ตอนที่ 345 หลิวหลีผู้ทำให้คนรู้สึกดี
ความสงสัยก็เหมือนเมล็ดพันธุ์ชนิดหนึ่ง ทันทีเริ่มหยั่งรากลงก็จะแตกหน่อออกมา สวีโจวจึงคอยหาโอกาสจะถามหลิวหลีว่า นางเป็นเทพนักปรุงยาหรือไม่ แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่อาจเอ่ยปากพูดออกมาได้
ทุกคนเตรียมตัวแยกย้าย แต่จู่ๆหลิวหลีก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ระวัง” สิ้นเสียงของหลิวหลีก็มีอสูรวารีที่โหดเหี้ยมกว่าอสูรวารีตัวสุดท้ายปรากฎขึ้น เป็นเพราะก่อนหน้านั้นคิดว่าจัดการอสูรวารีตัวสุดท้ายไปแล้ว ทุกคนจึงไม่ได้ระมัดระวังตัว แม้จะได้ยินเสียงนางแต่ก็ยังมีหลายคนที่ถูกโจมตี
สองตาของหลิวหลีแดงเป็นสีเลือดทำให้คนไม่กล้ามองนางตรงๆ อสูรวารีที่อยู่ตรงข้ามรู้สึกได้ถึงอันตราย แต่เมื่อเห็นหลิวหลีมีพลังเพียงขั้นแม่ทัพเทพจึงไม่สนใจและก่อความวุ่นวายต่อ
“ดูแลศิษย์ที่บาดเจ็บไว้ให้ดี ตอนที่ข้าต่อสู้ พวกเจ้าจะช่วยประคองอาการของพวกเขาไว้ได้ไหม” หลิวหลีพาทุกคนมายังสถานที่ปลอดภัย
“ข้อมูลผิดพลาด” เงาดำเครียดขึ้นมาเช่นกัน ในขณะที่กำลังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะชนะอสูรวารีหากตนออกไปช่วยและต้องเปิดเผยตัวตนหรือไม่นั้น ก็เห็นหลิวหลีเคลื่อนไหวไปแล้ว
หลิวหลีเรียกเพลิงเทพออกมา 3 สี แล้วอากาศโดยรอบก็อ้าวขึ้นมาทันที เพลิงเทพแปรสภาพกลายเป็นเชือกและพุ่งไปหาอสูรวารี อสูรวารีไม่แยแส จนเพลิงเทพเข้ามาใกล้ อุณหภูมิที่ต่างจากเพลิงเทพทั่วไปทำให้มันรู้สึกผิดปกติ แม้จะหลบแล้ว แต่ก็ยังโดนใส่ผิวหนัง ความรู้สึกแผดเผานั้นทำให้อสูรวารีหัวเสียมากขึ้น คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะทำให้มันบาดเจ็บ ยกโทษให้ไม่ได้ สิ้นเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นของอสูรวารี เสียงบาดหูที่ไม่ธรรมดานั้นทำให้ศิษย์ระดับล่างรับไม่ไหวเล็กน้อย หลิวหลีตวัดกำแพงเพลิงสีเขียวไปปกป้องคนเหล่านั้นไว้ ในยุคปัจจุบันสีเขียวเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดเสียงรบกวน เพลิงวิญญาณไม้น่าจะมีคุณสมบัตินี้เช่นกัน
สองตาของหลิวหลีแดงราวทับทิม ขณะจ้องอสูรวารี มือซ้ายมีเพลิงเทพที่ร้อนแรงสีเทาและเต็มไปด้วยความคุกคามปรากฎขึ้นอีกครั้ง ส่งผลรบกวนไปถึงเมืองบาดาลที่อสูรวารีอาศัยอยู่จนวุ่นวายไปหมด อสูรวารีลอยไปมาอยู่ในน้ำราวกับเป็นเรือ ทุกคนที่เห็นต่างก็พากันอ้าปากค้างกัน แต่เป็นสวีโจวที่ได้สติก่อนใคร
“เลิกดูได้แล้ว หน้าที่ของพวกเราคือประคองอาการของคนเจ็บไว้ จะทำให้ศิษย์พี่เสียสมาธิไม่ได้” สวีโจวตะโกน ทุกคนถึงพากันได้สติ ถูกต้องแล้ว พวกเขาช่วยนางไม่ได้ แต่ก็จะไม่เป็นตัวถ่วงของนางเช่นกัน
หลังจากการโจมตีของเพลิงลมสลาตัน อสูรวารีก็พบว่าจังหวะการต่อสู้ถูกผู้บำเพ็ญตัวเล็กๆนั้นเป็นคนคอยควบคุมเอาไว้ อสูรวารีหัวเสีย ถึงขั้นโกรธแค้น แล้วพ่นควันสีฟ้าออกมา แต่หลิวหลีหลบได้ นางพบว่าควันสีฟ้านี้ออกจะดื้อรั้นมาก หลบอย่างไรก็ไม่พ้น อสูรวารีพ่นควันสีฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ล้อมรอบตัวหลิวหลีเอาไว้ หลิวหลีขมวดคิ้ว รู้จักเล่นนี่ หลิวหลีเก็บเพลิงลมสลาตันกลับไปและสับเปลี่ยนเป็นเพลิงหยินหยาง ใช้หยินหยางสลายกลืนกินควันสีฟ้าไปจนหมด หืม? หลิวหลีพบว่าเพลิงหยินหยางที่กลับเข้าไปในร่างมีแนวโน้มแข็งแรงขึ้น ของดีนี่
เมื่อเห็นควันสีฟ้าของตนถูกหลิวหลีจัดการได้อย่างง่ายดาย อสูรวารีบังเกิดความกลัวขึ้น คนผู้นี้คือใคร ทำไมถึงเอาชนะมันได้ อสูรวารีพบว่าตนเองน่าจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้ จึงตั้งท่าจะหนี แต่ผลกลายเป็นว่าเหมือนตนเองจะถูกล้อมเอาไว้ เพลิงเทพทั้ง 10 สีรวมตัวกันเป็นตาข่ายขนาดยักษ์และห่อตัวมันไว้อย่างแน่นหนา อสูรวารีตั้งใจจะชนตาข่ายยักษ์ให้แตกออกแต่พบว่าไม่อาจแตะต้องมันได้ แค่โดนเบาๆก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผดเผา จนเนื้อตัวมันเต็มไปด้วยบาดแผล แถมยังมีกลิ่นปลาอันหอมหวนผสมอยู่ด้วย ดวงตาหลิวหลีเป็นประกาย คิดไม่ถึงเลยว่าอสูรวารีนี้จะเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีเช่นนี้
อสูรวารีเห็นว่าตนหมดหนทางหนีจึงคิดจะระเบิดตัวเองตาย แต่กลับรู้สึกราวกำลังถูกใครบีบเอาไว้ หลิวหลีดึงเอาปราณอมตะอสูรของอสูรวารีและมุกในสมองของมันออกมาได้อย่างง่ายดาย
“เจ้านี่น่ากินจริงๆ จะปล่อยให้เสียเปล่าไปได้อย่างไร” หลิวหลีเก็บเพลิงเทพเอาไว้แล้วเก็บเอาซากอสูรวารีที่ตายสนิทกลับไปด้วย
จากนั้นหลิวหลีก็กลับมาที่กลุ่ม เพื่อดูศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ภายในร่างกายใกล้จะถูกสิ่งมีชีวิตสีเทาอุดตันไว้ทั้งหมด จนเกือบพิการ แย่แล้ว ยาที่นางปรุงเตรียมไว้ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ ของชิ้นนี้ควรจะต้องเกื้อหนุนกันอยู่สักหน่อย
“มีศิษย์ที่อยู่ในธาตุวารีบ้างไหม ใต้น้ำฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือมีสถานที่หนึ่งที่มีหญ้าเทพอยู่ เป็นสมุนไพรที่เกื้อหนุนกับอสูรวารี หากมีสิ่งนี้ก็จะใช้ปรุงยาเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ กินเข้าไปแล้วจะสามารถรักษาได้ในทันที” หลิวหลีพูด
“ข้าไปได้” มีคนตอบขึ้นมาทันที
“เพียงแต่ พวกเราเก็บหญ้าเทพได้แล้วต้องรีบกลับไปหาเทพนักปรุงยาหลงเพื่อให้เขาปรุงยา” ลู่หรงเอ่ย
“ไม่ทันหรอก อสูรวารีตัวนี้ค่อนข้างเก่งทีเดียว หนทางตอนจะกลับกระทบกระเทือนจนพวกเขาทนไม่ไหวแน่” หลิวหลีส่ายหน้าพูด
“เช่นนั้นควรทำอย่างไรกันดี” ลู่หรงไม่รู้จะพูดอย่างไรดี หรือว่าคนเหล่านี้จะไม่รอดแล้ว
“ไปเก็บหญ้าเทพมาก่อน เรื่องปรุงยาไม่ต้องห่วง” หลิวหลีพูดพลางประคองอาการของคนเหล่านั้นให้มั่นคง
“ศิษย์พี่หลงปรุงยาได้หรือ” สวีโจวกล่าวคำถามที่ไม่เคยได้คำตอบที่ซุกซ่อนในในตนเอง
“ข้าเรียนจากเทพนักปรุงยาหลงมาบ้าง พอใช้ได้” คำพูดที่นางกล่าวนั้นไม่ต่างอะไรกับยาช่วยชีวิต
ไม่นานทุกคนก็เข้าใจคำว่าเรียนมาบ้างของหลิวหลีหมายความว่าอะไร เป็นเพราะอสูรวารีถูกฆ่า เมื่อได้หญ้าเทพจึงโล่งใจอย่างมาก
แล้วจึงได้เห็นการแสดงที่เยี่ยมยอด ต้องใช้คำว่าการแสดงมาบรรยายจริงๆ นางหยิบหญ้าเทพมา แล้วเรียกเพลิงเทพมาปรุงยา ท่าทางคล่องแคล่วนั้นทำเอาทุกคนประหลาดใจ รวมถึงเงาดำที่ซ่อนตัวอยู่ด้วยเช่นกัน จนกระทั่งได้ยาเม็ดสีฟ้าออกมา ทุกคนก็ตกอยู่ในภวังค์อยู่นาน งดงามมากจริงๆ
“ให้คนที่บาดเจ็บกิน” หลิวหลีกล่าว ทุกคนถึงได้สติกลับมาแล้วเอายาเทพศักดิ์สิทธิ์ให้คนที่ได้รับบาดเจ็บกิน จนคนที่ได้รับบาดเจ็บมีสีหน้าดีขึ้น พวกเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ขอบคุณศิษย์พี่ที่ช่วยชีวิตพวกข้าไว้” พวกเขารู้สึกขอบคุณอย่างมาก พวกเขาคิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่หลงไม่เพียงแต่จะมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งแล้วนางยังเป็นเทพนักปรุงยาอีกด้วย
“ในเมื่อพวกเจ้ายอมติดตามข้า ข้าก็ต้องพาพวกเจ้ากลับไปให้ครบทุกคนอยู่แล้ว แต่พวกเจ้าจงจำไว้ให้ดี อย่าคิดเอาเองว่าไม่มีอันตรายแล้วไม่ระวังตัว ปลดเครื่องกำบังลง อย่างไรเสียไม่ว่าใครก็ไม่สมบูรณ์กันทั้งนั้น ข้าทำได้เพียงสิ่งที่ตนเองทำได้เท่านั้น บางครั้งข้าก็ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง แทนที่จะฝากความหวังไว้กับคนอื่น ไม่สู้พยายามด้วยตนเองดีกว่า”
คำพูดของหลิวหลีทำให้คนจำนวนนับ 10 นิ่งไป มากไปกว่านั้นคือพวกเขารู้แจ้งแก่ใจ พวกเขาโชคดีนักที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับศิษย์พี่หลง แถมยังพบว่าศิษย์พี่หลงไม่ได้เป็นคนเย็นชาเย่อหยิ่ง และปล่อยให้ศิษย์ในระดับพื่นคุ้มกันศิษย์ระดับพิเศษ และให้พวกเขาเป็นเพียงเบี้ย แล้วก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพียงคนเดียว แต่เมื่อได้ฟังคำพูดศิษย์พี่หลงแล้ว เหมือนว่านางไม่ได้คิดจะเก็บผลประโยชน์เอาไว้คนเดียว พวกเขาติดตามคนถูกแล้ว
“ศิษย์พี่หลง ได้ร่วมกลุ่มกับท่านเป็นโชคดีของพวกข้า” ลู่หรงไม่เคยคิดว่าความใจกล้าหุนหันพลันแล่นของตนเอง จะทำให้ได้รับประสบการณ์กลับไปมากถึงเพียงนี้ เป็นศิษย์ระดับพิเศษเหมือนกัน ทำไมถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้นะ
“จะพูดแบบนั้นไม่ได้หรอก เป็นโชคชะตา ศิษย์น้องลู่ แม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ระดับล่าง แต่เจ้าก็มีสิ่งที่พวกเขาสู้ไม่ได้ เจ้ามีจิตใจบริสุทธิ์ ย่อมบำเพ็ญเพียรได้รวดเร็ว ส่วนคนอื่นแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นคนเลวร้าย สามารถสร้างมันขึ้นได้” คำพูดของหลิวหลีทำให้คนรู้สึกทั้งประทับใจและละอายใจ พวกเขาปิดบังอะไรนางไม่ได้จริงๆ
…………………………….