กลุ่มเด็กที่มีอายุแตกต่างกันไปต่างกลืนน้ำลายลงคอ และอดที่จะเอาแขนเสื้อที่สกปรกๆ ขึ้นมาเช็ดที่มุมปาก เมื่อมองเห็นอาหารเต็มถุงนี้แล้ว
เมื่อหญิงสาวนำเอาอาหารเหล่านี้แจกจ่ายไปถึงมือของเด็กกลุ่มนี้แล้วนั้น บรรดาเด็กเหล่านี้ได้จัดการกับอาหารเหล่านี้อย่างขะมักเขม้นทันที เสียงขบเคี้ยวกรอบบบ กรอบบบ กรอบบบได้กลายเป็นท่วงทำนองหลักของตรอกเล็กๆ ตรอกนี้ บรรดาเด็กทั้งหมดต่างกัดกินคำโตกับอาหารที่อยู่ในมือ พวกเขาต่างฉีกกัดขาหมูท่อนบน น่องไก่คำโต
รอยยิ้มอดที่จะปรากฏขึ้นที่มุมปากของหญิงสาวผู้นี้ ขณะมองดูเด็กกลุ่มนี้กินกันอย่างสวาปาม นางอดที่จะเผยอมุมปากทีหนึ่งขณะจ้องมองเด็กลุ่มนี้กินอาหารเหล่านี้อยู่ นางเองก็รู้สึกเบิกบานใจขึ้นมา
หญิงสาวผู้นี้สวมชุดชาวบ้านทั่วไป ดูจากการแต่งกายแล้วไม่เหมือนมีชาติกำเนิดมาจากตระกูลเศรษฐี แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม เสื้อผ้าที่นางสวมใส่บนตัวยังคงผ่านการซักมาอย่างสะอาดหมดจด
ผมของนางที่ค่อนข้างสั้นนิดหนึ่งได้มีการมัดเป็นหางม้า รวบไว้อยู่ด้านหลังลักษณะสบายๆ ตามอารมณ์ แสดงให้เห็นถึงความสะอาดเรียบร้อยเด็ดขาดตรงไปตรงมา
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่ถือว่าสวย แต่ภาพรวมของนางให้ความรู้สึกถึงความเด็ดขาดตรงไปตรงมา ความอ่อนโยนละมุนละไมอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะขณะที่นางเม้มมุมปากนิดหนึ่งนั้น ทำให้รู้สึกว่านางคือผู้หญิงที่เข้มแข็งและมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่
“อร่อยไหม?” หญิงสาวรู้สึกพึงพอใจเล็กๆ และเอ่ยถามขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นเด็กที่มีอายุแตกต่างกันกลุ่มนี้กินอาหารกันอย่างสวาปาม
“อร่อย…” เด็กๆ ต่างพยายามเต็มที่กับอาหารโอชะที่อยู่ในมือ ดังนั้น เสียงที่ตอบรับฟังดูคลุมเครือ ขณะที่พยายามจัดการกับอาหาร และตอบคำถามของหญิงสาวไปด้วย
หญิงสาวมองดูท่าทางที่พึงพอใจของเด็กๆ เหล่านั้นแล้ว นางเองอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้
หญิงสาวผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่ง ทักษะยุทธไม่เบา เพียงชั่วครู่นางรับรู้ได้ว่ามีคน จึงหันหลังกลับทันทีและมองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอู่บริเวณปากตรอก
หลี่ชิเย่ในเวลานี้กำลังใช้สองมือประสานอยู่ที่ท้ายทอย จ้องมองนางได้ท่าทางยิ้มแต้ ส่วนจางเจี๋ยตี้ดุจดั่งเป็นหุ่นกระบอกยืนอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่
เมื่อหญิงสาวมองเห็นท่าทางของหลี่ชิเย่แล้วก็ให้นึกถึงเรื่องราวที่สร้างความโกลาหลให้กับเมืองชาวกัวเฉิงเร็วๆ นี้ ดูเหมือนชายหนุ่มที่ใช้สายตาจ้องมองตนอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็คือจอมมารน้อยในร่างคนที่ชื่อเสียงชั่วร้ายเป็นที่ประจักษ์ในหลายวันที่ผ่านมา
เมื่อหญิงสาวนึกถึงตรงนี้แล้วพลันรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที โดยเฉพาะจอมมารน้อยในร่างคนผู้นี้เหมือนว่ากำลังใช้แววตาที่ลามกชั่วร้ายจ้องมองนางอยู่ ยิ่งทำให้ภายในใจของนางรู้สึกสะท้าน
“พรุ่งนี้พี่สาวค่อยมาหาพวกเจ้า” หญิงสาวรู้สึกตื่นตระหนกในใจ จึงคิดจะไปจากที่ตรงนี้
เด็กกลุ่มนี้กำลังพยายามต่อสู้อยู่กับอาหารที่อยู่ในมือ พวกเขาต่างตอบรับด้วยน้ำเสียงที่คลุมเครือ แล้วจัดการกับขาหมูท่อนบน และน่องไก่ในมือ
หญิงสาวไม่กล้าอยู่นาน หันหลังก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็วไปยังอีกด้านหนึ่งของตรอกนี้
หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ เดินตามไปช้าๆ เมื่อเห็นท่าทางหญิงสาวต้องการหลบหนีไปอย่างนั้น
แม้ว่าหญิงสาวไม่ได้หันหลังกลับ แต่ว่า นางรู้แล้วว่าหลี่ชิเย่ได้ติดตามนางมา ทำให้นางรู้สึกตระหนกในใจและก้าวเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิม และได้สำแดงพลังออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเพิ่มความเร็วมากขึ้นๆ
หญิงสาวเองก็เกรงว่าจอมมารน้อยในร่างคนจะตามถึงบ้านของตน ดังนั้น นางจึงอาศัยความเร็วสูงวิ่งวนไป โชคดีที่นางคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก ดังนั้น จึงหวังจะอาศัยตรอกเล็กตรอกน้อยที่สลับซับซ้อนหลุดจากการติดตามของจอมมารน้อยในร่างคน
ดูเหมือนว่าวิธีการนี้ของหญิงสาวจะได้ผลจริงๆ จอมมารน้อยในร่างคนที่อยู่ด้านหลังของเขานั้นไม่ได้ติดตามมาแล้วจริงๆ นางอดที่จะหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้
สุดท้าย หญิงสาวจึงได้เดินกลับบ้าน หลังจากออกจากปากตรอกแล้ว ด้านหน้าจะมีร้านเหล็กตั้งอยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งก็เป็นร้านเหล็กของนางเอง
หญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าร้านเหล็กของตน แหงนหน้าขึ้นมองดูแผ่นป้ายแผ่นนั้นที่สลักอักษรคำว่า ‘กระบี่’ แขวนอยู่หน้าร้าน นางอดที่จะทอดถอนใจออกมาเบาๆ ไม่ได้
ร้านเหล็กร้านนี้ไม่นับว่ามีขนาดใหญ่ แต่ว่าภายในร้านได้แขวนอาวุธจำนวนไม่น้อยที่หล่อและสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธชนิดต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อผู้บำเพ็ญตนทั้งสิ้น หาใช่เป็นเครื่องเหล็กที่มีไว้สำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดา
หญิงสาวทอดถอนใจเบาๆ สวมเสื้อคลุมทับไปตัวหนึ่ง เก็บกวาดเศษวัตถุดิบและฟืนไฟให้เรียบร้อย เริ่มยุ่งอยู่กับงานขึ้นมา
ตึง ตึง ตึงเสียงตีเหล็กดังขึ้นมาเป็นระลอก และดังก้องอยู่ภายในร้านเหล็ก เสียงตีเหล็กที่ดังเป็นระลอกซึ่งก้องกังวานอยู่ในตรอก ได้กลายเป็นจังหวะอย่างหนึ่งไปโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวยุ่งอยู่กับงานโดยไม่ได้หยุดพัก นางทุ่มเทเต็มที่กับการสร้างกระบี่เล่มนั้นที่อยู่ในมือ นางช่างจริงจังและมุ่งมั่นใจจดใจจ่ออะไรอย่างนั้น ตั้งแต่การควบคุมความแรงของไฟ ถึงหลอมและขึ้นรูป การควบคุมการฉีดล้วนแล้วแต่มีความชำนาญอย่างยิ่ง และมีทักษะยิ่ง
ดูจากฝีมือการสร้างอาวุธแล้ว ก็รู้ได้ว่ามาจากผู้เชี่ยวชาญ ทุกๆ ท่วงท่าล้วนแล้วแต่ง่ายสะอาดหมดจดเด็ดขาด ไม่มีท่วงทำนองที่เกินความจำเป็น
เหงื่อได้ไหลลงมาจนชุ่มปลายผมของนางโดยไม่รู้ตัว หยดเหงื่อได้ไหลลงมาจากใบหน้าที่ขาวใสของนางช้าๆ
ในขณะนี้ นางที่กำลังใจจดใจจ่อจริงจังแลดูงดงามยิ่งนัก ไม่ทำให้รู้สึกน่าเบื่อขณะมองดูนาง แม้ว่านางดูจะเหนื่อยล้า แต่ยังคงให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงแก่ผู้พบเห็น ทำให้เพลิดเพลินกับการมอง
ตึง ตึง ตึงเสียงตีหลอมสร้างดังก้องอยู่ภายในร้านเหล็กที่ตั้งอยู่ภายในตรอกเล็กๆ เหมือนว่าเสียงเช่นนี้ฟังเท่าไรก็ไม่รู้จักเบื่อ
สุดท้าย ได้ยินเสียงกรรมวิธีชุบเหล็กให้แข็งดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา ไม่ง่ายนัก กระบี่วิเศษเล่มหนึ่งถูกหลอมสร้างจนสำเร็จ หญิงสาวมองดูกระบี่ที่อยู่ในมือ อดที่จะกำตัวกระบี่เบาๆเอาไว้
กระบี่วิเศษส่งประกายรอบทิศ และมีพลังศักดิ์สิทธิ์แวบวับ หญิงสาวดูพึงพอใจอย่างยิ่งขณะมองดูฝีมือที่ยอดเยี่ยมในมือ
ถ้าหากมีวัตถุดิบอย่างเพียงพอล่ะก็ นางสามารถหลอมสร้างกระบี่วิเศษเล่มนี้ได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ เสียดาย…เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้วนางอดที่จะทอดถอนใจเบาๆ ทีหนึ่ง
ขณะที่หญิงสาวทำการตรวจสอบกระบี่วิเศษเล่มที่อยู่ในมือซึ่งเพิ่งจะถูกสร้างจนสำเร็จขึ้นมานั้น ปรากฎตัวกระบี่ได้สะท้อนเงาที่คุ้นเคยสายหนึ่ง พลันทำให้สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปมากทีเดียว นางหันหลังมองออกไปนอกร้านทันที
มองเห็นสองคนยืนอยู่บนถนนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านเหล็ก เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งและชายวัยกลางคนๆ หนึ่ง ชายหนุ่มกำลังใช้มือทั้งสองประสานจับอยู่ที่ท้ายทอย จ้องมองนางอย่างละเอียดและแฝงไว้ซึ่งรอยยิ้มบางๆ
หญิงสาวพลันมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อได้เห็นชายหนุ่มผู้นี้ นี่คือจอมมารน้อยในร่างมนุษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองกัวชางเฉิงนั่นเอง
หญิงสาวรู้สึกตื่นตระหนกในใจ นางยังเข้าใจว่าตนเองได้สลัดหนีไป่จากจอมมารน้อยในร่างมนุษย์ได้แล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเขาถึงกับตามมาถึงร้านเหล็กของตนเองแล้ว
ท่านอาเถี่ย…หญิงสาวบังเกิดความสะท้านขึ้นภายในใจ เมื่อมองเห็นจอมมารน้อยในร่างมนุษย์ยืนอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามนี่เอง ถึงกับส่งเสียงร้องเข้าไปภายในบ้าน เนื่องจากนางเองก็ได้ยินเรื่องราวความชั่วร้ายเกี่ยวกับจอมมารน้อยในร่างมนุษย์มาไม่น้อย ซึ่งมีข่าวลือสร้างความโกลาหลให้กับเมืองกัวชางเฉิงมาก่อนหน้าแล้วว่า จอมมารน้อยในร่างมนุษย์ก่อกรรมทำเข็ญ รังแกบุรุษข่มเหงผู้หญิง ชุดคร่าหญิงชาวบ้าน ทำชั่วได้ทุกอย่าง
เวลานี้จอมมารน้อยในร่างมนุษย์ถึงกับตามมาถึงร้านเหล็กของตน แล้วจะไม่ให้หญิงสาวตกใจจนหวาดผวาได้อย่างไร
หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยขณะมองดูหญิงสาวที่กำลังตื่นตระหนก เดินข้ามถนนและเข้าไปในร้านเหล็ก
หญิงสาวตกใจยิ่งนัก และก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ก้าวเดินเข้ามา เวลานี้นางไม่อาจหนีไปไหนได้ เนื่องจากที่ตรงนี้คือบ้านของนาง นางยังจะหนีไปไหนได้อีก?
