บทที่ 1594 – ความขัดแย้ง
เหลียนหลิงเฟิงเฝ้ามองชิงสุ่ยก่อนที่จะเดินตามเขาไปรีบ ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ตราบเท่าที่ชิงสู่ยอยู่รอบๆ พวกเขาจะไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด และสามารถผ่อนคลายลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีค วามเข็งแกร่งที่พึ่งพาได้อีกด้วย
หลงจากที่กลับมาในครั้งนี้ เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวของเขา ในมุม มองของเขาในตอนนี้เมืองหลินห่ายและจักรวรรดิหิมะนิรันดร์ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอีกต่อไป
แม้แต่ตระกูลถั่วที่อ้างตัวว่าเป็นผู้สืบทอดมรดกของเทพอสูรพฤษภโลกา ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขามากนัก
ปัญหาเกี่ยวกับพระเจ้า และ เทพอสูรอยู่ในใจของเขาเสมอมาชิงสุ่ย หลินเฟิง และฉินชิงนั้นเป็นผู้สืบทอดมรดกโดยตรงของมรดกแห่งพระเจ้านั้นทําให้เขานี่คือปัญหาโดยตรงที่พวกเขาต้อ งเผชิญหน้ากับมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังเกรงว่าอํานาจของมรดกแห่งพระเจ้านั้นอาจอ่อนแอกว่าเทพอสูร
ในตอนนี้ชิงสุ่ยลงมาถึงประตูทางเข้า เขามองไปรอบๆ มีผู้คนของหอคอยจักรพรรดิจํา นวนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่นี้
“ไม่อาจเชื่อว่าจะใครกล้าที่จะมีเรื่องกับคนของหอคอยจักรพรรดิ คนเหล่านั้นสมควรได้รับความตายอย่างแท้จริง หอคอยจักรพรรดินั้นเปรียบเสมือนเทพที่คอยปกปักรักษาคนจนเช่นเรา วัน ก่อนภรรยาของข้า ได้ล้มป่วยอย่างหนัก ก็ได้ที่แห่งนี้รักษาให้และไม่คิดเงินจากเราอีกด้วย แต่พวก เขากลับมาถูกรังแกเช่นนี้ คนเหล่านี้มีเหตุผลอะไรที่ทําเรื่องชั่วช้าเลวทรามเช่นนี้ ” ชาย ชราคนหนึ่งกล่าวขณะที่ร่างกายของเขาสันสะเทือนความโกรธ
“แน่นอน หอคอยจักรพรรดิคอยช่วยเหลือคนเช่นเรามาตลอด พวกเขาต้องเป็นคนที่ขาดทุนในการค้าแน่นอน พวกเขาจึงได้ลงไม้ลงมือกันหอคอยจักรพรรดิเช่นนี้”
“หยุดพูดสามหาวได้แล้ว แม้ว่าหอคอยจักรพรรดิจะไม่คิดค่าบริการคนจน แต่คนรวยเช่น ข้าก็ต้องเสียค่าบริการที่มากโข ยิ่งไปกว่านั้นบางคนแม้มีเงินมากมายก็ไม่ได้รับการรักษาจากเขาเจ้ายังกล้าพูดอีกว่าพวกเขาเป็นคนดี? “ชายที่ผอมและร่ํารวยกล่าว
“ข้ารู้ดี แต่เอาจริงพวกเขานั้นก็เลือกรักษาเฉพาะคนดีๆเท่านั้น หากพวกเจ้าไม่ได้ รับการรักษาก็ไมหมายความว่า เจ้าเป็น…? “
“นั้นท่านหมอชิงสุ่ยและคนอื่นๆ !”
“ท่านหมอชิงกลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาใดๆแล้ว ไปเถอะพวกเราไปช่วยท่าน หมอกันเพื่อตอบแทนบุยคุณของท่าน! ” คนหนึ่งกล่าวออกมา
“ไปช่วยท่านหมอกัน! ที่ข้ารอดมาได้ก็เพราะท่านหมอ ไปกันเถอะ! “
ชิงสุ่ยยิ้มออกมาในตอนนี้ แม้ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งมากมายขนาดไหนก็มิอาจต้านทานฝูงชนนับพันได้ นี่เป็นอาจกล่าวได้ว่าเป็นพลังที่แท้จริงอีกรูปแบบหนึ่ง
“ไม่ต้องห่วงไปทุกๆคน ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่หอคอยจักรพรรดิจะยังคงดําเนิน ต่อไปตลอดไป ” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างช้าๆ แต่ทุกคนก็ได้ยินมันชัดเจน
ท่านหมอชิง ข้าจะช่วยท่านไล่พวกเขาออก
ทุกคนได้โปรดสงบใจลง ปล่อยให้ข้าจัดการทุกๆสิ่งเอง “คําพูดของชิงสุ่ยทําให้ทุกๆคนสงบลง มีผู้คนมากมายต้องการที่จะกล่าวเช่นเดียวกับชิงสุ่ยแต่พวกเขานั้นไร้ความสามารถที่จะกล่าว เช่นนี้ออกมา
“เจ้าคือชิงสุ่ย? คนโง่ ๆ ที่กล้าดูหมิ่นตระกุลนั่วของข้าสินะ นี่คือจุดเริ่มต้นของฝันร้า ยของเจ้า” ชายชราก้าวไปข้างหน้าชิงสุ่ยและกล่าว
“เจ้าลูกวัวตัวน้อยๆ ระวังอย่าก้าวล้ําเกินเส้นขีดจํากัดมากเกิดไปละ เช่นนั้นนพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสได้อยู่มองโลกนี้อีกต่อไป ชิงสุ่ยนั่นคือนิ้วเป็น”เหลียนหลิงเฟิง กล่าวก่อนที่จะชี้ไปข้างหน้า ก่อนที่ชิงสุ่ยจะมองไปที่ชายรูปร่างสูงใหญ่ดังภูเขา
“ ข้านับถือในความกล้าของเจ้าจริงๆ” นั่วเฟินมองไปที่เหลียนหลิงเฟิง
“นี่ไม่ใช่ที่สําหรับผู้ที่แพ้จะมากล่าวได้ เป็นแค่ขยะรอาจมาทําหยิ่งยโส “เหลียนหลิงเฟิงกล่าวออกไปอย่างไม่แยแส
“บัดซบ ทําลายที่นี้ซะ ฆ่าพวกมันอย่าให้เหลือ! “นั่วเฟินกลาวออกมาอย่างเสียงดัง
นี่คือสิ่งที่เหลียนหลิงเฟิงรออยู่ หลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนี้เขาไม่รอช้าอีกต่อไป
“ปกป้องหอคอยจักรพรรดิเอาไว้ด้วยชีวิต” เหลียนหลิงเฟิงกล่าวขณะที่พุ่งออกไป ในขณะนี้ผู้บ่มเพาะที่อยู่ข้างหอคอบจักรพรรดิได้ทะยานออกมา
“ถอยกลับไป!” เสียงที่เย็นชาของชิงสุ่ยได้ดังขึ้น ก่อนที่มีกลิ่นอายของชิงสุ่ยจะปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่หุบเขาขนาดยักษ์จะปรากฏออกมาข้าหน้าชิงสุ่ย กลิ่นอายที่สามารถถล่มได้แม้กระทั้งฟ้าได้ได้แพร่กระจายออกมาอย่างบ้าคลัง – ไม่มีใครในที่แห่งนี้สามารถทนทานต่อกลิ่นของมันได้เลยแม้แต่น้อย
“ข้าฆ่าใครก็ตามที่กล้าที่ก้าวเข้ามาในบริเวณนี้” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
“ฆ่าเขา” นั่วเฟินออกคําสั่งอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคําสั่งขิงเขากลุ่มของชายชราได้พุ่งตรงมาหาชิงสุ่ยอย่างไม่ลังเล ชิงสุ่ยได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้าก่อนที่จะเรียกงาวทองออกมา
ตูม!
เพียงแค่พริบตาหน้าอกของชายชราถูกทะลวงทุผ่านไปอย่างง่ายดาย แม้แต่ชายช ราก็ยังต้องแปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่เขาจะตะโกนออกมาด้วยความปวดร้าว
หลังจากที่ฆ่าชายชราลง ชิงสุ่ยได้ใช้ย่างก้าวเก้าเทวาของเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการจู่โจมที่ใกล้เขามา
หุบเขาเก้าเทวา!
ชิงสุ่ยไม่ได้นิ่งนอนใจอีกต่อไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดแล้ว
ปัง!
ชายชราคนหนึ่งกระออกเลือดออมา หลังจากประทะกับหุบเขาของชิงสุ่ย ก่อนที่เขาจะถูกกระแทรกอีกครั้งจนรางกายระเบิดออก ด้วยความสามารถที่เขามีมันนั้นแตกต่างอย่างมากกับพลัง ของหุบเขาเก้าเทวา พวกเขาไม่มีโอกาสแม้จะป้องกันตัว
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้บังคับหุบเขาของเขาเขาบดขยี้อีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ เมื่อต้องรับมือกับศัตรูที่หมายทําลายครอบครัวของเขา ชิงสุ่ยไม่เคยคิดที่จะยังมือเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างนี้เป็นเพราะต ระกูลถั่วตัดสินใจของพวกเขาเอง ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่เลือกที่จะให้อภัยพวกเขา
ในตอนนี้ซากศพได้เรียงรายไปรอบบริเวณดังกล่าว คนที่รอดอยู่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบทั้งหมด
ในตอนนี้ความกลัวได้ถาโถมเข้าใส่นิ้วเป็นอย่างบอกไม่ถูก เดิมทีเขานั้นคิดว่าชิงสุ่ยจะแข็งแกร่งกว่าหลิงเฟิงหรือหยินต่งไม่มากนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด ในวันนี้คนของเขานั้นถูกชิงสุ่ยกําจัดลงไปอย่างง่ายดายในพริบ นี่ทําให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง
ชิงสุ่ยยิ้มให้กับนิ้วเฟิน ก่อนที่จะเดินไปหาเขาอย่างช้าๆ ด้วยรอยยิ้มเย็นชา ตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ต้องการที่จะสังหารเขา เพียงจะฝากข้อความไปบอกคนอื่นๆเท่านั้น
“เจ้ากําลังทําอะไร? ตระกูลถั่วไม่ใช่ตระกูลที่เจ้าจะแตะต้องได้ อย่าทําอะไรโดยประมาท เจ้ารู้ดีว่าผลที่จะตามมาเป็นยังไง ”นั่วเฟินกล่าวออกมาอย่างหวาดกลัว ขณะที่ไม่กล้าสบตาชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยขยับมือของเขาและใช่งาวทองในมือตบลงไปที่ใบหน้าของเขา
“นำข้อความของข้าไปบอกบรรพบุรุษของเจ้า หากว่าตัวเขาและลูกหลานของเขาไม่ยอมมา ซ่อมที่แห่งนี้ในสามวัน ข้าจะน้าหายะไปเยือนพวกเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวก่อนที่จะใช้งาวทองกระแทกไปที่ตันเถียนของเขา เพื่อทําให้การบ่มเพาะของเขาได้รับบาดเจ็บ
ชิงสุ่ยไม่จําเป็ต้องปราณีคนเช่นนี้ ที่เขาไม่ได้สังหารและทําลายการบ่มเพาะของถั่วเฟินนั้น ถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงของเขาแล้ว ไม่มีใครในโลกนอกจากเขาที่สามารถรักษาชายคนนี้ได้ และไม่มีทางที่ชายคนนี้จะสามารถเติบโตไปได้กว่านี้ เขาทําได้แค่เพียงมองดูชีวิตตัวเองถดถอยลงไป นี่คือบทลงโทษของชิงสุ่ย
สําหรับชิงสุ่ยเขารู้ดีว่านี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขารู้ดีกว่าหลังจากนี้คงมีศึกหนักที่รอเขาอยู่ ชิงสุยถอนหายใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเจอเรื่องเช่นนี้ในวันที่เข้ากลับมาถึง
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เดินไปจับมือและทักทายกับฝูงชนรอบตัวของเขา และกล่าวว่าหอคอยจัก รพรรดิจะปิดให้การชั่วคราวเป็นเวลาสามวัน สําหรับกรณีฉุกเฉิน พวกเขาสามารถไปที่สนามหลังบ้าน เพื่อรับการดูแลเบื้องต้น
“เอาละข้าขอตัวไปอาบน้ําก่อน ทุกคนเชิญดื่มต่อกันก่อนแล้วกัน” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาพร้อม กลับไปที่ห้องของเขา
ถึงชิงสุ่ยจะกล่าวเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั้นต่อ ฉากนองเลือดในวันนี้มันได้พังทลายบรรยากาศไปจนหมด ในตอนนี้ทุกๆคนได้แยกย้ายกลับไปที่ห้องของตัวเอง
ในตอนนี้ชิงสุ่ยนึกถึงประโยคสุดท้ายของนั่วเฟิน มันทําให้เขามั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายต้องมีไพ่ตายอยู่ในมือ บางที่อาจเป็นคนที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน บสืบทอดสมบัติของเทพอสูรก็เป็นไปได้
แต่ถึงอย่างไรชิงสุ่ยก็ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้พบเจอ กับบุคคลที่แข็งแกร่ง
ในอีกสามวันถ้าพวกเขาไม่มายังที่แห่งนี้ จะเป็นชิงสุ่ยเองที่เดินทางไปหาพวกเขา นี่เป็นดังแผนการที่ชิงสุ่ยวางเอาไว้แต่แรก เพื่อที่จะจัดการกับอีกฝ่าย