บทที่1351 – อี่หวง ตูซิน
หลังจากกระบวนการจบลงชิงสุ่ยก็ไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้เปิดเตาหลอมออกมา ข้างในเตานั้นมียาเม็ดสีขาวขยาดใหญ่อยู่2เม็ด นอกจากนี่มันยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่รุนแรงอัดแน่นอยู่ภายข้างใน
เมื่อมองไปที่มันหากเขากินหนึ่งในมันตอนนี้เขาก็สามารถทะลวงเข้าสู่จุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิได้ แต่ถึงอย่างไร หากเขาไม่ใช้มันก็สามารถไปถึงจุดๆนั้นได้อยู่ดีอาจจะเวลาอีกไม่นานนัก แต่อย่างไรก็ตาความแข็งแกร่งของจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดอย่างมาก 5แสนสุริยาคือความแข็งแกร่งที่เขาจะได้รับเมื่อทะลวงเข้าไป นอกจากนี้เมื่อไปถึงจุดนั้นได้เขาก็ยังจะสามารถใช้ยาเม็ดพรรพกาลแรงเริ่มเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาขึ้นไปอีกระดับได้
ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ได้เร่งรีบที่จะกินมันเข้าไป แต่เขากลับปรับแต่งร่างกายของเขาให้เสถียร หลังจากที่ใช้เวลายาวนานในการกลั่นยาครั้งนี้ชิงสุ่ยจำเป็นต้องพักผ่อนเสียก่อนเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณที่เขาสูญเสียไปในก่อนหน้า แม้ว่าครั้งนี้จะไม่นานเท่าครั้งก่อนแต่อย่างไรก็ตามพลังวิญญาณที่เขาสูญเสียออกไปนั้นแทบไม่ต่างกันมากนัก
ยาเม็ดบรรพกาลแรกเริ่ม…….
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้นั่งสมาธิลงและทำการฟื้นฟูร่างกายของเขา ในตอนนั้นเขาได้ทบทวนถึงสิ่งต่างเช่นสูตรการปรุงยาชนิดอื่นๆ เมื่อนึกไปนึกมาในตอนนั้นเองชิงสุ่ยได้นึกถึงสูตรที่เขาได้รับมานั้นทั้งหมดก็เพราะหยวนสู่ทั้งหมดเขาต้องขอบคุณเธอจริงๆ
นอกจากสูตรยาที่เขาได้รับมาจากเธอ ชิงสุ่ยยังมีสูตรยาเม็ดย่างก้าวมรกตที่ไม่สมบูรณ์ที่เขาได้รับมาในก่อนหน้านี้ เขานั้นไม่รู้ว่าสมุนไพรชนิดใดที่ขาดหายไป และสามารถใช้ยาชนิดใดแทนได้บ้าง นอกจากนี้ยาเม็ดที่เขาทำออกมาจากสูตรยาที่มีอยู่ถึงแม้จะสามารถใช้ได้ แต่ก็มีโอกาส1%ที่มันจะทำลายเส้นลมปราณทั้งหมด ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่ได้สนใจที่จะปรับแต่งมันต่อไป 1% ไม่ถือว่ามากมายนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อันตราย หากโชคร้าย สิ่งที่เขาพยายามสร้างมาทั้งหมดจะพังพินาศไป ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่ต้องการที่จะเสี่ยงกับมัน
ถึงแม้เขาจะมีวิชาการแพทย์ที่เก่งกาจเท่าไร แต่การรักษาเส้นลมปราณที่ถูกทำลายไปนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างมาก มันทำให้เขานึกถึงครั้งที่ถูกทำลายเส้นลมปราณ ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยงกับมันอีกครั้ง
ในตอนนี้เขาได้แต่พยายามหาว่าอะไรคือส่วนที่ขาดหายไป ถ้าไม่มีโอกาสจริงๆเขาก็จำเป็นที่ต้องใช้มัน หนึ่งในหนึ่งร้อยนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่ต่ำ แต่ชิงสุ่ยเองก็ไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้กับมัน
หยวนสู่ ชิงสุ่ยนึกถึงหยวนสู่ขึ้นมา หากเขาให้เธอศึกษามันเขาเชื่อว่าเธอต้องพบทางแก้ไขมันได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงวิธีการที่จะจัดการมันขึ้นมาได้มันให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ยาเม็ดย่างก้าวมรกตนั้นเป็นยาเม็ดที่เต็มไปด้วยพลังที่มหาศาลมันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผู้ที่ใช้มันได้มากมายนัก
นอกจากนี้มันยังสามารถใช้ได้กับคนทุกๆระดับการบ่มเพาะ แต่ถึงอย่างไรก็จะแสดงผลที่แตกต่างออกมาตามความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคล
ในครึ่งปีที่ผ่านมากสมบัติบางอย่างของเขาได้รับการยกระดับขึ้นไปสู่อีกระดับไม่ว่าจะธงสวรรค์ปัญจธาตุหรือของอื่นๆก็ตาม
เช่นเดียวกับมังกรไอยราเกล็ดทองคำที่ใกล้เขาสู่จุดสุดของระดับจักรพรรดิ และภายใต้กลองสะบั้นสวรรค์จะทำให้มันนั้นเข็งแกร่งขึ้นอีกเท่าตัว และเมื่อใดที่มันเข้าสู่จุดสุดของระดับจักรพรรดิ จะไม่มีใครในระดับจักรพรรดิที่สามารถต่อกรกับมันได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ว่าอีกไม่นานมันก็จะสามารถทะล่วงเข้าสู่จุดสุดของระดับจักรพรรดิ และเมื่อนั้นมันต้องต่อกรกับชะตาอสูรสวรรค์ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญของสัตว์อสูรที่จะทะลวงเข้าสู่ปราณบัญชาสวรรค์พินาศ
หากมันก้าวข้ามสิ่งนี้ไปได้ มันก็จะกลายเป็นสัตว์อสูรสวรรค์ และได้รับขอบเขตพลังและการเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้ง
ในเช้าวันถัดไปชิงสุ่ยได้ออกมาข้างนอกในเวลาไม่สายมาก ทุกๆครั้งที่เขาออกมาจากดินแดนหยกมันก็จะเป็นเวลาเช้าเสมอ ในตอนนี้เขานั้นยังไม่ได้กินยาที่เขาพึ่งปรุงขึ้นมาสำเร็จ เขายังต้องใช้เวลาอีกสักพักในการตัดสินใจในตอนนี้
นอกจากนี้ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าหยวนซุทำอะไรอยู่ บางทีตอนนี้เธอกำลังเรียนทำอาหารหรือกำลังศึกษาเรื่องเครื่องปรุงอยู่ก็ได้ นั้นเป็นเพราะชิงสุ่ยที่ทำให้เธอนั้นต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมาก เวลานี้ทำให้เธอนั้นยุ่งกับตัวเองมากยิ่งขึ้น
ในขณะเดินเข้าไป เขาเห็นเธอที่กำลังขะมักเขม้นกับการทำอาหารอยู่ มันอดที่จะทำให้เขายิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นเขา เธอเองรู้สึกเขินอายเล็กน้อย และแสดงท่าทางตื่นตะหนกออกมา “เจ้าอยากลองชิมฝีมือข้าหรือไม่ ข้าทำอะไรบางอย่างไว้ให้เจ้าด้วย?”
“แน่นอน!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา
ไม่นานนักหยวนสู่ได้นำถ้วยที่บรรจุอะไรบางอย่างเอาไว้วางลงที่บนโต๊ะ
ในขณะที่ชิงสุ่ยนั่งลงและดมกลิ่นของอาหารที่หยวนสู่ทำขึ้น ขณะที่เธอนั่งลงตรงข้ามกับเขา
“ชิงสุ่ยเจ้าเคยได้ยินเรื่องตระกูลอี่หวงและตระกูลสุ่ยหรือไม่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความคิดเห็นที่ไม่ลงตัวกัน”
“ไม่ลงตัวกัน?”
“ดูเหมือนตระกูลสุ่ยจะเข้าไปยุ่งกับการค้าของตระกูลอี่หวง เพื่อเป็นการท้าทายและประกาศสงครามกับตระกูลอี่หวง”หยวนสู่กล่าวออกมาขณะที่หยิบขนมขึ้นมากิน
“เจ้าคิดว่าระหว่างผู้นำตระกูลอี่หวงกับตระกูลสุ่ยใครกันที่เหมาะจะเป็นผู้นำเมืองอี่หวงมากกว่ากัน?”ชิงสุ่ยยิ้มและถาม เดิมทีเขานั้นไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลสุ่ยมากนัก
หยวนสู่กระพริบตาและมองไปที่ชิงสุ่ย “ทั้งคู่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ แต่ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นเหมือนกัน แล้วเจ้ารู้ไหมคนที่คอยตามข้าอยู่คือใครกัน?”
“ใครรึ?”
“อี่หวง ตูซิน!”
ชิงสุ่ยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยในตอนนี้ “แล้วเขายังคงตามตื้อเจ้าอยู่อีกไหม?”
“ใช่ เมื่อสองวันก่อนเขามาหาข้าและกล่าวว่าแม้ข้าจะกลายเป็นคนของหอคอยจักรพรรดิไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าข้าจะหนีพ้นเอื้อมมือของเขาไปได้” ในตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะบอกชิงสุ่ยและขอร้องให้เขาช่วยเธออีกครั้ง
อี่หวงตูซิน นั้นเป็นคนของตระกูลอี่หวง และคำว่า ‘ตู’นั้นคือฉายาที่ไดรับเลือกมาให้เป็นผู้อาวุโสของตระกูล ในตอนนี้ชิงสุ่ยกำลังสงสัยว่าเขาคือพ่อที่ไร้มนุษยธรรมของของอี่หวงกู่หวู๋หรือไม่?
“แล้วมีอะไรที่เขาพูดออกมาอีกไหม?”ชิงสุ่ยถามออกมาเพราะตอนนี้เขาจะไม่อยู่อีกสองสามวัน
“เขาบอกว่าเขาจะกลับมารับตัวข้าอีกสองสามวัน ให้ข้าเตรียมใจเป็นภรรยาน้อยคนที่25ของเขาเอาไว้”
“หน้าด้าน หากเขากล้ามา ข้าจะทำให้เขาสูญพันธ์!”ชิงสุ่ยไม่สามารถระงับอารมของเขาไว้ได้อีกต่อไป
หยวนสู่เขินอายเล็กน้อยเธอนั้นเขาใจได้ดีถึงความหมายของชิงสุ่ย เมื่อเห็นท่าทางของเขามันทำให้เธอมีความสุขอย่างมากในตอนนี้
“อย่าได้กังวล หากมีใครกล้าแตะต้องคนของหอคอยจักรพรรดิมันจะได้เจอดีกับข้า และข้าจะทำให้มันเสียใจไปตลอดชีวิต!”
“ข้าจะอยู่ที่นี่สักพัก หากมีอะไรเจ้าสามารถช่วยเหลือข้าได้ในทันที แต่หากเจ้าไม่สามารถทำอะไรได้ก็โปรดอย่ายื่นมือเข้ามา อย่าเสี่ยงเพราะพวกตระกูลอี่หวงนั้นแข็งแกร่งอย่างมากในเมืองแห่งนี้”หยวนสู่กล่าวออกมาเบาๆ
“เจ้าเป็นสหายของข้า ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครตราบเท่าที่พวกเขากล้าข่มเหงเพื่อนของข้า พวกเขาต้องตาย เจ้าไว้ใจได้จะไม่มีใครที่สามารถรังแกเจ้าได้”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย
“ขอบคุณ สหายของข้า!” เธอรู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริง ย้อนกลับไปตอนห้าทวีปเธอรู้ดีว่าชิงสุ่ยเป็นคนรักษาสัญญาขนาดไหน ดังนั้นเธอจึงสามารถว่างใจได้แล้วในตอนนี้
“จริงสิข้ามีเรื่องที่จะให้เจ้าช่วยสักหน่อย พอดูสูตรยาของข้ามันยังไม่สมบูรณ์ ข้าอยากให้เจ้าช่วยตรวจดูมันหน่อย”
“มันคือ?”
“สูตรยาที่ข้าบังเอิญได้รับมา แต่มันยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าช่วยทำให้มันสมบูรณ์”
ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆส่งสูตรยาดังกล่าวไปให้กับหยวนสู่
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าหยวนสู่นั้นไม่มีทางเลือกจึงได้บอกเรื่องดังกล่าวกับเขา ซึ่งแน่นอนเธอต้องยินดีช่วยเขาแน่นอน หากยาตัวนี้มันมีประโยชน์กับชิงสุ่ยในตอนนี้ เธอจะช่วยเขาโดยไม่ลังเลใจ
ในตอนนั้นเองมีคนเดินเข้ามา คนๆนั้นคือหยวนหลง
“นายท่าน ท่านหญิงซู นายท่านอี่หวงต้องการพบท่านหญิง!”
“ทำไมเขาถึงมาเร็วเช่นนี้ หยวนหลงไปบอกเขาว่าท่านหญิงจะออกไปเจอเขา”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
“ชิงสุ่ย..”
“มาดูสิว่า เขาต้องการอะไรกัน?”ชิงสุ่ยยิ้มและเดินออกไป
เมื่อเห็นอี่หวงตูซิน เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าเขาคือพ่อแท้ๆของอี่หวงกู่หวู๋ คนที่กู่หวู๋ไม่ยอมรับว่าเขาคือพ่อของเธอ แต่ถึงอย่างไรพวกเขานั้นก็มีท่าทางรูปร่างใบหน้าที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก
เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหล่าและดูเหมือนชายวัยกลางคน นอกจากนี้เขายังมีกลิ่นอายที่สง่างามและดูสูงศักดิ์
เขานั้นเป็นอัจฉริยะ ที่ขี้เกียจถึงจะมีความสามารถมากมายเท่าไร่เขาก็ไม่เคยสนใจมัน ยกเว้นเรื่องผู้หญิง หากเขาสนใจหญิงใดเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปจนกว่าจะได้มาครอบครอง ในอดีตไม่ว่าจะเป็นแม่หม้าย หรือหญิงที่แต่งงานแล้วก็ถูกเขาครอบงำเกือบทั้งหมด แม้จะรู้ส่ามันไม่ดีแต่เขาก็ไม่สามารถหักห้ามใจได้
เมื่อมองไปที่เขาชิงสุ่ยรู้ได้ในทันทีว่าเขาอยู่ในจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิขั้นต้น ชิงสุ่ยมั่นใจได้เลยว่าเขาคืออัจฉริยะจริงๆตามที่เคยได้ยินมา
หากในตอนนี้เกิดการสู้กันชายคนนี้คงมิอาจสู้เขาได้ด้วยเทือกเขาเก้าเทวาที่มีพลังถึง 290000สุริยา และความเร็วในตอนนี้ของชิงสุ่ยเป็นเรื่องยากที่เขาจะต่อกรได้ แต่ถึงอย่างไรชิงสุ่ยก็มิอาจประมาทชายคนนี้นั้นมีความแข็งแกร่งไม่ต่ำกว่า 3แสนสุริยา นอกจากนี้หากยืดเยื้อนานไปจะเป็นเขาที่เสียเปรียบ ด้วยทักษะและความสามารถของเขาๆต้องมีไพ่ตายแอบซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน แต่หากเขาใช้การจู่โจมทวีคูณออกมาคงจะไม่ทางใดเลยที่ชายคนนี้จะรับมือเขาได้
ชิงสุ่ยยิ้มออกมาด้วยความเหนือชั้น ในขณะที่ชิงสุ่ยมองไปที่ผู้ติดตามของอี่หวงตูซินสองสามคนข้างหลัง แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาอ่อนแอเกินที่จะทำให้เขาสนใจ
“สวัสดี นายท่านอี่หวง! ”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว
“สวัสดีท่านหมอชิง และแม่นางหยวน”เขากล่าวออกมาแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่ลงจากเกี๊ยวก็ตาม
หยวนสู่ไม่สามารถทำอะไรได้ๆแต่มองไปที่ชิงสุยและมองไปที่อี่หวงตูซินเป็นครั้งคราว
“ท่านมีธุระอันใดรึถึงมาหา ท่านหญิงซู ถึงที่นี่? ในตอนนี้เธอยุ่งมากๆเลย”ชิงสุ่ยตั้งใจยิงคำถามที่ตรงประเด็น ใส่เขาในทันที