“คุณหนู ข้ากำลัง…” ในเวลานี้เอง ภายในบ้านปรากฏผู้เฒ่าคนหนึ่งก้าวเดินออกมา ผู้เฒ่าผู้นี้เป็นผู้สูงอายุ หลังก้มโค้ง แต่แววตาคู่นั้นยังคงมีความดุเดือดรุนแรง พลันที่มองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้ที่ผ่านอุปสรรค์มาแล้ว
พลันที่ผู้เฒ่าผู้นี้มองเห็นท่าทางของหญิงสาวแล้วก็ได้มองไปที่หลี่ชิเย่ทันที สีหน้าของผู้เฒ่าก็เปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่กับจางเจี๋ยตี้เดินเข้าร้านมา ในขณะนี้เขาเองก็นึกถึงข่าวลือที่เกิดขึ้นในเมืองกัวชางเฉิงหลายวันที่ผ่านมา และรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้นแล้ว
“แม่นาง มีอาวุธที่เหมาะมืออะไรบ้างล่ะ?” หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เข้ามายังร้านเหล็กแล้ว ได้ใช้ตัวขวางทางของหญิงสาวเอาไว้ โดยที่นางไม่ทันได้หนีเขาไปภายในบ้าน
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปมากทีเดียว ชื่อชั่วร้ายของจอมมารน้อยในร่างมนุษย์ดังกระฉ่อน ทุกคนต่างรู้ว่าเขาชอบลวนลามหญิงชาวบ้านกลางถนน ดังนั้น นางจึงตกใจจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“คุณชายต้องการอาวุธประเภทใดเล่า ให้ข้าน้อยพาท่านไปเลือกดู” ผู้เฒ่าที่ชื่ออาเถี่ยจึงเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ทันที
“ไม่ต้องแล้ว ให้นางเป็นผู้นำเลือกให้กับข้าก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าจ้องมองดูหญิงสาวและเชิดคางทีหนึ่ง
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปมา รับรู้ทันทีว่าท่าจะไม่ค่อยดีเสียแล้วเมื่อหลี่ชิเย่เจาะจงชี้ตัวมาที่นาง ถึงกับถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
“คุณชายใหญ่ นางไม่รู้เรื่องอาวุธ…” อาเถี่ยรีบเข้ามาแก้ไขสถานการณ์
“ตาเฒ่า เชื่อหรือไม่ว่าแค่คำพูดเดียวของคุณชายอย่างข้า จะทำให้เจ้าอยู่ในเมืองกัวชางเฉิง ไม่ แค่คำพูดเดียวของคุณชายอย่างข้า จะทำให้เจ้าต้องอยู่ในคุกไปตลอดชีวิตไม่สามารถออกมาได้” หลี่ชิเย่ได้แสดงท่าทางของนักเลงหัวไม้ที่ยโสและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ออกมาได้อย่างชัดเจน
เมื่ออาเถี่ยได้ยินคำพูดคำนี้แล้วพลันมีสีหน้าเปลี่ยนไป สีหน้าของตัวหญิงสาวเองก็เปลี่ยนไปด้วย แต่ว่า นางยังคงก้าวออกมาข้างหน้า และกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าท่านต้องการเลือกอาวุธชนิดใด”
หลี่ชิเย่ไม่ได้ตอบทันที เพียงจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า มองหน้านางด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า พิจารณาตัวของนางอยู่หลายที
หญิงสาวถูกหลี่ชิเย่จ้องมองจนขนลุกซู่ในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางกลัวว่าหลี่ชิเย่จะพุ่งตัวเข้ามาทันที ดังนั้น นางจึงได้รวบรวมพลังเอาไว้ลับๆ ถ้าหากหลี่ชิเย่พุ่งเข้ามากะทันหัน นางจะได้หันหลังวิ่งหนีไปทันที
“อะแฮ่ม…” อาเถี่ยรีบทำเสียงไอกระแอมเบาๆ และกล่าวว่า “คุณชายใหญ่ ท่าน ท่านต้องการอาวุธอะไร?”
