AST
บทที่1758 – งูมายามหาสมุทร
ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าภูมิภาคศักดิ์สิทธิ์บริเวณแห่งนี้มีอำนาจเพียงใดไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนิกายที่ทรงพลังส่วนใหญ่จะอยู่ห่างไกลจากสภาพแวดล้อมปกติ มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่มรดกที่เขาได้รับจากรุ่นสู่รุ่น แต่มันยังเกี่ยวข้องกับวิธีการใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์
ชิงสุ่ยจ้องมองสมบัติทางธรรมชาติจากนั้นก็หยิบสิ่งของหลายอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่เพียงแต่ยาสมุนไพร ไปยังมีปลาและเต่าอีกบางสายพันธุ์ โยนเข้าไปเก็บไว้ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
”หืมดูเหมือนแสงไฟที่เกิดขึ้นภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนมาจากหินโคมแสนดาราด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น…”ชิงสุ่ยจ้องมองผลึกหินที่ให้แสงสว่างสีม่วงทอง โดยที่วัสดุหินเหล่านั้นมีลักษณะคล้ายแก้วผสมโลหะ
เนื่องจากพวกมันมีจำนวนมากมายมหาศาลชิงสุ่ยจึงนำเอาง้าวทองทะลวงศัตรูออกมา แล้วเริ่มฟันเพื่อแบ่งแยกชิ้นส่วนของหิน หากเป็นศาสตราวุธอื่นๆ ไม่มีทางที่จะทำลายหินส่องแสงสว่างเหล่านี้ได้เลย แม้แต่อาวุธระดับตำนานเองก็ตาม
แต่ง้าวทองทะลวงศัตรูของชิงสุ่ยเธอเป็นข้อยกเว้นหลังจากที่มันเพิ่มพูนพลังจากไข่มุก 5 ธาตุ พลังทำลายล้างหัวมันก็สูงขึ้น หลังจากใช้เวลาขุดทำลายหินโคมแสนดารา เขาก็ใช้เวลาเพียงไม่นานในการนำมันออกมา
ชิงสุ่ยขุดหินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนส่งผลให้มือของเขารู้สึกเป็นตะคริวเล็กน้อยแม้จะรวบรวมมามากมาย ปริมาณที่หลงเหลือของมันก็ยังมีมากเทียบเท่าพื้นที่มหาสมุทร แต่เขาก็ได้มันมามากเกินพอแล้ว
มนุษย์ต้องไม่มีความโลภเกินไปเพื่อให้ทุกอย่างยังคงไว้ซึ่งสภาพเดิม
”ชิงสุ่ยหรือว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์?” มูหยุนชิงเก้อยังคงตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวของเธอและพบว่าสถานที่แห่งนี้มีเพดานสูงมากแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งลักษณะของถ้ำ เพียงแต่มันเป็นทำขนาดใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้
”อย่างน้อยที่สุดที่นี่คือสถานที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์และยังเป็นสถานที่ที่มีพลังปราณจิตอัดแน่นทั่วทั้งอากาศ สิ่งเดียวที่ข้าไม่แน่ใจคือมันจะเป็นถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ของจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยทำไมเราไม่ลองตรวจสอบดูให้ทั่วก่อน ข้าคิดว่าดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช่สิ่งของที่จะหาเจอได้ง่ายแน่”
ฟ่อวววววฟ่อววว~~~~
ทันใดนั้นเสียงขู่ที่แสนน่ากลัวก็ดังขึ้นมันดังมาจากที่ไหนสักแห่งไม่ไกลจากพวกเขา และเมื่อชิงสุ่ยเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับงูสีเหลืองน้ำตาลที่มีขนาดความหนาเท่ากับเอวมนุษย์ แต่เนื่องจากระยะห่างที่แสนห่างไกล หากมองจากมุมมองของชิงสุ่ยงูตัวนี้เป็นเพียงแค่งูขนาดเล็ก
ร่างกายของเจ้างูเป็นสีน้ำตาลเหลืองโดยที่หัวของมันไม่มีลูกกะตามันอาศัยทักษะการตรวจจับทัศนวิสัยผ่านปากและลิ้น โดยทุกครั้งที่มันเคลื่อนที่มันจะต้องส่งเสียงร้องฟ่อว
งูมายาโลกา
จากความรู้ของชิงสุ่ยเขาพบว่าลักษณะทุกอย่างที่เขาเห็นตรงกับงูมายาโลกา แต่เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่พื้นดิน แต่อยู่ในพื้นที่มหาสมุทร นั่นก็หมายความว่าเจ้างูที่อยู่เบื้องหน้าเขา ควรจะเป็นงูมายามหาสมุทร Aileen-novel
แม้ว่ามันจะอยู่ใต้น้ำแต่มันก็ยังเป็นสัตว์อสูรที่มีความเด่นทางด้านธาตุดิน และไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใดมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว เหมือนปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ
งูสายพันธุ์นี้ไม่มีดวงตาและเมื่อได้รับพลังจากดินและน้ำ ร่างกายของมันตึงแข็งแกร่งหาที่เปรียบมิได้ โดยปกติแล้ว งูสายพันธุ์ชนิดนี้จะออกเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อมันพยายามจะปกป้องอะไรบางอย่างเท่านั้น
สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากสระหินน้ำนมกุณโฑซึ่งก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยเองก็ได้รวบรวมเขียนจำนวนหลายก้อนที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 10000 ปีมาสะสมเอาไว้ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นวัสดุพิเศษที่ใช้สำหรับการกลั่นยา แล้วยังช่วยเสริมสร้างร่างกายได้แม้จะนำมาบริโภคโดยตรง
”นั่นมันผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์!!”มูหยุนชิงเก้อชี้ไปที่ต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเจ้างูมายาโลกามันคือต้นไม้ที่มีความสูงเท่ากับร่างกายมนุษย์และมีความหนาของลำต้นเท่ากับแขนมนุษย์ บริเวณลำต้นบิดหมุนเป็นเกลียวคลื่น ส่วนบริเวณยอดปรากฏให้เห็นเป็นผลไม้สีน้ำตาลเหลืองจำนวน 10 ผล
”เมื่อผลไม้ชนิดนี้เกิดในที่ที่หายากมันย่อมต้องมีประโยชน์เป็นแน่”ชิงสุ่ยรู้เกี่ยวกับผลไม้ชนิดนี้เพียงแค่เล็กน้อย
”ผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คือผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับสัตว์อสูรธาตุดิน และจะถูกใช้งานโดยสัตว์อสูรเท่านั้น!! ตามตำนานเล่าว่าผลของมันทรงพลังเหนือจินตนาการ มันสามารถทำให้เจ้างูมายาโลกากลายร่างเป็นมังกรหลังจากที่กินมันเป็นแค่คำเดียว แต่มันจะกลายร่างเป็นมังกรอย่างแท้จริงได้ไหม ไม่มีใครรู้” มูหยุนชิงเก้อชายตามองต้นผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์
”มันก็ค่อนข้างพูดยากหากตัดสินจากสีผิวของผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ มันก็น่าจะสุกงอมเต็มที่ภายในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นหากเราต้องการเก็บเกี่ยวมัน เราก็ต้องรอคอยอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์”
”ข้าคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าหากเรารีบเก็บเกี่ยวก่อนเวลาและนำมันออกไปให้เร็วที่สุด”ชิงสุ่ยกล่าว
”เจ้าไม่ควรนำมันออกไปโดยไม่รู้วิธีถ้าหากเจ้าถอนผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ออกมาก่อนที่มันสุกงอม คุณค่าของมันจะลดลงอย่างฉับพลัน และต่อให้ถอนรากถอนโคนมันออกมา เจ้าต้นผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่สามารถอยู่รอดได้บนพื้นดินอื่น”มูหยุนชิงเก้อพยายามเตือนสติ ข้อมูลพื้นฐานที่ทุกคนบนโลกใบนี้รับรู้
”อย่าได้เป็นห่วงเลยข้ามีวิธี”ชิงสุ่ยเชื่อมั่นในดินแดนหยกยุพราชอมตะของเขา
