บทที่ 1394 – ความโกรธของวิหคเพลิงนรกานต์ ไม่มีใครเหลือรอด
เสียงระเบิดขนาดใหญ่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนรอบข้าง พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกระแทกของการระเบิดขนาดใหญ่ เพลิงนรกภูมิระเบิดออกเป็นพื้นที่ว่างสีเทา
ชายชราหายไป เขาตายในทันที มันอาจทำให้ชิงสุ่ยตกตะลึง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าวิหคเพลิงนรกานต์ นี่คือพลังของมัน พลังในระดับปกติ
วิหคเพลิงนรกานต์เปลี่ยนเป้าหมายไปหาชายชราอีกคน
เพลิงนรกภูมิ
ชายชราที่เป็นเป้าหมายเริ่มตื่นตระหนก เขาร้องไห้ออกม “ผู้ปกครองฝั่งซ้าย ช่วยข้าด้วย!”
หลังจากการโจมตี สมาชิกของตระกูลเฉ่ต่างล้มตายหรือบาดเจ็บมากกว่าครึ่งหนึ่ง สามในสี่ของสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฉ่ตายแล้ว ในเวลานี้ชายชราไม่สนใจที่จะรักษาหน้าตาตัวเอง เขาตะโกนขอความช่วยเหลือออกมาสุดเสียง
วารีเยือกแข็ง!
ในขณะนี้ชายชราซึ่งสวมชุดหงส์เพลิงมรกตลงมือ ตัวของเขาไม่ได้ขยับ แต่เขาแค่โบกสบัดมือ เสาน้ำแข็งถูกยิงออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด เพียงชั่วพริบตา มันก็ไปถึงเพลิงนรกภูมิ
ตึม!
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น เพลิงนรกภูมิระเบิดออกกลางอากาศ ชิงสุ่ยตกใจ ผู้ปกครองฝั่งซ้ายนี้มีความเฉลียวฉลาดในการต่อสู้มาก เขารีบหาวิธีตอบโต้เพลิงนรกภูมิ
ชายชราตระกูลเฉ่ยอมจำนน ดูเหมือนว่าคนอื่นๆก็เริ่มที่จะถอย ตอนนี้เหลือคนอยู่เพียง 50 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ที่เหลือล้วนมีฝีมือ นี่คือเหล่าผู้ฝึกตนระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาจของตระกูลเฉ่ พวกเราเป็นเสาหลักของตระกูลเฉ่ทั้งหมด
ชิงสุ่ยมองไปทางชายชราในชุดหงส์เพลิงมรกต ชายชราให้ความรู้ที่สึกลึกลับ มันทำให้ชิงสุ่ยผู้ครอบครองวิหคเพลิงนรกานต์ รู้สึกกังวลใจ
เสียงร้องขู่ดังขึ้น!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีการสื่อสารทางจิตของชิงสุ่ยกับวิหคเพลิงนรกานต์ที่ทำให้มันสงบลง มันก็อาจจะพุ่งเข้าไปต่อสู้
หัวใจผู้ปกครองฝั่งซ้ายของกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำกำลังสั่นไหว ตอนนี้เขาต้องสงบใจลง เขาจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยและค่อยๆก้าวออกมา
“คุณชายชิง สิ่งที่เจ้าได้แสดงออกมา มันเกินกว่าจุดที่จะถอยหลังกลับ ถ้าข้าคุมตัวสัตว์อสูรของเจ้าเอาไว้ เจ้าจะต่อสู้ต่อได้อย่างไร?” เสียงของชายชรานั้นสงบ แต่มีพลังที่สามารถทะลวงไปถึงจิตวิญญาณได้
“คุมตัว? เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหยุดสัตว์อสูรของข้าได้งั้นหรือ” ชิงสุ่ยหัวเราะเยาะชายชรา
ผู้ปกครองฝั่งซ้ายเหลือมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างจริงจัง “เช่นนั้นข้าจะลองดู ข้าอาจจะทำมันได้!”
หลังจากที่พูดเสร็จแล้ว เขาก็ขยับมือทั้งสองและเหวี่ยงออกไปทันที
น้ำแข็งไร้ขอบเขต!
ทักษะสังหารไร้ปรานี!
หงส์เพลิงนรกานตสยายปีก ดวงจิตวิหค!
เพลิงนรกภูมิ!
เพลิงนรกภูมิ!
……
ทันใดนั้นร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งสีฟ้า แม้แต่เพลิงนรกภูมิที่วิหคเพลิงนรกานต์ปล่อยออกมาก็ถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งสีฟ้า!
เมื่อเห็นว่าวิหคเพลิงนรกานต์ถูกปิดผนึกไว้ในน้ำแข็ง ชิงสุ่ยก็เริ่มตื่นตระหนก ถ้าชายชราโจมตีเขา เขาอาจจะพบกับความยากลำบาก
กระบี่ทองคำ!
ชิงสุ่ยซัดกระบี่ทองคำใส่ผู้ปกครองฝั่งซ้าย
“ด้อยพลังเกินไป!”
ผู้ปกครองฝั่งซ้ายส่ายศีรษะขณะที่ปล่อยให้กระบี่ทองคำเข้าถึงตัวเขา ไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น
“นี่มันอะไร? เจ้าสูญเสียสัตว์อสูร เคล็ดวิชาการต่อสู้ของเจ้าผู้ปิดผนึก ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้างในการต่อสู้ หากเจ้าไม่เหลืออะไรซ่อนอยู่ มันเป็นคราวของข้าแล้ว” ผู้ปกครองฝั่งซ้ายมองไปที่ชิงสุ่ยและกล่าวอย่างใจเย็น
เขาชอบสังหารผู้ที่อยู่ในความสิ้นหวัง พวกเขาจะตายไปด้วยความขุ่นแค้น
“ลงมือได้เลย อย่าหวังจะสังหารข้าได้”
เมื่อชิงสุ่ยพูดเสร็จ เขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปข้างวิหคเพลิงนรกานต์ที่ถูกผนึกไว้ ชิงสุ่ยขยับมือและปรากฏเปลวไฟขึ้น
น้ำย่อมดับไฟ!
อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยไม่ใช่ไฟธรรมดา มันคือเคล็ดวิชาเปลวเพลิงขั้นแรกเริ่ม!
ฟู่!
แส้เปลวเพลิงขั้นแรกเริ่มขนาดใหญ่กระแทกไปที่น้ำแข็งและเกิดรอยแตกขนาดเล็กขึ้นทันที ในสภาพนี้คงต้องใช้หลายร้อยครั้งกว่าน้ำแข็งจะแตก
“เมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็จะส่งเจ้าไปตามทาง!”
มังกรน้ำแข็งฟาดฟัน!
นี่เป็นทักษะสังหารไร้ปรานีอันที่สอง!
ผู้ปกครองฝั่งซ้ายมีพลังมากกว่า 20 ล้านสุริยา……
แม้ว่าจะถูกชิงสุ่ยลดพลัง เขาก็มีพลังเหลือถึง 17 ล้านสุริยา เขายังสามารถใช้ทักษะสังหารไร้ปรานีได้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือการฆ่าชิงสุ่ยในคราเดียว
เคล็ดวิชาการต่อสู้ของผู้ปกครองฝั่งซ้ายทั้งล้วนรวดเร็ว ด้วยระยะห่างที่ไม่ไกล มันอาจจบลงในทันที
ปัง!
ปราณทองคำปรากฏขึ้นช่วงสั้นๆ ชิงสุ่ยใช้เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด เขารู้ดีว่าเกราะทองคำวชิระจะป้องกันการโจมตีที่รุนแรงได้ เนื่องจากเขายังไม่ได้ใช้มันเลยวันนี้
ปัง!
ภาพร่างของชิงสุ่ยพุ่งไปมาไม่กี่ครั้งและกลับมาที่เดิม ในเวลาเดียวกันเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดขนาดยักษ์ราวกับต้นไม้ที่สูงตระหง่านเลื้อยพันไปมา ผู้ปกครองฝั่งซ้ายยืนสับสนอยู่ข้างใน
ทันใดนั้น ปัง ปัง ปัง… …
เสียงระเบิดดังขึ้น!
เกิดเสียงคำรามกู่ร้อง……
เพลิงนรกภูมิก่อนหน้าที่วิหคเพลิงนรกานต์ปล่อยออกมาระเบิดออก น้ำแข็งโดยรอบถูกเป่ากระเด็นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียงกู่ร้องทุ่มต่ำเป็นสัญญาณว่าวิหคเพลิงนรกานต์กำลังโกรธ
ความภาคภูมิของมันถูกเหยียดหยามและเหยียบย่ำ!
ร่างกายของมันลุกโชนไปด้วยเพลิงนรกภูมิ หลังเสียงร้องอันแหลมคม มันก็ปล่อยเพลิงนรกภูมิหลายสิบลูกติดกันราวกับโซ่และสบัดไปทางผู้ปกครองฝั่งซ้ายที่ถูกขังอยู่ในเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด
ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดสามารถกักขังผู้ปกครองฝ่ายซ้ายเอาไว้ได้ช่วงสั้นๆ แม้ว่า เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดกำลังจะสลายไป แต่ด้วยความแข็งแกร่งและความเหนียวแน่นของมันที่พันกันหลายชั้นรอบตัวผู้ปกครองฝั่งซ้าย มันจึงทำให้เขายังคงติดอยู่เล็กน้อย
นอกจากนี้ชิงสุ่ยรู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์กำลังโกรธ เขาไม่เคยคิดว่าวิหคเพลิงนรกานต์จะสามารถปล่อยไฟได้ต่อเนื่องเช่นนี้
การโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ…..
ตูม ตูม ตูม…..
เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นหลายครั้ง ทุกสิ่งรวมทั้งเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆด้วยแรงระเบิด
ชิงสุ่ยจ้องมองไปข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า ผู้ปกครองฝั่งซ้ายที่น่าเกรงขามเองก็ตายเช่นกัน เขามีทักษะสังหารไร้ปรานีถึงสองอย่าง การตายเช่นนี้ถือว่าไร้ค่า?
ความเดือดดาลของเดือดดาลไม่ได้หยุดที่การฆ่าผู้ปกครองฝั่งซ้าย มันโผบินไปที่กลุ่มคนหลายสิบคนด้วยร่างกายซึ่งสว่างจ้าไปด้วยเพลิงนรกภูมิ ความตายของผู้ปกครองฝั่งซ้ายไม่ใช่จุดจบของพวกเขา วิหคเพลิงนรกานต์พุ่งผ่านพวกเขา หนึ่งในสามของพวกเขาหายไปจากการโจมตีครั้งนี้
การโจมตีของวิหคเพลิงนรกานต์ไม่เพียงแต่จะน่าอัศจรรย์ ร่างกายของเขาเองก็คงทนเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเพลิงนรกภูมิบนร่างกายของมันยังน่ากลัวไม่แพ้กัน ความเร็วและพลังอันน่าเกรงขามของมันรวมถึงเพลิงนรกภูมิไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์เหล่านี้สามารถรับมือได้
เสียงกู่ร้องดังขึ้น!
เพลิงนรกภูมิถูกพ่นออกไปอีกครั้ง มันมุ่งเป้าไปที่ชายชราซึ่งถูกช่วยไว้โดยผู้ปกครองฝั่งซ้าย ดวงตาของชายชราเต็มไปด้วยความสิ้นหวังในขณะที่เพลิงนรกภูมิลุกโชนไปทั่วร่าง
เมื่อถึงเวลาที่วิหคเพลิงนรกานต์หยุดลง ไม่มีใครจากตระกูลเฉ่ที่เหลือรอดอยู่ วิหคเพลิงนรกานต์ที่เจิดจ้าและสง่างามหยุดอยู่กลางอากาศ มันเปล่งเสียงกู่ร้องขึ้นสู่ท้องฟ้า
ทั้งบริเวณเงียบสงัด
ทุกสิ่งทุกอย่างจบลง นี่เป็นความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวของวิหคเพลิงนรกานต์ ชิงสุ่ยประมาทที่ปล่อยให้มันถูกผนึก แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น มันก็สามารถช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากผนึกได้
“บางทีนี่อาจเป็นหงส์เพลิงทมิฬในตำนาน?” คนที่อยู่ด้านล่างกล่าวหลังจากที่สิ่งต่างๆเริ่มจบลง
“มันอาจจะเป็นไปได้ แม้จะไม่ใช่ เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกัน”
“สิ่งที่ตระกูลเฉ่ได้รับ มันก็เป็นเช่นเดียวกับที่ตระกูลใหญ่ๆทำกับผู้ที่อ่อนแอ”
“ถูกตัอง ตระกูลเฉ่หยิ่งยโสเกินไป นี่เป็นผลกรรมของพวกเขา! “
“หมอเทวดาชิงนั้นทั้งเยาว์วัยและน่าเกรงขาม เช่นนั้นจึงไม่ควรตัดสินใครจากภายนอก ใครจะคิดว่าหนุ่มผู้นี้จะจัดการกับตระกูลเฉ่ทั้งหมด”
“แม้แต่ผู้ปกครองฝั่งซ้ายยังไม่สามารถทำอะไรได้!”
……
ชิงสุ่ยเรียกวิหคเพลิงนรกานต์กลับเข้าไปและเดินไปหาอี่หวงกู่หวู๋ ชิงสุ่ย สองหญิงสาว เทียนฮี่เรินโม่ และคู่ผัวเมียหยุนเดินลงมาจากชั้นบนสุดของหอคอยจักรพรรดิ
เมื่อช่วงเวลาแห่งความเป็นจริงมาถึง พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ พวกเขาค่อยๆเดินกลับไปที่หอคอยจักรพรรดิ หยุนยี่เจี้ยนรู้สึกสับสนเป็นพิเศษ ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากกลุ่มเมฆาสะท้านนภา ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีผู้ใดหยุดได้
คู่ผัวเมียหยุนพักที่นี่ หอคอยจักรพรรดิจะไม่เปิดให้บริการในวันนี้
หลังจากทำความสะอาดเล็กน้อย ชิงสุ่ยปรากฏตัวอีกครั้ง คนอื่นๆดูเหมือนจะสงบขึ้นเล็กน้อย ชัดเจนที่สุดคือเทียนฮี่เรินโม่ แม้แต่อี่หวงกู่หวู๋ก็ไม่เชื่อว่าชิงสุ่ยจะน่ากลัวเช่นนี้
พวกเขาทำได้เพียงแค่ยินดีเท่านั้นเมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยน่าเกรงขาม ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงไม่สามารถยอมรับได้ ผลลัพธ์ที่ออกมานี้ถือว่าดีที่สุด
สำหรับสิ่งอื่น ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเป็นเพราะการตายของชายชราหรือการฟื้นฟูร่างกายของเขา แต่อำนาจที่ปิดผนึกกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตได้หายไป ชิงสุ่ยสามารถใช้กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตได้อีกครั้ง
“น้องชาย เจ้าช่างเป็นคนที่น่าทึ่งมาก” หยุนยี่เจี้ยนกล่าวด้วยความละอายใจ
หญิงสาวผู้งดงามมองมาที่ชิงสุ่ย เธอแข็งแกร่งกว่าสามี แต่อ่อนแอกว่าชิงสุ่ย ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจเทียบได้กับชายหนุ่ม แต่ตอนนี้เธอไม่คาดคิดว่าความแตกต่างนั้นจะมากมายยิ่งนัก
“เจ้าน่าทึ่งมาก เจ้าทำให้ข้าต้องกังวลอยู่นาน” หยวนสู่กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เธอพูดอย่างสบายใจ
อี่หวงกู่หวู๋ยิ้มโดยไม่พูดอะไร
เทียนฮี่เรินโม่และคู่ผัวเมียหยุนไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป พวกเขาร่วมดื่มสุรากับชิงสุ่ย เมื่อการฆ่าฟันจบลง พวกเขาก็สามารถดื่มมันได้มากมาย
“ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าข้าน่าอัศจรรย์เช่นนี้ ตอนแรกข้าเองก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน” ชิงสุ่ยกล่าวในขณะที่ยิ้มกับหยวนสู่
หยวนสู่แสดงเจตนาที่ชัดเจนกับเขา อี่หวงกู่หวู๋บอกเขา ตอนนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน
“โกหก แต่ข้าชอบมัน เจ้ามักทำให้ผู้อื่นประหลาดใจ ตอนนี้เจ้าต้องการที่จะทำอะไรต่อ? “
“คงจะต้องพักสักสองวันแล้วค่อยตัดสินใจ ข้าไม่แน่ใจว่ากลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำจะทำอะไร พวกเขาสูญเสียผู้ปกครองฝั่งซ้ายไป ผู้ปกครองฝั่งซ้ายอาจมาจากตระกูลที่มีอำนาจ มันอาจมีบางคนมาหาข้า” ชิงสุ่ยกล่าวในขณะที่รู้สึกท้อแท้ เหล่าตระกูลมักสร้างความสัมพันธ์โดยการแต่งงานกับตระกูลอื่นๆ หากความสัมพันธ์เกิดกระทบกระเทือนก็จะทำให้เหล่าตระกูลลงมือ เขาไม่แน่ใจว่าหัวเขาจะหลุดออกจากบ่าไหมหรือยังมีการเข่นฆ่ากันต่อไป