ตอนที่261การประมูล
ในตอนดึก,หลิงสุยเฟิงรีบเข้ามาหาเซี่ยวเฉินในขณะที่เขากําลังบ่มเพาะพลังอยู่ในลานบ้านเซี่ยวเฉินไม่มีทางเลือกนอกจาหยุดบ่มเพาะพลังและออกมาพบเขา
ตบอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา,หลิวสุยเฟิงได้พัฒนาขึ้นในทุกวันเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เซี่ยวเฉินยิ้มและกล่าวขึ้น มันก็ดึกมากแล้วทําไมเจ้าถึงได้มาหาข้า?
หลิวสุยเฟิงไม่ได้เร่งรีบตอบกลับเขามองไปรอบๆก่อนและเมื่อเขาพบว่าเสี่ยวไปไม่ได้อยู่ใกล้ๆเขาก็ถอนหายใจโล่งอกขากนั้นเขาก็ยิ้มและกล่าว จะมีการประมูลเกิดขึ้นที่เมืองหลวงของแคว้นซีเหอเมืองซีเหอจัดขึ้นเป็นพิเศษโดยศาลาหลินหลางสําหรับผู้บ่มเพาะพลังจะมีของดีๆมากมายขึ้นประมูล
บังเอิญว่าข้ากําลังขาดอาวุธวิญญาณดีๆข้าหวังว่าจะลองไปเสี่ยงโชคดูข้ามาถามเจ้าว่าอยากจะลองไปดูกับข้าหรือไม่?
การประมูลของศาลาหลินหลาง…เซี่ยวเฉินสนใจเดิมที่เขาคิดจะลงจากภูเขาไปมองหาทักษะต่อสู้ธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ระดับสูงอยู่แล้ว
ช่างบังเอิญที่ศาลาหลินหลางได้จัดการประมูลครั้งใหญ่ขึ้นมานี่จะช่วยเลาแรงของเซี่ยวเฉินไปได้ไม่น้อยเซียวเฉินถามต่ออย่างสนใจ การประมูลยิ่งใหญ่เพียงใด?พวกเราคาดหวังระดับของสินค้าได้เพียงใด?
มองเห็นเซียวเฉินให้ความสนใจ,หลิวสุยเฟิงรีบแนะนํา, มันจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นการประมูลครั้งใหญ่ของศาลาหลินหลางในรอบสิบปีพวกเขาใช้หินวิญญาณในการประมูลเท่านั้นมาตราฐานของมันเทียบเท่ากับการประมูลครั้งใหญ่ในรอบหนึ่งปีที่เมืองหลวงจักรวรรดิ
หนึ่งครั้งในรอบสิบปี…ด้วยความแข็งแกร่งของศาลาหลินหลาง,ไม่ยากเย็นที่พวกเขาจะมีทักษะต่อสู้ระดับสูงเก็บเอาไว้ข้าสามารถลองไปเสี่ยงดู
คิดได้ดังนี้เซี่ยวเฉินตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
หลิวสุยเฟิงยอเมและกล่าว เป็นอันตกลงหากเจ้าขาดแคลนหินวิญญาณ,เจ้าสามารถบอกข้าได้ข้าสามารถไปหยิบยืมจากท่านลุงสอง
ขาดแคลนหินวิญญาณ?เซียวเฉินส่ายหัวเขายิ้มและตอบกลับ ไม่จําเป็น,ข้ามีหินวิญญาณเพียงพอ
เซียวเฉินได้รับหินวิญญาณระดับกลางมาห้าพันก้อนจากโลกใต้พิภพและยังไม่ได้หยิบจับไปใช้เมื่อใช้หินวิญญาณระดับกลางเหล่านี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณระดับต่ํา,เขาจะได้รับหินวิญญาณระดับต่ําห้าแสนก้อน
นอกจากนั้นยังมีหินวิญญาณระดับกลางสองร้อยก้อนที่ได้รับจากภารกิจเมื่อครึ่งเดือนก่อนและยังมีหินวิญญาณระดับต่ําห้าพันก้อนที่เขาได้รับมาในวันนี้
หากเซียวเฉินนวมแก่นกลางปีศาจที่สามารถเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณระดับต่ําได้มันเป็นไปได้ว่าเขาจะมีหินวิญญาณมากกว่าที่ยอดเขาฉิงหยุนมีเก็บเอาไว้
ด้วยหินวิญญาณมากมายเช่นนี้มันมีมากเสียยิ่งกว่าพอที่จะซื้อทักษะต่อสู้ธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ระดับปฐพขั้นสูงดังนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องกังวล
หลิวสุยเฟิงกล่าว ดี,ข้าจะมารับเจ้าตอนพรุ่งนี้เช้า
ในเช้าวันต่อมา,เซียวเฉินพบกับหลิวสุยเฟิงตามที่นัดหมายเมืองซีเหออยู่ห่างออกไป25,000กิโลเมตรจากศาลากระบี่สวรรค์มันค่อนข้างที่จะไกล,พวกเขาทั้งสองไม่อาจที่จะเดินเท้า
ไปได้
พวกเขาไปที่โถงสัตว์อสูรวิญญาณของศาลากระบี่สวรรค์และแต่ละคนจ่ายหินวิญญาณเพื่อเช่าอาชาเลือดมังกรที่สามารถเดินทางได้กว่า1,500กิโลเมตรต่อวันหลังจากนั้นพวกเขาไม่รีรอที่จะลงจากภูเขา
ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองจากไป,ศิษย์ยอดเขาปื้อขึ้นซ่งเชียนเหอมุ่งหน้าไปยังห้องของซ่งเฉวอย่างอารมณ์ดีเขายิ้มพร้อมกับเปิดประตู ท่านพ่อ,ท่านบอกให้ข้าส่งคนไปจับตาดูเย่เฉินเขาเพิ่งจะออกจากภูเขาไป
ซ่วเฉวกําลังนั่งหลับตาบ่มเพาะพลังอยู่บนเตียงทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมีความชั่วร้ายวูบไหวบนดวงตาของเขาพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงเย็น จริงรึ?พวกมันกําลังจะไปที่ไหน?พวกมันกําลังทําอะไร?พวกมันจะออกไปนานแค่ไหน?เล่ารายละเอียดมา
ซึ่งเขียนเหอรีบกล่าว ข้าไปไถ่ถามรอบโถงสัตว์อสูรวิญญาณ,พวกเขากําลังจะไปที่เมืองซีเหอเพื่อเข้าร่วมการประมูลในรอบสิบปีด้วยอาชาเลือดมังกร,พวกเขาน่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในการไปกลับ
ในที่สุดข้าก็พบโอกาส..มีคนที่คอยคุ้มครองพวกเจ้าอยู่ที่ศาลากระปสวรรค์อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าออกไปจากศาบากระบี่สวรรค์,มองดุกันว่าจะมีใครคอยคุมกะลาหัวเจ้าได้ช่างบ้าบิน
ซางเฉวลุกขึ้นและหัวเราะอย่างชั่วร้าย การประมูลในรอบสิบปี…ช่างบังเอิญ,ข้ามีสหายเก่าที่กําลังจะเข้าร่วมด้วยเช่นกันข้าสามารถขอให้พวกเขาช่วยเหลือ
อาชาเลือดมังกรสามารถเดือนทางได้1,500กิโลเมตรต่อวันหากพวกเขาเร่งเดินทางในตอนกลางคืน,ไม่มีปัญหาที่จะเดินทางได้ถึง2,500กิโลเมตรอย่างไรก็ตามไม่ว่าคนหรือม้ามันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินทางทั้งวันทั้งคืน
ตลอดเส้นทาง,พวกเขาอาจจะพบเข้ากับอันตรายดังนั้นพวกเขาต้องรักษาสภาพร่างกายให้เต็มร้อยเข้าไว้โดยเฉลี่ยแล้ว,พวกเขาทั้งคู่สามารถเดินทางได้สองพันกิโลเมตรต่อวัน
สามวันต่อมา,เซียวเฉินและหลิวสุยเฟิงหยุดลงที่ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่
หลิวสุยเฟิงแนะนํา ทุ่งหญ้านี้เรียกกันว่า ทุ่งหญ้ามารอสูรทั่วทั้งที่ราบนี่นับได้เป็นสามเท่าของพื้นที่ของศาลากระบี่สวรรค์มีสัตว์อสูรวิญญาณนับไม่ถ้วนซ่อนตัวอยู่หญ้าและมีกองโจรอยู่นับร้อยนี่เป็นส่วนที่อันตรายที่สุดในการเดิน
ทาง
เซี่ยวเฉินลงยากม้าและกล่าว เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเราค่อยจะพักกันสักครู่ก่อนที่จะไปตามทางพวกเราน่าจะเริ่มเดินทางในคอนรุ่งสาง
ในไม่ช้า,พวกเขาก็สถึงพื้นที่โล่งพวกเขาเริ่มตั้งค่ายพักพวกเขากินและนอนกลางแจ้งมาตลอดทางดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับการตั้งค่ายไม่นานนัก,กระโจมเล็กสองหลังก็ถูกกางขึ้นมา
พวกเขาหยิบเอาอาหารแห้งและน้ําออกมาหลังจากกอนดื่มเสร็จ,พวกเขาก็เริ่มพักผ่อน
ค่ําคืนผ่านไปอย่างช้าๆหลังจากพูดคุยกันแล้ว,พวกเขาก็ตัดสินใจให้เซียวเฉินเฝ้ายามเป็นผลัดแรกและหลิวสุยเฟิงพักผ่อน
อะรู!
เชี่ยวเฉินก่อกองไฟมานั่งลงมีเสียงหอนของสัตว์อสูรวิญญาณดังขึ้นมาจากระยะไกลไม่หยุดหย่อนแสงจากกองไฟฉายลงบนใบหน้าของเซียวเฉิน,วูบไหวอย่างต่อเนื่องเขามีสีหน้านิ่งสงบเป็นอย่างยิ่ง
สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินขยายออกไปเป็นวงกลมรอบตัวทิวทัศน์โดยรอบในระยะพันเมตรปรากฏขึ้นในใจของเขา
มีกลุ่มของสัตว์อสูรปีศาจระดับสี่อยู่ที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือจํานวนประมาณสองร้อยราชาหมาป่านั้นเกือบที่จะขึ้นเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ
ยังคงมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ5,วอัสนี,อยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้มันนาาจะเป็นสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในละแวกนี้จากนั้นในทิศใต้,มีสิ่งโตปีศาจโลหิตสามตัว
เซียวเฉินค่อยๆลุกขึ้นและเหลียวมองไปที่ที่ศตะวันออกเฉียงใต้เขาหัวเราะอย่างเฉยเมย ดูเหมือนพวกเราสองคนจะเนื้อหอมเสียจริงมีสัตว์อสูรปีศาจจํานวนมากกําลังมุ่งเป้ามาที่พวกเราพวกเราน่าจะเริ่มจากเจ้าก่อน อัสนีหลบเลี่ยง!
เส้นสายฟ้าทะลวงผ่านค่ําคืนอันมืดมิดเมื่อสายฟ้าแล่บผ่าน,เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของงัวอัสนี
งวอัสนี้เป็นสัตว์อสูรวิญญาณธาตุสายฟ้า,มันอ่อนไหวต่อกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างยิ่งเมื่อเซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นมา,เส้นสายฟ้าขนาดเท่าแขนยิงออกจากเขาของมันไปที่เซียวเฉิน
เซียวเฉินกล่าวเย็นชา เป็นแสงกระจ้อยร่อยของดวงดาวที่หาญกล้ามาเทียบกันดวงอาทิตย์ช้างบ้าบิน!
เมฆบนท้องฟ้าเสียดถูกันก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้ลงมือ,พลังของสภาวะแห่งสายฟ้าได้ก่อนวขึ้นมาแล้ว
ปะปะ!
กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาด้วยความเร็วระดับสายฟ้าเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในท้องทุ่งหญ้าที่เงียบสงบขณะที่เซียวเฉินชักกระบออกมา,เส้นสายฟ้าขนาดเท่าขาช้างร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
สายฟ้าผสานเข้ากับตัวกระบี่เส้นสายฟ้ากระจ้อยร่อยของงัวอัสนีถูกกลืนหายไปในทันที
กระบฟันลงไปที่ร่างขนาดมหึมาของงัวอัสนีอย่างรุนแรง
ฟูปิ้ว!
กระบี่ไฟฟ้าอันน่าหวาดกลัวฟันงัวอัสนี้ขาดครึ่งพร้อมกับเสียงฉวะกระแสไฟฟ้าติดอยู่บนบาดแผลและกลิ่นหอมของเนื้อย่างก็โชยออกมาในทุ่งหญ้า
เมื่อสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นเห็นว่าเซี่ยวเฉินจัดการกับสัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่วที่สุดได้ภายในกระบวณท่าเดียว,พวกมันแตกหนีกันไปทั่วทิศทางในทันที
เซียวเฉินไม่ไปใส่ใจกับพวกมันหลังจากที่เขาดึงเอาแก่นกลางวิญญาณของงัวอัสนีออกมา,เขาก็กลับไปที่ค่ายพักเขาเห็นว่ากองไฟกําลังจะหมดลง,เขาจึงเติมฝืนลงไปเพิ่ม
เกิดอะไรขึ้น? หลิวสุยเฟิงถามขึ้นพร้อมกับออกมาจากกระโจมเขาตกใจตื่นขึ้นเพราะเสียงของสายฟ้า
เซียวเฉินยิ้มและกล่าวไม่มีอะไร,ข้าแค่ไล่พวกสัตว์อสูรวิญญาณออกไปไปพักเถอะ!
หลิวสุยเฟิงพยักหน้าและกลับเข้าไปในกระโจมเขารู้สึกมั่นใจในความแข็งแกร่งของเซียวเฉินตราบใดที่พวกเขาไม่ไปเจอกับเจ้าแห่งทุ่งหญ้ามารอสูร,พวกเขาเตลื่อนไปรอบๆได้ไม่มีสิ่งกรีดขวาง
เกินระยะหนึ่งพันเมตรบนหน้าผาที่สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินไปไม่ถึง,มีโจรสองคน
พร้อมกระบี่ยักษ์กําลังขอยู่บนม้าตัวใหญ่พวกเขาเห็นว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
โจรคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง ช่างแข็งแกร่ง!เขาสามารถสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับ5งวอัสนี้ได้ในกระบวณท่าเดียวท่านผู้นําหนึ่ง,พวกเรายังคงจะลงมือกันอยู่?
มีแผลเป็นยาวบนใบหน้าของผู้ที่ถูกเรียกว่าท่านผู้นําหนึ่งตัวของเขาสูงท้วม:ลักษณะของเขาดูดุร้าย
เขาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม พวกเขายิ่งแข็งแกร่ง,พวกเขายิ่งพกของดีกลุ่มของพวกเรามีมากกว่าสองร้อยคนพวกเราเคยเกรงกลัวใครภายในทุ่งหญ้าแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร?
โจรอีหคนหนึ่งกล่าวต่อ พวกมันน่าจะกําลังจะไปเข้าร่วมการประมูลที่เมืองซีเหอข้าได้ยินจากพี่น้องในกลุ่มอื่นว่าพวกเขาได้ปล้นกลุ่มแบบนี้มาสองสามกลุ่ม พวกเขาเก็บเกี่ยวได้มหาศาลทุกครั้งที่พวกเขาลงมือ,พวกเขาได้รับหินวิญญาณระดับต่ําหลายหมื่นก้อนแต่อย่างไรก็ตาม,สองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นศิษย์แก่นกลางของศาลากระปสวรรค์หากพวกเราโจมตีพวกเขา,พวกเขาอาจจะไปเหยียบหางของศาลากระ’สวรรค์
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
ผู้นําหนึ่งหัวเราะเสียงดัง พวกเราจะไปกลัวอะไร?หลังจากที่พวกเราสังหารและฝั่งกลบเกลื่อน,จะไปมีใครรู้ว่าพวกเราทํา?ถึงแม้ว่าพวกเราล้มเหลว,พวกเราก็เพียงไปซ่อนตัวซะ จากนั้น,การล้างแค้นของศาลากระบี่สวรรค์ก็จะไปตกที่กลุ่มอื่นนั้นจะช่วยให้พวกเราลดจํานวนคู่แข่งลงไปได้
เมื่อโจรอีกคนได้ยินเช่นนั้น,เขาหัวเราะขึ้น ผู้นําหนึ่งฉลาดหลักแหลมด้วยวิธีนี้ไม่มีทางที่พวกเราจะเสียผลประโยชน์
ผู้นําหนึ่งกล่าวเสียงเย็น ไปรวบรวมเหล่าพี่น้อง,พวกเราจะเคลื่อนไหวบ่สยของวันพรุ่งนี้
เมื่อท้องฟ้าเริ่มส่องแสงสว่างเซี่ยวเฉินและหลวสุยเฟิงก็ขึ้นม้าเดินทางกันต่อ
ไม่นานนัก,เซียวเฉินก็ดึงบังเหียนบังคับม้าหยุดลงหลิวสุยเฟิงรับหยุดลงเช่นกันและถามขึ้นอย่างสงสัย หรือจะเกิดอะไรขึ้น?
เซี่ยวเฉินพยักหน้า พวกเราโดนกลุ่มโจรหมายหัวพวกมันมีประมาณสองร้อยคนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธพวกมันมีมากกว่าสิบระดับขอบเขตนักบุญ,ที่แข็งแกร่วที่สุดคือระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง พวกเราควรทําเช่นไร?! หลิวสุยเฟิงได้ยินว่ามีจํานวนมากมายเขาอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้
เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย พวกเราสังหารหัวหน้าของพวกมันก่อนเมื่อเราสังหารคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้,พวกที่เหลือจะล่าถอยไปเอง ยิ้ม…!
แน่นอนว่าเป็นไปตามที่เซียวเฉินกล่าวในไม่ช้า,โจรกว่าสองร้อยคนมาถึงเบื้องหน้าของพวกเขา
คนที่นํากลุ่มเข้ามาค่อผู้นําหนึ่งจากเมื่อวานเมื่อเขาเห็ฯทั้งสองคน,รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันชั่วช้ของเขาเขาไม่ใส่ใจจะพ่นคําไร้สาระและเพียร้องคํารามพร้อมพุ่งเข้ามา
เซี่ยวเฉินตบฝ่ามือของเขาลงบนหลังของม้าและลอยขึ้นไปในอากาศทันใดนั้น,อาวุธลับและลูกศรมากมายถูกยิงขึ้นไปที่เขา
มังกรฟ้าฟาดหาง! เซียวเฉินร้องตะโกนและเปลี่ยนกลายเป็นเส้นโค้งแสงสีม่วง,ราวกับมังกรหลากกําลังเรลื่อนไหวในอากาศมันทําให้ลูกศรที่กําลงบินไปที่เขาร่วงหล่นตกลงพื้น
ในส่วนท้ายของเส้นโค้งเซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของผู้นําหนึ่งกระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาพร้อมกับเสียงเคว้งแสงสายฟ้าอันนาาหวาดกลัวที่แบกพลังแห่งอัสนีฟันไปที่หัวของผู้นําหนึ่ง