ในตอนแรกเขาวางแผนจะจัดการงูมายามหาสมุทรแต่ดูเหมือนว่ามันยังเป็นเพียงแค่วัยเจริญพันธุ์ แล้วยังมีขนาดเล็ก และยังอ่อนแอเกินกว่าจะน่าสนใจ
แต่เมื่อมันรับรู้ถึงการมาถึงของชิงสุ่ยและชิงเก้อเจ้างูมายามหาสมุทรก็กระโดดเข้าหาทั้งสองคนทันทีทันใด มันคือสัตว์อสูรที่คอยดูแลผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉะนั้นมันไม่มีทางยอมให้ใครก็ตามมาเอาของมันไปเด็ดขาด
เจ้างูมายามหาสมุทรพยายามแสดงความดุร้ายร่างกายของมันที่มีความยาว 100 เมตร กวัดแกว่งไปมาเหมือนไม้คฑาที่พร้อมจะบดขยี้ มันพยายามจะเข้ารัดร่างกายของชิงสุ่ยและชิงเก้อ แต่โชคร้ายที่ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของมันกับชิงสุ่ยนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ชิงสุ่ยแทบไม่ต้องใช้พลังอะไรมากมายนักก็สามารถกำราบมันลงได้อย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะตัวของเขาเองยังไม่มีสัตว์อสูรที่สามารถเคลื่อนไหวยังเป็นเลิศภายในผืนมหาสมุทร เขาจึงเลือกใช้ยาเสริมอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำให้มันเชื่องแทน
ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาชิงสุ่ยพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปหลายระดับ แต่เขาก็ไม่เคยได้สัตว์อสูรใหม่ๆมาเพิ่มเลย สาเหตุหลักคงเป็นเพราะเขายังไม่เจอสัตว์อสูรตัวใดที่เหมาะสมสำหรับเขา นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปจนแม้แต่สัตว์อสูรที่เขาเคยใช้งานก็ตามเขาไม่ทัน การเลี้ยงดูพวกมันอย่างช้าๆ เป็นกระบวนการที่แสนยาวนาน และต้องใช้ความพยายามสูง
หลังจากที่เขาทำให้มันเชื่องได้จนสำเร็จเขาก็เก็บมันเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชทันที จากนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มทำการเคลื่อนย้ายต้นอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะเช่นกัน
และเพื่อเป็นการป้องกันแล้วทำให้มันใจว่าทุกอย่างดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ชิงสุ่ยเลือกที่จะหยดฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตลงไปที่บริเวณรากของต้นอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์
ผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์หากอยู่ในโลกภายนอกต้องใช้เวลาอีก1 สัปดาห์เพื่อที่จะสุกงอม แต่ทันทีที่มันเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ กระแสเวลาที่ผันผวนทำให้มันสุกงอมทันที แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะใช้งานมัน เพราะจุดมุ่งหมายสำคัญของเขายังคงเป็นการตามหาดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์
ในขณะที่กลุ่มของชิงสุ่ยเดินทางเข้าไปในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ได้มีหญิงสาว 2 คนมุ่งหน้าเข้าสู่พระราชวังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หญิงสาวส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในพระราชวังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีรูปร่างรูปลักษณ์ที่แสนงดงามดุจโฉมงามที่ทวยเทพสรรสร้าง พลังปราณที่แสนสง่างามแผ่ซานออกมารอบๆตัวของพวกเธอ
”เรียนนายหญิงมีใครบางคนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์”หญิงสาวที่อยู่ทางซ้ายมือโค้งคำนับขณะกล่าว
บทที่1758 – งูมายามหาสมุทร
ชิงสุ่ยตระหนักได้ว่าภูมิภาคศักดิ์สิทธิ์บริเวณแห่งนี้มีอำนาจเพียงใดไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนิกายที่ทรงพลังส่วนใหญ่จะอยู่ห่างไกลจากสภาพแวดล้อมปกติ มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่มรดกที่เขาได้รับจากรุ่นสู่รุ่น แต่มันยังเกี่ยวข้องกับวิธีการใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์
ชิงสุ่ยจ้องมองสมบัติทางธรรมชาติจากนั้นก็หยิบสิ่งของหลายอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่เพียงแต่ยาสมุนไพร ไปยังมีปลาและเต่าอีกบางสายพันธุ์ โยนเข้าไปเก็บไว้ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ
”หืมดูเหมือนแสงไฟที่เกิดขึ้นภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนมาจากหินโคมแสนดาราด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น…”ชิงสุ่ยจ้องมองผลึกหินที่ให้แสงสว่างสีม่วงทอง โดยที่วัสดุหินเหล่านั้นมีลักษณะคล้ายแก้วผสมโลหะ
เนื่องจากพวกมันมีจำนวนมากมายมหาศาลชิงสุ่ยจึงนำเอาง้าวทองทะลวงศัตรูออกมา แล้วเริ่มฟันเพื่อแบ่งแยกชิ้นส่วนของหิน หากเป็นศาสตราวุธอื่นๆ ไม่มีทางที่จะทำลายหินส่องแสงสว่างเหล่านี้ได้เลย แม้แต่อาวุธระดับตำนานเองก็ตาม
แต่ง้าวทองทะลวงศัตรูของชิงสุ่ยเธอเป็นข้อยกเว้นหลังจากที่มันเพิ่มพูนพลังจากไข่มุก 5 ธาตุ พลังทำลายล้างหัวมันก็สูงขึ้น หลังจากใช้เวลาขุดทำลายหินโคมแสนดารา เขาก็ใช้เวลาเพียงไม่นานในการนำมันออกมา
ชิงสุ่ยขุดหินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนส่งผลให้มือของเขารู้สึกเป็นตะคริวเล็กน้อยแม้จะรวบรวมมามากมาย ปริมาณที่หลงเหลือของมันก็ยังมีมากเทียบเท่าพื้นที่มหาสมุทร แต่เขาก็ได้มันมามากเกินพอแล้ว
มนุษย์ต้องไม่มีความโลภเกินไปเพื่อให้ทุกอย่างยังคงไว้ซึ่งสภาพเดิม
”ชิงสุ่ยหรือว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์?” มูหยุนชิงเก้อยังคงตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวของเธอและพบว่าสถานที่แห่งนี้มีเพดานสูงมากแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งลักษณะของถ้ำ เพียงแต่มันเป็นทำขนาดใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้
”อย่างน้อยที่สุดที่นี่คือสถานที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์และยังเป็นสถานที่ที่มีพลังปราณจิตอัดแน่นทั่วทั้งอากาศ สิ่งเดียวที่ข้าไม่แน่ใจคือมันจะเป็นถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ของจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยทำไมเราไม่ลองตรวจสอบดูให้ทั่วก่อน ข้าคิดว่าดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช่สิ่งของที่จะหาเจอได้ง่ายแน่”
ฟ่อวววววฟ่อววว~~~~
ทันใดนั้นเสียงขู่ที่แสนน่ากลัวก็ดังขึ้นมันดังมาจากที่ไหนสักแห่งไม่ไกลจากพวกเขา และเมื่อชิงสุ่ยเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับงูสีเหลืองน้ำตาลที่มีขนาดความหนาเท่ากับเอวมนุษย์ แต่เนื่องจากระยะห่างที่แสนห่างไกล หากมองจากมุมมองของชิงสุ่ยงูตัวนี้เป็นเพียงแค่งูขนาดเล็ก
ร่างกายของเจ้างูเป็นสีน้ำตาลเหลืองโดยที่หัวของมันไม่มีลูกกะตามันอาศัยทักษะการตรวจจับทัศนวิสัยผ่านปากและลิ้น โดยทุกครั้งที่มันเคลื่อนที่มันจะต้องส่งเสียงร้องฟ่อว
งูมายาโลกา
จากความรู้ของชิงสุ่ยเขาพบว่าลักษณะทุกอย่างที่เขาเห็นตรงกับงูมายาโลกา แต่เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่พื้นดิน แต่อยู่ในพื้นที่มหาสมุทร นั่นก็หมายความว่าเจ้างูที่อยู่เบื้องหน้าเขา ควรจะเป็นงูมายามหาสมุทร Aileen-novel
แม้ว่ามันจะอยู่ใต้น้ำแต่มันก็ยังเป็นสัตว์อสูรที่มีความเด่นทางด้านธาตุดิน และไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใดมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว เหมือนปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ
งูสายพันธุ์นี้ไม่มีดวงตาและเมื่อได้รับพลังจากดินและน้ำ ร่างกายของมันตึงแข็งแกร่งหาที่เปรียบมิได้ โดยปกติแล้ว งูสายพันธุ์ชนิดนี้จะออกเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อมันพยายามจะปกป้องอะไรบางอย่างเท่านั้น
สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากสระหินน้ำนมกุณโฑซึ่งก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยเองก็ได้รวบรวมเขียนจำนวนหลายก้อนที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 10000 ปีมาสะสมเอาไว้ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นวัสดุพิเศษที่ใช้สำหรับการกลั่นยา แล้วยังช่วยเสริมสร้างร่างกายได้แม้จะนำมาบริโภคโดยตรง
”นั่นมันผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์!!”มูหยุนชิงเก้อชี้ไปที่ต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเจ้างูมายาโลกามันคือต้นไม้ที่มีความสูงเท่ากับร่างกายมนุษย์และมีความหนาของลำต้นเท่ากับแขนมนุษย์ บริเวณลำต้นบิดหมุนเป็นเกลียวคลื่น ส่วนบริเวณยอดปรากฏให้เห็นเป็นผลไม้สีน้ำตาลเหลืองจำนวน 10 ผล
”เมื่อผลไม้ชนิดนี้เกิดในที่ที่หายากมันย่อมต้องมีประโยชน์เป็นแน่”ชิงสุ่ยรู้เกี่ยวกับผลไม้ชนิดนี้เพียงแค่เล็กน้อย
”ผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คือผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับสัตว์อสูรธาตุดิน และจะถูกใช้งานโดยสัตว์อสูรเท่านั้น!! ตามตำนานเล่าว่าผลของมันทรงพลังเหนือจินตนาการ มันสามารถทำให้เจ้างูมายาโลกากลายร่างเป็นมังกรหลังจากที่กินมันเป็นแค่คำเดียว แต่มันจะกลายร่างเป็นมังกรอย่างแท้จริงได้ไหม ไม่มีใครรู้” มูหยุนชิงเก้อชายตามองต้นผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์
”มันก็ค่อนข้างพูดยากหากตัดสินจากสีผิวของผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ มันก็น่าจะสุกงอมเต็มที่ภายในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นหากเราต้องการเก็บเกี่ยวมัน เราก็ต้องรอคอยอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์”
”ข้าคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าหากเรารีบเก็บเกี่ยวก่อนเวลาและนำมันออกไปให้เร็วที่สุด”ชิงสุ่ยกล่าว
”เจ้าไม่ควรนำมันออกไปโดยไม่รู้วิธีถ้าหากเจ้าถอนผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ออกมาก่อนที่มันสุกงอม คุณค่าของมันจะลดลงอย่างฉับพลัน และต่อให้ถอนรากถอนโคนมันออกมา เจ้าต้นผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่สามารถอยู่รอดได้บนพื้นดินอื่น”มูหยุนชิงเก้อพยายามเตือนสติ ข้อมูลพื้นฐานที่ทุกคนบนโลกใบนี้รับรู้
”อย่าได้เป็นห่วงเลยข้ามีวิธี”ชิงสุ่ยเชื่อมั่นในดินแดนหยกยุพราชอมตะของเขา
ในตอนแรกเขาวางแผนจะจัดการงูมายามหาสมุทรแต่ดูเหมือนว่ามันยังเป็นเพียงแค่วัยเจริญพันธุ์ แล้วยังมีขนาดเล็ก และยังอ่อนแอเกินกว่าจะน่าสนใจ
แต่เมื่อมันรับรู้ถึงการมาถึงของชิงสุ่ยและชิงเก้อเจ้างูมายามหาสมุทรก็กระโดดเข้าหาทั้งสองคนทันทีทันใด มันคือสัตว์อสูรที่คอยดูแลผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉะนั้นมันไม่มีทางยอมให้ใครก็ตามมาเอาของมันไปเด็ดขาด
เจ้างูมายามหาสมุทรพยายามแสดงความดุร้ายร่างกายของมันที่มีความยาว 100 เมตร กวัดแกว่งไปมาเหมือนไม้คฑาที่พร้อมจะบดขยี้ มันพยายามจะเข้ารัดร่างกายของชิงสุ่ยและชิงเก้อ แต่โชคร้ายที่ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของมันกับชิงสุ่ยนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ชิงสุ่ยแทบไม่ต้องใช้พลังอะไรมากมายนักก็สามารถกำราบมันลงได้อย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะตัวของเขาเองยังไม่มีสัตว์อสูรที่สามารถเคลื่อนไหวยังเป็นเลิศภายในผืนมหาสมุทร เขาจึงเลือกใช้ยาเสริมอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำให้มันเชื่องแทน
ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาชิงสุ่ยพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปหลายระดับ แต่เขาก็ไม่เคยได้สัตว์อสูรใหม่ๆมาเพิ่มเลย สาเหตุหลักคงเป็นเพราะเขายังไม่เจอสัตว์อสูรตัวใดที่เหมาะสมสำหรับเขา นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปจนแม้แต่สัตว์อสูรที่เขาเคยใช้งานก็ตามเขาไม่ทัน การเลี้ยงดูพวกมันอย่างช้าๆ เป็นกระบวนการที่แสนยาวนาน และต้องใช้ความพยายามสูง
หลังจากที่เขาทำให้มันเชื่องได้จนสำเร็จเขาก็เก็บมันเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชทันที จากนั้นชิงสุ่ยก็เริ่มทำการเคลื่อนย้ายต้นอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะเช่นกัน
และเพื่อเป็นการป้องกันแล้วทำให้มันใจว่าทุกอย่างดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ชิงสุ่ยเลือกที่จะหยดฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตลงไปที่บริเวณรากของต้นอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์
ผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์หากอยู่ในโลกภายนอกต้องใช้เวลาอีก1 สัปดาห์เพื่อที่จะสุกงอม แต่ทันทีที่มันเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ กระแสเวลาที่ผันผวนทำให้มันสุกงอมทันที แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะใช้งานมัน เพราะจุดมุ่งหมายสำคัญของเขายังคงเป็นการตามหาดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์
ในขณะที่กลุ่มของชิงสุ่ยเดินทางเข้าไปในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ได้มีหญิงสาว 2 คนมุ่งหน้าเข้าสู่พระราชวังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หญิงสาวส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในพระราชวังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีรูปร่างรูปลักษณ์ที่แสนงดงามดุจโฉมงามที่ทวยเทพสรรสร้าง พลังปราณที่แสนสง่างามแผ่ซานออกมารอบๆตัวของพวกเธอ
”เรียนนายหญิงมีใครบางคนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์”หญิงสาวที่อยู่ทางซ้ายมือโค้งคำนับขณะกล่าว