ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2511 ใครหัวเราะเป็นคนสุดท้าย

ตอนที่ 2511 ใครหัวเราะเป็นคนสุดท้าย

ตอนที่ 2511 ใครหัวเราะเป็นคนสุดท้าย

การลงมือลอบโจมตีหลี่ชิเย่ของหม่าหมิงชุนเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดคิดไม่ถึง มองดูทะเลสาบที่ปราศจากร่องรอยของหลี่ชิเย่ ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างเหม่อลอย

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน จะอย่างไรเสียผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่นึกไม่ถึงว่า อาศัยตำแหน่งฐานะลักษณะเช่นนี้ของหม่าหมิงชุนถึงกับทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น อำนาจทางทหารของเขาเป็นการมอบหมายให้โดยอำนาจฮ่องเต้ การที่หม่าหมิงชุนกระทำการเช่นนี้ขึ้นมา มันคือความอกตัญญูไร้คุณธรรมอย่างสิ้นเชิง

หากจะกล่าวว่า ขณะที่หม่าหมิงชุนนำพาห้ากองทัพเข้าโจมตีตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ แล้วหันมาเล่นงานฝ่ายเดียวกันกะทันหันยังพอให้อภัยกันได้ อย่างน้อยยังสามารถพูดได้ว่าเป็นการทำเพื่อความสุขของอาณาประชาราษฎร์ เพื่อกำจัดกังฉินที่อยู่ข้างกายของฮ่องเต้

แต่ว่า เวลานี้หม่าหมิงชุนพลันลงมือลอบโจมตีฮ่องเต้องค์ใหม่ มันคือไร้เหตุผลไม่สามารถอธิบายได้ เป็นการแก้แค้นส่วนตัว ล่วงเกินเบื้องสูง ทั้งยังอาศัยวิธีการที่ต่ำทรามมาแก้แค้นส่วนตัว เรื่องเช่นนี้ ไม่ว่าจะอาศัยข้ออ้างอะไรมาก็ไม่สามารถล้างจุด่างพ้อยในชีวิตของหม่าหมิงชุนไปได้

ดวงตาทั้งสองของหม่าหมิงชุนเย็นชา ทำการสำรวจผิวน้ำของทะเลสาบครั้งแล้วครั้งเล่า ดูว่าหลี่ชิเย่ยังจะมีโอกาสรอดชีวิตอีกหรือไม่ เรียกได้ว่า หม่าหมิงชุนมีความมั่นใจในการลอบโจมตีของตนเป็นอันมาก ภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ของเขา โจมตีเข้าเป้าอย่างเต็มกำลังขณะไม่ทันระวังตัว เกรงว่าต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ต้องเสียชีวิตในทันที

แม้จะเป็นเช่นนี้ หม่าหมิงชุนยังคงสำรวจตรวจตราบริเวณผิวน้ำของทะเลสาบครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าหากฮ่องเต้องค์ใหม่มีโอกาสโผล่ขึ้นมาล่ะก็ เขาจะเข้าโจมตีชนิดครั้งเดียวถึงตายโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

กล่าวสำหรับหม่าหมิงชุนแล้ว เขาได้ทุ่มทุกอย่างลงไปแล้ว เขาจะไม่มีการเลิกรากับฮ่องเต้องค์ใหม่อย่างเด็ดขาด เขามีบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น เป็นเชื้อสายเพียงหน่อเดียวเท่านั้นกลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของฮ่องเต้องค์ใหม่ ดังนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องแก้แค้นให้กับบุตรชายของตนให้ได้ แม้ว่าจะต้องถูกด่าประนามเขาก็ต้องสังหารฮ่องเต้องค์ใหม่กับมือให้จงได้

 ตายแล้วรึ?  มีผู้เอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้น เมื่อเห็นทะเลสาบมีแต่ความเงียบสงบ

ทุกคนต่างส่ายหน้า ในขณะนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่จ้องมองไปที่ผิวน้ำของทะเลสาบ ทุกคนต่างต้องการดูว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ แต่ทว่า ผิวน้ำทะเลสาบเรียบสงบปราศจากคลื่นใดๆ และฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ตกลงไปในทะเลสาบก็ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย เหมือนว่าได้จมสู่ก้นทะเลสาบไปแล้วโดยสิ้นเชิง

ในเวลานี้ ปิงฉือหานยวี่เองก็มองดูผิวน้ำทะเลสาบด้วยความตื่นเต้น กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ฉินเจี้ยนเหยาเองก็จ้องมองดูผิวน้ำทะเลสาบอย่างใจจดใจจ่อ และเอียงศีรษะทำท่าครุ่นคิดอยู่เป็นระยะๆ เหมือนว่านึกอะไรได้บางอย่าง และขมวดคิ้วเบาๆ

ที่ตื่นเต้นมากที่สุดต้องยกให้หลิ่วชูฉิง นางอดที่จะมีสีหน้าที่ขาวซีดอย่างช่วยไม่ได้ มือทั้งสองกำมุมเสื้อเอาไว้แน่น นัยน์ตาจ้องมองผิวน้ำของทะเลสาบอย่างไม่ลดละ นางอดไม่ได้ที่จะร้องเบาๆ ขึ้นมา ได้ทำการอธิฐานให้กับหลี่ชิเย่ในใจ

ทุกคนต่างมีสภาพจิตที่ไม่ดี เมื่อเห็นผิวน้ำทะเลสาบสงบนิ่ง หรือว่าหม่าหมิงชุนทำได้สำเร็จแล้วจริงๆ ? ฮ่องเต้องค์ใหม่ตายด้วยการโจมตีของหม่าหมิงชุนแล้วจริงๆ

 หรือจะตายไปแล้วจริงๆ?  แม้แต่ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิก็มีจิตที่หวั่นไหว เมื่อมองเห็นทะเลสาบที่สงบนิ่ง และฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงไม่ได้ปรากฏตัว

ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างรู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองว่าต่อให้หม่าหมิงชุนลงมือเต็มที่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮ่องเต้องค์ใหม่ แต่ว่า จากการที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ตกลงไปในทะเลสาบเป็นเวลานานมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างสั่นไหวขึ้น หรือว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะตายแล้วจริงๆ?

ในบรรดาทุกคน ผู้ที่ดีใจมากที่สุดก็คือทังเฮ่อเสียงแล้ว ยิ่งหลี่ชิเย่ไม่ปรากฎตัวหลังจากเวลาผ่านไปนานมากเท่าไร ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากยิ่งขึ้น เป็นการบ่งบอกว่าเป็นข่าวดีข่าวหนึ่ง

แน่นอนที่สุด ภายในใจของของทังเฮ่อเสียงย่อมหวังว่าหลี่ชิเย่จะตายภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวถึงแก่ชีวิตของหม่าหมิงชุน เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็จะได้กำจัดหนามยอกอกไปได้ เขาย่อมมีโอกาสได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ในอนาคต

หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก ทะเลสาบยังคงเงียบสงบปราศจากความเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนว่าหลี่ชิเย่ได้ตายอยู่ก้นทะเลสาบแล้วจริงๆ

 หัวเราะเป็นคนสุดท้ายมีเพียงข้าเท่านั้น  จังหวะที่ทังเฮ่อเสียงกำลังลำพองใจ เสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ช่างอิสระและสบายใจ และดูเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหลือเกิน

 เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่นั่นเอง  มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงที่เอ้อระเหยนี้ อดดีใจไม่ได้ เสียงนี้ไม่มีใครอีกแล้ว

ในเวลานี้ สายตาทั้งหมดต่างจ้องมองไปที่ทะเลสาบ แต่ว่า ทะเลสาบกลับมีแต่ความเงียบสงบ ไร้ซึ่งเงาของหลี่ชิเย่อยู่แล้ว

 คนอยู่ไหน?  ผู้คนจำนวนมากต่างกวาดตามองดูทะเลสาบมาหลายเที่ยว แต่ว่า ยังคงไม่พบร่างเงาของฮ่องเต้องค์ใหม่ ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจว่า เสียงของฮ่องเต้องค์ใหม่มาจากที่ใดกันแน่?

 อยู่ที่นั่น  ในเวลานี้มีผู้ที่บังเกิดปฏิกิริยามองและชี้ไปบนท้องฟ้า ร้องเสียงดังขึ้นมา

ทุกคนทยอยกันมองตาม ในเวลานี้เองทุกคนจึงได้มองเห็นหลี่ชิเย่ เห็นหลี่ชิเย่ที่มีท่าทีเบื่อหน่ายนั่งอยู่บนอาสน์ทองคำที่ลอยอยู่บนอากาศ ขาทั้งสองข้างวางพาดเสียสูงกับโต๊ะทองคำขนาดใหญ่

หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางสบายอย่างยิ่ง และสบายใจยิ่งนัก และดูเป็นธรรมชาติยิ่ง เหมือนว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็นั่งอยุ่ตรงนั้นตลอดมา ไม่ได้ขยับตัวเลย

ทุกคนต่างรู้สึกงุนงง อดที่จะจ้องมองดูด้วยท่าทางเหม่อลอย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มองเห็นฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกหม่าหมิงชุนซัดจมก้นทะเลสาบ แต่ว่า เวลานี้เขากลับนั่งอยู่บนอาสน์ทองคำด้วยท่าทีเบื่อหน่าย เหมือนว่าผู้ที่ถูกซัดจนตกและจมลงทะเลสาบไปเมื่อครู่ไม่ใช่ตัวเขา แต่เป็นคนอื่น

ไม่มีใครมองเห็นว่าฮ่องเต้องค์ใหม่มานั่งอยู่ที่อาสน์ทองคำตั้งแต่เมื่อไร และหรือจะกล่าวว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่เคยขยับตัวอยู่แล้ว เขานั่งอยู่ที่ตรงนั้นตลอดมา

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็สร้างความหวาดหวั่นจนขนลุกซู่ให้กับผู้คน ถ้าหากว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกซัดจนจมสู่ก้นทะเลสาบ แต่ว่ากลับไม่มีผู้ใดมองเห็นเขาหวนคืนกลับไปนั่งที่อาสน์ทองคำ กระทั่งแม้แต่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นหม่าหมิงชุนก็ไม่สามารถพบเห็น

หากจะกล่าวว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่นั่งอยู่ที่อาสน์ทองคำตลอดมาล่ะก็ ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เช่นนั้นแล้ว ที่ลงมือเมื่อครู่เป็นเพียงร่างที่เป็นตัวแทนของเขาเท่านั้น? ขณะที่ร่างจริงของเขานั่งอยู่ที่ตรงนั้นมาโดยตลอด ถ้าหากไม่มีใครพบเห็นล่ะก็ มันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเช่นใด

 นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?  ผู้คนจำนวนมากที่มีทักษะอ่อนด้อยยังคิดไม่ตกกับความลึกล้ำยอดเยี่ยมที่ซ่อนอยู่ภายใน จึงดูเซ่อไปในทันที พวกเขามองเห็นชัดๆ ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ถูกหม่าหมิงชุนซัดตกและจมลงก้นทะเลสาบน่ะเนี่ย เขากลับมาที่อาสน์ทองคำตั้งแต่เมื่อไรกัน

 นี่ นี่น่ากลัวมากเหลือเกิน ศักยภาพของเขาเหนือกว่าทุกคนมากเหลือเกิน  ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิที่แอบมองเห็นความลึกซึ้งและยอดเยี่ยมบางอย่าง อดที่จะสั่นเทาไม่ได้ และรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ในใจ ถ้าหากฮ่องเต้องค์ใหม่ลงมือ นั่นคือการฆ่าคนที่ไร้รูป สามารถตัดศีรษะของผู้คนท่ามกลางความเงียบเชียบได้

 เจ้า…  ในพริบตาเดียวนั่นเอง หม่าหมิงชุนในฐานะเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ได้ตระหนักอะไรบางอย่าง ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว

สมควรทราบว่า เฉกเช่นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเขานั้น มีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขาจำนวนไม่มากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ซึ่งมีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะห้าปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดเท่านั้น

แต่แล้ว ตัวเขาที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ กลับไม่รู้ตัวเลยว่าฮ่องเต้องค์ใหม่นั่งอยู่ที่อาสน์ทองคำมาโดยตลอด ฮ่องเต้องค์ใหม่ถึงกับปิดบังเขาได้อย่างง่ายดาย ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน

ดังนั้น หม่าหมิงชุนถึงกับสะท้านขึ้นภายในใจเมื่อนึกถึงจุดนี้ และรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้แล้วว่าวันได้ได้พานพบศัตรูที่น่ากลัวแล้ว เกรงว่าเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด ความรู้สึกเช่นนี้มีเพียงอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ไท่ชิงในครั้งนั้นเท่านั้น

 เจ้า เจ้า เจ้ายังไม่ตาย…  ทังเฮ่อเสียงตกใจจนหน้าซีด ถอยลังกลับไปหลายก้าวติดต่อกัน ก่อนหน้านี้เขายังคงลำพองใจ เข้าใจว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ต้องตายแน่ๆ ไม่นึกเลยว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงนั่งอยู่บนอาสน์ทองคำ

หลิ่วชูฉิงที่มองเห็นหลี่ชิเย่ปลอดภัยไม่เป็นอะไร ถึงกับถอนใจด้วยความโล่งอก คนที่ดีใจสุดๆ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนางแล้ว

 สถานการณ์ใต้หล้าถูกกำหนดไว้แล้ว  ฉินเจี้ยนเหยาทอดถอนใจเบาๆ ขณะมองดูท่าทางของหลี่ชิเย่ที่สั่งอยู่อาสน์ฮ่องเต้ทองคำอย่างไม่เกรงใจ รู้ว่าสถานการณ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นใคร การดิ้นรนเป็นเพียงเสียแรงเปล่าเท่านั้น ไม่ว่าจะต่อต้านและดิ้นรนอย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าฮ่องเต้องค์ใหม่ก็จะอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงอะไรอย่างนั้น

 ข้ารอให้เจ้ามาลอบโจมตีนานมากแล้ว เพียงแต่ เจ้านับว่ามีความอดกลั้นมาก เพิ่งจะลงมือเอาเวลานี้  หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนอาสน์ฮ่องเต้ทองคำด้วยท่าทางที่ไม่เกรงใจใคร เหลือบมองดูหม่าหมิงชุนที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า  เพียงแต่ การลอบโจมตีลักษณะเช่นนี้ของเจ้าทำได้แค่เกาที่คันให้กับข้าเท่านั้นเอง 

สีหน้าของหม่าหมิงชุนดูไม่จืดยิ่งนัก ตัวเขาที่เป็นถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ เมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่แล้ว การโจมตีที่ถึงชีวิตของเขากลับกลายเป็น ‘เกาที่คัน’ เท่านั้น การทำให้ต้องอับอายเช่นนี้ทำให้ความโกรธภายในใจของเขาทะลักออกมา

 วันนี้ หากไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย  หม่าหมิงชุนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า  ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของข้า ก็ต้องตัดหัวเจ้ามาเซ่นไหว้ลูกของข้า… 

ความแค้นของเทพแท้จริงขั้นอมตะนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหม่าหมิงชุนที่ขบขึ้ยวเคี้ยวฟันพูดออกมาว่า  หากไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย  นั้น บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง และหายใจไม่ออก!

 ไม่ เป็นเจ้าที่ตาย  หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ กล่าวตัดบทหม่าหมิงชุนด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไร้กิดขึ้นว่า  พอดีข้าจะส่งเจ้าลงนรก ให้เจ้าลงไปเป็นเพื่อนลูกของเจ้า เพื่อไม่ให้เขาต้องเดียวดายบนเส้นทางก้าวไปยังนรก 

 เจ้า…  สีหน้าของหม่าหมิงชุนดูปั้นยากถึงที่สุด อดที่จะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ร้องเสียงดังขึ้นมาว่า  เจ้าเดรัจฉานน้อย ข้าจะดื่มเลือดของเจ้า เลาะเส้นเอ็นของเจ้า ถลกหนังของเจ้า… 

กล่าวสำหรับหม่าหมิงชุนแล้ว เขาจะยอมทุ่มค่าตอบแทนทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้กับบุตรชายของตน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยทุกอย่างเขาก็ไม่เสียดาย!

……………………………………………………..

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท