พ่อเลี้ยงยอดเซียน – บทที่ 1003 เจ้ามันก็แค่ตัวตลก

บทที่ 1003 เจ้ามันก็แค่ตัวตลก
มันไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าจางซิงอี้กล่าวหาหลิงตู้ฉิงลอย ๆ แบบนี้เพื่อหวังผลให้พวกเขาร่วมมือกันจัดการกับหลิงตู้ฉิง แต่การที่พวกเขาเองก็เกลียดหลิงตู้ฉิงอยู่แล้วแถมในเวลานี้หลิงตู้ฉิงเพิ่งจะเกิดใหม่และมีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตเทวะราชา ตอนนี้มันจึงเป็นโอกาสดีที่สุดที่พวกเขาจะสามารถแก้แค้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมใจกันเล่นตามน้ำ
“ที่แท้เจ้าก็เป็นไอ้สารเลวที่ฆ่าบรรพบุรุษของข้า ในเมื่อเจ้าโผล่มาแบบนี้งั้นข้าขอสะสางบัญชีแค้นกับเจ้าวันนี้เลยก็แล้วกัน!” ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจโลหิตเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“เจ้านาย เดี๋ยวข้าจัดการกับไอ้ผีดูดเลือดตัวนี้ให้เอง!” กิเลนตะโกนขึ้นแทรกทันที “นายน้อยต้วนฉิงมอบเจตจำนงดาบของเขาให้ข้า 3 เล่ม ข้ามั่นใจว่าแค่เพียงพริบตาเดียวข้าก็ฆ่ามันได้แล้ว!”
“เจ้าคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยงั้นเหรอไอ้หมาน้อย? เจ้าลืมไปรึเปล่าว่าข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย!” อสูรขอบเขตเทวะราชาตนหนึ่งจู่ ๆ ก็ปรากฏกายขึ้น
“ไอ้ปีศาจตอบข้ามา เจ้าฆ่าหลานข้าไปใช่ไหม?” ตี๋เมิ่งตะโกนถามขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล
หลิงตู้ฉิงหัวเราะและถามกลับ “หลานของเจ้าคือตี๋ฮ่าวใช่ไหม? ถ้าใช่เจ้าก็เดาถูกแล้ว ข้าฆ่าเขาเอง”
“สารเลว! ในเมื่อเจ้าบังอาจฆ่าหลานข้า งั้นวันนี้เจ้ากับข้าพวกเรามาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง!” ตี๋เมิ่งเรียกอาวุธของเขามาถือไว้ในมือทันที
จางซิงอี้หัวเราะด้วยสีหน้าสะใจและพูดว่า “เจ้านี่มีคนรักเยอะจริง ๆ ดูเหมือนว่าต่อให้ข้าไม่ต้องลงมือเจ้าก็คงจะตายอยู่แล้วแน่นอน!”
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่จางซิงอี้ด้วยสายตาเหยียดหยัน “ต่อหน้าข้าเจ้ามันก็แค่ตัวตลก”
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวตลก” จางซิงอี้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “วันนี้มีผู้คนมากมายต้องการให้เจ้าตาย ข้าเชื่อว่าวันนี้เจ้าไม่มีทางรอดแน่นอน!”
หลิงตู้ฉิงกวาดสายตามองไปยังผู้คนที่ล้อมรอบเขาอยู่และพูดว่า “อันที่จริงวันนี้ข้าต้องการจะฆ่าแค่คน ๆ เดียว แต่ในเมื่อพวกเจ้าอยากรนหาที่ตายนัก งั้นข้าสนองให้ก็ได้ จริง ๆ แล้วมันก็ดีเหมือนกันที่พวกเจ้าทำเรื่องโง่กันแบบนี้ ข้าจะได้ใช้โอกาสนี้ย้ำเตือนให้กับคนทั้งโลกได้รู้อีกครั้งว่าทำไมในอดีตผู้คนถึงกลัวข้ากันนัก!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงกระชับง้าวเทวะพินาศในมือของเขาแน่นทันที จากนั้นเขาใช้พเนจรไร้จำกัดพุ่งเข้าไปถึงตัวจางซิงอี้ด้วยเวลาที่น้อยกว่าพริบตา และภาพต่อมาที่ทุกคนต่างก็เห็นเหมือนกันคือ ทั้งร่างกายและโลกของจางซิงอี้ถูกแยกออกเป็นสองส่วนโดยง้าวเทวะพินาศ!
ไม่ถึงพริบตาการต่อสู้จบลงทันที!
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ศพของจางซิงอี้ด้วยสายเย้ยหยันและพูดว่า “ข้าบอกแล้วว่าเจ้าก็แค่ตัวตลก!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงปล้นทรัพย์สมบัติที่อยู่ในกายของจางซิงอี้ทันที รวมไปถึงอาวุธเต๋าของจางซิงอี้ก็ถูกเก็บไปเช่นกัน
ผู้คนทั้งหลายต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น ความเร็วแบบนั้นมันคืออะไรกัน? พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันมันไม่ใช่การพุ่งผ่านมิติ แต่นั่นคือความเร็วที่เหนือล้ำเกินกว่าที่มนุษย์จะมีได้!
เมื่อได้สติคืนกลับมา ทุกคนต่างเปิดใช้งานเขตแดนของอาวุธเต๋าพวกเขาทันทีและซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนของพวกเขาไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ส่วนคนไหนที่ไม่มีอาวุธเต๋าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในอาณาเขตสวรรค์ของพวกเขาแทนเพื่อปิดบังตัวตน
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดพวกเขาคิดออกกันในตอนนี้ หากไม่พูดถึงความเร็วอันน่าตื่นตาเมื่อครู่มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาหวั่นเกรง ซึ่งก็คือทักษะทัณฑ์ฟ้าดินของหลิงตู้ฉิง ซึ่งพวกเขารู้ดีว่าหากพวกเขาปกปิดตัวตนของพวกเขาได้ ทัณฑ์ฟ้าดินก็ไร้ความหมาย
จากนั้นหลิงตู้ฉิงกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่ยังคงล้อมเขาอยู่และถามขึ้น “ตอนนี้จางซิงอี้ก็ตายไปแล้ว ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกรอบหนึ่ง จะไสหัวไปแบบดี ๆ หรือจะให้ข้าส่งพวกเจ้าไปเกิดใหม่?”
ผู้เชี่ยวชาญที่ล้อมหลิงตู้ฉิงนับสิบคนต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นพวกเขาต่างผนึกเขตแดน และอาณาเขตสวรรค์ของพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียวกันสร้างเป็นกรงขังหลิงตู้ฉิงขึ้นมา
“ต่อให้เจ้าจะเร็วแล้วยังไง? ตราบใดที่เจ้าอยู่ภายในกรงของพวกข้า เจ้าไม่มีวันลอบโจมตีพวกข้าได้และอีกอย่าง พวกข้ามีกันอยู่เป็นสิบคน แต่เจ้ามีคนเดียว ตราบใดที่พวกข้าร่วมมือกันพวกข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่ตาย!”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจโลกหิตและพูดขึ้นว่า “บรรพบุรุษของเจ้าก็ถูกข้าสังหารไปแล้ว ถ้าวันนี้เจ้าต้องมาตายที่นี่อีกมันจะยิ่งทำให้เผ่าของเจ้าอ่อนแอมากเข้าไปใหญ่ อันที่จริงในโลกเบื้องล่างข้าได้ช่วยวางรากฐานให้กับสำนักวิญญาณโลหิตของพวกเจ้าเอาไว้ ถ้าเจ้ารออีกสักหน่อยเจ้าจะได้เห็นการปรากฏตัวของเทพโลหิตองค์ใหม่ของเจ้าแน่ เจ้าแน่ใจเหรอว่าอยากจะทำแบบนี้?”
ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจโลหิตลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนกลับเป็นดุดันอีกครั้งและพูดว่า “ไอ้ปีศาจ หากไม่เป็นเพราะเจ้าเผ่าของข้าก็คงไม่ตกต่ำถึงขนาดนี้! ไม่ว่ายังไงวันนี้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้เพื่อล้างแค้นให้กับเผ่าของข้าทุกคน!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ จากนั้นเขาหันไปถามผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่ง ซึ่งกำลังล้อมเขาอยู่ “แล้วเจ้าล่ะ อะไรดลใจทำให้เจ้าจู่ ๆ ก็อยากหาที่ตายแบบนี้?”
“เจ้ามันคือปีศาจร้ายที่เป็นภัยต่อคนทั้งโลก การฆ่าเจ้าถือว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกนี้ทำไมข้าถึงจะไม่ทำ?”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงหันไปถามคนอื่น ๆ ต่อ “แล้วพวกเจ้าทั้งหลายล่ะ ทำไมถึงได้มีความคิดโง่ ๆ อะไรแบบนี้ได้?”
หลายคนต่างตอบคล้ายกัน “ก็เพราะเจ้ามันชั่วช้าสามานย์ยังไงล่ะ! การฆ่าเจ้ามันคือการตอบแทนโลกใบนี้ที่พวกข้าอาศัยอยู่!”
“… …”
หลังจากนั้นทุกคนต่างก็สบถด่าหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก แต่แล้วบรรดาผู้คนที่ล้อมหลิงตู้ฉิงจู่ ๆ ก็เงียบไป
บรรดาผู้คนที่ดูเหตุการณ์นี้อยู่ต่างก็รู้สึกงุนงง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? เมื่อครู่พวกเจ้ายังสบถด่าอยู่ปาว ๆ แต่ทำไมจู่ ๆ พวกเจ้ากลับหยุดแถมไม่เข้าไปโจมตีอีกต่างหาก พวกเจ้ารออะไรกัน?
แต่แล้วภาพต่อมาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
จู่ ๆ หลิงตู้ฉิงค่อย ๆ บินไปหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาที่อยู่ใกล้เขาที่สุด จากนั้นเขาใช้ง้าวเทวะพินาศฟันไปที่ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นแบบง่าย ๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นไม่ตอบโต้อะไรเลย เขาไม่มีท่าทีว่าจะเบี่ยงหลบเลยด้วยซ้ำ!
การกระทำของหลิงตู้ฉิงมันเหมือนกับว่าเขาเดินเข้าไปในสวนเพื่อล้มต้นกล้วยสักต้น ซึ่งแน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญผู้โชคร้ายคนนั้นตายในทันทีอย่างสมบูรณ์!
เมื่อสังหารคนแรกเสร็จ หลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ บินไปยังเป้าหมายถัดไป และใช้ง้าวเทวะพินาศสังหารคนถัดไปแบบง่าย ๆ อีกเหมือนเดิมโดยที่ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นรายถัดไปก็ไม่ต่อต้านอีกเหมือนเดิม
ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่ต่อต้านอะไรเลย?
คำถามนี้ต่างผุดขึ้นในใจของคนทุกคนที่อยู่รอบ ๆ
ในกลุ่มคนที่สังเกตการณ์อยู่หนึ่งในนั้นคือหลวงจีนผู้หนึ่ง และหลวงจีนผู้นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือ พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซาง!
ในขณะนี้พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าโง่งม
ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่เห็นว่าหลิงตู้ฉิงทำอะไร แต่ในฐานะที่เขาคือผู้ที่เคยมีคุณสมบัติพอที่จะพิสูจน์เต๋าได้มาก่อน เขาจึงเห็นได้ในทันทีว่าหลิงตู้ฉิงทำอะไรอยู่ในตอนนี้
เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงกำลังใช้พลังจิตอันทรงพลังเข้าครอบงำพวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น ทำให้พวกผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายตกอยู่ในสภาวะกึ่งไร้สติ
“ตื่นขึ้น!” พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางตะโกนขึ้นเสียงดังทันทีพร้อมกับปลดปล่อยพลังจิตแทรกแซงการครอบงำของหลิงตู้ฉิงที่ส่งผลต่อผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย
พ่อเลี้ยงยอดเซียน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน

Status: Ongoing

พ่อเลี้ยงยอดเซียนเรื่องย่อ พ่อเลี้ยงยอดเซียน

ไม่นึกเลยว่าอารมณ์ทั้งเจ็ดจะมีผลต่อการบ่มเพาะเช่นนี้!

ในชาติที่แล้วอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นข้าจะกลายเป็นนิรันดร์กาล!

ข้ายอมสละอารมณ์ทั้งเจ็ดเพื่อความเป็นนิรันดร์ แต่ท้ายที่สุดข้ากลับต้องเผชิญกับทางตัน วิถีไร้อารมณ์นั้นบกพร่อง!

ในเมื่อวิถีไร้อารมณ์ไม่สามารถพาข้าก้าวข้ามไปถึงขอบเขตนิรันดร์กาล ข้าต้องกลับไปจุติใหม่! ในชีวิตหน้าข้าจะเปลี่ยนวิถี! ในชีวิตหน้าข้าจะฟื้นฟูอารมณ์ทั้งเจ็ดของข้า!

ชาติหน้าข้าจะโอบรับพวกมันทั้งหมด

ความรัก ความชัง ปรารถนา โศกศัลย์ ยินดี เดือดดาล สุขสันต์

ครั้งนี้ข้าจักต้องไม่พลาด รอบนี้ข้าจักต้องให้ทุกสรรพสิ่งขนานนามข้าว่า ‘ไร้เทียมทาน!’

จักรพรรดิเซียนไร้อารมณ์ ผู้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ ตัดสินใจจุติใหม่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อยามที่เขาลืมตาดูโลกขึ้นอีกครั้ง เขากลับจุติอยู่ในร่างของชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี ที่สำคัญชายผู้ที่เขาลงมาจุติในร่างกลับอุปการะบุตรบุญธรรมไว้แล้วถึงเจ็ดคน! และเด็กทุกคนกลับมีความสามารถท้าทายสวรรค์!

————————————————————-

ขั้นพลัง

ขอบเขตหลอมรวมลมปราณ

ขอบเขตควบแน่นลมปราณ

ขอบเขตประสานทะเลลมปราณ

ขอบเขตรวมแสงดารา

ขอบเขตนภา (ขั้นต่อไปถัดจากขอบเขตรวมแสงดารา)

ขอบเขตครึ่งสวรรค์ (ขอบเขตนภาระดับ12-13)

ขอบเขตสวรรค์

– สวรรค์สามัญ

– หลุดพ้นสามัญ

ขอบเขตเหนือสวรรค์

ขอบเขตราชัน

ขอบเขตจักรพรรดิ

ขอบเขตเร้นลับ

ขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ (ระดับการบำเพ็ญเพียรของหลิงตู้ฉิงในชาติก่อน)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท