Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 2027 – ประตูอสูรโบราณกาลและพระราชวังสวรรค์

บทที่ 2027 – ประตูอสูรโบราณกาลและพระราชวังสวรรค์

บทที่ 2027 – ประตูอสูรโบราณกาลและพระราชวังสวรรค์
  ทักษะผู้สืบทอดมรดกแห่งจอมอสูรโลหิตนั้นทรงพลังมาก ทุกคนในพระราชวังอสูรโลหิตสามารถสืบทอดทักษะได้ แต่จะมีเพียงแค่จอมอสูรโลหิตเท่านั้นที่จะสืบทอดแก่นแท้ของพลังมาได้ และมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถปลุกสายเลือดจอมอสูรคนอื่นได้ แต่จะไม่มีใครเหนือกว่าเขา
  ชายในชุดสีแดงเปื้อนเลือดไม่มีทีท่าแปลกใจ เพราะการแต่งกายของเขารวมถึงทรงผมมันเป็นจุดเด่น ที่หากสังเกตดีๆก็จะรู้ได้ทันทีว่าพวกเขานั้นมาจากพระราชวังอสูรโลหิต
  “เจ้าหนูน้อย ดูเหมือนเจ้าจะรู้มากเกินไป”ชายคนนั้นกล่าว
  ชิงสุ่ยได้แต่หัวเราะเยาะ
  “เอาล่ะ ข้าคิดว่าหน้าที่ของเจ้าก็คงจะเปรียบเสมือนยามที่เข้ากะดึกใช่หรือไม่? ในเมื่อเจ้าไม่อยากจะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง ข้าก็ไม่อยากจะลงมือฆ่าพวกชั้นต่ำแบบเจ้า ไปพาเจ้าแห่งพระราชวังอสูรโลหิตมา”ชิงสุ่ยโบกมือราวกับกำลังไล่แมลงวัน
  “ไอ้สาระเลว เจ้ากล้ามาก ไม่มีใครกล้าพูดกับข้าแบบนี้”ชายในชุดสีแดงโลหิตเจ็บใจ
  “ไม่ต้องอารมณ์เสีย เจ้ามันเป็นเพียงแค่เม็ดฝุ่น สำหรับข้า การฆ่าเจ้าง่ายยิ่งกว่าดีดนิ้ว แต่ต่อให้ลงมือสังหารเจ้าไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ข้าจึงไม่อยากจะลงมือ และดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้ขีดจำกัดของตนเองด้วย”ชิงสุ่ยเงยหน้าจ้องมองชายคนนี้ดวงตาโหดเหี้ยม
  ชายในชุดสีแดงรู้สึกได้เลยว่าการจะกำจัดชิงสุ่ยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความโกรธแค้นของเขาก็กำลังระเบิด เขาจึงตะโกนกลับไปว่า “พูดจาหยิ่งยโส!! ฆ่ามัน!!”
  ชายอีก 3 คนปรากฏตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน คนนึงเป็นชายสูงอายุ อีกคนเป็นชายวัยกลางคน ส่วนคนสุดท้ายเป็นชายใบหน้าสุขุม  ทั้ง 4 คนพุ่งเข้าหาชิงสุ่ยจากทั้ง 4 ทิศทาง
  ทุกคนล้วนแต่งตัวคล้ายคลึงกันและมีอาวุธแบบเดียวกัน ต่างคนต่างเคลื่อนไหวด้วยทักษะที่เน้นการโจมตีโดยอาศัยความเร็ว
  การเคลื่อนไหวของทั้ง 4 คนประกอบร่างคล้ายกับตาข่าย
  แต่ทว่าพลังการรับรู้ปราณจิตของชิงสุ่ยมันช่วยให้เขาเห็นทุกอย่าง และเหมือนจะทำให้ศัตรูช้าลง
  ชิงสุ่ยขยับพริบตา ปล่อยหมัดอัดเข้าลำคอของชายผู้นั้น
  พรวดดด!!
  ก่อนจะหลบหลีกและตัดอัดเข้ากลางหน้าอกชายหนุ่ม
  ลูกเตะพยัคฆ์คำรณ!!
  เพียงแค่เสี้ยววินาที ฝ่ายศัตรูก็ต้องสูญเสียไพร่พลไปถึง 2 คน คนเหล่านี้ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชิงสุ่ย การกำจัดพวกเขาจึงง่ายเหมือนกระพริบตา
  ชิงสุ่ยเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายรวดเร็วปานสายฟ้า บีบบังคับให้ชายที่เหลืออีก 2 คนต้องรีบถอยร่น จ้องมองชิงสุ่ยที่เป็นดังปีศาจด้วยดวงตาเบิกกว้าง พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
  ชิงสุ่ยอาจจะไม่สามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ใต้น้ำได้ เนื่องจากปริมาณหนวดที่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ไม่จำกัด แต่เขาสามารถต่อกรกับมนุษย์ หรือสัตว์อสูรที่เเข็งเเกร่งได้
  “บอกมา ภายในพระราชวังอสูรโลหิต พวกเจ้าดำรงตำแหน่งใด?”ชิงสุ่ยจ้องมองชายทั้งสองคน
  “ข้าเป็นทูต”
  “ข้าคือผู้อาวุโส”
  ทั้งคู่หวาดกลัวจนไม่กล้าปิดบัง ชีวิตของพวกเขาเหมือนตกอยู่ในกำมือของชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยรู้แล้วว่า 2 คนที่อยู่ตรงหน้าคือบุคคลธรรมดาของพระราชวังอสูรโลหิต ภายในสถานที่แห่งนั้นคงจะมีคนแบบเดียวกับชายทั้งสองคนอยู่นับร้อยนับพันนับหมื่น
  “พาพวกของเจ้าออกไป แล้วไปบอกให้ผู้นำของพระเจ้ามาหาข้าด้วยตัวเอง ข้าสนใจเฉพาะผู้สืบทอดจอมอสูรโลหิตเท่านั้น”
  บุคคลทั้งสองคนพยักหน้าและรีบพาพรรคพวกที่ตายกลายเป็นซากศพออกไป
  ชิงสุ่ยหันหลังเดินกลับไปยังที่พักในนั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน คนอื่นได้ยินเสียงวุ่นวาย แต่เมื่อมาถึงทุกอย่างก็สงบ ชิงสุ่ยจึงบอกให้ทุกคนกลับไป เหลือแค่เพียงองค์จักรพรรดิคลั่ง หยินตง และเหลียนหลิงเฟิงที่หลังลงดื่มชากับชิงสุ่ย
  ชิงสุ่ยนำอาหารและสุรารสเลิศออกมา “ถ้าหากพวกท่านยังไม่นอน ก็ประเดิมกันสักหน่อย การร่ำสุรายามค่ำคืนจะทำให้เราสุขใจ”
  “สุราชั้นเลิศ”   “บรรยากาศที่ดีย่อมคู่ควรกับสุราชั้นยอด น้องชายเติมสุราให้ข้าหน่อย การได้ดื่มสุรากับทุกคนยิ่งทำให้สุรามีรสที่ดีขึ้น”องค์จักรพรรดิคลั่งยิ้ม
  “ถูกต้อง”
  “เออจริงสิ ชิงสุ่ย ดูเหมือนว่าพวกพระราชวังอสูรโลหิตจะค่อนข้างมีพลังยิ่งใหญ่มาก”องค์จักรพรรดิคลั่งกล่าว
  อันที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้ต้องการจะมาดื่มสุรา แต่พวกเขามาเพื่อจะหารือเรื่องของพระราชวังอสูรโลหิต ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็นกองกำลังที่น่ากลัว สิ่งต่างๆก็คงจะเต็มไปด้วยความซับซ้อน
  “ไม่ต้องกังวล ยังไงซะพระราชวังอสูรโลหิตก็เป็นศัตรูกับพวกเรา พวกเขาไม่มีทางประนีประนอมกับเราแน่ เป้าหมายของเราไม่ใช่การฆ่าพวกเขา แต่เป็นการหยุดยั้งผู้สืบทอดจอมอสูรโลหิตไม่ให้ถูกกลืนกินไปกับความชั่วร้าย ข้าสามารถชำระล้างความชั่วในเรื่องของพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเราเองก็จะไม่ยอมถอยง่ายๆ”ชิงสุ่ยกล่าว
  “แล้วพวกเราล่ะ?”เหลียนหลิงเฟิงขมวดคิ้ว
  “พวกท่านก็เพียงแค่ต้องพัฒนาความสามารถของตนเองไปเรื่อยๆ ทำให้กลุ่มเทพสงครามของเราแข็งแกร่ง เมื่อพวกเราเข้าสู่โลกที่แท้จริงของโลกเก้ามหาทวีป สภาพแวดล้อมจะทำให้พวกเราพระราชวังเทพสงครามก้าวหน้า ตัวข้าเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่ามีนิกายใดรวบรวมผู้สืบทอดเทพสงครามหรือจอมอสูรบ้างหรือไม่ แต่ที่พอจะได้ยินมา มันดูเหมือนจะมีกลุ่มประตูอสูรโบราณกาลและพระราชวังสวรรค์อยู่ด้วย”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท