บทที่ 1286 – พลังของโลหิตแก่นแท้อสูรศักดิ์สิทธิ์, พลังของสัตว์อสูร, เป็นเป้าหมาย
การพัฒนาขึ้นของหินสลักมังกรขดทำให้ชิงสุ่ยมีความหวัง นี่หมายถึงตะเกียงร้อยวิญญาณและกลองสะบั้นสวรรค์สามารถถูกพัฒนาขึ้นได้ด้วยเช่นกัน เขาคาดหวังให้วันนั้นมาถึงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกสัตว์อสูรของเขามีความสำคัญต่อเขาเป็นอย่างยิ่ง
อีกสิ่งหนึ่งคือความสามารถในปัจจุบันของเขา พลังทางกายภาพถูกเพิ่มขึ้นกว่าสองพันเมฆาและพลังโดยรวมถูกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีก้อนเมล็ดเจ็ดสีและศาตราวุธแห่งจิตวิญญาณซึ่งได้แก่ กระบี่ดารายุพฆาต, ยาเม็ดทองคำ, เกราะอสูรสำแดง, รูปแบบดาราจักร และอื่นๆอีกมากมาย
รูปแบบเนตรศิลาศักดิ์สิทธิ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยอย่างน่าประหลาดใจ ความเร็วอันน่าพิศวงของเขาช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่เคยฝึกฝนไว้ก็คือ เจ็ดย่างก้าวทำลายล้างแห่งทักษะย่างก้าวเก้าเทวา
ชิงสุ่ยใช้มันครั้งล่าสุดเมื่อนานมาแล้วและไม่ได้ใช้มันอีกเลย วันนี้เขาเพิ่งค้นพบว่าวิชานี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง วิชานี้มาพร้อมกับทักษะย่างก้าวเก้าเทวาและเมื่อใช้ทักษะย่างก้าวเก้าเทวาพร้อมกับเจ็ดย่างก้าวทำลายล้างแห่งทักษะย่างก้าวเก้าเทวา แต่ละก้าวที่ก้าวออกไปจะช่วยสะสมพลังเอาไว้และสามาถระเบิดออกในย่างก้าวสุดท้าย
ชิงสุ่ยหยุดตวามคิดของเขาลง เมื่อเขาได้ลองใช้สมบัติเวทไปครั้งหนึ่งแล้ว เขามองไปยังโลหิตแก่นแท้อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่เพียงสองหยดและสงสัยว่าสัตว์อสูรตัวใดควรได้รับมันไป
คงต้องเป็นวิหคเพลิง ดังนั้นชิงสุ่ยเรียกวิหคเพลิงออกมาโดยปราศจากความลังเล อย่างไรก็ตามวิหคเพลิงส่งความคิดมาบอกเขาว่าตัวมันเองนั้นไม่สามารถรับโลหิตแก่นแท้อสูรศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้เพราะมันเป็นหยดเลือดของมังกร
วิหคเพลิงสืบเชื้อสายมาจากวิหคอัคคีและวิหคอัคคีทมิฬ ซึ่งพวกมันถือว่าทรงพลังเช่นกัน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจแต่ก็เข้าใจได้ในมันที ไม่ว่าอย่างไรก็ตามโลหิตแก่นแท้อันทรงพลังนี้จะสามารถเปลี่ยนรูปแบบของสัตว์อสูรที่ได้รับมันไป
ชิงสุ่ยรู้สึกยินดีเมื่อทราบว่าวิหคเพลิงไม่สามารถใช้มันได้ เขาเรียกแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรและอสูรอัสนีคลั่งออกมา เขาเริ่มสื่อสารกับแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรและทราบว่าโลหิตแก่นแท้ไม่มีผลเสียต่อตัวของมัน แมงมุมได้กล่าวกับตัวเขาว่าตัวมันเองสามารถกลืนกินได้ทุกสิ่งแม้สิ่งนั้นจะเป็นพิษก็ตาม
โดยปราศจากความลังเลชิงสุ่ยมอบโลหิตแก่นแท้อสูรศักดิ์สิทธิ์ให้แมงมุมอสูรเจ็ดเศียรในทันที.
หลังจากทราบเรื่องของวิหคเพลิงแล้ว ชิงสุ่ยมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับอสูรอัสนีคลั่งว่าจะรับมันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เขารู้สึกยินดี อสูรอัสนีคลั่งสามารถผสามกับมันได้ แต่ผลที่แสดงออกมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักมันก็ยังคงเป็นอสูรอัสนีคลั่งเช่นเดิม แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญจริงๆคือความสามารถของมันต่างหาก
ในไม่นานนักแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรและอสูรอัสนีคลั่งส่งแสงสีทองอร่ามออกมาจากทั่วร่างของพวกมัน แมงมุมอสูรเจ็ดเศียรกรีดเสียงร้องแหลมออกมาในขณะทีร่างกายของอสูรอัสนีคลั่งมีประกายสายฟ้าล้อมรอบพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า
เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชิงสุ่ยถึงกับต้องตะลึง แมงมุมอสูรเจ็ดเศียรยังคงมีเจ็ดเศียรเช่นเดิม แต่เศียรสีทองตรงกลางของมันมีเขามังกรงอกออกมาสองเขาทำให้มันดูมีอำนาจมากขึ้น โดยรวมแล้วแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรมีรูปร่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าพัฒนาการของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรในครั้งนี้มีความสัญมาก ดูเหมือนว่าในอนาคตมันจะสามารถสู้เคียงข้างมังกรไอยราเกล็ดทองคำและวิหคเพลิงได้เป็นอย่างดี
ชิงสุ่ยแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นความสามาถของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรที่ถูกพัฒนาขึ้น
อสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียร!
“หืม ชื่อของมันได้เปลี่ยนไปแล้ว!” ชิงสุ่ยพูดออกมาอย่างประหลาดใจ
หลังจากที่ได้เห็นชื่อของมัน ชิงสุ่ยหันกลับไปมองแมงมุมในร่างยักษ์อีกครั้ง เศียรสีทองตรงกลางของมันไม่เพียงแค่มีเขามังกรงอกออกมาเท่านั้น แต่ยังปรากฏรัศมีของมังกรออกมาจริงๆด้วย แน่นอนว่าเฉพาะเศียรตรงกลางนั่นที่ดูเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามมันดูแตกต่างไปจากของมังกรไอยราเกล็ดทองคำมากทีเดียว เศียรของอสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรไม่ได้มีความอำมหิตดังเช่นมังกรไอยราเกล็ดทองคำ
หรืออาจเป็นเพราะอสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรเป็นสัตว์อสูรตัวเมีย…
พลังทางกายภาพของมันมีสูงถึงเจ็ดหมื่นเมฆาหรือเทียบเท่าเจ็ดสุริยา ซึ่งยังคงดูไม่เยอะเมื่อเทียบกับมังกรไอยราเกล็ดทองคำและวิหคเพลิง อย่างไรก็ตามตัวของอสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรเองเป็นสัตว์อสูรสายควบคุม
จุดปราณห้ากำเนิด: วิชาของแมงมุมอสูรห้าเศียร เพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพห้าสิบเท่า
ความเปลี่ยนแปลงของจุดปราณห้ากำเนิดทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจ เขาคาดหวังว่ามันจะดีขึ้นแต่ไม่คิดว่าจะมากถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าเศียรมังกรนั่นจะส่งผลอย่างมากเลยทีเดียว ในตอนนี้ระดับของมันอาจะเทียบเคียงวิหคเพลิงและมังกรไอยราเกล็ดทองคำได้อย่างง่ายดาย
ใยแมงมุมพิษกัดกร่อน: การโจมตีด้วยใยทั้งหมดของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรจะเป็นพิษและมีความเหนียวเหนอะหนะ ใยของมันมีความแข็งแกร่งจนยากแม้จะตัดด้วยคมมีด ความเสียหายที่ได้รับจากพิษจะถูกเพิ่มเป็นสามเท่าจากความเสียหายเดิม
เส้นใยพิษพันธนาการ: แมงมุมอสูรเจ็ดเศียรสามารถยิงใยพิษออกไปจากตัวของมัน ระยะของการโจมตีสามพันเมตรและการโจมตีทำให้เป้าหมายถูกพัวพันไว้ อีกทั้งมีความเร็วสูงและสภาพเป็นพิษเหนียว พลังโจมตีสูงถึงห้าเท่าจากตัวของมัน
สองวิชานี้ไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่ระยะของเส้นใยพิษพันธนาการถูกเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งพันเมตรซึ่งทำให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น
ฝูงแมงมุมจู่โจม: ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์อสูรราชันย์ สามารถควบคุมสัตว์อสูรหลายตัวให้โจมตีประสานกัน ความสามารถนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อเป็นแมงมุมอสูรหกเศียร และเพิ่มโอกาสให้แมงมุมดุดร้ายยิ่งขึ้น
มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อยในวิชานี้ แต่ชิงสุ่ยไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ถึงอย่างนั้นเขามีความรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีและสามารถช่วยเหลือเขาได้ในอนาคต
แมงมุมชักใยจู่โจม: ความสามารถติดตัว ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างถาวรสิบห้าเท่า
แมงมุมชักใยจู่โจมมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นจากสิบเท่าเป็นสิบห้าเท่า และยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นความสามารถติดตัวไม่ต้องใช้ออก นั่นทำให้ชิงสุ่ยพอใจมาก
ขาแห่งราชันย์แมงมุม: ขาทั้งแปดของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรมีความคม ซึ่งมันมีสภาพเป็นพิษและมีความสามารถในการทะลุทะลวง
เปลือกแห่งราชันย์แมงมุม: เพิ่มความสามารถในการป้องกันของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียรถึงขีดสุด
เศียรแห่งอสูรแมงมุมมังกร: ความสามารถติดตัว ช่วยเพิ่มความเหนียวของขาแห่งราชันย์แมงมุมของแมงมุมอสูรเจ็ดเศียร, รวมถึงความแข็งแรง, ความหนืด, และสภาพเป็นพิษ ของใยขึ้นห้าเท่า…นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการโจมตี, ความอดทน,และความสามารถในการเอาตัวรอดอีกด้วย
ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก วิชาสุดท้ายที่ปรากฏเพิ่มขึ้นมาคือ เศียรแห่งอสูรแมงมุมมังกร ทำให้ความสามารถของความแข็งแรง, ความหนืด, และสภาพเป็นพิษถูกเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดความสามารถในการโจมตีถูกเพิ่มขึ้นสองเท่า พลังโจมตีเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสัตว์อสูรสายควบคุม ด้วยพลังที่เหมาะสมความสามาถในการควบคุมจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า แม้ว่าใยของอสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรจะสามารถตรึงฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากมีพลังที่ด้อยจนเกินไป ศัตรูก็จะสามารถหนีออกไปได้ ถึงศัตรูจะไม่พยายามดึงมันออก ก็ยังคงหนีออกไปได้อยู่ดี ดังนั้นความสามารถในการควบคุมจะไร้ประสิทธิภาพถ้ามีพลังน้อยเกินไป
พลังโจมตีสูงสุดของอสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรอภายใต้วิชาเศียรแห่งอสูรแมงมุมมังกรในตอนนี้ มีพลังสูงถึง 3000 สุริยา ความสามรถในการควบคุมของมันจะยิ่งน่ากลัวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสภาพเป็นพิษและเหล่าลูกสมุน รวมถึงความสามารถในการฆ่าในตอนนี้ถือว่าน่ากลัวมาก
อสูรแมงมุมมังกรเจ็ดเศียรรู้สึกมีความสุขชิงสุ่ยรับรู้ได้จากการสื่อสารกับมัน เสียงของมันเป็นเหมือนกับเสียงของผู้หญิงแม้ว่าจะฟังดูแข็งกระด้างและไม่คุ้นหูอยู่บ้างก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความเป็นเอกลักษณ์และยากต่อการลืมเลือน เทียบกันแล้วเสียงของมังกรไอยราเกล็ดทองคำมีความเป็นเอกลักษณ์กว่า
ในตอนนี้ชิงสุ่ยหันไปมองอสูรอัสนีคลั่งบ้าง รูปร่างภายนอกของมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ขนาดของลำตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างน้อยๆหนึ่งในสามส่วน
ขณะนี้สัตว์อสูรของชิงสุ่ยล้วนมีขนาดไล่เลี่ยกันอยู่ที่กว่าสองร้อยเมตรหรือเล็กกว่านี้เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อวิหคเพลิงกางปีกของมันออก ดูเหมือนจะปกปิดท้องฟ้าได้มิดชิดเลยทีเดียว
พลังทางกายภาพของอสูรอัสนีคลั่งอยู่ที่สีหมื่นเมฆาหรือเทียบเท่าสี่สุริยา แม้ว่ามันจะเป็นตัวที่อ่อนแอที่สุด ชิงสุ่ยยังคงรู้สึกดีใจ เพราะความสามารถในการควบคุมของอสูรอัสนีคลั่งยิ่งกว่าทรงพลังเสียอีก นอกเหนือจากนั้นการที่พลังของมันถูกเพิ่มจากหนึ่งสุริยาเป็นสี่สุริยาถือว่าตัวมันทรงพลังขึ้นมาก
ปราการอัสนีพยุราช: ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของอสูรอัสนีคลั่ง ทำให้ความสามารถทั้งหมดถูกเพิ่มขึ้นสามสิบเท่า ไม่ต้องเสียพลังงานในการใช้งานและถูกใช้ออกด้วยตัวเอง ถ้าถูกโจมตีด้วยพลังทางกายภาพจะมีโอกาสทำให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นอัมพาตและในเวลาเดียวกันจะลดพลังโจมตีของฝ่ายตรงข้ามลงสองในสิบส่วน
ความสามารถของปราการอัสนีพยุราชถูกเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าสองเท่า พลังของโลหิตแก่นแท้อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถถูกมองข้ามไปได้เลยจริงๆ ดูเหมือนว่าโลหิตแก่นแท้อันนี้จะเป็นของมังกรผู้ยิ่งใหญ่
อัสนีกัมปนาท: ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากตัว มีพลังโจมตีเป็นสี่เท่าของตัวมันเองและมีระยะการใช้งานสามพันเมตร การโจมตีนี้ส่งผลให้เกิดอัมพาตได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังลดความเร็วและปฏิกิริยาตอบโต้ของฝ่ายตรงข้ามลง ความสามารถนี้สามารถทับซ้อนได้ อัสนีกัมปนาทใช้พลังหนึ่งในสิบส่วนของการโจมตีธรรมดาทั่วไป
ความสามารถของมันถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีกครั้ง และระยะการใช้พลังก็ถูกเพิ่มกว่าพันเมตร ความสามารถในการควบคุมของมันถูกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในวิชา อัสนีจู่โจม,อัสนีหวนคืน รวมถึงเกราะอัสนีปัมปนาถ
อัสนีต่อเนื่องกำราบมาร: ปล่อยอัสนีจู่โจมออกมาเป็นวงกว้าง.เมื่อโจมตีโดนศัตรูจะทำให้เกิดโอกาสเป็นอัมพาต! พลังโจมตีเป็นสามเท่าของพลังโจมตีปกติ !
พลังในการโจมตีถูกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมถึงความสารถในการโจมตีเป็นวงกว้าง
อัสนีจรัสแสง: ความสามารถติดตัว เพิ่มความเร็วให้กับตัวเองสิบสองเท่า!
ความเร็วของมันถูกเพิ่มขึ้นสูงมาก!
ความเร็วเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สัตว์อสูรสายควบคุมสามารถเอาชีวิตรอดได้
ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับทักษะผสานทลาย ชิงสุ่ยไม่แปลกใจนัก
อัสนีพิโรธ: ความสามารถติดตัว เพิ่มพลังโจมตีให้กับอัสนีกัมปนาทและอัสนีจู่โจมเป็นสามเท่า!
เมื่อเห็นความสามารถของอัสนีพิโรธในตอนท้ายสุด ชิงสุ่ยถึงกับยิ้มออกมา ตรงกับชื่อวิชาของมันเลยซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการโจมตีให้กับอสูรอัสนีคลั่ง ในตอนนี้แม้แต่ตัวอสูรอัสนีคลั่งก็ยังมีพลังโจมตีกว่าสองพันสี่ร้อยสุริยา นี่เป็นวิชาที่สำคัญที่สุดของอสูรอัสนีคลั่งที่อยู่ในสายควบคุม
ชิงสุ่ยกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เขาหวังว่าตะเกียงร้อยวิญญาณและกลองสะบั้นสวรรค์จะถูกพัฒนาขึ้นในเร็ววัน เมื่อมันเกิดถูกพัฒนาแล้ว เขาจะกลายมาเป็นผู้นำแห่งมหาทวีปอู่เซียตะวันตก ไม่ต้องสนว่าสองอัจริยะแห่งนิกายปฐพีซอนเร้นจะแข็งแกร่งเพียงใด ชิงสุ่ยจะไม่มีความกังวลและมีความมั่นใจในการจัดการพวกเขา
หยกผสานวิญญาณก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน เขารู้สึกเสียใจที่สองสิ่งที่เขาต้องการนั้นยังไม่สามารถพัฒนาขึ้นได้ และยังไม่รู้เช่นกันว่าต้องใช้วิธีใด
ฝึกยุทธ,ปรุงยา วาดรูป… สูตรการปรุงยาของน้ำหอมมรกตทองคำกำลังจะปรากฏขึ้นในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก ในตอนแรกเขารู้สึกว่ายาเม็ดเทพโอสถที่ตนเองครอบครองอยู่ทรงพลังมาก แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าข้อจำกัดของพวกมันก็มีอยู่มากเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าเขาสามารถปรับปรุงยาเม็ดเทพโอสถเหล่านี้ได้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการปรุงยาของเขา นอกเหนือจากนี้เขายังหวังว่าจะได้รับยาเม็ดเทพโอสถในตำนานที่จะช่วยฟื้นชีวิตจากความตายได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่ามีอยู่จริงหรือไม่
เช้าวันรุ่งขึ้น ชิงสุ่ยตื่นแต่เช้าตรู่และออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ อย่างไรก็ตามเขาออกมาก่อนช่วงเวลานัดหมาย จึงใช้เวลาเหล่านั้นฝึกวิชานิดหน่อย หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวทั้งสองก็ได้ตามมา
อาหารเช้าถูกเตรียมไว้เรียบร้อยโดยชิงสุ่ยและแน่นอนมันมีรสชาตดีมาก อย่างไรก็ตามก่อนที่ทุกคนจะลงมือทานอาหาร ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงการรับรู้ทางจิตวิญญาณของใครบางคนที่เพ่งเล็งมายังตัวเขา การรับรู้ทางจิตวิญญาณในครั้งนี้ไม่เหมือนของมนุษย์และมีความพิศวงเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่ามันจะถูกเพ่งเล็งมาอย่างเฉพาะเจาะจง แต่เขารู้ดีว่ามันมีระยะห่างไกลออกไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าการรับรู้ทางจิตวิญญาณมีความผิดปกติ ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิด มันต้องเป็นของสัตว์อสูรสักตัวอย่างแน่นอน
ชิงสุ่ยไม่มั่นใจว่าเขาจะทานอาหารจนหมดมื้อได้หรือไม่ แต่ก็ยังคงทานต่อไปพร้อมกับหญิงสาวทั้งสอง
เขาสงสัยเหลือเกินว่าใครกันที่ต้องการจะติดต่อกับเขา?
ปกติเขามีเรื่องกับผู้คนไปทั่ว แต่ในครั้งนี้คงมีเพียงสิ่งเดียวที่ก่อปัญหาให้กับเขา
นิกายปฐพีซ่อนเร้น!
แม้ว่าชิงสุ่ยจะทราบดีเรื่องชื่อเสียงของนิกายปฐพีซ่อนเร้นในความเกี่ยวของกับชนป่าเถื่อน แต่เขาไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด