนหลังของปี้โซ่วเมื่อเห็นมันกลืนกินเหรียญแท้จริงของตน นั่งปี้โซ่วเข้าไปในเมืองปี้โซ่วเฉิง
แน่นอน ก็มีบางคนที่คิดจะนั่งปี้โซ่วฟรีๆ โดยไม่ต้องการเสียเงินแต่อยากจะนั่งปี้โซ่วเข้าเมือง ดังนั้น พวกเขาจึงเล็งปี้โซ่วตัวหนึ่งไว้ อาศัยความไวบุกประชิดตัวและขึ้นนั่งบนหลังของปี้โซ่วทันที
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ปี้โซ่วจัดการสลัดคนที่ต้องการโดยสารฟรีเหล่านี้ตกลงพื้นโดยไม่เกรงใจ กระทั่งใช้เท้าเหยียบลงไป และมีบางส่วนที่ตกจากหลังปี้โซ่วแล้วถูกคลื่นสัตว์ที่ตามมาด้านหลังเหยียบย่ำจนกลายเป็นเนื้อบดไป
เดิมทีผู้คนส่วนหนึ่งที่คิดจะนั่งปี้โซ่วฟรีเมื่อมองเห็นพวกที่หวังจะนั่งปี้โซ่วฟรีต้องพบกับจุดจบเช่นนี้แล้ว จึงไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่ามอีกต่อไป
ฮือออ…เวลานี้ เสียงสัตว์ที่คำรามออกมา รวมทั้งเสียงของสัตว์ปีกที่ดังไม่ขาดสาย เสียงคำรามที่ดังครอบคลุมไปทั่วฟ้าดิน สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเป็นอย่างยิ่ง
จะว่าไปมันแล้วมันก็เป็นเรื่องแปลก แม้ว่าประตูเมืองปี้โซ่วเฉิงจะมีขนาดใหญ่มาก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีขนาดใหญ่กว่าคลื่นของสัตว์ที่เห็นอยู่ตรงหน้าเด็ดขาด กระทั่งมีสัตว์ขนาดยักษ์ที่ร่างกายของพวกมันใหญ่กว่าประตูเมืองของเมืองปี้โซ่วเฉิงไม่รู้กี่เท่าตัว
แต่ว่า ขณะที่ปี้โซ่วทั้งหมดพุ่งตัวเข้าไปนั้น กลับไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประตูเมือง มองเห็นพวกปี้โซ่วคล้ายดั่งย่อส่วนลงในทันที ประดุจดั่งเป็นดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ที่กลับกลายเป็นก้อนหินขนาดเล็กๆ โดยพลันเท่านั้นเอง
ความจริงแล้ว หาใช่ตัวของปี้โซ่วหดหรือย่อส่วนลง ขณะที่ปี้โซ่วก้าวข้ามประตุเมืองของเมืองปี้โซ่วเฉิงจังหวะนั้น ได้ก้าวข้ามไปยังช่องว่างอีกมิติหนึ่งแล้ว ดังนั้น จึงมองเห็นเหมือนตัวปี้โซ่วย่อส่วนลงไป ความจริงแล้วมันคือช่องว่างที่ไร้ขีดจำกัดช่องหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้เอง มีผู้คนจำนวนมากที่หวังเข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิงด้วยตนเองจึงค้นหาทิศทางที่เข้าไปไม่ได้ ค้นหาทางที่จะเชื่อมไปยังข้างหน้าไม่เจอ เนื่องจากมันเป็นการเข้าสู่ช่องว่างอีกช่องหนึ่ง
ปัง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว มองเห็นวานรยักษ์ตัวนั้นที่ก้าวเท้าเข้ามา ขณะยังอยู่ห่างจากภูเขาลูกที่คุณชายพานหลงอาศัยอยู่อีกไกล ก็เห็นมันอ้าปากและดูดกลืนเอาเหรียญแท้จริงชั้นราชันแท้จริงเข้าไปจนหมด จากนั้นได้ส่งเสียงคำรามเสียงดังใส่คุณชายพานหลงทีหนึ่ง
ย่อมไม่ต้องสงสัย วานรยักษ์ตัวนี้เห็นด้วยที่จะให้คุณชายพานหลงนั่งโดยสารมันเข้าไป คุณชายพานหลงดีใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นวานรยักษ์คำรามเสียงดังขึ้นมา จึงเหินฟ้าขึ้นไปอยู่บนหัวไหล่ของเจ้าวานรยักษ์ตัวนี้ ขณะที่เขานั่งอยู่บนบ่าของวานรยักษ์นั้น ดูเหมือนเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งเท่านั้น
เสียงปัง…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในขณะเดียวกัน มองเห็นงูยักษ์ตัวนั้นเลื้อยเข้ามา ลำตัวของมันเพียงรัดภูเขาลูกหนึ่งไปตามอารมณ์ ภูเขาที่สูงใหญ่ลูกนั้นพลันบังเกิดเสียงปังและระเบิดเป็นจุณไป
งูยักษ์ตัวนี้พลันอ้าปากและกลืนเอาเหรียญแท้จริงของเจี้ยนจุนเข้าท้องไป เมื่อเจี้ยนจุนเห็นงูยักษ์กลืนกินเหรียญแท้จริงของตนไปก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปบนลำตัวที่เป็นด้านหลังของงูยักษ์ตัวนี้
ไม่ว่าจะเป็นงูยักษ์ หรือวานรยักษ์ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งยิ่ง ปี้โซ่วจำนวนมากรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกมัน จึงออกห่างให้ไกลจากพวกมัน เพื่อป้องกันถูกพวกมันบดขยี้
จังหวะที่งูยักษ์กับวานรยักษ์เตรียมตัวจะออกเดินทางอีกครั้ง นาทีนี้เองท่ามกลางมหาสมุทรที่ห่างไกลได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา เห็นคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดใส่ท้องฟ้า คลื่นยักษ์ที่สูงนับล้านล้านจ้างเหมือนพลิกเอามหาสมุทรขึ้นมา
นาทีนี้เอง ท่ามกลางมหาสมุทรปรากฏสัตว์ดุร้ายตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจนน้ำมหาสมุทรแตกระจาย ร่างของมันปรากฏเหนือมหาสมุทรในทันที
ปัง…เสียงที่กระชั้นและสั้นดังขึ้น ทันใดนั้นเอง บรรดาปี้โซ่วที่กำลังวิ่งห้อและโบยยินอยู่พลันหยุดชะงักลงทันที ภาพที่เห็นคล้างดั่งรถที่แตะเบรกอย่างกะทันหัน ปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่หยุดนิ่ง
ก่อนหน้านั้นคลื่นสัตว์ที่กวาดและครอบคลุมฟ้าดิน และส่งเสียงดังตูมตามจนแก้วหูของทุกคนแทบแตก แต่เวลานี้เสียงทั้งหมดได้หยุดลงทันที ทั่วฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก
ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา คล้ายดั่งเป็นคลื่นทะเลอย่างนั้น ได้ยินเสียงซ่าาาดังขึ้น เห็นเพียงบรรดาปี้โซ่วทั้งหมดที่หยุดการเคลื่อนไหวทยอยกันคุกเข่าลงและหมอบอยู่กับพื้น มองเห็นเงาดำมืดไปทั่ว ปี้โซ่วทั้งหมดล้วนแล้วแต่คุกเข่าอยู่ที่ตรงนั้น
แม้แต่วานรยักษ์และงูยักษ์ก็ทยอยคุกเข่าและหมอบลงช้าๆ ไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันได้ทำเอาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจยิ่งนัก ทยอยกันมองไปยังมหาสมุทรที่อยู่ห่างไกลออกไป ในเวลานี้มองเห็นปี้โซ่วตัวหนึ่งโผล่ขึ้นเหนือน้ำ
ปี้โซ่วตัวนี้มีรูปร่างคล้ายวัว มีขาเดียว บนศีรษะมีเขาเขาเดียว ยามที่มันโผล่ขึ้นเหนือน้ำอย่างช้าๆ สามารถได้ยินเสียงฟ้าร้อง กระทั่งได้ยินเสียงเปรี้ยงที่เป็นเสียงฟ้าแลบดังขึ้นมาเบาๆ มองเห็นกระแสไฟที่วิ่งผ่านตัวของมัน
แม้ว่าปี้โซ่วตัวนี้จะมีขาเพียงข้างเดียว แต่มันไม่ได้อาศัยการกระโดด แต่เป็นการก้าวไปทีละก้าวๆ อีกทั้งทุกๆ ก้าวล้วนแล้วแต่รวดเร็วมาก หนึ่งก้าวพันลี้ กระทั่งปราศจากซุ่มเสียงอีกด้วย
รูปร่างของปี้โซ่วตัวนี้มีขนาดใหญ่ไม่เท่าวานรยักษ์ตัวนั้น และมันไม่ได้แผ่อานุภาพที่สะเทือนฟ้าดิน เพียงแต่ขณะที่มันเดินทางผ่านมานั้น สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่สูงสุดสายหนึ่ง โดยกลิ่นอายสูงสุดสายนี้ไม่ได้แผ่ออกมาโดยความตั้งใจของมัน แต่เป็นการไหลรินอยู่ภายในร่างกายขงมัน
เหมือนว่ากลิ่นอายสายนี้ไหลรินอยู่ภายในสายเลือดของมัน ซึ่งบ่งบอกว่ามันมีความสูงส่งที่สูงสุดมาตั้งแต่กำเนิด มันมีสายเลือดที่แกร่งที่สุดในครอบครองตั้งแต่กำเนิด!