“ดูไปตามอารมณ์” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย เดินเข้าไปด้านในของร้านเหล็ก
หญิงสาวและอาเถี่ยจนด้วยเกล้า ได้แต่กัดฟันเดินตามไป อีกทั้งหญิงสาวจงใจเดินช้ากว่าก้าวหนึ่ง รักษาระยะห่างกับหลี่ชิเย่เอาไว้
หลี่ชิเย่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขา มองดูอาวุธที่อยู่ภายในร้าน อาวุธที่ทางร้านสร้างขึ้นนับว่ามีอยู่จำนวนหนึ่ง มีทั้งดาบและกระบี่ มีเจดีย์วิเศษ…ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีไว้ขาย
หลี่ชิเย่ดูๆ ไป และมักจะยื่นมือไปเคาะดาบและกระบี่ที่แขวนอยู่กับผนัง และเกิดเสียงดังตึง ตึง ตึง
“คุณภาพวัตถุดิบแย่เกินไป ทำได้ไม่ดีสักเท่าไร” หลี่ชิเย่ที่เคาะดาบและกระบี่เหล่านี้เบาๆ พูดเฉยเมยขึ้นมา
“แหะ แหะคุณชายใหญ่ พวกเราเป็นเพียงร้านเหล็กร้านเล็กๆ ขายเศษเหล็กเพื่อเลี้ยงชีพ อาวุธเหล่านี้ไม่เข้าตาท่านชายใหญ่อยู่แล้ว หัวมุมตรงข้ามมีร้านอาวุธอยู่ร้านหนึ่ง คุณชายใหญ่สามารถไปชมดูได้” อาเถี่ยรีบเอ่ยขึ้นมา
หลี่ชิเย่ไม่ให้ความสนใจต่ออาเถี่ย สายตาตกไปอยู่บนตัวของหญิงสาว อีกทั้งยังเดินเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว หญิงสาวตระหนกยิ่งรีบก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
“วางใจเถอะ” หลี่ชิเย่เผยอมุมปากทีหนึ่งและกล่าวว่า “ข้าคือจอมมารน้อยในร่างมนุษย์ แม้จะชอบชุดคร่าหญิงชาวบ้าน แต่ ก็ใช่ว่าจะหิวโซจนไม่เลือก คนอย่างข้าชอบอกโต ก้นงอน” กล่าวพลางแววตามองไปที่หน้าอกของนาง
หญิงสาวพลันตะลึงทีหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ โดยเฉพาะท่าทางหลี่ชิเย่ที่โบ้ยปากและมองไปที่หน้าอกของนางตามอารมณ์นั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากำลังติว่าอกของนางเล็กไป พลันทำให้ใบหน้าของนางดูจะร้อนผ่าวขึ้นมา
เวลานี้ นางไม่รู้ว่าควรจะนับว่าโชคดี หรือว่าเดือดดาลดี อย่างน้อยที่สุดหลี่ชิเย่ไม่เห็นนางอยู่ในสายตา แต่ว่า ไม่ว่าผู้หญิงคนใดก็ตามหากถูกติว่าอกเล็ก ดูเหมือนว่า…
………………………