บทที่ 1262 – ยาทิพย์สรรพรส
“ไม่อยู่แล้ว เพราะข้าเชื่อในตัวของท่าน ข้ามีชื่อว่า ฟู่ร่ง แล้วเจอกันที่นี่ในวันพรุ่งนี้”
“แล้วเจอกัน”
หลังจากนั้นชิงสุ่ยไม่ได้อยู่ที่ร้านนั้นต่อ เขารีบจากไปเมื่อกล่าวจบ อันที่จริงเขาไม่คิดว่าเขาจะได้รับวัตถุล้ำค่าขนาดนี้มา ศิลาดาราจันทราทมิฬนั้นเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมาก นอกจากนี้มีคนน้อยมากที่จะรู้จักมัน แต่ถึงอย่างไรดาราจันทราทมิฬในรอบนี้ที่เขาค้นพบนั้นไม่ใช่ของที่ราคาทั่วๆไป แต่มันเป็นของที่มีราคาสูงอย่างมากนั้นเพราะมีคนที่สามารถรับรู้ถึงคุณค่าของมัน
แต่ตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นกำลังสงสัยว่า ถึงแม้ดาราจันทราทมิฬนั้นจะล้ำค่าอย่างมาก แต่มันนั้นก็ไม่ได้ล้ำค่าขนาดผลึกสุริยาถึง 1000อัน ชิงสุ่ยสงสัยว่าทำไมเขาถึงตั้งราคาขนาดนั้นออกมา
หลังจากนั้นเขาได้หยุดคิดเรื่องนี้ และกลับไปที่โรงเตี๊ยมจักรพรรดิ
ราชวงค์เดชสวรรค์นั้นเป็นถูกปกครองโตยตระกูลฟู่โดยเพียงลำพัง นอกจากนี้ยังเป็นขุมอำนาจที่เข็มแกร่ง นอกจากนี้หญิงสาวคนเมื่อกี่นั้นก็มาจากราชวงค์เดชสวรรค์ นั้นก็หมายความว่าเธอนั้นต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ชิงสุ่ยเดินมาถึงโรงเตี๊ยมจักรพรรดิ มันนั้นเป็นโรงเตี๊ยมที่ถูกดูแลด้วยขุมอำนาจในเมืองแห่งนี้ ภายในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ได้รับการดูและปฏิบัติอย่างดี นอกจานี้ยังมีกฎที่ห้ามต่อสู้หรือฆ่าฟันกันในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ จึงทำให้มันได้รับความนิยมและเป็นสถานที่หลบภัยสำหรับผู้บ่มเพาะมากมาย
ชิงสุ่ยได้เดินไปที่โต๊ะด้านหน้าเพื่อจองห้องสำหรับพักผ่อน ที่จริงเขานั้นไม่จำเป็นต้องพักในสถานที่แห่งนี้ก็ได้ เพราะในตอนนี้มีคนน้อยคนเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ในมหาทวีปอูเซียแห่งนี้
ในตอนนี้ถึงแม้จะเป็นช่วงบ่าย แต่ชิงสุ่ยได้ตัดสินใจเข้าไปในดินแดนหยกอย่างรวดเร็ว ปกติเขานั้นจะเข้าไปก่อนเวลาที่เขาจะนอน หรือช่วงดึกๆเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่านั้นต้องใช่เวลาเท่าไรในการกลั่นยา ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าเขานั้นเข้าไปเตรียมพรุ่งในทุกๆอย่างไว้ก่อน
นอกจานี้เขายังมีศิลาดาราจันทราทมิฬที่ต้องจัดการอีกด้วย
ในตอนนี้ ชิงสุ่ยนั้นไม่ค่อยกล้าเรียกตัวเองว่านักปรุงยาที่เก่งกาจ แต่ถึงอย่างไรเขานั้นก็มั่นใจในฝีมือของเขา จากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ประสบการณ์นับ1000พันปี มันทำให้เขามั่นใจว่าถึงเขาจะไม่ใช่นักปรุงยาที่เก่งกาจที่สุดในโลก แต่เขานั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ปรุงยาที่มีความสามารถในระดับแนวหน้า
สำหรับตอนนี้ การกลั่นยาทิพย์สรรพสรนั้นต้องใช้เวลาถึง 49วัน ชิงสุ่ยไม่มั่นใจว่าตัวของคนอื่นๆนั้นต้องใช้เวลาขนาดไหน แต่สำหรับชิงสุ่ย 49วันนั้นคือเวลาที่เขาต้องใช้ในตอนนี้
49วัน!
49วันผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดชิงสุ่ยก็พรุ่งยาขึ้นมาได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้ใช่เวลานานเช่นเดียวกับการกลั่นยาในอดีต แต่ของสุ่ยก็อดที่จะเหนื่อยล้าไม่ได้ ดังนั้นเขาตัดสินใจที่จะนอนหลับพักผ่อนในตอนนี้ เพื่อฟื้นฟูพลังที่เสียไปของเขาเสียก่อน
หลังผ่านไปแปดชั่วยาม เขาตื่นขึ้น และตรงไปที่เตาหลอมของเขา ด้วยความตื่นเต้น ยาเม็ดสีเขียว แปดเม็กได้ปรากฏแก่สายตาของเขา แต่ละเม็ดนั้นมีขนาดเท่ากับนิ้วหัวแม่มือของคนเรา
ตอนนี้เขาจ้องมองไปที่ผลของมัน มันเป็นเช่นเดียวกับที่หญิงสาวกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิด มันนั้นสามารถเพิ่มความเร็วให้ผู้ใช้ได้ถึง 50 ส่วนโดยไม่คำนึงถึงระดับ
ถึงแม้ตอนนี้เขาอยากจะเก็บมันไว้สักสองสามเม็ด แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ทำเช่นนั้น นี่เป็นหลักการที่เขาเชื่อมั่น เขานั้นสัญญาไว้แล้วว่าเขานั้นจะไม่แตะต้องสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเอง
หลังจากที่เก็บมันไว้ในขวด ชิงสุ่ยเริ่มการบ่มเพาะของเขาอีกครั้ง เช่นเดียวกัลป์วิหกเพลิงที่เฝ้ามองผลนิพพานอยู่
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้หันไปเห็นผลนิพพานที่กำลังปลดปล่อยกินอ่านออกมา มันเป็นกลิ่นอายที่รุนแรงคล้ายกับ กลิ่นอายของวิหกเพลิงอย่างมาก แม้แต่ตอนนี้เขานั้นก็ไม่แน่ใจว่ามันนั้นคือกลิ่นอายของผลนิพพานหรือวิหกเพลิงที่บินอยู่ใกล้ๆในตอนนี้
ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่วิหกเพลิงที่กำลังซึมซับพลังของผลนิพพานอย่างช้า และในที่สุดก็ถึงเวลาที่มันได้เริ่มกินผลนิพพานเข้าไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างกับมันหลังจากนี้ แต่เขามั่นใจว่ามั่นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่สำหรับมัน
หลังจากนั้นเวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้า และแล้ว 40วันก็ผ่านไป กลิ่นอายของผลนิพานได้จางหายไปในร่างกายของวิหกเพลิง ขณะที่ร่างกายของวิหกเพลิงได้ขยายใหญ่ขึ้นจนดูคล้ายลูกโป่งขนาดยักษ์ มันนั้นพร้อมที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา
ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เพราะเสียงร้องของวิหกเพลิงนั้นได้กู้ก้องและร้องขึ้นอยู่เป็นเวลานาน เสียงร้องของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทุกทรมาน มันทำให้ชิงสุ่ยอดที่จะสงสารมันไม่ได้
แกว๊กก!
ร่างของวิหกเพลิงประทุเพลิงที่เข้มข้นออกมา เพลิงสีดำทมิฬนั้นได้เปล่งประกายออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพลิงสีดำเข้มได้โห่มกระหนำออกมาดังเพราแห่งนรก ถึงอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันนั้นเป็นเพลิงที่งดงามอย่างมาก
ความแข็งแกร่งได้เพิ่มขึ้นในร่างกายของมันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มันได้ก้าวสู่ระดับใหม่แล้ว
เพลิงของมันนั้นได้กลายเป็นเพลิงนรกโดยสมบูรณ์ :เพลิงแห่งนรกบรรพกาล ที่ใช้ชำระและแผดเผาผลาญดวงวิญญาณ
ตอนนี้วิหกเพลิงกระพือปีกขึ้นลงอย่างมากบ้าคลั่ง กลิ่นอายครั้งมันระเปิดออกมาอย่างต่อเนื่อง
7ครั้ง!
การประทุได้หยุดลงในครั้งที่เจ็ด ตอนนี้ร่างกายของวิหกเพลิงได้ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเก่า ตอนนี้มันมีขนาดใหญ่กว่า 200เมตร ปีกของมันนั้นสามารถปกคลุมไปได้ทั้งท้องฟ้าและพื้นดิน เพลิงสีดำที่ดูคล้ายอัญมณีสีดำ นั้นทำให้มันดูหน้าเกรงขามอย่างมาก แม้แต่เขาก็ยังไม่อยากเชื่อว่าสีดำจะงดงามได้ขนาดนี้
ในไม่ช้ามันก็ค่อยๆสงบลง ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ในที่สุดวิหกเพลิงของเขาก็ก้าวไปรู้ระดับใหม่ ตอนนี้มันมีความสามารถที่เพียงพอที่จะช่วยเขาในการต่อสู้ได้แล้ว
ในตอนนี้มันมีพลังอยู่ที่8หมื่นเมฆา หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า8สุริยา นอกจากนี้ชิงสุ่ยนั้นยังสัมผัสได้อีกว่ากลิ่นอายของมันนั้นทรงพลังกว่ามังกรไอยราเสียอีก อาจเป็นเพราะผลนิพพานที่มันกินเข้าไปได้ส่งผลโดยตรงให้ร่างกายของมัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งที่แม้จริงของมันจะน้อยกว่ามังกรไอยราอยู่ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันนั้นยังสามารถระเบิดความแข็งแกร่งออกมาได้อีก7เท่านั้นหมายความว่า พลังที่แท้ของมันจะอยู่ที่ 4ล้านเมฆา
หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์: ทักษะกายภาพของวิหกเพลิงจะเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายให้วิหกเพลิงขึ้นอีก 50 แต่จะทำให้ทักษะทั้งหมดด้อยลง
จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ทำให้วิหกเพลิงสามารถบินได้เร็วขึ้นและไกลยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะสามารถทำให้มันสามารถบินได้ไวกว่าความเร็วแสง
เพลิงนรก: เพลิงในตำนานที่สามารถแผดเผาสรรพสิ่งให้พินาศลง เป็นทักษะจู่โมของวิหกเพลิง
เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบำ:ทักษะกายภาพที่ช่วยเพิ่มการจู่โจมของวิหกเพลิงให้รุ่นแรงขึ้น 4เท่า และลดความเสียหายลงเท่าตัว
เมื่อมองไปที่เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบำมันทำให้ชิงสุ่ยอดยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้หากวิหกเพลิงใช้เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบำออกมา มันจะมีความแข็งแกร่งถึง 2000สุริยา ซึ่งทำให้อำนาจของมันแข็งแกร่งกว่ามังกรไอยราในตอนนี้ ซึ่งมันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ชิงสุ่ยนั้นได้สู้ร่วมกับวิหกเพลิง มันทำให้ชิงสุ่ยอดดีใจไม่ได้
เพลิงนรกภูมิ: เมื่อปล่อยเพลิงออกมา จะสร้างความรุนแรงให้การโจมตีขึ้นอีกหนึ่งเท่า นอกจากนี้ยังสามารถติดตามเป้าหมายได้
ชิงสุ่ยได้แต่อ้าปากกว้างหากเขาใช้มันออกมา ตอนนี้มันจะมีพลังถึง 4000สุริยา แต่นั้นไม่ใช้ทั้งหมด ที่ชิงสุ่ยสนใจ
ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว ว่าวิหกเพลิงได้กลายเป็นสัตว์อสูรในระดับที่ไกลกว่าเขาจะจินตนาการได้ นอกจากนี้สายเลือดวิกหกเพลิงทมิฬในตัวของมันก็ได้ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะทำให้มันแข็งแกร่งได้อีกมากมายในอนาคต
แกว๊ก!
วิหกเพลิงบินและร้องออกมารอบๆชิงสุ่ย นี่เป็นการแสดงออกว่าสิตปัญหาของมันได้รับการยกระดับขึ้นในทางเดียวกัน
ตอนนี้วิหกเพลิงนั้นมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว ด้วยสติปัญญาที่มันมีในตอนนี้จะทำให้มันสามารถเติบโตได้อีกมากมายในอนาคต ซึ่งมันให้เขายิ่งมันใจว่าในตอนนี้ในราชวงค์เดชสวรรค์หรือแม้แต่ทวีปแห่งนี้ก็ยากที่จะต่อกรกับมัน
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ตะเกียงร้อยอสูรของเขาก็ได้สูญหายไปแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไร เขานั้นพยายามปรับแต่งมันในทุกๆวัน เช่นเดียวกับของอื่นๆเพื่อหวังว่ามันจะยกรับดับขึ้น แต่ถึงอย่างไรมันก็ได้หายไปแล้วในตอนนี้ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ในตอนนี้ก็เหนือกว่าการณ์คาดเของเขาอย่างมาก มันทำให้เขาพอที่จะยอมรับในเรื่องนี้ได้
เมื่อถึงเวลาชิงสุ่ยได้ออกมาข้านอกดินแดนหยก ซึ่งอีกครึ่งชั่วยามข้างหน้าเขาก็จะสามารถเข้าไปในดินแดนหยกได้อีกครั้ง
ความก้าวหน้าในครั้งนี้ของวิหกเพลิงนั้นเป็นเรื่องบังอิญอย่างมาก ซึ่งมันทำให้วิหกเพลิงนั้นยกระดับเข้าไปเทียบเท่า มันจะทำให้ตัวของเขานั้นแข็งแกร่งมากขึ้นในตอนนี้