ฝ่ามือกระชากมังกรคือทักษะนักฆ่าที่ใช้ควบคุมเหยื่อโดยไม่มีข้อจำกัดและใช้พลังงานจากร่างกายเพียงแค่เล็กน้อยเหตุผลที่ชิงสุ่ยเลือกใช้ทักษะนี้เพราะมันเป็นทักษะที่ว่องไวมีโอกาสเข้าถึงตัวเหยื่อ และสามารถบีบร่างกายเหยื่อให้ตายได้ทันที นอกจากนี้ฝ่ามือกระชากมังกร ก็ยังเป็นทักษะที่เหยื่อหนีรอดได้ยาก
ถึงแม้จะบอกว่าหนีรอดได้ยากแต่เหยื่อจะหนีรอดได้ก็ต่อเมื่อเหยื่อมีพลังที่แข็งแกร่ง!!
ปังงงง!!
นึกในใจของชิงสุ่ยเขารู้สึกมีความสุขเพราะผู้นำเทวะสูงสุดไม่สามารถหลบหลีกฝ่ามือของเขาได้ มันจึงทำให้ผู้นำเทวะถูกจับตัว แต่เมื่อศัตรูมีพลังที่แข็งแกร่งเกินไป ผู้นำเทวะสูงสุดจึงโดนเพียงแค่ถูกจับ
ในสายตาของผู้นำเทวะสูงสุดเองก็ค่อนข้างแปลกใจเขาไม่คิดเลยว่าชิงสุ่ยจะทำให้เขาอ่อนแอลงได้ หลังจากที่ความเร็วของเขาลดลงครึ่งหนึ่ง ร่างกายของเขาเหมือนรู้สึกตกอยู่ในบ่อโคลน โดยที่หลังแบบภูเขายักษ์เอาไว้
ยิ่งการโจมตีของชิงสุ่ยมันยิ่งสร้างความน่าตกใจ เหตุการณ์ในวันนี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์แปลกประหลาด บีบบังคับให้เขารู้สึกอยากจะหนี แม้จะเพิ่มพลังแต่ก็รู้สึกเหมือนพลังกำลังถูกกด โดยปกติแล้วตัวของเขาที่มีพลัง 17 ล้านเต๋า สามารถต่อกรกับคนที่มีพลัง 6-10 ล้านจำนวนมากได้เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไปในครั้งนี้มันไม่ง่ายแบบนั้น
แต่น่าเสียดายเพราะสิ่งที่เขาคิดว่าไม่มีใครทำได้มันดันมาเกิดกับเขาความรู้สึกหวาดกลัวเกิดขึ้นทันทีที่เขาถูกกรงเล็บขนาดยักษ์ของชิงสุ่ยตะปบเข้าที่ร่างกาย ผู้นำเทวะที่กำลังหวาดกลัวปลดปล่อยพลังทำลายล้างที่รุนแรงเพื่อระเบิดกรงเล็บขนาดยักษ์ของชิงสุ่ย ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็ยังคงยืนนิ่ง ในมือของเธอยังคงถือมีดมังกรพิษของชิงสุ่ย ตอนนี้เธอพยายามทำความคุ้นชิน แล้วเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมชิงสุ่ยถึงได้กล้าท้าทายผู้นำเทวะสูงสุด
เออคุณผู้หญิง ข้าจะทำหน้าที่เป็นเกราะให้กับเจ้า แต่ข้ายังต้องพึ่งพาเจ้าในการโจมตีชายคนนี้ ชิงสุ่ยส่งเสียงมาตามอากาศเพื่อให้หญิงสาวได้ยิน
ห๊ะ!! หญิงสาวคนนั้นส่งเสียงกลับมาด้วยคลื่นเสียงที่ผิดแปลก
น้ำเสียงของเธอสั่นสะท้านจิตใจของชิงสุ่ยมันเป็นน้ำเสียงที่มีเสน่ห์เหนือคำบรรยาย น้ำเสียงของคนที่ไม่รู้ตัว มันทำให้น้ำเสียงที่ตอบกลับมาเหมือนน้ำหวานเดือนเก้าแสนน่าเชยชม
เจ้าจะตะโกนทำไม?รีบทำอะไรสักอย่าง ข้าคนเดียวเอาชนะชายคนนี้ไม่ได้หรอกนะ!!
ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจในตอนนี้ผู้นำเทวะสูงสุดได้ทำลายฝ่ามือกระชากมังกรและหลุดออกจากกันคุมขัง จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างกระบี่ยักษ์ขนาดใหญ่ขึ้นมาบนมือ กระบี่ทั้งสองมีรูปร่างที่แตกต่างกัน แล้วยังมีสีที่แตกต่างกันอีกด้วย
ชิ้นแรกในมือข้างซ้ายเป็นกระบี่ที่มีความยาวประมาณ3 ฟุต ลักษณะสีเป็นสีหยกเข้มมีร่องรอยเลือดสีแดงสดอยู่บนลำตัวคมกระบี่
ส่วนมืออีกข้างถือกระบี่ที่มีความยาวประมาณ9 ฟุต บริเวณคมกระบี่เต็มด้วยฟันเลื่อยเล็กๆมากมาย โดยบริเวณฟันเลื่อยทำมาจากวัตถุสีเขียวเข้มโปร่งใสเหมือนน้ำแข็ง เมื่อกระบี่ทั้งสองเล่มผสานรวมกับกลิ่นอายของผู้นำเทวะสูงสุด มันยิ่งสร้างความน่ากลัวและความรู้สึกน่าขนลุกในแบบที่ไม่อาจจะอธิบายได้
ในครั้งนี้ผู้นำเทวะสูงสุดไม่พูดมากอีกต่อไป เขาค่อยๆยื่นแขนฝ่าฟันกระบี่ทั้งสองเล่มออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง พายุไต้ฝุ่นขนาดยักษ์ก่อตัวและพุ่งเข้าใกล้ชิงสุ่ยและหญิงสาว พายุไต้ฝุ่นที่เต็มไปด้วยคมกระบี่ตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่มันผ่านพร้อมกับปลดปล่อยพิษสีประหลาดออกมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ชิงสุ่ยจะไม่ได้กลัวพิษ แต่เขาก็ไม่กล้ารับมือด้วยความประมาท คนที่หยิ่งผยองคือคนที่สมควรตาย
ย่างก้าวเก้าเทวา!!
กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา!!
ชิงสุ่ยหลบหลีกอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ลืมคว้าตัวหญิงสาวคนนั้นไปด้วย
ชิงสุ่ยพยายามจับแขนของเธอเอาไว้ร่างกายของเธอถูกดึงตามมาพร้อมกับเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ผิดแปลก เธอเองไม่เข้าใจถึงพลังของกฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา แต่ยังคงรู้สึกทึ่งกับความเร็วในการเคลื่อนที่ มันเป็นความเร็วเกินกว่าที่เธอจะคาดคิด และยังควบคุมทิศทางได้ในรูปแบบที่ไม่แน่นอน
ผู้นำเทวะสูงสุดไม่ได้คิดจะสังหารชิงสุ่ยภายในกระบวนท่าเดียวแต่เขาโกรธจับทันทีที่เห็นชิงสุ่ยจับแขนหญิงสาวที่เขาหมายปอง วิญญาณเพลิงเกราะเกล็ดสีเขียว!!
พื้นผิวของคมมีดแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มในตำนานของเรื่องวิญญาณตำนานเล่าไว้ว่าวิญญาณเพลิงจะโผล่ออกมาจากกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยความโกรธแค้น ทันทีที่มันปรากฏ เปลวเพลิงที่เคยมีสีเหลืองอร่าม จะกลายเป็นเปลวเพลิงมืดมนสีเขียวเข้ม และวิญญาณร้ายจะร่ำร้องด้วยน้ำเสียงโหยหวนที่แสนน่ากลัว
โจมตี!!
แสงไฟสว่างปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าก่อนจะพุ่งโจมตีชิงสุ่ยและหญิงสาวดั่งห่าฝน ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวและเสียงระเบิดที่น่ากลัว
ชิงสุ่ยตกใจไปชั่วขณะเมื่อเปลวเพลิงที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือพลังไฟที่รุนแรง วิญญาณแห่งเพลิงสามารถเผาผลาญได้แม้กระทั่งน้ำมวลมหาศาล ในเมื่อไฟชนิดนี้ไม่สามารถจับได้โดยวิธีธรรมดา หากเปลวเพลิงติดบริเวณร่างกายสิ่งที่เขาทำได้คงจะกลายเป็นการตัดเนื้อชิ้นนั้นทิ้ง
และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิงสุ่ยปลดปล่อยเปลวเพลิงแรกเริ่มแน่นอนว่าเปลวเพลิงแรกเริ่มก็ไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดา มันมีความสามารถในการกลืนกินไฟทุกชนิด แต่เมื่อมีช่องว่างความแข็งแกร่งที่ต่างชนิดกัน ชิงสุ่ยก็พยายามปลดปล่อยพลังเปลวเพลิงแรกเริ่มเพื่อปกป้องจากภายนอก ไม่ให้วิญญาณเพลิงเข้าถึงร่างกายของเขา
เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ!!
เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุของชิงสุ่ยคือทักษะที่ทรงพลังทันทีที่เขาสะบัดมือ กำแพงน้ำก็ปรากฏ ยิ่งขนาดของกำแพงหนามากเท่าไหร่ ปริมาณในการดูดกลืนพลังปราณของผู้ใช้เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุก็ยิ่งเพิ่มพูนแบบทวีคูณ
ตูมมม!!ตูมมมมม!!
กำแพงน้ำที่เขาใช้เป็นเกราะปราการชั้นแรกพังทลายจนกลายเป็นรูขนาดใหญ่ชิงสุ่ยเหลือบมองหญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง เพื่อดูว่าเธอกำลังคิดหาวิธีใดในการรับมือ ความเร็วของวิญญาณเพลิงค่อนข้างสูงชิงสุ่ยไม่มีเวลาเลยรอ และไม่มีเวลาหลีกเลี่ยง เขาจึงต้องหยุดการเคลื่อนไหว ปล่อยมือเขาจากแขนของเธอเพื่อปลดปล่อยทักษะป้องกัน
ตราประทับซวนเทียน!!
ชิงสุ่ยปลดปล่อยตราประทับซวนเทียนที่ไม่ได้ใช้มานานจนเกือบลืมแสงสีเงินส่องสว่างปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ท้องฟ้าที่กำลังถูกวิญญาณเพลิงกลืนกิน
รากฐานตราประทับซวนเทียน!!
รากฐานตราประทับซวนเทียนในปัจจุบันไม่ได้เล็กเหมือนแต่ก่อนมันมีขนาดใหญ่กว่าภูเขาลูกเล็กๆอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ได้ใช้มันเลย แต่เขาก็ไม่เคยหยุดฝึกฝน มันเป็นทักษะการต่อสู้ที่แปลก แต่ความสามารถของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังปราณจักรพรรดิเลย
นี่คือตราประทับซวนเทียนระดับขั้นที่5
แสงสีเงินที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้าตรึงวิญญาณแห่งเพลิงที่กำลังร้องคำรามด้วยความบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าแสงสีเงินจะทำให้พวกมันเคลื่อนไหวอย่างชะลอตัว
ผลกระทบที่ชัดเจนของตราประทับซวนเทียนคือการลดความเร็วของวัตถุที่ต้องการแม้ว่าตราประทับซวนเทียนในระดับขั้นที่ 5 จะยังไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของวัตถุที่อยู่รอบอาณาเขตได้อย่างสมบูรณ์ แต่ความเร็วที่ลดลงก็ยังอยู่ในระดับที่น่ากลัว นี่คือเหตุผลหลักๆที่ชิงสุ่ยเลือกใช้ตราประทับซวนเทียน มากกว่าภูเขา 9 เทวา เพราะสิ่งที่เขากำลังเจอคือการโจมตีหมู่มาก หากเขาไม่หยุดการโจมตีทั้งหมด เขาจะตกเป็นเป้านิ่ง
ชิงสุ่ยไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องใช้ระดับใดเขาถึงจะสามารถตรึงศัตรูให้อยู่กับที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จริงๆแล้วเขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะทำเช่นนั้นได้จริงๆ แต่เมื่อความเร็วของศัตรูลดลงหลายเท่าตัว มันก็ถือเป็นความสำเร็จ อีกอย่างหนึ่งคือเขาแทบไม่ต้องสูญเสียพลังเทวะใดๆเลย นี่คือความแข็งแกร่งของตราประทับซวนเทียน
ซ่าาาาาาาา
ชิงสุ่ยขยับมือขึ้นดึงตราประทับฝ่ามือกดลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ครึ้นนนนนนน!!
ท้องฟ้าทั้งหมดที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดแสงสีเงินก่อกำเนิดการระเบิดครั้งใหญ่ แสงที่สว่างไสวแพรวพราว กลายเป็นฝูงดาวตกเหนือท้องฟ้า