AST
บทที่1765 – ความว่องไวของม้าอสูรจันทราสวรรค์
เฉิงเจินสังเกตการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยแล้วพบว่าทักษะของเขาเต็มไปด้วยความมั่นคง ทั้งยังมีเสน่ห์ที่ดึงดูดและพลังอันน่าเกรงขามแฝงอยู่ภายใน
”เจ้าสนใจจะลองฝึกฝนมันดูหรือไม่?มันน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าไม่มากก็น้อย”ชิงสุ่ย กล่าวเชิญชวนด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
”ให้ข้าเรียนรู้มัน?”เฉิงเจินถามด้วยความสงสัย
”แน่นอนมันเรียนรู้ง่ายมากเพียงแค่ดูการเคลื่อนไหวของข้าแค่นั้นเอง” ชิงสุ่ยกล่าวเชิงติดตลกจากนั้นเขาก็เริ่มแสดงทักษะธีระสวัสดิ์พร้อมกับอธิบายถึงสาระสำคัญและสภาวะจิตใจที่ต้องทำ
ชิงสุ่ยมีความต้องการในการสอนเพลงหมัดไทเก๊กเพราะเชื่อว่าในอนาคตการฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กจะต้องเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์สำหรับคนกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์และมันอาจจะกลายเป็นทักษะการฝึกฝนเพลงหมัดที่แพร่หลายภายในโลกใต้มหาสมุทรแห่งนี้ก็เป็นได้
การแสดงทักษะเพียงแค่ครั้งเดียวก็มากพอจะทำให้เฉิงเจินเข้าใจและเรียนรู้มันได้จนสำเร็จ
และเมื่อชิงสุ่ยแสดงท่าทางจะเสร็จสิ้นเขาก็ปล่อยให้เฉิงเจินเริ่มต้นฝึกฝนตามหลักที่เขาสอนทีละขั้นตอน แม้ว่าเธอจะดูเชื่องช้าแต่ทุกท่วงท่าก็เต็มไปด้วยความคล่องแคล่วและราบรื่น แต่เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ระดับฝึกฝน ท่วงท่าที่เธอแสดงออกมาครั้งแรกต้องถือได้ว่าเป็นพลังที่ค่อนข้างสมบูรณ์เหนือกว่าผู้อื่น
”ขอบคุณสำหรับทักษะที่เจ้าแบ่งปันให้กับข้าทักษะเพลงหมัดไทเก๊กที่เจ้าถ่ายทอดให้กับข้าเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมและมีประโยชน์กับข้าจริงๆ” เฉิงเจินกล่าวแสดงความขอบคุณชิงสุ่ย
”ก็ดีแล้วตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนต่อไปเถอะ”ชิงสุ่ยพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรต่อ
”อืม”
…………………..
………..
หลังจากรับประทานอาหารชิงสุ่ย มูหยุนชิงเก้อ และเฉิงเจินก็ออกเดินทางจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์สู่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์โดยไม่มีผู้ติดตามคนอื่นๆ
ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอะไรจากเธออีกต่อไปแล้วเพราะเธอก็รู้ดีว่าคนที่เก็บผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คือเขาดังนั้นเขาจะเริ่มใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาพาทั้งหมดออกเดินทางทันที
หลังจากรู้ทิศทางและตำแหน่งที่แน่นอนชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาเพียงแค่ครั้งเดียวก็มาถึงทางเข้าถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ ซึ่งเป็นส่วนขยายเพิ่มเติมภายในน่านน้ำมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์
จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะย่างก้าว9 เทวาซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อเข้าสู่ภายในตัวถ้ำ ในไม่ช้าทุกคนก็เข้าไปสู่ภายในส่วนลึกของถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ ชิงสุ่ยคิดว่าสถานที่ที่เขาต้องสำรวจคงจะอยู่ไม่ไกลนักเขาจึงหยุดการใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา แล้วตัดสินใจขี่สัตว์อสูรในการสำรวจระยะทางที่เหลือ
ชิงสุ่ยเลือดมังกรทองคำจากนั้นก็ส่งสัญญาณให้หญิงสาวทั้งสองคนขึ้นไปขี่มัน ไอลีนโนเวล
ซึ่งทันทีที่เฉิงเจินเห็นเจ้ามังกรทองเธอก็ปริปากถามชิงสุ่ยด้วยสีหน้าตกใจว่า”นี่คงจะเป็นเจ้างูมายามหาสมุทรใช่หรือไม่?”
”คงไม่มีอะไรรอดพ้นจากสายตาของเจ้าไปได้จริงๆถ้าหากเจ้ายังฉลาดเกินไปแบบนี้ ระวังจะไม่มีคนกล้าแต่งงานกับเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวหยอกล้อ
เฉิงเจินตะลึงกันเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าและกล่าวว่า”ข้าก็ไม่ได้คิดหวังว่าใครจะมาแต่งงานกับข้าสักหน่อย”
ไม่มีใครเคยแกล้งเธอแบบนี้มาก่อนดังนั้นเธอจึงค่อนข้างอ้ำอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย
มูหยุนชิงเก้อกล่าวว่า”พี่สาวเจิน ผู้ชายนับพันคงปวดใจอย่างมากหากถูกท่านปฏิเสธ”
ทั้ง3 คนเริ่มสนิทสนมใกล้ชิดจึงมีการพูดจาหยอกล้อเป็นเรื่องธรรมดา
”บางทีอาจจะเปิดใจพิจารณาเมื่อเจอคนที่เหมาะสม”เฉิงเจินหัวเราะยิ้มเยาะคำพูดของเธอเป็นธรรมชาติอย่างมากเพราะเธอไม่ได้ต่อต้านอะไร
ชิงสุ่ยหยุดพูดและเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อม
”ข้ารู้สึกได้ว่าพวกเราคงจะเข้ามาอยู่ภายในอาณาเขตของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีพวกเราควรเคลื่อนตัวอย่างช้าๆและระมัดระวังให้มาก” เฉิงเจินมองดูสถานที่ที่ห่างไกลออกไป
ชิงสุ่ยลดการเคลื่อนที่ของมังกรทองจากนั้นก็ทำตามคำสั่งของเฉิงเจิน
ในที่สุดหลังจากผ่านไปประมาณ1 ชั่วโมงพวกเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าสัตว์อสูรที่มีความสูงประมาณ 8 เมตรและมีความยาวประมาณ 20 เมตร ขนาดร่างกายของมันเทียบได้กับภูเขาลูกเล็กๆ
สัตว์อสูรตัวนั้นมีสีขาวทั้งหมดไม่มีแม้แต่รอยด่างร่างกายของมันบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ขณะที่มันยืนอยู่ มันก็สังเกตพื้นที่โดยรอบด้วยความระมัดระวัง
ร่างกายของมันมีลักษณะคล้ายคลึงกับม้าแต่แข็งแกร่งกว่ามากรอบตัวของมันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังปราณจิตและยังบ่งบอกให้เห็นถึงจิตปัญญาแม้มันจะพูดไม่ได้ก็ตาม ในไม่ช้าสายตาของมันก็พุ่งความสนใจไปที่เฉิงเจิน
บางทีมันอาจจะรับรู้ถึงพลังที่แสนคุ้นเคยและพลังนั้นก็เชิญมันให้เข้ามาใกล้ๆเธอ ถึงตอนนั้นมันก็ดูเหมือนขับไล่ในเวลาเดียวกัน
ชิงสุ่ยจ้องมองม้าอสูรจันทราสวรรค์ที่กำลังลอยตัวเหนือพื้นดวงตาของเขาจับจองไปที่ขาของมัน ภายนอกอาจจะดูเหมือนว่ามันกำลังเดินอยู่บนพื้นๆแต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่าฝ่าเท้าของมันลอยตัวเหนือจากพื้นประมาณ 3 เมตร ลงเหลือช่องว่างเล็กๆห่างจากพื้นแผ่นดิน
เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์กำลังยืนอยู่เนี่ยพื้นโดยมีเมฆสีขาวคุยคล้ายหิมะรองรับกีบเท้าทันใดนั้นมันก็พุ่งตรงเข้ามาหากลุ่มชิงสุ่ย
เร็วเร็วเกินไปนี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยรู้สึก
ชิงสุ่ยตอบสนองอย่างฉับพลันแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะของมันได้
ชิงสุ่ยสร้างม่านพลังป้องกันแม้ว่าเขาจะไม่โดนโจมตีโดยตรงแรงกระแทกก็มากพอจะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดบริเวณหน้าอก ขณะที่ร่างกายของเขาถูกซัดกระเด็นออกไป ผ่านไปไม่ถึงเสี้ยววิเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ก็ไล่ตามเขามาติดๆ
ปังงงงง
ชิงสุ่ยถูกมันเตะอีกครั้ง
”บัดซบแกคิดว่าข้าจะตกเป็นเป้าให้แกกระทืบฝ่ายเดียวสินะ?”ชิงสุ่ยกำลังโกรธจัด
ทักษะล่าสังหาร
กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา
ชิงสุ่ยก็ต้องพบกับความประหลาดใจแม้ว่าเขาจะเร่งความเร็วมากเพียงใดแต่การหลบหนีก็ยังคงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก จากนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นได้ ทำไมเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ถึงเลือกเขาเป็นเป้าหมายแรก?
