Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – ตอนที่ 1312

ตอนที่ 1312

บทที่ 1312 –วิหกเพลิงที่ร่ายรำ

 

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าวออกมาชิงสุ่ยรู้สึกรังเกลียดเขาเป็นอย่างมาก จริงๆแล้วสิ่งที่ชายชรากล่าวมา เขานั้นก็เคยสัมผัสมาก่อนอย่างมากมาย นี่คือเนื้อแท้ของคนเรา ไม่ว่าจะดีหรือเลวสักแค่ไหน พวกเขานั้นจะปกป้องครอบครัวของเขาอย่างดีที่สุด แม้แต่โลกในอดีตชิงสุ่ยก็เคยพบเรื่องราวเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง หากเทียบความแข็งแกร่งกับโลกในอดีตของเขา มันเก็บสามารถเทียบได้เท่ากับเงิน ยิ่งมีเงินมากมายเท่าไรก็ยิ่งทำให้คนเหล่านั้นละเลยความเป็นมนุษย์มากไปเท่านั้น…

 

 

ชายชราที่เงียบอยู่ได้กล่าวออกมา “ตราบเท่าที่เรามีอำนาจ เราก็สามารถทำทุกๆสิ่งที่เราต้องการได้ ขอแค่มีอำนาจเราก็จะมีความสุขเอง”

 

 

“ก็จริงที่อำนาจคือทุกๆอย่างแต่เราก็ไม่ควรใช้อำนาจที่มีรังแกคนที่อ่อนแอกว่านิ?”ชิงสุ่ยกล่าว

 

“โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน และเอาชีวิตรอด คนที่อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแกร่งกว่า นี่เป็นกฎที่มีมาตั้งแต่ข้านานแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นหรอกเจ้าหนุ่ม เจ้าจงมองความจริงซะ!”ชายชรากล่าว

 

 

 

ชิงสุ่ยเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จริงที่คำพูดของชายชราถูกต้องและมาสามารถทำให้เขาคล้อยตามได้ แต่นี่มันไม่ใช่ดังเหมือก่อนแล้ว โลกใบนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง กฎระเบียบได้ถูกสร้างมาเพื่อทำให้คนอื่นๆอยู่ร่วมกันได้ หากไม่มีกฎดังกล่าว โลกนี่ก็ไม่ต่างอะไรกับโลกที่พักไปแล้ว มนุษย์เองก็ไม่ต่างกับสัตว์ทั่วๆไป

 

 

“เอาละเราหยุดพูดกันดีกว่า ในวันนี้ดูเหมือนว่าหาก ในวันนี้ดูเหมือนใครสักคนหนึ่งต้องตายลงไป หากเป็นเจ้าที่ตายลงไป ข้าจะให้สัญญากับเจ้า ข้าจะปล่อยเด็กและผู้หญิงไป ตราบเท่าที่พวกเขาจะไม่มาแก้แค้นข้า”ชิงสุ่ยกล่าว

 

 

“ถ้าเราพวกเราทั้งหมดและเหล่าผู้ชายตายลง มันก็ไม่ความหมายอีกแล้ว แม้ว่าเจ้าจะปล่อยใครไป ยังไงซะตระกูลเป่ยถังก็ล้มสหายอยู่ดี ถึงเจ้าไม่ฆ่าพวกเขาๆก็ถูกคนอื่นฆ่าอยู่ดี”ชายชรากล่าว

 

ชิงสุ่ยเข้าใจความหมายนี้ดีตระกูลที่อยู่ในระดับสูงเช่นนี้ ย่อมมีศัตรูที่มากมาย  นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่ใช่คนดีมากนัก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะถูกแก้แค้น

 

“เห้อ นี่เป็นกฎแห่งกรรมตั้งแต่เจ้าเลือกเดินในเส้นทางนี้ นี่คือหนทางที่เจ้าต้องทนรับไว้”ชิงสุ่ยยิ้มและเรียกเกราะอสูรสำแดงออกมา

 

“ข้ามีขอเสนอ!”ชายชรากล่าวออกมา

 

ชิงสุ่ยมองชายชราอย่างสับสน

 

“ข้ารู้ดีเจ้านั้นแข็งแกร่งขนาดไหน นอกจากนี้คงไม่มีใครหยุดเจ้าได้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลเป่ยถังจะแก้แค้นเจ้า แต่อย่างไรซะข้าก็หวังว่าเจ้าจะไม่สังหารคนอื่นๆ ข้าขอใช้ชีวิตของพวกข้าเหล่าอาวุโสแลกกับพวกเขา แลกกับคนรุ่นใหม่ของเรา”

 

“ข้าคงไม่ทำเรื่องที่เสี่ยงเช่นนั้นอย่างแน่นอน”

 

“.ในวันนี้เราคงไม่มีทางรอดกลับไป ส่วนคนที่เหลืออยู่ก็มีแค่เด็กๆ คนรุ่นใหม่ที่อ่อนแอเท่านั้น พวกเขาไม่มีทางที่จะสามารถต่อกรกับเจ้าเลยได้แม้แต่น้อย ข้าแค่อยากให้เจ้าปล่อยพวกเขาไป อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถปกป้องผู้หญิงและเด็กในตระกูลของเรา ไม่เช่นนั้น เจ้าก็จงฆ่าพวกเราเสียให้หมดเลยดีกว่า ”ชายชราถอนหายใจ

 

“ข้าได้ยินมาว่ายังมีตระกูลเป่ยถังในทวีปอื่นๆอีกนิ ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะไม่ไปขอร้องให้พวกเขามาแก้แค้นข้า”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาและคิดอย่างถี่ถ้วน

 

 

“ทวีปอื่นๆรึ? จริงอยู่ที่มีพวกเขาอยู่ แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าเราเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้พวกเรายังไม่มีความสัมพันธ์กันด้วยซ้ำ พวกเรานั้นต่างแยกย้ายและไม่เกี่ยวข้องกันซึ่งกันและกัน นอกจากนี้พวกเราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ใดด้วยซ้ำ”

 

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ยอมยกเลิกความคิดนี้จริงๆสินะ นี่เจ้าเริ่มทำให้ข้าปวดหัวจริงๆแล้ว เอาเถอะยังไงซะ ข้าจะไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดของเขา เด็กและผู้หญิงจะไม่ถูกสังหาร แต่สำหรับผู้ชายทุกๆคนนั้นต้องตาย!!”ชิงสุ่ยกล่าว

 

ในตอนนั้นหลังจากที่สัมผัสได้ว่าต้องพ่ายแพ้ชายชราจึงได้ใช้อุบายนี้ขึ้นมา และใช้คำพูดนับพันเพื่อปั่นหัวชิงสุ่ย นี่เป็นหนทางเดียวที่ตระกูลของเขาจะคงอยู่ได้แต่ถึงอย่างไรมันก็ถูกทำลายไปแล้ว

“ตาแก่ เจ้าต้องการสู้ตัวต่อตัว หรือเข้ามาทั้งหมด?”ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

 

“ถ้าแม้ข้าจะไม่ได้เกลียดเจ้า แต่ข้าเองก็แพ้ไม่ได้ พวกเราจะร่วมกันจัดการเจ้า เป็นเจ้าที่เป็นปิศาจร้ายต้องการทำลายตระกูลของข้า!”ชายชรากล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นปิศาจร้าย

 

“เริ่มกันเถอะ!”ชิงสุ่ยกล่าว

 

 

“สร้างรูปแบบ”ชายชราตะโกน

 

 

“ถ้าเจ้าสามารถทำมันได้ก็เชิญ!”

 

 

เสียงของชิงสุ่ยดังขึ้นขณะที่เหงาสีดำได้ปรากฏข้างหลังชายชรา ภาพของชิงสุ่ยหายไปและไปปรากฏตัวที่ข้างหลังชายชราในตอนนี้ ขณะนี้มือของเขากำแส้เพลิงที่ดุดันเอาไว้

 

 

ย๊า!

 

ในครั้งนี้การจู่โจมทวีคูณของเขาได้ปรากฏออกมา

 

 

 

แส้เพลิงได้รัดลงบนร่างชายชราอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ และสังหารเขาในพริบตา

 

ชิงสุ่ยรู้ดีว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่เขาจะรับมือกับรูปแบบของกลุ่มคนเหล่านนี้ รูปแบบของพวกเขาเป็นเอกลักษณ์และยากที่จะทำลายอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามรูปแบบนี้ก็มีจุดอ่อนที่ผู้ใช้หากขาดใครไป ความแข็งแกร่งขอมันก็จะลดลงไปจำนวนมาก

 

เมื่อเห็นสิ่งที่ชิงสุ่ยทำชายชราสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬ

 

เทือกเขาเก้าเทวา!

 

ชิงสุ่ยเรียกเทือกเขาเก้าเทวาออกมาด้วยพลังที่แข็งแกร่งถึง 9000สุริยา มันทำให้กลุ่มของชายชราต้องแยกตัวออกห่างกัน คนส่วนใหญ่นั้นถูกสังหารในพริบตา ในตอนแรกชายชราต้องการที่จะเข้าไปช่วยคนอื่นๆแต่เขาก็มิอาจทำได้ เพราะชิงสุ่ยได้ใช้กระบี่สีทองตรงเข้ามาหาเขาแล้วในตอนนั้น

 

มันคือกระบี่สีทองที่เกิดจากเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุของเขา

 

 

การจู่โจมโดยเฉียบพลันของชิงสุ่ยด้วยพลังวิญญาณ ทำให้ชายชราหวาดกลัวอย่างมาก  เขาต้องการที่จะหลบหลีกออกไปในตอนนี้ กระบี่สีทองได้ตรงทะลุร่างของชายชราอีกคนที่อยู่ข้างหลังชายชราแรงระเบิดที่ทรงพลังที่ได้ประทุออกมาสร้างความหวาดกลัวให้เขาอย่างมา

 

ปราณจักรพรรดิ!

 

ในตอนนั้นชิงสุ่ยเรียกสัตว์อสูรทั้งสามของเขาออกมาและปล่อยให้พวกมันเล่นกับคนอื่นๆ พร้อมกับเทอกเขาเก้าเทวา

 

 

ชายชราไม่เคยคิดว่าชิงสุ่ยจะมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นเทอกเขาเก้าเทาวาอยู่ มันนั้นเต็มไปด้วยพลังจู่โจมป้องกันและยังมีความเร็วที่สูงอย่างมาก มันเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา ตั้งแต่เขาเคยต่อสู้มานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกผิดและคิดจะต่อต้านผู้ชายคนนี้ เขาสามารถรู้ได้ในทันทีตอนนี้มีแต่ความตายเท่านั้นรอเขาอยู่

 

ในตอนนี้เองเมื่อเขารู้สึกตัว ความแข็งแกร่งของก็ลดลงไป20% ด้วยปราณจักรพรรดิของชิงสุ่ย มันยิ่งสร้างความตระหนกให้กับเขา

 

ในตอนนี้เองอสูรอัสนีคลั่ง ได้ใช่ อัสนีจู่โจม และ อัสนีกัมปนาทออกมา พร้อมกับเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดที่ได้ตรึงร่างของผู้คนในตอนนั้น!

ตูม!

 

ในตอนนี้ชายชราอื่นๆได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้แต่ชายชราก็บาดเจ็บมิใช่น้อย เขารู้ดีเขาคงทนต่อการจู่โจมเช่นนี้เป็นครั้งที่สองไม่ได้อย่างแน่นอน

 

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยมองไปรอบ ผู้คนส่วนมากได้ถูกำจัดไปเกือบหมด  ชิงสุ่ยยังไม่รอช้ารีบส่งวิหกเพลิงที่มีพลังจู่โจมมากที่สุด ตามด้วยอสูรอัสนีคลั่งและด้วยแมงมุม7เศียรเข้าสังหารพวกเขาในทันที

 

 

“เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้ด้วยเรื่องเพียงเท่านี้ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะประลองกับเจ้าตัวต่อตัว อย่าใช้พวกขอองวิเศษและสัตว์อสูรพวกนี้สิ”

 

“ตัวต่อตัว เจ้ามีปัญญารึ เพียงแค่กระดิกนิ้วเจ้าก็ตายเสียแล้ว!”ชิงสุ่ยกล่าว

 

 

หลังจากที่กล่าวจบชิงสุ่ยได้เรียกหมูป่านักล่าสมบัติออกมา หมูป่าตัวเล็กๆสีทองได้วิ่งเข้าหาชายชราอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นเองหลุมเลือดขนาดใหญ่ได้ปรากฏที่หน้าอกของเขา นั้นเป็นผลมาจากเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดที่ได้ทะลวงหน้าอกเขาไปในตอนแรก มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าสัตว์อสูรเช่นนั้นจะสามารถทำลายเกราะอสูรสำแดงของเขาลงได้อย่างง่ายดาย

 

ในตอนนี้ความมั่นใจ ความรู้สึกของเขาได้สลายหายไปจนหมด เวลานี้เองถุงแพรของเขาก็ถูกขโมยออกมาด้วยหมู่ป่าของชิงสุ่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชิงสุ่ยยิ้มออกมาก่อนที่จะเก็บถุงแพรพร้อมกับหมูของเขาเข้าไปในดินแดนหยกอย่างรวดเร็ว

 

…….

หลังจากนั้นไม่นานชิงสุ่ยได้จากไป ทิ้งไว้เพียงกองซากศพที่ใหญ่โตเอาไว้ ตอนนี้ตระกูลเป่ยถังพังพินาศแล้ว ในตอนนี้เมื่อตระกูลเป่ยถังพังพินาศลง เป้าหมายต่อไปของชิงสุ่ยก็คือจักรวรรดิราชสีชาตะ พวกเขาคือรายถัดไป

 

หนึ่งวันผ่านไป…

จักรวรรดิราชสีชาตะได้หายไปจากโลกนี้เรียบร้อยแล้ว พวกเขานั้นแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อต้องพบเจอกับชิงสุ่ย นอกจากนี้ชิงสุ่ยยังได้นำสมบัติที่ได้รับมาทั้งหมดของ2จักรวรรดิมอบให้กับวัดพระพุทธองค์ทองคำอีกด้วย ชิงสุ่ยได้จัดการเรื่องทั้งหมดในวันเดียวราวกับว่ามันนั้นไม่เป็นปัญหาอะไรเลยสำหรับเขานอกจากนี้ชิงสุ่ยได้เตรียมทุกๆอย่างไว้สำหรับเจ้าอ้วนในอนาคต

 

 

ตอนนี้เจ้าอ้วนได้กลายเป็นผู้ดูแลนิกายพุทธองค์เรียบร้อยแล้ว ด้วยทักษะของเขานั้นก็เพียงพอแล้วที่จะถูกยอมรับ แต่อย่างไรชิงสุ่ยก็ยังไม่วางใจเขายังคงจัดเตรียมของต่างๆเพื่อช่วยเหลือเขาให้มากกว่านี้

 

ถึงแม้ตอนนี้ตระกูลเป่ยถังและจักรวรรดิราชสีชาตะจะไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีมหาอำนาจอื่นที่คอยจ้องเล่นงานพวกเขาอยู่ อย่างไรก็ตามหากชิงสุ่ยยังอยู่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าแตะต้องที่แห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม

 

ชิงสุ่ยรู้ดีสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นเพื่อย้ำเตือนคนอื่นๆให้รู้ ใครก็ตามที่ต้องการทำร้ายสหายของเขา นั้นคือการประกาศสงครามกับเขา และผลลัพธ์ก็อย่างที่ปรากฏออกมา นี่เป็นการขู่ที่ชิงสุ่ยได้แสดงให้ทุกๆคนได้เห็นในตอนนี้ นอกจากนี้ยังเป็นการให้โลกรู้อีกว่าจักรวรรดิปราณเทวะนั้นได้อยู่ในการดูแลของเขา ในตอนนี้ไม่มีใครเลยสักคนที่กล้าขัดใจชิงสุ่ย ทุกๆคนกลับรู้สึกขอบคุณแลมีความสุขอย่างมากที่ชิงสุ่ยคอยดุแพวกเขา เมื่อมีชิงสุ่ยคอยดูแลพวกเขา พวกเขารู้ดีว่าอีกไม่นานจักรวรรดิปราณเทวะจะต้องเข้มแข็งมากขึ้นไปกว่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งนี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยต้องการอย่างมากที่สุด

 

….

สามวันผ่านไป ในวันนี้ชิงสุ่ยสามารถยกะดับของธงสวรรค์ปัญจธาตุขึ้นมาได้อีกหนึ่งระดับ ขณะที่มองไปที่การเปลี่ยนแปลงของมัน ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมากับผลที่ออกมาในตอนนี้

 

ระดับที่สองของธงสวรรค์ปัญจธาตุ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท