กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ – ตอนที่ 59 ทางเลือก

ตอนที่ 59 ทางเลือก

ตอนที่ 59 ทางเลือก

 ให้ท่านเป็นผู้ดูแลชั่วคราวงั้นหรือ ? 

จี้เทียนซิงขมวดคิ้ว ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชัง

 ลุงสองผู้นี้สมเป็นจิ้งจอกเฒ่า ยกอ้างเหตุผลได้ดีเยี่ยมจริงๆ แทบไม่ต่างอะไรกับการใช้กำลังแย่งชิงตำแหน่งประมุขด้วยซ้ำ 

 ก่อนหน้านี้เขาวางท่าทีสงบเสงี่ยมเจียมตัว คิดไม่ถึงเลยว่าคล้อยหลังท่านพ่อบาดเจ็บสาหัสเพียงแค่วันเดียว ความทะยานอยากของมันก็แสดงออกมาชัดเจนมากขนาดนี้ ! 

จี้เทียนซิงจ้องมองไปที่จี้หรูเฟิ่งและกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า  ต่อให้ข้ายังไม่มีคุณสมบัติพอจะขึ้นเป็นประมุข มันก็ไม่ใช่การตัดสินใจของท่าน ท่านเอาแต่พูดเองเออเองฝ่ายเดียว 

 งั้นข้าขอถามกลับ ท่านคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติอะไรถึงเสนอหน้ามาเป็นผู้เก็บรักษาป้ายประมุข ?! 

ทันใดนั้นจี้หรูเฟิ่งก็อึ้งไป ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกเด็กรุ่นเยาว์หักหน้า

จี้ชางเหอตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า  จี้เทียนซิง อย่าได้อวดดีนัก ! 

 ก่อนที่เจ้าจะมาถึงพวกข้าได้หารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่คือความเห็นพ้องต้องกันและเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทุกคน 

เหล่าผู้ภักดีต่อจี้ชางคงและสมาชิกนอกรัฐหลายคนกล่าวโต้อย่างรวดเร็ว

 ช้าก่อน ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไรอาวุโสสาม ? ข้ามิเคยพูดว่าเห็นด้วยกับท่าน 

 ถูกต้อง ! พวกเราทุกคนพูดถึงเรื่องนี้กันก็จริง แต่เราไม่ได้บอกว่าเห็นดีเห็นงามกับการให้อาวุโสสองเป็นตัวแทนประมุข อย่าได้มัดมือชก 

 พวกเราหารือกันและเห็นไม่ตรงกัน แต่ท่านอย่าเอาพวกเราไปเหมารวมว่าเห็นด้วยกับการตัดสินของท่าน พวกเราไม่เคยพูด ! 

 เหอๆ อาวุโสสาม ท่านเห็นหัวคนเก่าคนแก่อย่างพวกเราบ้างหรือไม่ ? 

จี้เทียนซิงเห็นว่ายังมีผู้เฒ่าหลายคนออกหน้าเข้าข้างอยู่บ้าง ในใจจึงรู้สึกสบายลงและสีหน้าดูผ่อนคลายลงมาก

จี้หรูเฟิ่งลอบกำหมัดแน่นและจ้องมองไปที่เหล่าผู้บริหารอาวุโส เขากล่าวต่อไปว่า  ในเมื่อมีผู้คัดค้านเรื่องนี้ งั้นเราจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฏของตระกูล 

เขาหันไปมองที่จี้เทียนซิงและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า  ตามกฎของตระกูลจี้ ผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขจะต้องเข้าสู่สถานที่ต้องห้ามเพื่อทำการทดสอบ 

 จี้เทียนซิง เจ้าต้องการรับตำแหน่งประมุขใช่หรือไม่ ? เช่นนั้นเจ้าก็ต้องเข้าสู่พื้นที่ต้องห้ามของตระกูลและนำผนึกฟ้ากลับมาเพื่อเป็นการยืนยันคุณสมบัติของประมุข ! 

หลังจากได้ยินคำพูดของจี้หรูเฟิ่ง จี้ชางเหอและผู้สนับสนุนต่างก็มีรอยยิ้ม

สีหน้าของสมาชิกนอกรัฐเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน พวกเขาเปิดปากกีดกันข้อเสนอของจี้หรูเฟิ่งอย่างรวดเร็ว

 เทียนซิง ! เจ้าอย่าได้ฟังที่อาวุโสสองพูด ห้ามเข้าไปในแดนต้องห้ามตระกูลจี้โดยเด็ดขาด ! 

 แดนต้องห้ามเต็มไปด้วยสิ่งน่ากลัวจนไม่อาจคาดเดาได้ ด้วยพลังของเจ้าตอนนี้อย่าเข้าไป มิฉะนั้นเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน! 

 อาวุโสสอง พวกเราทั้ง 4 ไม่เห็นด้วยต่อความคิดของท่านอย่างยิ่ง ! 

จี้เทียนซิงก็เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของพื้นที่ต้องห้ามตระกูลจี้จากการบอกเล่าของบิดา และรู้ว่ามันอันตรายเพียงใด

ตามคำบอกเล่าของบิดา ตระกูลจี้ได้กักขังสัตว์อสูรดุร้ายตนหนึ่งเอาไว้

หากปราศจากความแข็งแกร่งในเขตแดนเชื่อมลมปราณขึ้นไป การเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามก็คือการเอาชีวิตไปทิ้ง !

จี้หรูเฟิ่งเหลือบมองใบหน้ามืดมนของจี้เทียนซิงอย่างเย้ยหยันและกล่าวต่อไปว่า

 จี้เทียนซิง ในเมื่อเจ้ายกกฎความชอบธรรมของตระกูลจี้มาอ้างกับข้า เช่นนั้น ในเมื่อเจ้าอยากขึ้นรับตำแหน่งประมุขโดยสมบูรณ์ เจ้าก็ต้องทำตามกฎเช่นกัน ! 

 ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสองทางเท่านั้น หนึ่ง เข้าไปในแดนต้องห้ามของตระกูลจี้เพื่อผ่านการทดสอบ สอง ส่งมอบป้ายประมุขตระกูลจี้มาให้ข้า ข้าจะดูแลมันไว้ชั่วคราวจนกว่าเจ้าจะพร้อมกว่านี้ 

 ในฐานะลุงของเจ้า ข้าขอเตือนไว้ก่อน เมื่อเจ้าเข้าไปในแดนต้องห้ามของตระกูล เจ้าต้องนำผลึกฟ้ากลับมา แต่ในนั้นอันตรายยิ่งกว่าที่เจ้าจะคาดคิดได้ เจ้าอาจจะไม่มีวันออกมาได้ตลอดกาล 

 ด้วยพลังฝีมือในปัจจุบันของเจ้า การเข้าไปในนั้นก็เหมือนไปตาย ดังนั้นข้าขอแนะนำให้เจ้ามอบป้ายประมุขมาเสียดีกว่า ไม่ต้องกังวล ข้าเพียงถือครองมันไว้ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ หรือจี้ชางคงหายดี ข้าจะคืนมันให้ เหอๆๆ… 

ทันใดนั้น เหล่าผู้ภักดีต่อจี้ชางคงทั้ง 4 ต่างก็ผุดลุกขึ้นยืนและก้นด่าจี้หรูเฟิ่งอย่างดุเดือด

 อาวุโสสอง ! ท่านมันหมาป่าที่ทะเยอทะยานยิ่งนัก ! 

 เหอะ ! ท่านคิดจะถือครองป้ายประมุขชั่วคราวงั้นหรือ? ข้ากลัวว่าท่านจะใช้คำสั่งประมุขคุมตัวนายท่านไว้เสียมากกว่า ท่านคิดว่าพวกเราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกับนิสัยใจคอของท่านหรือไง ? 

 ถูกต้อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด พวกเราจะไม่มีวันยอมให้เทียนซิงเข้าสู่แดนต้องห้าม ! 

ดวงตาของจี้หรูเฟิ่งเต็มไปด้วยแสงเย็นชาและจับจ้องมองไปยังคนทั้ง 4 พร้อมทั้งตะโกนออกมาว่า  นี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลหลักเรา พวกเจ้ายุ่งอะไรกับกฏของตระกูลด้วย ? 

ทันใดนั้นเองสมาชิกอาวุโสนอกรัฐก็แสดงสีหน้าบูดบึ้งม่วงคล้ำ พวกเขากระแทกก้นนั่งลงกับเก้าอี้อย่างอ่อนแรง

 เหอะ ! เงียบเสียได้ก็ดี 

จี้หรูเฟิ่งสบถอย่างเย็นชาและรั้งสายตากลับมามองจี้เทียนซิงอีกครั้งพลางกล่าวว่า

 จี้เทียนซิง ! อย่ามัวเสียเวลา เจ้าเลือกมา 

 จะเข้าสู่แดนต้องห้ามของตระกูลเพื่อรับการทดสอบหรือส่งมอบป้ายประมุขมาให้ข้า ! 

จี้เทียนซิงลอบกำหมัดอย่างลับๆ ในใจเต็มไปด้วยโทสะคุกรุ่น

เขารู้ดีว่าจี้หรูเฟิ่งวางแผนยึดตำแหน่งประมุขมานานหลายปีแล้วและไม่อาจทนรอได้อีก ในเมื่อตอนนี้สบโอกาส เขาต้องทำทุกทางเพื่อยึดอำนาจให้ได้โดยเร็ว

จี้หรูเฟิ่งยกกฎของตระกูลหลักขึ้นมาอ้างทำให้เหล่าสมาชิกนอกรัฐที่อยู่ฝ่ายจี้เทียนซิงไม่มีเหตุผลอะไรจะมาหักล้างเพราะนี่เป็นกฎของคนในตระกูลหลัก

หากจี้เทียนซิงไม่ยอมรับการทดสอบเขาจะต้องส่งมอบป้ายคำสั่งประมุขออกไป ซึ่งสอดคล้องกับเจตนาของจี้หรูเฟิ่ง

หากเขายอมเข้าไปในแดนต้องห้าม และเกิดเสียชีวิตขึ้นมาก็ไม่มีผู้ใดกล่าวโทษได้ ซึ่งไม่ว่าจะทางไหนก็เข้าทางจี้หรูเฟิ่งทั้งสิ้น

ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหนก็เหมือนวิ่งวนอยู่ในกำมือของจี้หรูเฟิ่ง สุดท้ายแผนการของมันก็ย่อมสำเร็จ !

จี้เทียนซิงแสดงสีหน้าเย็นชาและเงียบลง เขาตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ผู้ที่อยู่ฝ่ายเขาล้วนแสดงสีหน้ากลัดกลุ้มและเป็นกังวล แต่น่าเสียดาย นี่เป็นกฏที่ตระกูลหลักตั้งไว้ พวกเขาไม่อาจแสดงความเห็นใดๆได้อีก

จี้หรูเฟิ่งและจี้ชางเหอ รวมไปถึงฝ่ายสนับสนุนต่างก็ยกยิ้มมุมปาก แววตาเหยียดหยามดั่งจิ้งจอกเฒ่าและมองดูจี้เทียนซิงตัดสินใจอย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นไม่นาน จี้เทียนซิงก็เงยหน้าขึ้น แววตาหนักแน่น เขามองไปที่จี้หรูเฟิ่งและตะโกนออกมาว่า  ท่านต้องการให้ข้ามอบป้ายคำสั่งประมุข ? ข้าขอกล่าวตรงนี้อีกครั้ง ไม่มีวัน ! 

 ข้าจะเข้าไปในแดนต้องห้ามของตระกูลและนำผลึกฟ้ากลับมา ข้าขอเข้ารับการทดสอบ ! 

 อา……… เทียนซิง เจ้า ! 

สิ้นเสียงของชายหนุ่ม ฝ่ายสนับสนุนจี้เทียนซิงก็ตกตะลึงและแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา

แม้กระทั่งจี้หรูเฟิ่งและจี้ชางเหอต่างก็อึ้ง จากนั้นก็แสยะยิ้ม บ้างก็หัวเราะเยาะ

จี้หรูเฟิ่งกลัวว่าจี้เทียนซิงจะเปลี่ยนใจ เขารีบประกาศเสียงดังอย่างรวดเร็วว่า  ดี ! จี้เทียนซิง ในเมื่อเจ้าได้ตัดสินใจแล้ว งั้นก็เข้าสู่แดนต้องห้ามของตระกูลเดี๋ยวนี้เลย 

 เหล่าอาวุโสทุกท่านและผู้บริหารทุกคนจะอยู่เป็นสักขีพยานในเรื่องนี้ ! 

จี้ชางเหอพยักหน้าให้กับผู้สนับสนุนที่อยู่ฝ่ายเขาทุกคน จากนั้นคนเหล่านั้นก็หัวเราะเยาะพลางกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า

 เหอๆ กล้าหาญนัก ! 

 ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะหัวซุกหัวซุนหนีออกมาเมื่อใดหลังจากเข้าไปในนั้น ! 

 ไอ้หยา… ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆกลับคิดไปตายในแดนต้องห้ามของตระกูล บิดาเจ้ามิได้บอกกล่าวหรือไงว่าที่นั่นอันตรายเพียงใด ? 

 คนหนุ่มสาวมักหุนหันพลันแล่นและกระทำเรื่องราวโดยมิยั้งคิด น่าสมเพชนัก เจ้าจะตายด้วยความอวดดี 

 ตอนนี้นายท่านสี่กำลังพักรักษาตัว หากท่านออกมาและพบว่าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนตกตายเสียแล้ว ข้าไม่รู้ว่าท่านจะโศกเศร้าเพียงใด… เฮ้อ 

จี้เทียนซิงยังคงมีสีหน้าเย็นชาและราบเรียบ ดวงตาคมกล้าของเขากวาดผ่านทุกคนและจดจำใบหน้าชั่วร้ายอัปลักษณ์ของคนเหล่านี้ไว้ในใจหมดแล้ว

 หัวเราะเข้าไป หัวเราะให้เต็มที่ซะ ! 

 อีกไม่นานข้าจะให้พวกเจ้าต้องคุกเข่าขอขมาต่อสิ่งที่ทำในวันนี้ ! 

 

กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์

กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์

Status: Ongoing

ชายหนุ่มผู้เป็นจอมยุทธ์อันดับ 1 ของเมืองจักรวรรดิแต่ต้องพบเจอกับเรื่องน่าสังเวชยิ่ง คู่หมั้นอันเป็นที่รักกลับวางแผนชั่ว ช่วงชิงการบ่มเพาะและสายโลหิตผู้เป็นอัจฉริยะไป  ถูกหัวเราะเย้ยหยันจากคนในใต้หล้าว่าเป็นเศษสวะพิการไร้ค่า ตันเถียนถูกทำลาย ถูกชี้ชะตาให้รับความอัปยศไปชั่วชีวิตโดยมิอาจชำระแค้น ในขณะที่สิ้นหวัง มันกลับพบว่าสุสานเทพกระบี่ซ่อนเร้นอยู่ในกายาอันลึกซึ้ง !  เคล็ดวิถีใจกระบี่ไร้ขั้นถูกจารึกประทับอยู่บนป้ายหลุมศพ 18 ป้ายอย่างลึกลับ ภายในสุสานยังดำรงอยู่ด้วยจิตวิญญานกระบี่ นามว่า จางเทียน ! (กลบฝังสรวงสวรรค์) นับแต่บัดนั้น เซียนกระบี่ที่มิเคยถือกำเนิดในโลกหล้าได้จุติขึ้น สั่นสะเทือนดินแดนสวรรค์ชั้นเก้า ! 1 กระบี่สังหารมาร ! 1 กระบี่ประหารเซียน ! แม้จะเป็นจักรพรรดิแห่งแดนสวรรค์ชั้นเก้า ยังต้องถูกกลบฝังจาก 1 กระบี่ของมัน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท