ตอนที่ 675 เลื่อนระดับ!
บูม!
การต่อสู้ระหว่างภัยพิบัตินับสิบสร้างผลพวงไปทั่ว
ลมแรงดูดน้ำทะเลขึ้นก่อตัวเป็นพายุน้ำที่ขยายทั่วท้องฟ้า เขื่อมต่อทะเลกับเมฆ
มันเป็นฉากโลกาวินาศเหนือทะเล
วินาทีที่หานเซี่ยวดำลงทะเลเสียงเหล่านั้นก็จางหายไป น้ำทะเลที่ส่งเสียงจากด้านบนเบาลง แต่เสียงคลื่นและกระแสใต้น้ำกลับเพิ่มขึ้น มันราวกับกำลังเล่นกลองขนาดใหญ่ร้อยตัวพร้อมกัน
เรดาห์แสดงให้เห็นว่าสเตฟานีกำลังตามมาและหานเซี่ยวก็หรี่ตา
ฉันไม่อาจให้เธอเข้าใกล้ได้
หานเซี่ยวสั่งกองทัพจักรกลรอบเขาให้หันกลับไปถ่วงสเตฟานีขณะที่เขารีบดำลง
มหาสมุทรตรงหน้าเขาดำมืดเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเข้มเป็นสีดำ วิสัยทัศน์ต่ำมาก ไม่มีแหล่งกำเนิดแสงใดๆ มันมืดเสียยิ่งกว่าจักรวาล
โชคดีฉันไม่ใช่พวกกลัวความมืด
มหาสมุทรเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตสิ่งมีชีวิตโบราณจำนวนมากอาศัยในมหาสมุทรของดาวอความารีน แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกก็ได้หลบหนีไปหมดแล้ว มหาสมุทรไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใดๆเลย
สเตฟานีถูกถ่วงโดยกองทัพจักรกลหานเซี่ยวรีบดำดิ่งลงและพบร่องลึกที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อน
นี่แหละ
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะเลือกภารกิจเลื่อนระดับที่เสร็จสมบูรณ์
ไขกระดูกเขาสั่นและวิญญาณก็แล่นไปทั่วร่างเขารู้สึกคุ้นเคย
ครั้งนี้การแจ้งเตือนผุดขึ้นไม่หยุด
[การทดสอบขั้นสุดท้าย]ความคืบหน้า : 50/50
ภารกิจเลื่อนระดับ180สำเร็จ!โบนัสความทนทานเพิ่มขึ้น!1ความทนทาน= 120พลังชีวิต = 130ความแข็.แกร่ง
ท่านได้ก้าวสู่เส้นทางวิวัฒนาการท่านได้เข้าสู่ลำดับชั้นของชีวิต
ตรวจพบเผ่าพันธ์: [ผู้สังเกตโกลาหล]
กำลังสุ่ม8เส้นทางที่เข้ากันได้…
การสุ่มสำเร็จ!
โปรดเลือกหนึ่งในแปดตัวเลือกดังต่อไปนี้สำหรับการวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ท่าน
คำเตือน!กระบวนการวิวัฒนาการไม่อาจย้อนคืนโปรดเลือกอย่างระมัดระวัง!
[มนุษย์อวกาศประเภทX]-ความเข้ากันได้67%
[นักท่องมิติ(รูปแบบมนุษย์)]-ความเข้ากันได้78%
[เงามืด(รูปแบบมนุษย์)]-ความเข้ากันได้72%
[สาวกมิติ(รูปแบบมนุษย์)]-ความเข้ากันได้71%
[ผู้เบือนมิติ(รูปแบบมนุษย์)]-ความเข้ากันได้69%
[ผู้กระซิบมิติ(รูปแบบวิญญาณ)]-ความเข้ากันได้84%
[สไลม์มิติ]-ความเข้ากันได้55%
[เผ่ากรงเล็บอ็อกต้า]-ความเข้ากันได้31%
อย่างแรกหานเซี่ยวได้ตัดสิทธิ์การเลือกเผ่าที่ไม่ใช่เผ่ามิติไป เผ่ากรงเล็บอ็อกต้าที่เหมือนปลาหมึกถูกตัดออกไปก่อนและสไลท์ก็พิลึกไป
ผู้กระซิบเป็นร่างวิญญาณเหมาะกับจอมเวทย์และผู้ใช้พลังจิต หานเซี่ยวมีร่างกายแขงแกร่ง ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจเสียมัน
ทางเลือกเดียวคือเส้นทางวิวัฒนาการร่างมนุษย์ทั้งสี่
หานเซี่ยวรีบสแกนผ่านและตัดสินใจ
แกนจ้าวมิติได้เสริมยีนมิติเขาเมื่อหานเซี่ยวกระโดดเข้าระบบวิวัฒนาการเผ่ามิติจากเผ่ามนุษย์ มันก็เหมือนการเปลี่ยนอาชีพกลางคัน ดังนั้น เขาจึงไม่อาจแข่งขันกับพวกที่เป็นสิ่งมีชีวิตมิติแต่แรกได้ อย่างไรก็ตาม สารพันธุกรรมที่มียีนมิติเช่นแกนจ้าวมิติได้เสริมกระบวนการวิวัฒนาการเขาในระบบเผ่าพันธ์นี้
ด้วยผลประโยชน์จากแกนจ้าวมิติตัวเลือกที่สนับสนุนจึงเพิ่มขึ้น นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ระดับสูงขึ้นในระบบวิวัฒนาการ ตามข้อมูลเขา สิ่งมีชีวิตนี้เป็นอีกระดับของตัวเลือกอีกในห่วงโซ่วิวัฒนาการ!
ไม่ว่าจะเป็นโบนัสสถานะปัจจุบันหรือศักยภาพวิวัฒนาการในอนาคตสายพันธ์นี้นับว่าดีสุด!
หานเซี่ยวรีบเลือก
การเลือกสำเร็จการวิวัฒนาการเผ่าพันธ์เสร็จสิ้น
เผ่าพันธ์ท่านเปลี่ยนเป็น[ผู้เบือนมิติ(ร่างมนุษย์)]
โครงสร้างโมเลกุลพัฒนาโครงสร้างอวัยวะเสริมแกร่ง เมตาบอลิซึ่มเปลี่ยน และความสามารถการปรับตัวเพิ่มขึ้น…
ศักยภาพท่านเพิ่มขึ้น!
ท่านได้รับโบนัสสถานะ: +44พละกำลัง +83ความเชี่ยวชาญ +65ความทนทาน +120สติปัญญา +92ลี้ลับ +34สเน่ห์ +1460พลังงาน สถานะโบนัสพลังงานเปลี่ยน!
ดวงตาหานเซี่ยวเบิกกว้างและแสงสลัวก็ปรากฏในรูม่านตาเขา
เซลล์และยีนทั้งหมดในร่างเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงและความเจ็บปวดก็ปะทุขึ้นทั้งในร่างกายและจิตใจ วิสัยทัศน์สลับไปมาระหว่างมิติและความเป็นจริง สมองเขาสั่นสะท้าน
ร่างเขาดูดซับพลังงานห้วงมิติอย่างตะกละตะกลามทั่วร่างเขาเปล่งแสงสีเทาลึกลับ
หากระดับของผู้สังเกตโกลาหลเทียบเท่ากับพลทหารผู้บิดเบือนก็เป็นระดับสิบเอก!
มันช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อกับห้วงมิติร่างเขาดูเหมือนจะเป็นภาชนะ และพลังงานมิติก็ไหลเข้ามา ดูดซับโดยทุกเซลล์ในตัวเขา
พลังงานเขาเปลี่ยนไปภายใต้การกัดกร่อนของพลังงานมิติ
ท่านได้รับโบนัสพลังงานมิติ!
+30%ความเร็วการฟื้นฟูพลังงาน
+1000พลังงาน
ท่านได้รับสถานะพลังงานใหม่: [มิติ]!
พลังงานท่านจะมีลักษณะเป็นมิติ
สถานะพลังงานใหม่!
หานเซี่ยวยินดีหลังทนทานความเจ็บปวด เขาก็รีบมองหน้าต่างสถานะ ซึ่งเผยให้เห็นสถานะพลังงานสองอัน หนึ่งคือพลังจักรกลของสายช่างกลและอีกหนึ่งก็คือมิติ
การเปลี่ยนแปลงในสถานะพลังงานไม่ชัดเจนเท่าสถานะตัวละครแต่มันสำคัญมาก มันสามารถเปลี่ยนรูปแบบต่อสู้ได้
แม้คำแนะนำหน้าต่างสถานะจะคลุมเครือหานเซี่ยวก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาในช่วงการวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ นอกจากนี้เขาจำได้ว่าผลของสถานะ[มิติ]เป็นยังไง
กัดกร่อนพลังงาน!
ความสามารถในการส่งพลังงานโดยใช้มิติเป็นสื่อกลาง!
ทั้งสองลักษณะนี้ทรงพลังมากและก็เหมาะกับทุกสายอาชีพ!
การวิวัฒนาการยังดำเนินต่อพลังงานมิติในตัวเขาเริ่มอิ่มตัว กระบวนการวิวัฒนาการสร้างเป็นกระแสน้ำวนมหาศาลใต้ทะเลลึก
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของสเตฟานี
ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาทำตามใจชอบได้!
สเตฟานีไม่รู้ว่าหานเซี่ยวกำลังทำอะไรแต่ก็ระงัวงตัว เธอสั่นสะเทือนน้ำทะเล ทำลายทหารจักรกลและกวาดเส้นทาง
เธอมุ่งตรงไปใจกลางน้ำวนใต้ทะเลและปล่อยคลื่นพลังออกมา
บูม!
น้ำวนแตกเป็นกระแสน้ำในชั่วพริบตาตอนนั้นเอง หานเซี่ยวได้หลบการโจมตีเฉียดฉิว
สเตฟานีเป็นศัตรูที่ทรงพลังหานเซี่ยวไม่มีเวลาปรับตัวกับร่างกาย เขาเหลือบมองพรสวรรค์และความสามารถใหม่ก่อนโยนค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มระดับ
เขาเพิ่มระดับ15ระดับโดยตรง!
การแจ้งเตือนระดับผุดขึ้น
[ช่างกลแท้จริง]เลื่อนเป็นระดับ25(สูงสุด)
+450พลังงาน+2พละกำลัง +4ความเชี่ยวชาญ +4ความทนทาน +10สติปัญญา
ท่านได้รับแต้มสถานะ7แต้มและแต้มศักยภาพ1แต้ม
เมื่อสายอาชีพมาถึงระดับสูงสุดหานเซี่ยวก็หยุดเพิ่มระดับ
ตามเคยเขาทุ่มแต้มสถานะกับสติปัญญา
เขามีระดับรวมถึง195แล้ว!
ก่อนหานเซี่ยวจะได้มองค่าสถานะพลังที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เขารู้สึกถึงคลื่นพลังงานที่ไหลจากทุกเซลล์ในตัวเขาและเขาต้องรีบปลดปล่อยมัน
โดยไม่ลังเลหานเซี่ยวถอดดชุดจักรกลลิงคลั่งและพุ่งใส่สเตฟานี
ครั้งนี้ในที่สุดสเตฟานีก็เห็นว่าหานเซี่ยวเป็นยังไง สีหน้าเธอเปลี่ยนไป
ผิวของหานเซี่ยวกลายเป็นสีเทาเงินคล้ายผลึกเปล่งประกายแสงพลังงาน เขามีลวดลายสีน้ำเงินเข้มบนตัว ทั่วร่างเขาปกคลุมด้วยเพลิงสีเงินที่ขับโดยพลังงานมิติ ผมสีเงินเขาแกว่งไปมาในน้ำเหมือนเพลิงระบำ
ดวงตาเขาดูเหมือนหินภูเขาไฟและรูม่านตาเขาก็กลายเป็นจุดขาวขนาดเท่าเม็ดข้าว
รูปลักษณ์นี้คล้ายกับเผ่ามิติทั่วไปแต่พลังงานที่เปล่งกลับแข็งกร้าว
พรสวรรค์เผ่าพันธ์ใหม่-[ลอกคราบ]!
นี่มัน—
สเตฟานีตกตะลึง
ตอนนั้นเองหานเซี่ยวก็อ้าแขน ครึ่งฝ่ามือเขาเอื้อมไปในห้วงมิติ เขางอนิ้วเหมือนกรงเล็บและกระตุกลงเหมือนฉีกเปิดเสื้อ
“เอาไปกิน!”
วินาทีถัดมาดลกตรงหน้าสเตฟานีก็กลายเป็นบิดเบี้ยว
เธอรู้สึกราวกับกล้ามเนื้อกระดูก เส้นประสาทและเส้นเลือดเธอถูกบีบเข้าด้วยกัน จากนั้นก็แยกออกจากกัน เธอรู้สึกราวกับเธอกลายเป็นเศษผ้าและถูกบิดโดยคนที่พยายามรีดน้ำออกจากตัว
เวลาเพียงชั่วขณะนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนผ่านไปหลายปีความรู้สึกแปลกๆที่ยากจะอธิบายนี้เกินความรู้คนทั่วไป มันเหมือนสเตฟานีฝันไป เธอลืมว่าเธอฝันอะไรหลังตื่น แต่สัมผัสดดด้อยกว่ายังอ้อยอิ่งในหัวทำให้เธอหวาดกลัว
ขณะที่เธอยังสับสนความเจ็บปวดจำนวนนับไม่ถ้วนก็ระเบิดทุกซอกมุมในตัวเธอ!
สเตฟานีฟื้นคืนสติสีหน้าเธอดำมืดและกำลังคิดถอย แต่น้ำทะเลรอบเธอกลับหมุนด้วยความเร็วสูง สร้างเป็นพลังที่ดึงดูดเธอไว้
แย่แล้ว!สเตฟานีตะลึงงัน
การเคลื่อนไหวนี้ส่งไปยังผิวทะเลด้วยน้ำวนเล็กๆทั้งหมดในบริเวณนี้แตกกระจายและรวมกันเป็นน้ำวนใหญ่ที่สามารถกลืนท้องฟ้า!
บูม!
ภัยพิบัติทั้งสิบหยุดสู้กันและมองน้ำวนแสนน่ากลัวด้านล่างพวกเขา
ในสายตาพวกเขามหาสุมทรไม่ใช่มหาสมุทรอีก มันกลายเป็นกาแล็กซี่และน้ำวนนี่ก็เหมือนหลุมดำ
ลึกลี้ลับ และน่ากลัว!
เหมือนทางเข้าห้วงนรก!
คนที่ทำเช่นนี้ได้มีเพียงแค่สเตฟานีและหานเซี่ยว
“พวกเขาทำอะไร?”ดวงตาวิลตันเบิกกว้าง
ด้านล่างทะเลมันราวกับสเตฟานีถูกโยนเข้าเครื่องซักผ้า ไม่อาจควบคุมตัวเธอได้เลย
ที่ใจกลางของน้ำวนหานเซี่ยวคว้ามือเข้าห้วงมิติแน่น พลังต้านทานขุมใหญ่มาจากมือเขา พลังงานเขากำลังลดลงด้วยความเร็วสูง
“นี่มหัศจรรย์มาก!”
แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ยกตกใจ
ความสามารถนี้คือหนึ่งในความสามารถใหม่จากผู้บิดเบือน
[บิดเบือนมิติ]!
ตอนที่ 676 ทำลายสมดุล
หลังวิวัฒนาการเผ่าพันธ์พรสวรรค์เผ่าหานเซี่ยวก็เปลี่ยนไป
[ท่องมิติ]เป็นพรสวรรค์ร่วมของเผ่ามิติมันจึงไม่เปลี่ยน[วิสัยทัศน์มิติ-ผู้สังเกต] [พลังโกลาหล]และ[ตราสังเกต]หายไป แต่ถูกแทนด้วยความสามารถของผู้บิดเบือน
พรสวรรค์ใหม่ทั้งสามคือลอกคราบบิดเบือนมิติและระลอกมิติ
[ลอกคราบ]คือความสามารถเสริมพลังเมื่อยีนเขาได้รับการเสริมด้วยพลังงานมิติ และสามารถเข้าสู่สถานะพิเศษได้โดยการเผาพลังงานมิติ ในสภาวะนั้น สถานะทั้งหมดเขาจะเพิ่มขึ้น และสถานะมิติของพลังงานก็จะเสริมขึ้นเช่นกัน
รูปลักษณ์ปัจจุบันของหานเซี่ยวเหมือนตอนเขาใช้ความสามารถนี้
พรสวรรค์เอกลักษณ์ของผู้บิดเบือนมิติย่อมเป็นบิดเบือนมิติความสามารถจะส่งผลต่อโลกจริงด้วยการดึงมิติ มันคือความสามารถวงกว้างและผลาญพลังมานาต่อเนื่อง มันยังส่งคลื่นพลังจิตใส่ศัตรูภายในระยะ
ด้วยพลังปัจจุบันของหานเซี่ยวระยะและพลังของมันจึงรุนแรง ความสามารถนี้สามารถใช้ต่อต้านศัตรูระดับเดียวกันได้ดี
น้ำวนขนาดใหญ่เกิดจากการบิดเบือนมิติมันทำให้สเตฟานีประหลาดใจและเธอก็กำลังหมุนไม่หยุด
[ระลอกมิติ]คือความสามารถเป้าหมายเดี่ยวผลมันคือการมุ่งเน้นพลังงานมิติเพื่อปลดปล่อยความเสียหายใส่ศัตรู แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ยังตกใจเมื่อเห็นตัวเลขความเสียหาย ความเสียหายส่วนใหญ่ที่เกิดจากความเสียหายนี้คือความเสียหายจริง
ความสามารถของผู้สังเกตโกลาหลคือสายสนับสนุนส่วนความสามารถผู้บิดเบือนคือสายต่อสู้เพียวๆ
ความสามารถของผู้บิดเบือนส่วนใหญ่เกี่ยวกับมิติการวิวัฒนาการเผ่านี้ช่วยให้เขาได้รับความสามารถสี่อย่าง นอกจากนี้ การวิวัฒนาการยังข้ามระดับขั้นของห่วงโซ่วิวัฒนาการ ดังนั้นศักยภาพเขาจึงเพิ่มเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ยังคว้าไปในมิติและรักษาน้ำวนใหญ่ไว้หานเซี่ยวก็ใช้เวลานั้นเพื่อดูสถานะเขา
หลังคำนวณการวิวัฒนาการเผ่าและการเพิ่ม15ระดับมอบสถานะให้เขาดังนี้ 132พละกำลัง 224ความเชี่ยวชาญ 220ความทนทาน 507สติปัญญา 169ลี้ลับ 34เสน่ห์ 5850พลังงาน และ11300ความแข็งแกร่ง
มันน่าทึ่งมาก!
ระดับ: 195
สายหลัก: ช่างกล
เผ่า: ผู้บิดเบือนมิติ(มนุษย์)
สถานะ: 468พละกำลัง 898ความเชี่ยวชาญ 940ความทนทาน 2633สติปัญญา 432ลี้ลับ 139เสน่ห์ 1โชค
แต้มสถานะ: 0
แต้มศักยภาพ: 15
พลังชีวิต: 196560
ความแข็งแกร่ง: 154720
พลังงาน: 25530[ระดับ12]
[สถานะโบนัสพลังงานระดับ12: +169พละกำลัง +239ความเชี่ยวชาญ +269ความทนทาน +336สติปัญญา +206ลี้ลับ +32520ความแข็งแกร่งสูงสุด +352%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร(สัมผัสแม่เหล็กไฟฟ้า)]
ขั้นพลังงาน: 20170
เกรด: A+
[โบนัสขั้นA: +10ความทนทาน +8ความต้านทานรวม +10%สถานะสูงสุด +5%สถานะอื่น +30แต้มสถานะ +5แต้มศักยภาพ]
[ท่านเป็นช่างกลเกรดA+น่าเศร้า สมองท่านยังเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ]
ไร้สาระ!สมองฉันมีแต่สติปัญญา!
หานเซี่ยวขดปากและตัดสินใจไม่เถียงหมายเหตุ
ระดับ195ในที่สุดก็ถึงระดับA+
หานเซี่ยวมองค่าประสบการณ์ที่เหลือตอนนี้ การใช้ค่าประสบการณ์ต่อระดับสูงมาก ดังนั้นการเลื่อ15ระดับติดก็ทำให้เขาเสียค่าประสบการณ์ไปมาก
เขาคาดการณ์ว่าค่าประสบการณ์ที่เหลือควรสามารถเลื่อนได้เป็นสิบระดับ
เมื่อถึงเกรดA+เขาก็แกร่งขึ้นมาก ก่อนการเลื่อนระดับ เขาสามารถเอาชนะภัยพิบัติทั้งหมดได้90% แต่ตอนนี้ หานเซี่ยวรู้สึกว่ามีคนไม่มากที่จะคุกคามเขาได้
เขาเป็นภัยพิบัติชั้นสูงสุดแล้ว!
แต่เมื่อรู้ขีดจำกัดเขาหานเซี่ยวก็ไม่มีเจตนาไปยุ่งกับผู้อยู่เหนือ
ที่ระดับ195เขาก็เป็นภัยพิบัติชั้นยอดแล้ว แต่เขาจะสามารถไปถึงผู้อยู่เหนือได้ที่ระดับประมาณ240 แค่ความแตกต่างด้านระดับก็มากพอจะเตือนหานเซี่ยวแล้ว
เหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือความแตกต่างในช่วงท้าย ความแตกต่างด้านระดับสูงกว่าช่วงแรกๆมาก
ด้วยพลังปัจจุบันฉันอย่างมากฉันก็แค่ไม่ต้องกลัวใครที่อยูในระดับเดียวกัน หานเซี่ยวไม่หยิ่งผยอง
หลังใช้พลังงานไปกว่าครึ่งหานเซี่ยวก็หยุดการบิดเบือนมิติ น้ำวนขนาดใหญ่ยังอยู่ แต่ก็ค่อยๆหมุนช้าลง โดยปราศจากการบิดเบือนของหานเซี่ยว สเตฟานีได้ฟื้นคืนการควบคุมของร่างเธอ หลบหนีจากน้ำวนทันทีและพุ่งขึ้นเหนือผิวมหาสมุทร
หานเซี่ยวตามเธอไป
วิลตันและคนอื่นมองตามพวกเขามองมาและตกใจ การถูกปกคลุมด้วยเพลิงสีเงินทำให้หานเซี่ยวเหมือนนักสู้ ขณะที่สเตฟานีเปียกชุ่ม มีแผลอยู่ทั่วและใบหน้าเธอยังเต็มไปด้วยความกลัว
คนอื่นตระหนักเห็นได้ชัดว่าทั้งสองผ่านการต่อสู้หนักภายใต้ทะเลและแบล็คสตาร์ก็ใช้ความสามารถบางอย่างและสร้างน้ำวนขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้สเตฟานีบาดเจ็บหนัก
“บุก!”หานเซี่ยวนำทัพจักรกลไม่ยอมให้สเตฟานีหยุดพัก
พลังเขาพุ่งสูงขึ้นนอกจากนี้ เขายังฟื้นคืนจุดสูงสุดเขา นี่ทำให้สมดุลที่เปราะบางของทั้งสองฝั่งพังครืน!
ด้วยการเพิ่มสติปัญญาเขากองทัพจักรกลเขาจึงแกร่งขึ้น
บูม!
การต่อสู้เริ่มอีกครั้งวินาทีที่หานเซี่ยวเข้าสนามรบ สถานการณ์จนมุมก็พัง
หลังการเลื่อนระดับเขาเหนือกว่าสเตฟานีโดยสิ้นเชิงขณะที่ยังสามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมเขา เขาควบคุมจังหวะการต่อสู้ลำพัง
สเตฟานีรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลและถูกรุกอยู่ฝ่ายเดียวเธอไม่เข้าใจว่าแบล็คสตาร์ที่สูสีกับเธอกลับแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง นี่คือไพ่ตาย?!
หรือว่าเขาจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงต่อสู้?
เธอนึกได้ว่ามีคนจำพวกนี้ในจักรวาลการไม่ฆ่าจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
แบล็คสตาร์คือพวกนั้น?
หากเป็นมันก็สมเหตุสมผล ไม่แปลกใจทำไมแบล็คสตาร์ถึงเติบโตเร็วนัก เขาอาจเป็นพวกที่มีพรสวรรค์เผ่าพันธ์นักรบ!
การคาดเดามากมายฉายผ่านหัวของสเตฟานีเธอมองรอบๆและใจสั่น
นับรวมเธอทุกคนต่างถึงขีดจำกัด แต่แบล็คสตาร์กลับยังอยู่จุดสูงสุด และผู้ช่วยเขาก็แข็งแกร่งมาก หลังสู้กันนาน สเตฟานีก็ไม่เห็นความหวังใดที่จะจับแบล็คสตาร์
“ถอย!”
เมื่อตระหนักว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายสเตฟานีก็ตัดสินใจถอยและออกสนามรบ
หลังสู้กันมาหลายชั่วโมงสเตฟานีและคนอื่นก็หมดแรง แต่หากสู้ซึ่งๆหน้า พวกเขาก็ยังทนได้อีกสักพัก แต่เมื่อตัดสินใจถอย กำลังใจก็หมด และพวกเขาก็เสียความได้เปรียบทั้งหมด พวกเขาถูกสะกดโดยหานเซี่ยว
สเตฟานีและคนอื่นสู้ไปถอยไปทำให้เข้าสู่วัฏจักร ยิ่งอยากถอย สถานการณ์ก็ยิ่งแย่
อย่างไรก็ตามหากสู้ซึ่งๆหน้า มันก็แค่การชะลอความตาย สเตฟานีไม่มีทางเลือกนอกจากถอย จากนั้นเธอถึงตระหนักว่าเธออยู่ในจุดเลวร้าย ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่หนี พวกเธอก็ใช้พลังงานไปมากและตอนนี้ก็ยังไม่อาจหนีได้
หากศัตรูถอยตั้งแต่ต้นหานเซี่ยวและคนอื่นคงไม่อาจหยุดได้ แต่พวกเขาคิดช้าไป!
เขาไม่อยากปล่อยคนอันตรายเหล่านี้ไปใครจะรู้ว่าพวกเขาจะกลับมาสร้างปัญหาอีกไหม?
เมื่อสเตฟานีรับรู้ถึงสถานการณ์พวกเธอก็หมดทางหนี
สนามรบค่อยๆเปลี่ยนไปขึ้นบนสเตฟานีและคนอื่นมาถึงขีดจำกัดแล้ว
หานเซี่ยวเริ่มฆ่าสังหาร!
ปัง!
หมัดชกใส่จอมเวทย์ที่บาดเจ็บสาหัสและระลอกมิติก็บินเข้าร่างเป้าหมาย ร่างของคนๆนี้สั่นสะท้านและร่างก็เริ่มสั่นเหมือนผ้า แต่แทนที่น้ำจะถูกคั้น มันกลับเป็นเลือด พลังชีวิตเขากลายเป็น0 และเขาก็ตกจากฟ้า
ซู่!
คลื่นไซโอนิคยิงใส่ร่างเอสเปอร์ศัตรูแสงสีน้ำเงินระเบิดจากภายใน และคนๆนี้ก็ระเบิด!
บูม!
เข่าหนักกระทบใส่ร่างส่วนล่างของนักสู้อนุภาคนาโนจำนวนมากพลันปรากฏบนเข่าหานเซี่ยว ซึ่งเปลี่ยนเป็นดาบแหลม แทงเข้าร่างของนักสู้นนี้ วินาทีที่แทงเข้า ดาบนาโนก็เปลี่ยนรูป วินาทีถัดมา หนามโลหะผสมนับไม่ถ้วนก็ขยายจากภายในกล้ามเนื้อ ราวกับหนามงอกออกจากร่างคนๆนี้
เมื่อหานเซี่ยวถอยอนุภาคนาโนก็หดกลับเช่นกัน หนามในตัวคนๆนี้หดออก เลือดพุ่งออกจากรูนับไม่ถ้วนบนตัวเขา
หานเซี่ยวฆ่าภัยพิบัติทีละคนเหลือแค่สเตฟานีที่ยังต่อต้าน เธอแข็งแกร่งมาก แค่สเตฟานีคนเดียวก็สร้างปัญหามากแล้ว
อย่างไรก็ตามเธอเหลือแค่ตัวคนเดียว
สเตฟานีทำให้ผู้ช่วยของหานเซี่ยวสามคนบาดเจ็บสาหัสนี่คือปัญหาสุดท้ายที่เธอสร้าง จากนั้นก็ถูกกำราบโดยหานเซี่ยว
โดยไม่สนบาดแผลพวกเขาผู้ช่วยของหานเซี่ยวตรึงเธอไว้และป้องกันเธอจากการหลบหนี
หานเซี่ยวกดสเตฟานีลงกับพื้นและคลื่นไซโอนิคก็ยิงใส่หน้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่หยุด สร้างเป็นหลุมลึกหลายร้อยเมตรบนพื้น สเตฟานีถูกกดโดยวิลตันและคนอื่น เธอจึงไม่อาจต่อต้านได้เลย
ท้ายที่สุดสเตฟานีก็บาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจขยับได้ เธอทำได้แค่นอนหายใจ
หานเซี่ยวไม่ฆ่าเธอเขารู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ที่จะไม่ฆ่า แถม สเตฟานียังเป็นบอส เธอย่อมสร้างยาได้มาก
ทั้งหมดที่สเตฟานีรู้สึกได้คือเปลือกตาเธอหนักแค่ไหนก่อนจะหมดสติ เธอก็บีบเค้นพลังงานเฮือกสุดท้ายเพื่อจ้องตาหานเซี่ยว
เมื่อวางแผนซุ่มโจมตีเธอไม่เคยพิจารณาความเป็นไปได้ว่าเธอจะแพ้
“แบล็คสตาร์…”
สเตฟานีจ้องหานเซี่ยวสลักเขาลึกลงในหัวใจก่อนหมดสติ
สถานที่เงียบไป
“ในที่สุดเราก็ชนะ”หานเซี่ยวสูดหายใจจากนั้นถึงรู้สึกว่าร่างเขาเหนื่อยล้าแค่ไหน ทั้งหมดที่เขาอยากทำคือนอนหลับ
กับดักของสเตฟานีร้ายกาจมากหากเขาไม่เรียกกำลังเสริม เขาอาจติดกับจริงๆ หากเขาผ่านการเลื่อนระดับแต่แรก โดยปราศจากตราสังเกต เมืองแบล็คสตาร์คงถูกทำลาย
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันจบแล้ว
ทีมสเตฟานีถูกกำจัด!
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”หานเซี่ยวหันไปพยักหน้าให้พวกวิลตัน
“เรายินดี”วิลตันกลืนน้ำลายและพูดด้วยความเคารพเขาเคยไม่พอใจแต่ตอนนี้เขาทั้งเคารพและกลัวหานเซี่ยว
ศึกนี้อาจไม่น่าประหลาดใจเท่าแปดขุนพลแต่มีภัยพิบัติกี่คนที่แบล็คสตาร์ฆ่าไปวันนี้?!
ครั้งก่อนแบล็คสตาร์พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังป้องกันเขา วันนี้ วิลตันได้เห็นถึงพลังโจมตีของหานเซี่ยว
แค่คิดก็ทำให้กระดูกสันหลังวิลตันสั่นสะท้านแล้ว
โชคดีแบล็คสตาร์เป็นมิตรเรา…
ในขณะเดียวกันนากาคินก็เศร้าใจ สหายเขาถูกฆ่า หานเซี่ยวไม่มีทางปลอบเขาได้ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือตบหลัง
โกโดร่าส่งคนมาช่วยเขาการเสียภัยพิบัติไปไม่ใช่การสูญเสียเล็กน้อย หานเซี่ยวรู้สึกผิดและระลึกไว้ ถือว่าเขาเป็นหนี้โกโดร่า
เขาไม่ใช่คนที่รับความช่วยเหลือฟรีๆ
เพื่อรักษาความสัมพันธ์มันต้องใช้ความพยายามจากทั้งสองฝ่าย
ในเวลานี้หานเซี่ยวพลันคิดบางอย่างและสีหน้าก็เปลี่ยนไป
“รอก่อนเรายังพักไม่ได้ ฟิลลิป รวบรวมรายงานหายนะและบอกตำแหน่งฉัน”
เขาฝืนตัวเองเปลี่ยนเป็นแสงและออกไป
เขาไม่อาจพักได้เขาต้องจัดการหายนะก่อน หากพวกเขาหยุดตอนนี้ ดาวอความารีนอาจพินาศ
วิลตันและคนอื่นยินดีช่วยพวกเขาแยกย้ายและมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