แมนิสันแสดงพลังเต็มที่ เขาสามารถสะกดข่มแบล็คสตาร์ได้อย่างสมบูรณ์
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของผู้ศรัทธาจักรกลทุกคนที่ดูอยู่บนผิวดาว
ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า?ฉันสามารถเห็นสองเทพด้วยตาของฉันเอง
รีบบันทึกมันไว้เร็ว ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิจักรกลจะทุ่มสุดตัวตอนไหน นี่คือข้อมูลมือแรก!
ทำไมพวกเขาถึงสู้กัน?
มันดูเหมือนการท้าทาย สถานการณ์ของแบล็คสตาร์ไม่สู้ดีเลย
จักรพรรดิจักรกลก็ยังเป็นจักรพรรดิจักรกล ถือครองตำแหน่งสูงสุดมาหลายปี แบล็คสตาร์ยังเด็กเกินไป ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ เขาไม่ใช่คู่มือของจักรพรรดิจักรกล แบล็คสตาร์สร้างบันทึกประวัติศาสตร์ไม่นานมานี้ ฉันคิดว่าเขาคงมาถึงระดับเดียวกันกับจักรพรรดิจักรกลแล้วซะอีก ตอนนี้มันูเหมือนเขาจะขาดอยู่
ผู้ชมตื่นเต้นมาก ในฐานะแฟนตัวยงของช่างกล พวกเขาพิจารณาประสบการณ์ของผู้อยู่เหนือจุดสุดยอดแต่ละคนตามมรดกอันล้ำค่า แม้พวกเขาจะไม่รู้สาเหตุของการต่อสู้ก็ตาม
แม้อาณานิคมพวกเขาจะโดนคุกคามจากผลพวงการต่อสู้ ผู้ศรัทธาก็เต็มใจยืนดู
ในความคิดพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขาได้ดูการต่อสู้ของเทพจักรกลด้วยตาตัวเอง การแบกรับความเสี่ยงก็ไม่นับเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่ความจริงว่าแผ่นดินพวกเขาสูงแค่นี้ พวกเขาคงอยากเขย่งให้สูงกว่านี้
ด้านบนสุดของวิหารผู้ศรัทธาจักรกล นักบวชหลายคนมองหน้าจอเสมือนตรงหน้า ซึ่งแสดงภาพของหานเซี่ยวและแมนิสันด้านนอกอวกาศ ‘เทพทั้งสองได้ย้ายสนามรบแล้ว แต่อาณานิคมของเราก็ยังตกอยู่ในอันตราย ท่านนักบวชสูงสุด เราควรอพยพคนหรือไม่?
นักบวชสูงสุดจ้องหน้าจอเงียบๆ กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดใดไป เขาจ้องด้วยความหลงใหล ไม่แม้แต่จะหันไปมองขณะพูด รอก่อน ให้ฉันดูอีกสักพัก
ข้างๆ มีใครบางคนพึมพำ แม้ฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงสู้กัน แต่ก็ไม่ควรมีความสงสัยในผลลัพธ์ ทั้งสองฝ่ายมาด้วยกายสถิต และพวกเขาแค่สู้กันด้วยความสามารถจักรกล ในแง่นี้ แบล็คสตาร์ต้องด้อยกว่าอยู่แล้ว
มันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น
นักบวชคนอื่นพยักหน้า
แต่ทว่า ไม่มีใครผิดหวัง เพราะในสายตาพวกเขา นี่เป็นเรื่องปกติ
แต่ทว่า สถานการณ์พลันเปลี่ยนไป คลื่นพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ นักบวชสูงสุดผงะ
ความผันผวนพลังงานของแบล็คสตาร์..จู่ๆก็เพิ่มขึ้น
ในเวลาเดียวกัน สามอารยธรรมจักรวาลที่จับตาดูอยู่ตลอดก็เห็นหน้าจอกะพริบ
พระสันตะปาปาเหลือบมองเออแรนเรล ท่านผู้ปกครอง แบล็คสตาร์ดูเหมือนจะเสียเปรียบนะ
ตามคาด เออแรนเรลสงบ เราไม่เคยหวังว่าแบล็คสตาร์จะสู้กับจักรพรรดิจักรกลได้ เขามีศักยภาพน่าทึ่งและต้องการเวลาเพื่อเพิ่มรากฐาน ต่อให้การเติบโตเขาจะเหนือความคาดหมายของเราอยู่ตลอดก็เถอะ มันยังเร็วเกินไปสำหรับเขาที่จะต่อกรกับจักรพรรดิจักรกล
แต่ทว่า พวกแรกที่ปล่อยตัวปรับเสถียรมิติเวลาก็คือจักรวรรดิ มันดูเหมือนท่านจะอยากให้พวกเขาสู้กันนะ
ผิดแล้ว ในเมื่อแกนไวรัสถูกจัดการ เราจึงควรยกเลิกการปิดล้อม เราไม่สามารถบังคับกายสถิตของช่ากงลได้ เราเปิดการปิดล้อมเพื่อหวังว่าจักรพรรดิจักรกลจะจากไป แต่มันดูเหมือนเขาจะอยากแสดงพลังต่อหน้าเรา เออแรนเรลตอบ
คำสั่งเธอให้ปิดตัวปรับเสถียรมิติเวลาไม่ใช่การตัดสินใจที่หยิ่งผยอง เออแรนเรลตระหนักดีว่าแบล็คสตาร์สามารถออกจากพื้นที่ได้ตลอดเวลาภายใต้การยับยั้งของมิติเวลา แต่ในความคิดเธอ แบล็คสตาร์ไม่ได้ทำอะไรผิด การทำลายแกนไวรัสเพื่อผลประโยชน์ของจักรวาล เขาจะหนีไปทำไม?คนที่ควรหนีก็คือแมนิสัน
มันเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมจักรพรรดิจักรกลถึงลงมือ พระสันตะปาปามองบาเดอร์
บาเดอร์จ้องหน้าจอต่อโดยไม่ตอบ
เมื่อเห็นอย่างนี้ พระสันตะปาปาก็รู้ว่าบาเดอร์ไม่คิดจะพูดถึงจักรพรรดิจักรกล เขาจึงละสายตาและพูดต่อ แต่ทว่า แบล็คสตาร์ยังไม่ถึงระดับของจักรพรรดิจักรกล เขาน่าจะแพ้
เราไม่อยากให้แบล็คสตาร์มีความขัดแย้งกับจักรพรรดิจักรกลตอนนี้ แต่ในเมื่อพวกเขาเริ่มสู้กันแล้ว จักรวรรดิก็จะสนับสนุนแบล็คสตาร์จนถึงที่สุด ไม่จำเป็นต้องถอย เออแรนเรลกล่าวอย่างเด็ดขาด
ในแง่ของจุดยืน สามอารยธรรมจักรวาลยืนข้างหานเซี่ยว แต่พวกเขาไม่ปฏิเสธความจริงที่จักรพรรดิจักรกลยังทรงพลังกว่า
นอกจากนี้ แบล็คสตาร์ยังใช้แค่กายสถิต ดังนั้นการแพ้จึงยอมรับได้ เหนือสิ่งอื่นใด อายุของแบล็คสตาร์เป็นแค่เศษเสี้ยวของแมนิสัน และศักยภาพในอนาคตของเขาก็ชัดเจน ขณะที่ทั้งสามกำลังคิด ความผิดปกติก็ปรากฏบนสนามรบ
ค่าพลังงานของหานเซี่ยวพลันพุ่งทะยาน
ทั้งสามสะดุ้ง
แบล็คสตาร์ระเบิดพลัง?เขาแผดเผาศักยภาพอีกแล้ว? บาเดอร์ตกตะลึง พระสันตะปาปาก็เช่นกัน
นี่หุนหันพลันแล่นเกินไป เขาไม่จำเป็นต้องดิ้นรนแบบนี้…
ความจริงที่แบล็คสตาร์มีสองโหมดไม่ใช่ความลับ โหมดปกติเขาไม่สามารถเอาชนะจักรพรรดิจักรกลได้ นี่เป็นเรื่องที่ทั้งสามรู้ดี แต่พวกเขายังเข้าใจว่าพลังของหานเซี่ยวจะถึงจุดสูงสุดก็ต่อเมื่อเขาแผดเผาศักยภาพ
แบล็คสตาร์ได้ใช้การแผดเผาศักยภาพของเขาเพื่อทำให้ทั้งจักรวาลตกใจระหว่างศึกทวยเทพไปแล้ว
สีหน้าของเออแรนเรลไม่สู้ดี การกระทำของแบล็คสตาร์หลุดกรอบอีกแล้ว
เขาสามารถเลือกค่อยๆสะสมรากฐานได้ แต่เขากลับแผดเผาศักยภาพเพื่อระเบิดพลัง เธอไม่สามารถยอมรับแนวทางดังกล่าวได้
นายแผดเผาศักยภาพไปแล้ว?แต่นายยังอยากแผดเผามันอีก?นายจะยอมเสียศักยภาพไปอีกสักแค่ไหน! แบล็คสตาร์เป็นพันธมิตรจักรวรรดิ และเธอก็หวังกับเขาไว้สูง ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ยังสอดคล้องกับความสงบสุขของจักรวาล ตอนนี้ที่แบล็คสตาร์แผดเผาศักยภาพ มันจึงเป็นการสูญเสีย
ด้วยการตัดสินอย่างมีเหตุผลของเธอ การเคลื่อนไหวนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการเสียเลือด แต่ในความรู้สึก เธอชื่มชมแบล็คสตาร์มาก
ทางเลือกที่แบล็คสตาร์เลือกทำให้เธอไว้วางใจเขา ไม่ว่าเธอจะมองทางไหน แบล็คสตาร์ก็ดูน่าพึงพอใจอย่างมากในสายตาเธอ
เกร๊ง!
ตรีศูลตัดเปิดม่านพลังของผ้าคลุมจักรพรรดิอีกครั้ง ลาดเส้นลึกบนท้องเทพจักรกลหานเซี่ยว อะไหล่หลายชิ้นถูกขุดออก
ทหารจักรกลรอบๆอยากเข้ามาซ่อมแซม แต่ก็ถูกขวางโดยกองทัพของแมนิสัน พวกมันไม่สามารถฝ่าวงล้อมมาได้ ประสิทธิภาพกองทัพจักรกลของแมนิสันสูงกว่าเกือบทุกด้าน ยกเว้นพลังโจมตีเขา นี่ต้องขอบคุณเทคนิคต่อสู้ในตำนาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าล้อเล่น มันแค่ว่าการโจมตีส่วนใหญ่ถูกดูดซับโดยจักรวรรดิจักรกลอมตะของแมนิสัน ซึ่งไม่กลัวการถูกทำลาย
ตำนานของกายอมตะแพร่กระจายไปทั่วจักรวาล และเพราะแมนิสันไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะใช้กับกายสถิตของหานเซี่ยวด้วยได้ไหม การโจมตีทั้งหมดของเขาจึงมุ่งเน้นส่วนไม่สำคัญของเทพจักรกล มุ่งเน้นการทำลายจักรกลของหานเซี่ยว
ตอนนี้เอง หานเซี่ยวพบว่ามันยากที่จะต้านทานและความคิดของเขาก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เทพจักรกลของฉันจะถูกทำลายทีละส่วน แมนิสันได้เปรียบ ถ้าฉันปล่อยให้เขาโจมตีต่อ มันจะเป็นการผลาญกองทัพจักรกลฉัน ฉันต้องหยุด
สมบัติจักรวาลจำนวนมากทำให้แมนิสันได้เปรียบเขา รากฐานของเขาเองก็ยังไม่มั่นคงพอ ถ้าเขาอยากอุดช่องว่างนี้ เขาทำได้แค่เพิ่มค่าสถานะเขา โดยเฉพาะสติปัญญา ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถสายช่างกล
เขาเปิดหน้าต่างสถานะ เห็นค่าประสบการณ์ที่เขาสะสมเป็นจำนวนมากขณะที่งสามอารยธรรมจักรวาลเตรียมแผนการนี้ เดิมเขาอยากกักตุนมันไว้จนกว่าจะยกระดับ แต่แผนต้องเปลี่ยน
หานเซี่ยวไม่ลังเล ทุ่มค่าประสบการณ์ทั้งหมด ใช้มันเพื่อเพิ่มระดับพิมพ์เขียวจำนวนมาก แลกกับแต้มตื่นรู้
ค่าประสบการณ์ที่สะสมของเขาไม่พอจะได้รับแต้มตื่นรู้ร้อยแต้ม ซึ่งไม่ตรงกับเงื่อนไขได้รับพรสวรรค์พิเศษ แต่ จุดประสงค์ของหานเซี่ยวไม่ใช่การสร้างพรสวรรค์แต่เป็นการแทนแต้มตื่นรู้ด้วยแต้มสถานะฟรี เทพวกมันทั้งหมดลงสติปัญญา ในชั่วพริบตา สถานะสติปัญญาของเขาก็เพิ่มขึ้นเกือบ 8000!
หานเซี่ยวยังสะสมแต้มสถานะไว้อีก4000 และหลังวาง 1000 ลงความทนทาน ช่วยให้ทะลุผ่านเกณฑ์ 15000 แต่ม เขาก็วางที่อีกสองพันกับสติปัญญา
เมื่อรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน แต้มสติปัญญาที่เพิ่มเข้ามาก็มากกว่าหมื่น ทำลายผ่านเกณฑ์ 30000 และมาถึง 40000!
นี่คือการเพิ่มที่รวดเร็วสุดในประวัติศาสตร์ของเขา!
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ หานเซี่ยวก็ไม่ลังเลที่จะเปิดใช้งานบัตรอัญเชิญตัวละคร
[บัตรอัญเชิญตัวละคร จักรพรรดิจักรกล : แอนเชี่ยนวัน]!
ผล : สติปัญญา2% ลี้ลับ 10% +2ต่อระดับทักษะทั้งหมด คงอยู่ 24 ชั่วโมง
(บัตรอัญเชิญตัวละครเนโร่ สัมผัสจักรกลสมบูรณ์)!
ผล : x1.4ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร เกรดของอุปกรณ์จักรกลที่ได้รับพลังจักรกลจะเพิ่มขึ้น 1-2 ระดับชั่วคราว +4 ต่อทักษะช่างกลทั้งหมด
แต่ทว่า หานเซี่ยวไม่หยุดแค่นั้น เขายังเปิดใช้(กระแสพลังสุดขั้ว – เลือดเดือด) และพลังชีวิตของเขาก็ลดฮวบ
ในเวลาเดียวกัน ผลเพิ่มเติมของรากฐานชีวิตขั้นสูงก็แสดงบทบาท สำหรับทุก 40% ของพลังชีวิตที่เสียไป สถานะทั้งหมดของเขาจะเพิ่มขึ้น 10%!
ในเมื่อแมนิสันไม่โจมตีฉัน ฉันก็จะโจมตีตัวเอง!
เขายังมีพรสวรรค์เช่นหนึ่งต้านโลก ซึ่งมอบโบนัส 11%ต่อสถานะทั้งหมด และภูมิปัญญาสนามรบซึ่งมอบโบนัส 15%ให้สติปัญญา หานเซี่ยวควักเอาทุกอย่างออกมา
ตาแก่แมนิสันมีรากฐานมั่นคง?
น่ากลัวมากหรือไง?
โบนัสคลื่นนี้มาทันที และพลังมหาศาลก็พุ่งพล่านไปทั่วตัว ความผันผวนพลังงานที่หานเซี่ยวปล่อยออกมาพุ่งทะยาน แมนิสันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงและตกใจ
แก…
ก่อนจะพูดจบ หานเซี่ยวก็เริ่มรุก กระแทกตรีศูลออกไปด้วยศอก ฟันคมดาบลงทัณฑ์ลง
พลังงานไซโอนิคหนาแน่นวาดเป็นเส้นสีฟ้า
หวือ!
พลังเบื้องหลังการเฉือนนี้ทะลุขีดจำกัดที่ม่านพลังป้องกันจะสามารถรับมือได้
คมดาบถูกยับยั้งด้วยตรีศูลก่อนจะฝังตัวมันลึกลงภายในชุดเกราะของแมนิสัน
วินาทีต่อมา พลังงานไซโอนิคที่ห่อหุ้มง้าวก็เกิดการระเบิด!การรุกของแมนิสันถูกขัด และร่างกายส่วนใหญ่ของเทพจักรกลก็ถูกเฉอน บาดแผลขนาดใหญ่ตรงหน้าอกซ้ายเกิดขึ้น เกราะด้านนอกส่วนใหญ่ยังฉีกขาดและสึกกร่อน นี่เป็นครั้งแรกที่แมนิสันโดนโจมตีตั้งแต่เริ่มต่อสู้
การต่อสู้ฝ่ายเดียวพลิกกลับมาหาหานเซี่ยว!
รับง้าวฉันไปกินอีกสักหน่อย!
หานเซี่ยวกดดันต่อ ฟันออกไปถี่ยิบเพื่อยึดจังหวะการต่อสู้
ความสามารถต่อสู้ของเทพจักรกลหานเซี่ยวได้รับการเสริมทุกด้าน ช่องว่างในความสามารถพวกเขาสั้นลง หานเซี่ยวไม่ถูกข่มอีก
การเพิ่มขึ้นในพลังสะท้อนถึงทหารัจกรกลรอบเขา กองทัพแบล็คสตาร์ที่ได้รับพลังเพิ่มทำลายวงล้อมของกองทัพจักรพรรดิจักรกลได้สำเร็จ เข้าหาหานเซี่ยวเพื่อซ่อมความเสียหายของเทพจักรกล ในที่สุดแมนิสันก็ทรงตัวได้ ขณะสะบัดตรีศูลเขาเพื่อโต้ตอบหานเซี่ยว เขาพูดผ่านช่องทางพื้นที่กว้างด้วยความแปลกใจ
แกเผาผลาญศักยภาพอีกแล้ว? คิดว่าแกต้องการอะไร รสชาติของง้าวนี้เป็นยังไง? หานเซี่ยวหัวเราะ
..แกกำลังทำลายพรสวรรค์ของแก! น้ำเสียงของแมนิสันเย็นชา
เดิมเขาแค่อยากสอนบทเรียนให้หานเซี่ยว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะแผดเผาศักยภาพเพื่อโต้ตอบ
การใช้ศักยภาพในอนาคตกับการต่อสูด้วยกายสถิตเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างมาก
เขาสับสน บางทีอุดมการณ์ของพวกเขาอาจต่างกัน แต่เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะเป็นคนโง่
เขาไม่มีทางรู้ความคิดของหานเซี่ยว ในเมื่อเขาเต็มใจเสียศักยภาพ แมนิสันก็มีความสุขเพราะพวกเขาเป็นคู่แข่งกัน
แต่ทว่า แม้เขาจะเย้ยหยันวิธีการของหานฌซี่ยว เขาก็ต้องยอมรับว่าพลังของหานเซี่ยวแข็งแก่งมาก ถ้าเขาไม่ทุ่มสุดตัวจริงๆ เขาจะเดือดร้อนแน่!
ยิ่งไปกว่านั้น แมนิสันรู้สึกว่าการเพิ่มขึ้นของพลังนี้ยังสูงกว่าตอนแรก การค้นพบนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
อะไร?การแผดเผาศักยภาพฝึกได้?
นอกจากนี้ กระแสพลังงานสุดขั้วแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?ทำไมฉันไม่รู้?
อะไรคือหลักการเบื้องหลังความสามารถนี้?ผลของมันดีขนาดไหน?
เมื่อรู้สึกถึงกลิ่นอายที่สูงขึ้นของหานเซี่ยว แมนิสันก็ทั้งประหลาดใจและสงสัย