AST
บทที่1829 – เจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์? สมบัติระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์?
ชิงสุ่ยรู้สึกเหมือนคนที่ได้พรจากสวรรค์ขณะที่ทั้ง 3 คนเดินไปตามตรอกซอกซอย ผู้คนมากมายต่างจับจ้องมาที่หญิงสาวทั้งสองคนข้างกายชิงสุ่ย ฉินชิงจ้องมองผู้คนในขณะที่ถานท่ายหลิงเยียนได้แต่เบือนหน้าหนี
ตลอดเส้นทางบนถนนเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนนับไม่ถ้วน แต่โชคดีที่ถนนกว้างใหญ่จึงทำให้ผู้คนเดินไม่เบียดเสียด
ผู้คนที่นี่เหมือนลำธารที่ไหลอยู่บนถนนทอดยาวไร้ขีดสุดบางคนก็มีความสุขบางคนก็มีความเศร้าบางคนก็เป็นใบหน้าเย็นชา…. ชิงสุ่ยจ้องมองผู้คนมากมายที่กำลังเดินอยู่บนท้องถนนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
อารมณ์มนุษย์เป็นสิ่งที่น่าประหลาดไม่มีใครควบคุมได้แต่ยังคงอยู่บนหลักของเทวะสวรรค์เต๋า ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวขณะที่เธอหันไปมองชิงสุ่ย
นี่แหละวิถีชีวิตของมนุษย์ทุกคนย่อมมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกัน ซึ่งผลสุดท้ายมันก็นำมาซึ่งความรู้สึกของมนุษย์ ฉินชิงกล่าว
ชิงสุ่ยพยักหน้า ถูกต้อง เส้นทางเดินของมนุษย์แบ่งย่อยเป็นล้านล้านเส้นทาง ทุกเส้นทางล้วนทำให้เราพบเจอแต่ความรู้สึกที่แตกต่างกัน มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อเผชิญหน้ากับทุกเหตุการณ์ ประสบการต่อสู้นั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
ช่างโชคร้ายที่การจะได้มาซึ่งประสบการต่อสู้ มันต้องเอาชีวิตเท่าเดิมพันเหมือนการเต้นรำบนคมมีด ฉินชิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
ใช่แล้วล่ะคนที่มีชีวิตรอดจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง บางคนต้องฝ่าฟันกองกระดูกนับร้อยนับพัน ก่อให้เกิดเป็นภูเขาแห่งซากศพเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ทั้งสามคนยังคงเดินไปบนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีและผู้คนมากมายจนกระทั่ง
ฮึมหอคอยชะตาสวรรค์ ชิงสุ่ยอ่านป้ายร้านก่อนจะแสดงความประหลาดใจ
อาคารเล็กๆเรียบง่ายเก่าแก่ที่มีจำนวน3 ชั้น หากเทียบกับร้านค้าด้านข้างสถานที่แห่งนี้ดูเสื่อมโทรมกว่าอย่างเห็นได้ชัด และภายในร้านก็แทบไม่มีลูกค้าซึ่งต่างจากร้านด้านข้างอีกเช่นกัน
แน่นอนว่าสิ่งของจากยุคโบราณย่อมต้องมีจำนวนมากมายจึงทำให้สิ่งของโบราณส่วนใหญ่เป็นสิ่งไร้ค่ายกเว้นสิ่งของที่สืบทอดมาจากนักรบยุคโบราณ แต่ส่วนใหญ่จะถ่ายทอดจากมือบรรพบุรุษสู่มือลูกหลาน
การดำรงอยู่ของร้านค้าหลังนี้โดยเฉพาะชื่อเป็นสิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกฉงนใจตัวของชิงสุ่ยเองก็เป็นคนที่เผชิญโชคมาตั้งแต่แรกเริ่ม เขาจึงรู้สึกสังหรณ์ใจว่าภายในสถานที่แห่งนี้คงจะมีบางสิ่งบางอย่างลึกลับก็เป็นได้
พวกเราลองเข้าไปดูร้านค้าหลังนี้สักหน่อยบางทีเราอาจจะพบของดีๆแอบซ่อนอยู่ภายใน ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะรีบจูงมือหญิงสาวทั้งสองเข้าไปในร้านค้าโดยไม่รอคำตอบ
ด้านนอกเหมือนถูกทิ้งร้างส่วนด้านในยิ่งดูว่างเปล่ากว่าจากความรู้สึก ผู้คนทั่วไปบอกได้ทันทีว่านี่เป็นเพียงแค่บ้านเก่าๆ ไม่ใหญ่โต แต่ก็มีพื้นที่กว้างภายในไม่ต่ำกว่า 1,000 ตารางเมตร
ทุกหนแห่งภายในตัวอาคารเต็มไปด้วยชั้นวางเก่าๆและมีวัตถุมากมายถูกทิ้งร้าง เพราะตั้งราคาไว้สูงเกินกว่าคนทั่วไปจะให้ราคา
ภายในอาคารมีเพียงมนุษย์หลงเหลืออยู่ผู้เดียวหากไม่นับรวมเจ้าของร้านที่มีลักษณะเป็นชายวัยกลางคน เจ้าของร้านแห่งนี้ยังคงเมินเฉยไม่แม้แต่จะมาแนะนำสิ่งของต่างๆกับกลุ่มชิงสุ่ย ภายใต้ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งอย่างชัดเจน ชิงสุ่ยค่อนข้างสับสนว่าทำไมชายผู้นี้ถึงมีทัศนคติที่แปลกประหลาดมันเหมือนความรู้สึกเย่อหยิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ใช่เป็นการตั้งใจทำ
หลังจากเดินมองสิ่งของไปรอบๆลูกค้าเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในร้านก็ซื้อสร้อยคอเครื่องประดับขนาดเล็กจิ๋วราคาถูก ก่อนจะออกจากร้านไป
ชิงสุ่ยและหญิงสาวทั้งสามยังคงเดินดูสินค้าโดยรอบบนชั้นวางกระจัดกระจายไปด้วยสินค้าทุกประเภทเริ่มตั้งแต่งานแกะสลัก ไปจนถึงรูปปั้น
นอกจากนี้สิ่งของส่วนใหญ่ต่างก็ถูกตั้งทิ้งไว้นานจนฝุ่นเกาะเขรอะชิงสุ่ยถอนหายใจเพราะยังไม่เห็นสิ่งของถูกตาถูกใจเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ทันใดนั้นชิงสุ่ยก็มองเห็นเจดีย์3 ชิ้นซึ่งวางอยู่บนชั้นวาง มันคือเจดีย์ที่ดูเรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยฝุ่นปกคลุม สิ่งของชิ้นนี้คงถูกทิ้งไว้นานและไม่มีใครแตะต้องมันแม้แต่คนเดียว เบิกเนตรสวรรค์!!
ชิงสุ่ยเปิดใช้ทักษะเบิกเนตรสวรรค์โดยตรงก่อนจะพบเจอกับความน่าตกใจ
เจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์: สามารถเบี่ยงการโจมตีและภัยคุกคามช่วงเวลาฉุกเฉิน จะมีผลก็ต่อเมื่อมันจดจำเจ้านาย
สถานะ: ต้องใช้แก่นแท้โลหิตจำนวน 3 หยดครึ่งเพื่อจดจำเจ้านาย
ชิงสุ่ยมองดูเจดีย์ทั้ง3 ชิ้น ซึ่งพอดีกับจำนวนคนทั้งสามคน 3 คน มันเหมือนโชคชะตากำหนด เขาจึงหันไปมองเจ้าของร้าน
พ่อค้าพวกเราอยากจะซื้อของบางอย่างในร้านของท่าน ชิงสุ่ยกล่าวกับเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองชิงสุ่ยก่อนจะเดินออกมาจากที่นั่งหน้าร้านอย่างเชื่องช้า
ไม่ทราบว่าเจ้าต้องการซื้ออะไร เจ้าของร้านกล่าวถามชิงสุ่ย
พอดีว่าภรรยาของข้าชอบเจดีย์พวกนี้ไม่ทราบว่าพวกมันมีราคาเท่าไหร่กัน? ชิงสุ่ยถามด้วยคำพูดที่ดูเป็นกันเอง