ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรแทบกลั้นใจตาย เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ แม้แต่เทพสงครามมังกรคชาธารก็ยังต้องมีรูม่านตาที่หดตัวลง
เทพสงครามมังกรคชาธารคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิพรรษ ต่อให้เขาไม่ใช่เป็นผู้อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นอมตะ แต่คิดจะหาใครสักคนในแดนลัทธิพรรษที่สามารถต้านกับเทพสงครามมังกรคชาธารได้เรียกว่ามีหร็อมแหร็มอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารอีกเลย
แต่ว่า แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างเทพสงครามมังกรคชาธารเมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่แล้วก็กลายเป็นมดปลวกตัวหนึ่ง จะไม่ให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ในขณะนี้ต้องมองหน้ากันและกันได้อย่างไร
ในเวลานี้ ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกัน เวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี ความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกๆ คน และทุกคนก็ให้การยอมรับว่าคนโหดอันดับหนึ่งนั้นแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เทียบกับเทพสงครามมังกรคชาธารแล้วมีแต่แกร่งกว่าไม่มีด้อยกว่า
แต่ทว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่ออกจะเกินเลยไป กับการที่เปรียบเทพสงครามมังกรคชาธารเป็นมดปลวกตัวหนึ่ง กระทั่งมีผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าคนโหดอันดับหนึ่งบ้าระห่ำมากเกินไปเสียแล้ว
แม้ว่าทุกคนต่างเคยชินกับความบ้าระห่ำของคนโหดอันดับหนึ่งเสียแล้ว และเคยชินกับความอวดดีของคนโหดอันดับหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าหากวันไหนคนโหดอันดับหนึ่งไม่บ้าระห่ำอีก ไม่อวดดีอีกแล้ว เกรงว่าทุกคนอาจจะไม่ชินด้วยซ้ำ
แต่ทว่า หากจะเปรียบเทพสงครามมังกรคชาธารให้เป็นเหมือนดั่งมดปลวกตัวหนึ่ง คำพูดเช่นนี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่ามันเกินเลยไป คำพูดเช่นนี้ของคนโหดอันดับหนึ่งนับว่าเกินเลยไปหน่อยโดยแท้
ถ้าหากจะกล่าวว่าแม้แต่เทพสงครามมังกรคชาธารยังเป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้น เช่นนั้นแล้วพวกเขาคือตัวอะไร? ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษเป็นตัวอะไร? ทอดสายตามองออกไป ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั่วแดนลัทธิพรรษจำนวนนับพันเป็นนับหมื่นเป็นอะไรได้?
ถ้าหากแม้แต่เทพสงครามมังกรคชาธารยังเป็นได้แค่มดปลวกล่ะก็ เกรงว่าผู้บำเพ็ญตนทั่วหล้าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเป็นมดปลวกด้วยซ้ำ
ด้วยมีแนวความคิดดังกล่าว เวลานี้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่ออกจะเกินเลยไปแล้ว โดยเฉพาะยอดฝีมือรุ่นอาวุโสอดที่จะรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม ส่งเสียงฮึกออกมาและกล่าวว่า “แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะมีความแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร แต่แบบนี้ก็เกินไปหน่อยแล้วกระมัง เท่ากับจงใจทำให้เทพสงครามมังกรคชาธารต้องได้รับความอับอายนี่ ออกจะเป็นการเสียบุคลิกเกินไปแล้ว”
จะอย่างไรเสียกล่าวสำหรับยอดฝีมือรุ่นอาวุโสแล้ว เทพสงครามมังกรคชาธารเป็นตัวแทนศักยภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของรุ่นอาวุโส เวลานี้หลี่ชิเย่เหยียดหยามเทพสงครามมังกรคชาธารเช่นนี้ ในใจของยอดฝีมือรุ่นอาวุโสย่อมไม่สบายใจอยู่แล้ว
“เมื่อเป็นเช่นนี้ เชิญชี้แนะด้วย” เวลานี้สายตาของเทพสงครามมังกรคชาธารเพ่งไปข้างหน้า และก้าวเดินออกมาทีละก้าวๆ ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละก้าวๆ
ในเวลานี้เทพสงครามมังกรคชาธารไม่มีทางเลือก หลี่ชิเย่ได้บุกเข้ามายังจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขาแล้ว ท่าทีที่แข็งกร้าวของเขาไม่มีช่องว่างที่จะทำอะไรได้อีก จูเซียงหวู่ถิงของพวกเขาไม่ก็ยืนหยัดต้านให้ถึงที่สุด ไม่ก็ยอมรับในข้อเสนอของหลี่ชิเย่
แม้ว่าคำพูดของหลี่ชิเย่เปี่ยมด้วยความพาลและใช้อำนาจบาตรใหญ่ยิ่งนัก แต่เทพสงครามมังกรคชาธารก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ เขาก้าวเดินขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละก้าวๆ เสมือนดั่งหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาไปแล้วอย่างนั้น ขณะที่ก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละก้าวๆ นั้น ได้ทิ้งรอยเท้าของเขารอยเท้าแล้วรอยเท้าเล่าเอาไว้บนท้องฟ้า
อีกทั้งการที่เทพสงครามมังกรคชาธารก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละก้าวๆ แต่ละก้าวที่เขาก้าวออกไปนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ช่วงห่างระหว่างก้าวแต่ละก้าวเหมือนกันโดยไม่แตกต่างแม้แต่น้อย แต่ละก้าวที่ก้าวออกไปเหมือนมีการวัดระยะด้วยไม้บรรทัดมาก่อน เรียกว่าแต่ละก้าวแม่นยำไม่ต่างกันแม้แต่น้อย
ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ทุกย่างก้าวที่เทพสงครามมังกรคชาธารก้าวออกไปนั้นไม่ได้ตั้งใจทำให้ได้แบบนั้น ทั้งยังตามอารมณ์ยิ่งนัก ด้วยลักษณะที่ตามอารมณ์เช่นนี้แหละขณะที่เขาก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละก้าวๆ แต่ทุกๆ ก้าวกลับแม่นยำอย่างยิ่ง ช่างเป็นกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งเพียงใด ทุกๆ ก้าวของเขาก็ได้แฝงจังหว่ะของสัจธรรมเอาไว้ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าจังหวะสัจธรรมของเทพสงครามมังกรคชาธารแม่นยำจนไม่พลาดแม้แต่น้อยนิด
สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่าเมื่อไรที่เทพสงครามมังกรคชาธารลงมือ การเปลี่ยนแปลงของทุกๆ กระบวนท่าจะมีความแม่นยำจนระเอียดยิบ เมื่อทุกๆ กระบวนท่ามีความแม่นยำถึงขั้นไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย ก็จะบ่งบอกถึงการควบคุมได้อย่างตามใจปรารถนาในแต่ละกระบวนท่า ฝีมือถึงขั้นอยู่ในระดับสุดยอด กระทั่งมีความเป็นไปได้ที่จะก้าวขึ้นไปถึงขั้นสูงสุดได้
ภาษิตกล่าวเอาไว้ว่า คนนอกวงการมองที่ความสนุกคึกครื้น คนในวงการมองที่ช่องทาง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนโดยทั่วไปจะมองไม่ออกถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แท้จริงเมื่อมองเห็นการก้าวเท้าขึ้นไปบนท้องฟ้าแต่ละก้าวๆ ของเทพสงครามมังกรคชาธารแล้ว สีหน้าพลันหนักแน่นจริงจังขึ้นมาทันที รู้แล้วว่าแต่ละก้าวนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด และรับรู้ถึงความน่ากลัวของเทพสงครามมังกรคชาธารแล้ว
“น่าสนใจ คิดจะท้าสู้กับขั้นสูงสุดของข้า เอาเถอะ ข้าจะเล่นกับเจ้าเป็นการซ้อมมือสักหน่อย” หลี่ชิเย่ที่มองเห็นรอยเท้าที่ฝากไว้บนท้องฟ้าแล้วยิ้มกล่าวเฉยเมยขึ้นมา
หลี่ชิเย่ขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่าทางดูอิสระและตามอารมณ์ ไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้ เหมือนดั่งเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างนั้น
แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงข้ามแล้ว ท่าทีของเทพสงครามมังกรคชาธารกลับดูหนักแน่นจริงจังขึ้น เขาไม่ได้มีความประมาทแม้แต่น้อย เนื่องจากขณะหลี่ชิเย่บุกฝ่าด่านตรอกมนุษย์ไม้นั้น เขาได้มองเห็นอย่างชัดเจน
เทพสงครามมังกรคชาธารได้ตั้งใจขัดเกลาด้านการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่ามาชั่วชีวิต เรียกได้ว่าทุกๆ กระบวนท่าเขาสามารถควบคุมได้ตามใจปรารถนา การเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนท่าของเขานั้นมีความแม่นยำมาก ต่อเมื่อเขาได้มองเห็นหลี่ชิเย่บุกฝ่าด่านตรอกมนุษย์ไม้แล้ว นำมาซึ่งความหวั่นไหวอย่างยิ่งให้กับเขา
การเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนท่าของเขานั้นถึงขั้นฝีมืออยู่ในขั้นสุดยอด และความแม่นยำถึงระดับต่างกันนิดเดียวเท่านั้น แต่ว่า เมื่อเขาได้เห็นหลี่ชิเย่ฝ่าด่านตรอกมนุษย์ไม้ จึงพบว่านี่แหละคือระดับสูงสุดที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้เอง พลันที่เทพสงครามมังกรคชาธารตัดสินชี้ขาดกับหลี่ชิเย่จึงไม่ได้โจมตีด้วยอาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรอะไรนั่น ไม่ได้สำแดงเคล็ดวิชาปฐมบรรพบุรุษที่เป็นหนึ่งไม่มีสองแห่งยุคออกมา แต่อาศัยกระบวนท่าที่ธรรมดาและง่ายที่สุดมาเป็นกระบวนท่าเริ่มต้น
พวกเขาที่ก้าวมาถึงระดับชั้นของอมตะขั้นนี้แล้ว จะเคยฝึกสุดยอดเคล็ดวิชาอะไร หรือบรรลุเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรอะไรมาก็ตาม ใช่จะเป็นเรื่องแปลกอีกต่อไป ก้าวมาจนถึงระดับเช่นพวกเขาแล้วจะเน้นหนักไปที่การเปลี่ยนแปลงของแต่ละกระบวนท่า ทำให้อานุภาพของแต่ละกระบวนท่าขยายเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด
บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้ากับเทพสงครามมังกรคชาธารสองคนจากระยะห่างไกลแล้ว แม้ว่าหลี่ชิเย่จะมีท่าทางที่อิสระเสรีสบายๆ พวกเขาต่างก็กลั่นลมหายใจเอาไว้
แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนในขณะนี้แลดูสงบนิ่งมาก และทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้สำแดงอานุภาพที่สะเทือนฟ้าขึ้นมา ไม่ได้สำแดงพลังที่ทำลายฟ้าดิน แต่ว่า ต่อให้คนที่โง่เขลามากกว่านี้ก็รู้ว่า เมื่อไรที่พวกเขาทั้งสองลงมือแต่ละกระบวนท่าจะต้องเข่นฆ่ามารสังหารเทพได้อย่างแน่นอน
เทพสงครามมังกรคชาธารจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ ขณะที่หลี่ชิเย่ในเวลานี้ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นตามอารมณ์ นาทีนี้ตัวของเขาในสายตาของเทพสงครามมังกรคชาธารเต็มไปด้วยจุดอ่อน และทุกๆ จุดอ่อนก็สามารถส่งผลให้เขาต้องเสียชีวิตจากการถูกโจมตีได้
แต่ว่า เทพสงครามมังกรคชาธารกลับสามารถเข้าใจได้ว่า เมื่อก้าวมาถึงระดับนี้แล้วจะไม่ใส่ใจในด้านของจุดอ่อน เนื่องจากกล่าวสำหรับพวกเขาแล้วสิ่งที่เรียกว่าจุดอ่อนเหล่านี้ไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
“เชิญชี้แนะ” เทพสงครามมังกรคชาธารแสดงคารวะแบบจีน แม้ว่าพวกเขากำลังจะต่อสู่กันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว แต่ว่าเทพสงครามมังกรคชาธารยังคงไม่มีท่าทีของโกรธจัดอย่างรุนแรง หรือเปี่ยมด้วยปณิธานการฆ่า ตรงกันข้ามกลับดูสงบนิ่ง ยิ่งเป็นการต่อสู้ชี้ขาด พวกเขาก็จะเงียบสงบมากขึ้น
“ลงมือเถอะ” หลี่ชิเย่หัวเราะตามอารมณ์และกล่าวว่า “ข้าอยากจะเห็นว่าระหว่างกระบวนท่าแต่ละท่าจับหลักได้ถึงขั้นไหนแล้ว”
“ล่วงเกินแล้ว” เทพสงครามมังกรคชาธารก็ไม่ท่ามากและไม่เกรงใจ ลงมือบุกเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ทันที
แค่เริ่มกระบวนท่าก็บุกเข้าไปใกล้ตัวหลี่ชิเย่ แต่ การลงมือไม่ได้มีอานุภาพที่สะท้านฟ้า และไม่มีประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างไสว เป็นท่าทางที่ธรรมดามาก หนึ่งกระบวนท่าที่พุ่งตัวเข้าไปหา และเริ่มต้นด้วยกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’
กล่าวได้ว่า กระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ คือกระบวนท่าที่ง่ายจนไม่รู้จะง่ายอย่างไรแล้ว กระบวนท่าง่ายๆ อย่าง ‘เสือดำควักใจ’ นี้ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าเลย
เนื่องจากต่อให้ผู้ที่เป็นกังฟูธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดาอย่างไรคนหนึ่งหากสำแดงกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ออกมา ก็สามารถทำได้เหมือนกับเทพสงครามมังกรคชาธารทุกประการ
มาคราวนี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างยืนเซ่อและงงงันอยู่ตรงหน้ากับกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่แรกทีเดียวยังเข้าใจว่าพลันที่เทพสงครามมังกรคชาธารลงมือก็ต้องสะเทือนเลือนลั่น เป็นกระบวนท่าที่สุดยอดหนึ่งไม่มีสองในหล้า หรือสิบสองกระบวนท่าหวู่จู่อะไรทำนองนั้น หรือแย่ที่สุดก็ต้องเป็นกระบวนท่าหรือเคล็ดวิชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจูเซียงหวู่ถิงเหล่านั้น
สิ่งที่ทำให้ผู้คนนึกไม่ถึงก็คือ พลันที่เทพสงครามมังกรคชาธารลงมือก็ใช้กระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ อีกทั้งกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ นี้ไม่ได้มีพลังที่สะเทือนเลื่อนลั่นหรือมีกระบวนท่าที่เปลี่ยนแปลงอะไร เป็นเพียงกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ที่ธรรมดาๆ พุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่
เวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองดูด้วยความงุนงง ต่างรู้สึกว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า กระทั่งยังมีผู้คนที่ครุ่นคิดพิจารณาว่า ‘เสือดำควักใจ’ กระบวนท่านี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารได้ซ่อนการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนเลื่อนลั่นเอาไว้หรือไม่อย่างไร
หรือจะมีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมอยู่ในกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ นี้ มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่พวกเราดูไม่รู้? ระดับผู้อาวุโสตระกูลขุนนางโบราณผู้หนึ่งที่ตาทั้งสองข้างเบิกกว้าง จ้องเขม็งไปที่กระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ นี้และทำการครุ่นคิดพิเคราะห์พิจารณา
น่าเสียดาย มันไม่ได้มีความสะเทือนเลื่อนลั่น และการเปลี่ยนแปลงที่สุดยอดมีเพียงหนึ่งไม่มีสองดั่งที่ทุกคนจินตนาการไว้ เป็นเพียงกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ธรรมดาๆ กระบวนท่าหนึ่งที่พุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่
ในขณะนี้ ทุกคนมองว่ากระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ที่เทพสงครามมังกรคชาธารได้สำแดงออกมานั้น ไม่เหมือนยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิพรรษแม้แต่น้อย เหมือนเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งที่เพิ่งจะหัดกังฟูได้ไม่กี่วัน
“ควบคุมพลังได้ดั่งใจปรารถนา น้ำสักหยดก็ไม่มีรั่วไหล” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่มองรู้ถึงกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ กระบวนท่านี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารได้จริงๆ ถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
กระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ของเทพสงครามมังกรคชาธารนี้ไม่ได้อยู่ที่การเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ที่หมัดที่โจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่หมัดนี้ แม้ว่าหมัดนี้ของเขาจะดูไม่ออกถึงอานุภาพอะไร
แต่ว่า หนึ่งหมัดที่ดูไปแล้วสุดแสนจะธรรมดาหมัดนี้ มันสามารถทำลายฟ้าดินได้ เพียงแต่ที่ทุกคนมองไม่ออกว่ามันมีอานุภาพเช่นใด นั่นเป็นเพราะหมัดนี้สามารถควบคุมพลังได้ดั่งใจ มีเพียงช่วงที่โจมตีเข้าถึงตัวของหลี่ชิเย่แล้วจึงจะระเบิดพลังที่ทำลายฟ้าดินออกมา
นี่ก็เป็นการบ่งบอกว่า หมัด ‘เสือดำควักใจ’ นี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารขณะยังไม่ได้โจมตีถึงอกของหลี่ชิเย่ กระบวนท่านี้จะไม่มีการสิ้นเปลืองพลังแม้เพียงน้อยนิด
ด้วยเหตุนี้เอง หมัดที่ดูสุดแสนจะธรรมดาหมัดนี้ของเทพสงครามมังกรคชาธาร แต่หากว่าหมัดเช่นนี้ซัดใส่บนร่างของขั้นอมตะคนหนึ่งล่ะก็ ต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
ลองนึกภาพดู ทอดสายตามองไปในแดนลัทธิพรรษ จะมีสักกี่คนที่สามารถอาศัยกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ที่ธรรมดาๆ ซัดจนอมตะคนหนึ่งถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้เล่า? เกรงว่าคงมีเพียงเทพสงครามมังกรคชาธารเท่านั้นที่สามารถทำได้แล้ว
……………………………………………….