เขาคือคนที่เอาชนะง่ายที่สุด?
หรือเพราะว่ามันเป็นสัตว์ตัวผู้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชิงสุ่ยจึงชำเลืองมองส่วนล่างของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ แต่ก็ไม่พบสิ่งใด
ปฏิกิริยาที่ชิงสุ่ยทำกับมันยิ่งทำให้เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
ฮี่!!!!!!!
น้ำเสียงของมันแปรเปลี่ยนไปจากนั้นก้อนเมฆบนขาทั้ง 4 ข้างก็เริ่มหมุนๆพร้อมกับพลังปราณจิตอันน่าพิศวง ก่อนจะพุ่งตรงมาหาชิงสุ่ยด้วยความเร็วที่สายตาไม่มีทางมองเห็นทัน
บทที่1765 – ความว่องไวของม้าอสูรจันทราสวรรค์
เฉิงเจินสังเกตการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยแล้วพบว่าทักษะของเขาเต็มไปด้วยความมั่นคง ทั้งยังมีเสน่ห์ที่ดึงดูดและพลังอันน่าเกรงขามแฝงอยู่ภายใน
”เจ้าสนใจจะลองฝึกฝนมันดูหรือไม่?มันน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าไม่มากก็น้อย”ชิงสุ่ย กล่าวเชิญชวนด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
”ให้ข้าเรียนรู้มัน?”เฉิงเจินถามด้วยความสงสัย
”แน่นอนมันเรียนรู้ง่ายมากเพียงแค่ดูการเคลื่อนไหวของข้าแค่นั้นเอง” ชิงสุ่ยกล่าวเชิงติดตลกจากนั้นเขาก็เริ่มแสดงทักษะธีระสวัสดิ์พร้อมกับอธิบายถึงสาระสำคัญและสภาวะจิตใจที่ต้องทำ
ชิงสุ่ยมีความต้องการในการสอนเพลงหมัดไทเก๊กเพราะเชื่อว่าในอนาคตการฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กจะต้องเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์สำหรับคนกลุ่มภูเขาศักดิ์สิทธิ์และมันอาจจะกลายเป็นทักษะการฝึกฝนเพลงหมัดที่แพร่หลายภายในโลกใต้มหาสมุทรแห่งนี้ก็เป็นได้
การแสดงทักษะเพียงแค่ครั้งเดียวก็มากพอจะทำให้เฉิงเจินเข้าใจและเรียนรู้มันได้จนสำเร็จ
และเมื่อชิงสุ่ยแสดงท่าทางจะเสร็จสิ้นเขาก็ปล่อยให้เฉิงเจินเริ่มต้นฝึกฝนตามหลักที่เขาสอนทีละขั้นตอน แม้ว่าเธอจะดูเชื่องช้าแต่ทุกท่วงท่าก็เต็มไปด้วยความคล่องแคล่วและราบรื่น แต่เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ระดับฝึกฝน ท่วงท่าที่เธอแสดงออกมาครั้งแรกต้องถือได้ว่าเป็นพลังที่ค่อนข้างสมบูรณ์เหนือกว่าผู้อื่น
”ขอบคุณสำหรับทักษะที่เจ้าแบ่งปันให้กับข้าทักษะเพลงหมัดไทเก๊กที่เจ้าถ่ายทอดให้กับข้าเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมและมีประโยชน์กับข้าจริงๆ” เฉิงเจินกล่าวแสดงความขอบคุณชิงสุ่ย
”ก็ดีแล้วตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนต่อไปเถอะ”ชิงสุ่ยพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรต่อ
”อืม”
…………………..
………..
หลังจากรับประทานอาหารชิงสุ่ย มูหยุนชิงเก้อ และเฉิงเจินก็ออกเดินทางจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์สู่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์โดยไม่มีผู้ติดตามคนอื่นๆ
ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอะไรจากเธออีกต่อไปแล้วเพราะเธอก็รู้ดีว่าคนที่เก็บผลอสูรโลกาศักดิ์สิทธิ์คือเขาดังนั้นเขาจะเริ่มใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาพาทั้งหมดออกเดินทางทันที
หลังจากรู้ทิศทางและตำแหน่งที่แน่นอนชิงสุ่ยใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวาเพียงแค่ครั้งเดียวก็มาถึงทางเข้าถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ ซึ่งเป็นส่วนขยายเพิ่มเติมภายในน่านน้ำมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์
จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะย่างก้าว9 เทวาซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อเข้าสู่ภายในตัวถ้ำ ในไม่ช้าทุกคนก็เข้าไปสู่ภายในส่วนลึกของถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ ชิงสุ่ยคิดว่าสถานที่ที่เขาต้องสำรวจคงจะอยู่ไม่ไกลนักเขาจึงหยุดการใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา แล้วตัดสินใจขี่สัตว์อสูรในการสำรวจระยะทางที่เหลือ
ชิงสุ่ยเลือดมังกรทองคำจากนั้นก็ส่งสัญญาณให้หญิงสาวทั้งสองคนขึ้นไปขี่มัน ไอลีนโนเวล
ซึ่งทันทีที่เฉิงเจินเห็นเจ้ามังกรทองเธอก็ปริปากถามชิงสุ่ยด้วยสีหน้าตกใจว่า”นี่คงจะเป็นเจ้างูมายามหาสมุทรใช่หรือไม่?”
”คงไม่มีอะไรรอดพ้นจากสายตาของเจ้าไปได้จริงๆถ้าหากเจ้ายังฉลาดเกินไปแบบนี้ ระวังจะไม่มีคนกล้าแต่งงานกับเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวหยอกล้อ
เฉิงเจินตะลึงกันเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าและกล่าวว่า”ข้าก็ไม่ได้คิดหวังว่าใครจะมาแต่งงานกับข้าสักหน่อย”
ไม่มีใครเคยแกล้งเธอแบบนี้มาก่อนดังนั้นเธอจึงค่อนข้างอ้ำอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย
มูหยุนชิงเก้อกล่าวว่า”พี่สาวเจิน ผู้ชายนับพันคงปวดใจอย่างมากหากถูกท่านปฏิเสธ”
ทั้ง3 คนเริ่มสนิทสนมใกล้ชิดจึงมีการพูดจาหยอกล้อเป็นเรื่องธรรมดา
”บางทีอาจจะเปิดใจพิจารณาเมื่อเจอคนที่เหมาะสม”เฉิงเจินหัวเราะยิ้มเยาะคำพูดของเธอเป็นธรรมชาติอย่างมากเพราะเธอไม่ได้ต่อต้านอะไร
ชิงสุ่ยหยุดพูดและเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อม
”ข้ารู้สึกได้ว่าพวกเราคงจะเข้ามาอยู่ภายในอาณาเขตของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีพวกเราควรเคลื่อนตัวอย่างช้าๆและระมัดระวังให้มาก” เฉิงเจินมองดูสถานที่ที่ห่างไกลออกไป
ชิงสุ่ยลดการเคลื่อนที่ของมังกรทองจากนั้นก็ทำตามคำสั่งของเฉิงเจิน
ในที่สุดหลังจากผ่านไปประมาณ1 ชั่วโมงพวกเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าสัตว์อสูรที่มีความสูงประมาณ 8 เมตรและมีความยาวประมาณ 20 เมตร ขนาดร่างกายของมันเทียบได้กับภูเขาลูกเล็กๆ
สัตว์อสูรตัวนั้นมีสีขาวทั้งหมดไม่มีแม้แต่รอยด่างร่างกายของมันบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ขณะที่มันยืนอยู่ มันก็สังเกตพื้นที่โดยรอบด้วยความระมัดระวัง
ร่างกายของมันมีลักษณะคล้ายคลึงกับม้าแต่แข็งแกร่งกว่ามากรอบตัวของมันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังปราณจิตและยังบ่งบอกให้เห็นถึงจิตปัญญาแม้มันจะพูดไม่ได้ก็ตาม ในไม่ช้าสายตาของมันก็พุ่งความสนใจไปที่เฉิงเจิน
บางทีมันอาจจะรับรู้ถึงพลังที่แสนคุ้นเคยและพลังนั้นก็เชิญมันให้เข้ามาใกล้ๆเธอ ถึงตอนนั้นมันก็ดูเหมือนขับไล่ในเวลาเดียวกัน
ชิงสุ่ยจ้องมองม้าอสูรจันทราสวรรค์ที่กำลังลอยตัวเหนือพื้นดวงตาของเขาจับจองไปที่ขาของมัน ภายนอกอาจจะดูเหมือนว่ามันกำลังเดินอยู่บนพื้นๆแต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่าฝ่าเท้าของมันลอยตัวเหนือจากพื้นประมาณ 3 เมตร ลงเหลือช่องว่างเล็กๆห่างจากพื้นแผ่นดิน
เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์กำลังยืนอยู่เนี่ยพื้นโดยมีเมฆสีขาวคุยคล้ายหิมะรองรับกีบเท้าทันใดนั้นมันก็พุ่งตรงเข้ามาหากลุ่มชิงสุ่ย
เร็วเร็วเกินไปนี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยรู้สึก
ชิงสุ่ยตอบสนองอย่างฉับพลันแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะของมันได้
ชิงสุ่ยสร้างม่านพลังป้องกันแม้ว่าเขาจะไม่โดนโจมตีโดยตรงแรงกระแทกก็มากพอจะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดบริเวณหน้าอก ขณะที่ร่างกายของเขาถูกซัดกระเด็นออกไป ผ่านไปไม่ถึงเสี้ยววิเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ก็ไล่ตามเขามาติดๆ
ปังงงงง
ชิงสุ่ยถูกมันเตะอีกครั้ง
”บัดซบแกคิดว่าข้าจะตกเป็นเป้าให้แกกระทืบฝ่ายเดียวสินะ?”ชิงสุ่ยกำลังโกรธจัด
ทักษะล่าสังหาร
กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา
ชิงสุ่ยก็ต้องพบกับความประหลาดใจแม้ว่าเขาจะเร่งความเร็วมากเพียงใดแต่การหลบหนีก็ยังคงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก จากนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นได้ ทำไมเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ถึงเลือกเขาเป็นเป้าหมายแรก?
เขาคือคนที่เอาชนะง่ายที่สุด?
หรือเพราะว่ามันเป็นสัตว์ตัวผู้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชิงสุ่ยจึงชำเลืองมองส่วนล่างของเจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์ แต่ก็ไม่พบสิ่งใด
ปฏิกิริยาที่ชิงสุ่ยทำกับมันยิ่งทำให้เจ้าม้าอสูรจันทราสวรรค์รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
ฮี่!!!!!!!
น้ำเสียงของมันแปรเปลี่ยนไปจากนั้นก้อนเมฆบนขาทั้ง 4 ข้างก็เริ่มหมุนๆพร้อมกับพลังปราณจิตอันน่าพิศวง ก่อนจะพุ่งตรงมาหาชิงสุ่ยด้วยความเร็วที่สายตาไม่มีทางมองเห็นทัน