จากวันเวลาที่เคลื่อนผ่านไป ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่มาพักอาศัยและบรรลุสัจธรรมที่เขาจิ่วเหลียนซานดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ ก่อนหน้านี้สถานที่ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้มีน้อยคนนักที่จะมาถึง ยากจะได้พบเห็นเงาของผู้คน ยกเว้นผู้เฒ่าตัดฟืนที่พบเห็นทุกวันแล้วก็จะไม่เห็นคนอื่นอีกเลย
แต่จากการที่มีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้เดินทางเข้ามาเพื่อบรรลุสัจธรรมยังเขาจิ่วเหลียนซานมากขึ้นเรื่อยๆ แถบเขาหงฮวงซานก็เริ่มปรากฏร่างเงาของผู้คนขึ้นมาแล้ว เริ่มมีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มาพักอาศัยและบรรลุสัจธรรม
แน่นอนที่สุด ไม่มีใครต้องการเลือกที่จะอยู่ที่เขาหงฮวงซาน เนื่องจากกลิ่นอายชั่วร้ายที่พุ่งตรงเข้ามายังเขาหงฮวงซาน จึงมีไม่กี่คนที่ยินดีพักอาศัยอยู่ที่ตรงนี้อย่างแท้จริง
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม นับวันเขาจิ่วเหลียนซานดูจะคึกคักมากขึ้นทุกที จำนวนเงาของผู้คนก็มีมากขึ้น และจากการที่มีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เข้าพักในเขาจิ่วเหลียนซานมากขึ้น ก็มีข่าวจำนวนไม่น้อยที่แพร่สะพัดเข้ามายังเขาจิ่วเหลียนซาน
องค์หญิงของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือจะมาแล้ว ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เอาข่าวเช่นนี้มาเผยแพร่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน
องค์หญิงของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ? องค์หญิงองค์ไหนล่ะ? มีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจทันที
ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือมีองค์หญิงกี่องค์? ก็มีอยู่เพียงองค์เดียวมิใช่รึ? มีผู้ที่รู้สึกตะลึงเช่นกัน
มีองค์หญิงเพียงองค์เดียวที่ไหนกัน? มีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่พูดขึ้นมาทันทีว่า ยังมีองค์หญิงที่แต่งเข้าวัง แต่งกับฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่คนหนึ่งมิใช่รึ
นั่นหาใช่องค์หญิงที่แท้จริงของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ คนผู้นี้ได้สติกลับมา ส่ายหน้าและกล่าวว่า นั่นเป็นเพียงหุ่นเชิดที่เป็นตัวแทนเท่านั้น ปิงฉือหยิ่งเจี้ยนผู้นั้นเป็นองค์หญิงตกอับของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือมานานแล้ว ไม่มีอำนาจบารมีใดๆ ในตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ เวลานี้นางถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์หญิงก็เพื่อเป็นเหยื่อสังเวยเท่านั้นเอง ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือมีองค์หญิงที่แท้จริงเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือคุณหนูของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ ปิงฉือหานยวี่
องค์หญิงหานยวี่จะมาที่เขาจิ่วเหลียนซานนะเนี่ย ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อีกคนหนึ่งเมื่อได้ยินข่าวนี้แล้วถึงกับกล่าวว่า นั่นมิเท่ากับว่าแม้แต่ราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ต้องมาที่เขาจิ่วเหลียนซานเช่นกันแล้ว
แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน? ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่ไม่ทราบถึงเรื่องราวในนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นตามอารมณ์
ได้ยินมาว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นคือคู่หมั้นขององค์หญิงหานยวี่แล้วล่ะ ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ผู้มีการข่าวที่ไวได้กล่าวขึ้น
แคว้นว่านเจิ้นจะเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือแล้วรึ? ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ผู้ไม่ทราบข่าวมาก่อนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
ทั้งหมดเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว คนจำนวนมากต่างก็รู้เรื่องนี้ ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าได้กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่นับเป็นเรื่องแปลก ครั้งนั้นขณะตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือถูกปิดล้อมโดยกองทัพใหญ่ทั้งห้านั้น แคว้นว่านเจิ้นคือผู้เข้าให้การช่วยเหลือเป็นคนแรก ซึ่งบ่งบอกว่าทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นแล้ว หลังจากที่ฮ่องแต้องค์ใหม่สูญเสียบัลลังก์ ใต้หล้าต่างแย่งชิงอำนาจฮ่องแต้ การที่แคว้นว่านเจิ้นกับตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือสองผู้ยิ่งใหญ่ร่วมมือกัน มันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองตระกูลเกี่ยวดองสมรสกัน ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดคิดอยู่แล้ว
แต่ แต่ว่า ได้ยินมาว่าครั้งนั้นองค์หญิงหานยวี่ถูกยกให้กับฮ่องแต้องค์ใหม่แล้วมิใช่รึ? ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือได้เซ็นสัญญาหมั้นหมายกับฮ่องแต้องค์ก่อนแล้วมิใช่รึ? เวลานี้จะมาแต่งงานกับราชันแท้จริงปาเจิ้น เรื่อง เรื่อง เรื่องนี้ดูจะไม่ถูกต้องตามหลักธรรมนองคลองธรรมอยู่บ้างนะ ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่คนหนึ่งอดที่จะพูดเสียแผ่วเบาขึ้นด้วยความระมัดระวังยิ่ง
ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกันกับคำพูดเช่นนี้ หันมองดูรอบๆ เมื่อเห็นว่าบริเวณนั้นไม่มีศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือกับแคว้นว่านเจิ้นอยู่ด้วย พวกเขาจึงรู้สึกวางใจอยู่ไม่น้อย
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าส่ายหน้าและกล่าวว่า การลงนามในสัญญาหมั้นหมายครั้งนั้นเป็นยุคสมัยเช่นใด ฮ่องเต้ไท่ชิงยังคงมีชีวิตอยู่เป็นใหญ่แต่ผู้เดียวใต้หล้า อำนาจใต้หล้าอยู่ในมือใครเล่ากล้าปฏิเสธ? ต่อให้องค์รัชทายาทไร้ความสามารถมากกว่านี้ แต่ยังคงสูงศักดิ์อย่างยิ่ง การขึ้นครองบัลลังก์ก็สามารถกุมอำนาจใต้หล้า ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่…
…ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น แม้จะกล่าวว่าองค์หญิงหานยวี่นั้นมีฐานะสูงส่งก็จริง แต่เทียบกับอำนาจฮ่องแต้ที่เป็นหนึ่งใต้หล้าแล้วนับเป็นอะไรได้? นี่คืออำนาจสูงสุดใต้หล้า สามารถแต่งงานกับฮ่องแต้องค์ใหม่ก็จะเข้าใกล้อำนาจสูงสุดให้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการคบกับผู้มีอำนาจสูงกว่าขององค์หญิงหานยวี่แล้ว…
ครั้นผู้บำเพ็ญตนเฒ่าผู้นี้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วอดที่จะทอดถอนใจออกมา และกล่าวว่า เสียดาย เรื่องดีงามมักคงอยู่ได้ไม่นาน การสวรรคตของฮ่องเต้ไท่ชิง อำนาจตกต่ำ ภาพรวมของราชวงศ์สั่นคลอน ในเวลานั้นอำนาจฮ่องแต้ได้สูญสิ้นสีสัน ฮ่องแต้องค์ใหม่ไร้ความสามารถ ด้วยฐานะที่สูงส่งขององค์หญิงหานยวี่จะยินยอมพร้อมใจแต่งงานกับฮ่องแต้ชั่วที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมเช่นนี้ได้อย่างไรเล่า…
…นี่แหละคือเรื่องราวบนโลกน่ะ จะไปโทษผู้อื่นก็ไม่ถูก ยามที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้นย่อมมีนกหงส์อันเป็นวิหคเทพที่งดงามและประหลาดมาครองคู่ ยามที่ตกลงสู่ก้นเหวลึก ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ไปไกลจากเจ้า กระทั่งกระทืบซ้ำเติมไปหลายที เมื่อผู้บำเพ็ญตนเฒ่าที่ผ่านโลกมานานกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วถึงกับมีเสียงที่สะอื้นอยู่บ้าง
แต่ แต่จะอย่างไรเสียก็มีสัญญาหมั้นหมายกันนะ นี่ นี่ออกจะไร้ความเมตตา ออกจะไร้สัจจะ ไม่รักษาคำมั่นสัญญาเกินไปแล้วกระมัง ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้นี้กล่าวด้วยท่าทางที่อ่อนแออยู่บ้าง
เมตตา? สัจจะ คำมั่นสัญญา? มีค่าเท่าไร? ผู้บำเพ็ญตนที่เป็นคนหนุมโอหังอวดดีเมินใส่ และกล่าวว่า ภายใต้กำลังที่เด็ดขาดสิ่งเหล่านี้นับเป็นอะไรได้? ฮ่องแต้องค์ใหม่ที่เป็นเพียงฮ่องแต้สิ้นชาติยังคิดจะแต่งงานกับองค์หญิงหานยวี่ มันคือการฝันเฟื่องของคนปัญญาอ่อนชัดๆ คางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้า!
นั่นน่ะสิ ผู้บำเพ็ญตนอีกผู้หนึ่งกล่าวสนับสนุนว่า การที่ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือได้ให้องค์หญิงอีกคนแต่งเข้าวังก็นับว่าได้ปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายแล้ว และนับว่าได้ให้ความเมตตาและรักษาสัจจะจนถึงที่สุดแล้ว ได้แต่โทษฮ่องแต้องค์ใหม่ที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม เจ้าชู้ยิ่งกว่าชีวิต ใช้อำนาจบาตรใหญ่ชุดคร่าหญิงชาวบ้าน เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งทำให้สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน
ในเวลานี้ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างนิ่งเงียบกับคำพูดเช่นนี้
โลกของผู้บำเพ็ญตนนั้น เรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นเรื่องที่พบเห็นเป็นปรกติมาก และเป็นสภาพการณ์ที่ปรกติ ไม่มีใครรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมตรงไหน
ในมุมมองของผู้คนจำนวนมากมองว่า ฮ่องแต้องค์ใหม่ที่แผ่นดินล่มสลายแล้วไม่มีความเหมาะสมกับองค์หญิงหานยวี่อีกต่อไปแล้ว การที่ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือได้ให้องค์หญิงตกยากแต่งงานกับเขาก็นับว่าทำดีมาก และให้ความเมตตาและรักษาสัจจะจนถึงที่สุดแล้ว
ความจริงแล้ว ในทัศนะคติของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมาก เมตตาคุณธรรมมีค่าเท่าไรเชียว สัจจะนับเป็นอะไรได้
องค์หญิงหานยวี่คืออัจฉริยะบุคคลคนหนึ่งในตระกูลขุนนางโบราณปิงฉืออยู่แล้ว งดงามหยาดเยิ้ม เรียกได้ว่ารวมเอาความงดงามและความสามารถอยู่ในคนๆ เดียว ผู้หญิงเฉกเช่นนางไหนเลยที่คนทั่วไปสามารถคู่ควรกับนางได้เล่า? ยิ่งฮ่องแต้องค์ใหม่ที่โง่เขลาเบาปัญญาไร้ความสามารถยิ่งไม่คู่ควรกับนาง มีเพียงราชันแท้จริงปาเจิ้นที่เป็นบุรุษผู้สูงศักดิ์ ที่เป็นอัจฉริยะบุคคลเช่นนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับองค์หญิงหานยวี่
