AST
บทที่1801 – เข้าร่วมกลุ่มวิหคอัคคีเทวะ เหรียญทองคำบริสุทธิ์
ชิงสุ่ยยังคงเฝ้าสังเกตเธอเป็นเวลานานโดยไม่พูดจาอะไรและหญิงสาวผู้นั้นก็ไม่ได้เอ่ยคำใดแม้แต่คำเดียวเช่นกัน เธอจ้องมองกลับมาด้วยสายตาที่เหมือนกับเธอกำลังมองดูจันทราและจักระดารา
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่แต่การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ตรวจพบเจอแต่ความวุ่นวายในๆจากตัวเธอ แม้ว่าเขาเองจะมองไม่เห็นมัน แต่ดวงตาที่สวยงามของเธอก็ไม่กระพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว แล้วยังคงจ้องมองกันและกัน
สถานการณ์ในปัจจุบันมันเหมือนกับการแข่งขันว่าใครพูดก่อนคือผู้พ่ายแพ้และแล้วชิงสุ่ยก็ถอนหายใจและกล่าวอย่างช้าๆว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่”
แม้ว่าชิงสุ่ยจะเข้าใจเกี่ยวกับตัวตนของเธอแต่การตั้งคำถามเพื่อรู้ชื่อของเธอก็คือสิ่งที่ถูกต้องยิ่งไปกว่านั้นคนเรามักจะตั้งคำถามเป็นเรื่องปกติ
”ช่างน่าประหลาดใจจริงๆที่ได้พบเจอเจ้าโดยตรงดูเหมือนการมาที่นี่ไม่ทำให้ข้าเสียเวลาปล่าวเสียแล้ว” น้ำเสียงจากคำพูดที่เต็มไปด้วยความไพเราะ แทรกไปด้วยเสียงแหบห้าวที่มีเสน่ห์ ดังออกมาจากปากของเธอ
”มิทราบว่าเจ้าเป็นใคร?”ชิงสุ่ยถามด้วยความสุภาพอีกครั้งน้ำเสียงของเขายังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
ดวงตาของหญิงสาวทอแสงสว่างเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำถามของชิงสุ่ยจากนั้นเธอก็มองกลับมาแล้วตอบกลับว่า ” ผู้คนมักเรียกข้าว่าเฉินหวง แต่บางคนในกลุ่มวิหคอัคคีเทวะ เรียกแทนข้าว่าวิหคเทวะ”
ชิงสุ่ยตกใจไม่ได้ยินคำตอบเพราะเขาไม่คิดว่าคำตอบที่ได้กลับมาจะเป็นคำตอบที่ดูสุภาพ
นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาได้ครอบครองมรดกแห่งเทพสงครามเขาเองก็ได้รับข้อมูลคนที่มีนามสกุล “หวง(凰)” ซึ่งเป็นนามสกุลที่หาได้ยากมาก พวกเขามีความสามารถในการรับรู้ถึงสวรรค์และโลก บางคนถึงจะบอกว่าพวกเขาคือผู้สืบทอดจากทวยเทพโดยตรง
(*****凤凰หรือ凰 แปลว่า นกฟีนิกซ์ หรือ วิหคเพลิง)
อย่างไรก็ตามในโลกใบนี้ไม่มีพระเจ้าอย่างแท้จริง แต่บางคนก็เหมือนกับได้รับพรจากพระเจ้าและกลายเป็นลูกหลานของพระเจ้าโดยตรง ชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวนามสกุลเฉินโดยไม่พูดอะไรต่อ
”กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะขอเชิญเจ้าให้เข้าร่วมกับพวกเรา”หญิงสาวผู้นั้นกล่าวด้วยความสงบ คำพูดและวิธีการพูดของเธอนั้นเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมา
ชิงสุ่ยงุนงงจากการเชิญครั้งนี้อย่างชัดเจนเขาได้บอกกับอีหวงกู่หวู๋ว่าถ้าหากคนของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะแสดงความไร้ปัญญาออกมาอีก เขาจะทำให้พวกมันรู้ซึ้งแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ตอนนี้มันคงไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำเช่นนั้น
และที่สำคัญหญิงสาวผู้นี้ก็ไม่ได้แสดงทัศนคติเดียวกับชายชราทั้งสองคนก่อนหน้านี้เลยหญิงสาวผู้ที่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังหรือรู้สึกในทางไม่ดีอะไรทั้งสิ้น
”ถ้าหากข้าไม่เข้าร่วมกลุ่มของเจ้ามันพอจะเป็นไปได้หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวหลังจากครุ่นคิดมาสักพักหนึ่ง
หญิงสาวผู้นั้นเงียบไปราวกับว่าเธอไม่ต้องการตอบคำถามนี้หรือเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะตอบคำถามของเขาด้วยคำพูดอย่างไร หลังจากที่เธอต้องมองชิงสุ่ยสักพักใหญ่ เธอก็เริ่มกล่าวว่า ” ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
ชิงสุ่ยไม่รีบตอบกลับเขาใช้เวลาในการพิจารณาสถานการณ์ หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนจะยังไม่หมดหวังหรือใจร้อนขณะที่เธอตอบคำถามเขากลับมา
”ข้าไม่ได้มีเงื่อนงำหรืออะไรสงสัยในตัวของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะตัวข้าเองนั้นรู้สึกว่าเจ้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าเสียอีก แล้วข้าจะช่วยอะไรพวกเจ้าได้บ้าง?”ชิงสุ่ยเบี่ยงเบนคำถามขณะตอบกลับ
ครั้งนี้หญิงสาวคนนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า”ข้าเองรู้ตัวดีว่าชายชราทั้งสองคนทำให้เจ้ารู้สึกผิดหวังกับภาคีวิหคอัคคีเทวะ จริงๆแล้วคนในกลุ่มของพวกเราก็มีไม่มาก และส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงแค่คนนอก บางที คำพูดของเจ้าอาจจะเป็นจริง เจ้าอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าค่า แต่เจ้าก็ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ศัตรูของเจ้าก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น การที่เจ้าเข้าร่วมกับเรามันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้าเอง ข้าสามารถรับประกันได้เลยว่าชีวิตของเจ้าจะยังคงมีอิสระเหมือนเดิม ข้าเพียงแค่หวังว่าในอนาคตพวกเราจะช่วยยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤตการณ์ที่ใกล้จะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าเจ้าจะสิ่งใด ข้าจะไม่บังคับให้เจ้าทำสิ่งอื่นที่ต้องไม่ต้องการทั้งสิ้น เจ้าว่าอย่างไรบ้าง?”
เงื่อนไขเป็นไปด้วยความอิสระแม้แต่ชิงสุ่ยก็รู้สึกได้เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะคัดค้านด้วยวิธีใดเพราะฝ่ายตรงข้ามไม่มีข้อจำกัดได้เลย แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เขาเองก็ยังคงสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
เนื่องจากคำเชิญของเธอเป็นไปด้วยความจริงใจชิงสุ่ยจึงเริ่มพิจารณาเงื่อนไขชั่วครู่นึง ก่อนจะพยักหน้าให้กับเธอ ” ข้าจะตอบรับคำเชิญของเจ้า อย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ไม่อยากให้ครอบครัวของข้าถูกรบกวนอีก”
ชิงสุ่ยต้องมองหญิงสาวผู้นั้นด้วยสีหน้าจริงจัง
”ไม่มีปัญหาข้ายอมรับในเงื่อนไขของเจ้ายินดีต้อนรับเข้าสู่กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะอย่างเป็นทางการ”หญิงสาวผู้นั้นหยิบเหรียญที่แกะสลักรูปวิหคอัคคีเทวะสีทองคำเหลืองอร่ามออกมา จากนั้นก็ส่งมันให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปรับในขณะที่เขาสัมผัสเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเหรียญเหล่านี้ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์
ทองคำบริสุทธิ์!!เป็นวัสดุที่ถูกสร้างขึ้นในระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับในโลกอันกว้างขวาง ชิงสุ่ยมองดูเหรียญจากนั้นก็สังเกตเห็นคำที่จารึกอยู่ภายใน
ผู้เยี่ยมชม!!
การดำรงอยู่ของเหล่าผู้คนระดับสูงของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะเต็มไปด้วยอำนาจอย่างไม่มีข้อสงสัย ภายใต้สมมติฐาน เขามั่นใจอย่างมากว่าผู้คนที่ได้รับเหรียญเหล้านี้ จะต้องเป็นคนที่มีค่าสำหรับกลุ่ม
”เหรียญนี้ช่างเป็นสิ่งที่มีคุณภาพสูงและวัสดุแบบนี้ก็เหมาะสมต่อการนำมาทำเป็นศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ
หญิงสาวคนนั้นจ้องมองชิงสุ่ยและกล่าวว่า”สิ่งที่เจ้าถือไม่ใช่ของปลอม แน่นอนว่ามีช่างตีเหล็กจำนวนมากไม่สามารถสร้างทองบริสุทธิ์แบบนี้ขึ้นมาได้ แต่ข้าโชคดี ที่ได้เจอช่างฝีมือที่สามารถทำเหรียญนี้ออกมาให้กับข้าได้”
”จริงๆแล้วข้าเองก็เป็นช่างตีเหล็กข้าเองก็สามารถสร้างมันได้ เพียงแต่ทองคำเหล่านี้มีค่ามากเกินไป และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตามหามัน”
หญิงคนนั้นนำเอาทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ออกมาอีก1 ก้อน ซึ่งใหญ่พอจะแยกออกเป็น 2 ชิ้นได้ มันกำลังเปล่งแสงแพรวพราวดึงดูดสายตา จากนั้นเธอก็กล่าวว่า “สิ่งของชิ้นนี้ข้ายกให้เจ้า หากเจ้ามีความสามารถจริงๆแล้วเราก็ ข้าก็คงต้องขอรบกวนให้เจ้าหลอมมันเพื่อสร้างกระบี่ยาวให้กับข้า”
ชิงสุ่ยจ้องมองชิ้นทองคำขนาดใหญ่ชิ้นส่วนของมันเพียงชิ้นเดียวก็มากพอจะหลอมให้กลายเป็นกระบี่ยาวจำนวนมากได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องอันตรายใดๆถ้าหากเขาจะสร้างกระบี่ให้กับเธอ
”ไม่มีปัญหาอย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าข้าสามารถทำมันขึ้นมาได้จริงๆ แต่จากความสามารถของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องมีศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ครอบครองอยู่แล้วอย่างแน่นอน”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความงุนงง
”ไม่เลยข้าไม่เคยคิดจะครอบครองศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ข้ากลัวว่าถ้าหากข้ามีศาสตราวุธที่ดี ความสามารถในการพัฒนาฝีมือของข้าจะหยุดชะงักลง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ขอให้เจ้าสร้างมันได้หรือสร้างมันไม่ได้ ข้าก็เพียงแค่ต้องการอาวุธที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”
คำตอบของเธอเป็นไปด้วยความจริงใจหลายๆคนก็คิดแบบเดียวกับที่เธอคิด อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้รับรู้ถึงศาสตราวุธที่แข็งแกร่ง ความคิดของคนส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
บทที่1801 – เข้าร่วมกลุ่มวิหคอัคคีเทวะ เหรียญทองคำบริสุทธิ์
ชิงสุ่ยยังคงเฝ้าสังเกตเธอเป็นเวลานานโดยไม่พูดจาอะไรและหญิงสาวผู้นั้นก็ไม่ได้เอ่ยคำใดแม้แต่คำเดียวเช่นกัน เธอจ้องมองกลับมาด้วยสายตาที่เหมือนกับเธอกำลังมองดูจันทราและจักระดารา
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่แต่การแสดงออกของเธอเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ตรวจพบเจอแต่ความวุ่นวายในๆจากตัวเธอ แม้ว่าเขาเองจะมองไม่เห็นมัน แต่ดวงตาที่สวยงามของเธอก็ไม่กระพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว แล้วยังคงจ้องมองกันและกัน
สถานการณ์ในปัจจุบันมันเหมือนกับการแข่งขันว่าใครพูดก่อนคือผู้พ่ายแพ้และแล้วชิงสุ่ยก็ถอนหายใจและกล่าวอย่างช้าๆว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่”
แม้ว่าชิงสุ่ยจะเข้าใจเกี่ยวกับตัวตนของเธอแต่การตั้งคำถามเพื่อรู้ชื่อของเธอก็คือสิ่งที่ถูกต้องยิ่งไปกว่านั้นคนเรามักจะตั้งคำถามเป็นเรื่องปกติ
”ช่างน่าประหลาดใจจริงๆที่ได้พบเจอเจ้าโดยตรงดูเหมือนการมาที่นี่ไม่ทำให้ข้าเสียเวลาปล่าวเสียแล้ว” น้ำเสียงจากคำพูดที่เต็มไปด้วยความไพเราะ แทรกไปด้วยเสียงแหบห้าวที่มีเสน่ห์ ดังออกมาจากปากของเธอ
”มิทราบว่าเจ้าเป็นใคร?”ชิงสุ่ยถามด้วยความสุภาพอีกครั้งน้ำเสียงของเขายังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