เป็นเช่นนี้จริง ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่คนอื่นก็พยักหน้าและกล่าวว่า องค์หญิงหานยวี่กับราชันแท้จริงปาเจิ้นเรียกได้ว่าเป็นคู่สร้างคู่สม การเกี่ยวดองสมรสของทั้งสองตระกูลคือฟ้าอุ้มสม ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับเรื่องเช่นนี้ จะอย่างไรเสียราชันแท้จริงปาเจิ้นคือหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบันของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ตัวเขาที่บรรลุเป็นราชันแท้จริงแม้ว่าจะยังคงเป็นราชันแท้จริงชั้นสองลัคนาเท่านั้นก็ตาม แต่ยังคงมีอนาคตที่ไร้ขอบเขตจำกัด กระทั่งมีผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่าอนาคตเขาจะต้องได้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่
เกรงว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นจะต้องได้เป็นฮ่องแต้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ในอนาคต เช่นนั้นแล้วองค์หญิงหานยวี่ก็คือราชินี มีผู้ที่รู้สึกว่าสิ่งนี้นับว่าเป็นวาสนาอย่างหนึ่งโดยแท้ และกล่าวว่า นับว่าองค์หญิงหานยวี่มีชะตาที่ได้เป็นราชินีโดยแท้จริงนะเนี่ย
แต่ว่า ข้าได้ยินมาว่า ฮ่องแต้องค์ใหม่ก็อยู่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน ในเวลานี้ไม่รู้ว่าเป็นใครกันที่ไม่รู้จักกาลเทศะ พูดแทรกคำพูดคำนี้ออกมาเบาๆ
เมื่อคำพูดเช่นนี้ถูกแทรกเข้ามากลางวง พลันทำให้บรรยากาศเย็นลงทันที
ในเวลานี้บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกัน ฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่ในเขาจิ่วเหลียนซาน องค์หญิงหานยวี่ก็จะมาที่เขาจิ่วเหลียนซานเช่นกัน ขณะที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นก็จะมาที่เขาจิ่วเหลียนซานเช่นกัน ถ้าหากสามฝ่ายมาประจันหน้ากัน มันจะมีสภาพเช่นใดกันนะ?
ในเวลานี้ สถานการณ์เย็นลงทันที โดยทุกคนต่างหุบปากเงียบไม่พูดอะไรอีกต่อไป
แต่เดิมกำแพงมีหู ประตูมีช่องอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การอยู่ในเขาจิ่วเหลียนซานของฮ่องแต้องค์ใหม่ก็ไม่ถือเป็นความลับอะไร แรกทีเดียวถูกผู้คนพบโดยไม่ตั้งใจ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ทราบเรื่องนี้แล้ว
ฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน ในเวลานี้ ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปแล้ว
รีบแจ้งข่าวนี้กลับไปที่สำนัก มีผู้บำเพ็ญตนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้ส่งข่าวนี้ให้กับผู้อาวุโสของสำนักทันที หลังจากได้ทราบว่าฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน
ความจริงแล้ว ก่อนที่ข่าวนี้จะแพร่ออกไปกว้างขวางนั้น มีผู้ที่ทำการแจ้งข่าวดังกล่าวกลับไปแล้วอย่างรวดเร็วที่สุด
ในเวลานี้ทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานคล้ายลมฝนกำลังจะมา นับตั้งแต่เมืองกัวชางเฉิงถูกตีแตกแล้ว ก็ไม่มีร่องรอยของฮ่องแต้องค์ใหม่ มีผู้คนจำนวนมากที่ตามหาฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่ลับๆ มีผู้ที่ต้องการชีวิตของฮ่องแต้องค์ใหม่ มีผู้ที่คิดจะเอาฮ่องแต้องค์ใหม่ที่เป็นไผ่ตายไว้ในมือ หวังควบคุมฮ่องแต้เพื่อสั่งการบรรดาเจ้าผู้ครองนครรัฐต่างๆ
หลังจากที่ข่าวนี้ได้แพร่ออกมาแล้วทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มรู้สึกกังวลขึ้น เนื่องจากทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือที่ตีเมืองหลวงจนแตก เมื่อไรที่พวกเขารู้ว่าฮ่องแต้องค์ใหม่อยู่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน ไม่แน่นักอาจยกทัพใหญ่มาประชิดก็เป็นได้
แต่ว่า หลังจากที่ข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ไม่ได้มีกองทัพใหญ่มาประชิดอย่างที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ หรือแคว้นว่านเจิ้น และหรือหกกองทัพใหญ่แห่งราชวงศ์โต่วเซิ่นล้วนแล้วแต่ไม่ได้ส่งกองทัพมาบดขยี้
แม้ว่าในเขาจิ่วเหลียนซานจะมีการปฏิบัติการลับๆ กระทั่งมีบุคคลที่มีความเป็นมาไม่ชัดเจนปรากฎตัวขึ้นที่ด้านนอกของเขาจิ่วเหลียนซานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า ไม่มีสำนักใด หรือสิ่งจัดตั้งเพื่อการสืบทอดใดๆ โยกกองทัพเข้ามาโดยตรง และไม่มียอดฝีมือที่บุกเข้าไปในเขาจิ่วเหลียนซานโดยตรง เพื่อทำการลักพาตัวฮ่องแต้องค์ใหม่โดยตรงอะไรนั่น แม้แต่พวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ไม่ได้บุกเข้ามาโดยตรง
ในเวลานี้ทุกคนจึงได้ตระหนักว่า สิ่งนี้หาใช่พวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นไม่ให้ความสนใจในฮ่องแต้องค์ใหม่ แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขาจิ่วเหลียนซาน
ในเวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากโดยเฉพาะยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโส ทุกคนต่างเริ่มตระหนักแล้วว่าการที่ไม่มีกองทัพยกมาประชิดเป็นเพราะทุกฝ่ายต่างกำลังหวาดหวั่น ไม่กล้ากระทำการโดยพละการในเขาจิ่วเหลียนซาน
แรกทีเดียว ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยต่างไม่ได้ใส่ใจในเขาจิ่วเหลียนซาน จะอย่างไรเสียศิษย์ของเขาจิ่วเหลียนซานนั้นมีจำนวนน้อยเกินไป กระทั่งมีผู้ที่ถือเอาเขาจิ่วเหลียนซานเป็นเพียงโรงเตี๊ยมอยู่ในใจ คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
แต่ทว่า ก่อนที่พายุฝนฟ้าคะนองจะมาถึงนั้น แม้ว่าแคว้นว่านเจิ้น ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือที่แข็งแกร่งเพียงนี้ยังไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม ไม่กล้าบุกเข้ามาและพาตัวฮ่องแต้องค์ใหม่กลับไปโดยตรง
นาทีนี้ จึงได้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตระหนักโดยแท้จริงว่า บรรดาผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เป็นต้นว่าราชันแท้จริงปาเจิ้น พวกเขายังคงหวั่นเกรงต่อเขาจิ่วเหลียนซานอยู่ในใจ
มิน่าเล่า แม้แต่ฮ่องเต้ไท่ชิงที่มายังเขาจิ่วเหลียนซานในครั้งนั้นยังต้องเลิกวางมาด ไม่กล้านำเอากองทัพหยินมี่เข้าไปยังเขาจิ่วเหลียนซานโดยตรง ดูท่าเขาจิ่วเหลียนซานลึกล้ำยากจะหยั่งถึงนะเนี่ย ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสพึมพำขึ้นมา
แม้แต่ฮ่องเต้ไท่ชิงที่เป็นใหญ่แต่ผู้เดียวมาสามยุคสามสมัยยังต้องให้เกียรติแก่เขาจิ่วเหลียนซาน ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าเขาจิ่วเหลียนซานนั้นช่างลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเช่นใดแล้ว
…………..