ดวงตาของหญิงสาวทอแสงสว่างเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำถามของชิงสุ่ยจากนั้นเธอก็มองกลับมาแล้วตอบกลับว่า ” ผู้คนมักเรียกข้าว่าเฉินหวง แต่บางคนในกลุ่มวิหคอัคคีเทวะ เรียกแทนข้าว่าวิหคเทวะ”
ชิงสุ่ยตกใจไม่ได้ยินคำตอบเพราะเขาไม่คิดว่าคำตอบที่ได้กลับมาจะเป็นคำตอบที่ดูสุภาพ
นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาได้ครอบครองมรดกแห่งเทพสงครามเขาเองก็ได้รับข้อมูลคนที่มีนามสกุล “หวง(凰)” ซึ่งเป็นนามสกุลที่หาได้ยากมาก พวกเขามีความสามารถในการรับรู้ถึงสวรรค์และโลก บางคนถึงจะบอกว่าพวกเขาคือผู้สืบทอดจากทวยเทพโดยตรง
(*****凤凰หรือ凰 แปลว่า นกฟีนิกซ์ หรือ วิหคเพลิง)
อย่างไรก็ตามในโลกใบนี้ไม่มีพระเจ้าอย่างแท้จริง แต่บางคนก็เหมือนกับได้รับพรจากพระเจ้าและกลายเป็นลูกหลานของพระเจ้าโดยตรง ชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวนามสกุลเฉินโดยไม่พูดอะไรต่อ
”กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะขอเชิญเจ้าให้เข้าร่วมกับพวกเรา”หญิงสาวผู้นั้นกล่าวด้วยความสงบ คำพูดและวิธีการพูดของเธอนั้นเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมา
ชิงสุ่ยงุนงงจากการเชิญครั้งนี้อย่างชัดเจนเขาได้บอกกับอีหวงกู่หวู๋ว่าถ้าหากคนของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะแสดงความไร้ปัญญาออกมาอีก เขาจะทำให้พวกมันรู้ซึ้งแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ตอนนี้มันคงไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำเช่นนั้น
และที่สำคัญหญิงสาวผู้นี้ก็ไม่ได้แสดงทัศนคติเดียวกับชายชราทั้งสองคนก่อนหน้านี้เลยหญิงสาวผู้ที่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังหรือรู้สึกในทางไม่ดีอะไรทั้งสิ้น
”ถ้าหากข้าไม่เข้าร่วมกลุ่มของเจ้ามันพอจะเป็นไปได้หรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวหลังจากครุ่นคิดมาสักพักหนึ่ง
หญิงสาวผู้นั้นเงียบไปราวกับว่าเธอไม่ต้องการตอบคำถามนี้หรือเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะตอบคำถามของเขาด้วยคำพูดอย่างไร หลังจากที่เธอต้องมองชิงสุ่ยสักพักใหญ่ เธอก็เริ่มกล่าวว่า ” ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
ชิงสุ่ยไม่รีบตอบกลับเขาใช้เวลาในการพิจารณาสถานการณ์ หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนจะยังไม่หมดหวังหรือใจร้อนขณะที่เธอตอบคำถามเขากลับมา
”ข้าไม่ได้มีเงื่อนงำหรืออะไรสงสัยในตัวของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะตัวข้าเองนั้นรู้สึกว่าเจ้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าเสียอีก แล้วข้าจะช่วยอะไรพวกเจ้าได้บ้าง?”ชิงสุ่ยเบี่ยงเบนคำถามขณะตอบกลับ
ครั้งนี้หญิงสาวคนนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า”ข้าเองรู้ตัวดีว่าชายชราทั้งสองคนทำให้เจ้ารู้สึกผิดหวังกับภาคีวิหคอัคคีเทวะ จริงๆแล้วคนในกลุ่มของพวกเราก็มีไม่มาก และส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงแค่คนนอก บางที คำพูดของเจ้าอาจจะเป็นจริง เจ้าอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าค่า แต่เจ้าก็ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ศัตรูของเจ้าก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น การที่เจ้าเข้าร่วมกับเรามันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้าเอง ข้าสามารถรับประกันได้เลยว่าชีวิตของเจ้าจะยังคงมีอิสระเหมือนเดิม ข้าเพียงแค่หวังว่าในอนาคตพวกเราจะช่วยยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤตการณ์ที่ใกล้จะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าเจ้าจะสิ่งใด ข้าจะไม่บังคับให้เจ้าทำสิ่งอื่นที่ต้องไม่ต้องการทั้งสิ้น เจ้าว่าอย่างไรบ้าง?”
เงื่อนไขเป็นไปด้วยความอิสระแม้แต่ชิงสุ่ยก็รู้สึกได้เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะคัดค้านด้วยวิธีใดเพราะฝ่ายตรงข้ามไม่มีข้อจำกัดได้เลย แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะ เขาเองก็ยังคงสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
เนื่องจากคำเชิญของเธอเป็นไปด้วยความจริงใจชิงสุ่ยจึงเริ่มพิจารณาเงื่อนไขชั่วครู่นึง ก่อนจะพยักหน้าให้กับเธอ ” ข้าจะตอบรับคำเชิญของเจ้า อย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ไม่อยากให้ครอบครัวของข้าถูกรบกวนอีก”
ชิงสุ่ยต้องมองหญิงสาวผู้นั้นด้วยสีหน้าจริงจัง
”ไม่มีปัญหาข้ายอมรับในเงื่อนไขของเจ้ายินดีต้อนรับเข้าสู่กลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะอย่างเป็นทางการ”หญิงสาวผู้นั้นหยิบเหรียญที่แกะสลักรูปวิหคอัคคีเทวะสีทองคำเหลืองอร่ามออกมา จากนั้นก็ส่งมันให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยเอื้อมมือออกไปรับในขณะที่เขาสัมผัสเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเหรียญเหล่านี้ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์
ทองคำบริสุทธิ์!!เป็นวัสดุที่ถูกสร้างขึ้นในระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับในโลกอันกว้างขวาง ชิงสุ่ยมองดูเหรียญจากนั้นก็สังเกตเห็นคำที่จารึกอยู่ภายใน
ผู้เยี่ยมชม!!
การดำรงอยู่ของเหล่าผู้คนระดับสูงของกลุ่มภาคีวิหคอัคคีเทวะเต็มไปด้วยอำนาจอย่างไม่มีข้อสงสัย ภายใต้สมมติฐาน เขามั่นใจอย่างมากว่าผู้คนที่ได้รับเหรียญเหล้านี้ จะต้องเป็นคนที่มีค่าสำหรับกลุ่ม
”เหรียญนี้ช่างเป็นสิ่งที่มีคุณภาพสูงและวัสดุแบบนี้ก็เหมาะสมต่อการนำมาทำเป็นศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ
หญิงสาวคนนั้นจ้องมองชิงสุ่ยและกล่าวว่า”สิ่งที่เจ้าถือไม่ใช่ของปลอม แน่นอนว่ามีช่างตีเหล็กจำนวนมากไม่สามารถสร้างทองบริสุทธิ์แบบนี้ขึ้นมาได้ แต่ข้าโชคดี ที่ได้เจอช่างฝีมือที่สามารถทำเหรียญนี้ออกมาให้กับข้าได้”
”จริงๆแล้วข้าเองก็เป็นช่างตีเหล็กข้าเองก็สามารถสร้างมันได้ เพียงแต่ทองคำเหล่านี้มีค่ามากเกินไป และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตามหามัน”
หญิงคนนั้นนำเอาทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ออกมาอีก1 ก้อน ซึ่งใหญ่พอจะแยกออกเป็น 2 ชิ้นได้ มันกำลังเปล่งแสงแพรวพราวดึงดูดสายตา จากนั้นเธอก็กล่าวว่า “สิ่งของชิ้นนี้ข้ายกให้เจ้า หากเจ้ามีความสามารถจริงๆแล้วเราก็ ข้าก็คงต้องขอรบกวนให้เจ้าหลอมมันเพื่อสร้างกระบี่ยาวให้กับข้า”
ชิงสุ่ยจ้องมองชิ้นทองคำขนาดใหญ่ชิ้นส่วนของมันเพียงชิ้นเดียวก็มากพอจะหลอมให้กลายเป็นกระบี่ยาวจำนวนมากได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องอันตรายใดๆถ้าหากเขาจะสร้างกระบี่ให้กับเธอ
”ไม่มีปัญหาอย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าข้าสามารถทำมันขึ้นมาได้จริงๆ แต่จากความสามารถของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าจะต้องมีศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ครอบครองอยู่แล้วอย่างแน่นอน”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความงุนงง
”ไม่เลยข้าไม่เคยคิดจะครอบครองศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ข้ากลัวว่าถ้าหากข้ามีศาสตราวุธที่ดี ความสามารถในการพัฒนาฝีมือของข้าจะหยุดชะงักลง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ขอให้เจ้าสร้างมันได้หรือสร้างมันไม่ได้ ข้าก็เพียงแค่ต้องการอาวุธที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”
คำตอบของเธอเป็นไปด้วยความจริงใจหลายๆคนก็คิดแบบเดียวกับที่เธอคิด อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้รับรู้ถึงศาสตราวุธที่แข็งแกร่ง ความคิดของคนส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
